ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2512 เข่าสังหาร
ตอนที่ 2512 เข่าสังหาร
หลี่ชิเย่ไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อยสำหรับการขบเขี้ยวเคี้ยวฟันของม่าหมิงชุน ลุกขึ้นยืนและยิ้มกล่าวว่า เอาล่ะ สมควรจบสิ้นกันได้แล้ว ข้าควรจะได้กลับไปพักผ่อนหลังจากกวาดล้างพวกเจ้าให้สิ้น วันนี้น่าเบื่อมาก ไม่มียอดฝีมือเลยแม้แต่คนเดียว
พลันที่พูดคำพูดนี้ออกมา ทำให้ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดแทบหยุดหายใจ ภายในใจของผู้คนจำนวนมากมองว่า ดาบอริยะกวานไห่ ฉินเจี้ยนเหยาพวกเขาเหล่านี้คนไหนบ้างที่ไม่ใช่อัจฉริยะบุคคล? คนไหนบ้างที่ไม่ใช่ยอดฝีมือผู้แก่กล้า ความโชคดีด้านการฝึกปรือของพวกเขากล่าวสำหรับผู้คนจำนวนมากแล้ว ชั่วชีวิตของพวกเขาก็ได้แต่แหงนมอง
สำหรับหม่าหมิงชุนในฐานะที่เป็นแม่ทัพของกองทัพส่วนกลางยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผลงานชั่วชีวิตของเขาเป็นสิ่งที่ผู้คนจำนวนมากชั่วชีวิตก็ทำไม่ได้ ผู้ที่มีผลงานเช่นนี้ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ก็มีอยู่ไม่มาก
แต่ทว่า ต่อให้ผู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ยังคงไม่เข้าตาของหลี่ชิเย่ ในสายตาของหลี่ชิเย่มองว่าพวกเขายังคงไม่จัดอยู่ในยอดฝีมือ มันช่างเป็นคำพูดที่พาลเหลือเกิน นี่มันคือท่าทีของข้าคนเดียวเท่านั้นที่ปราศจากผู้ต่อกรชัดๆ
ผู้คนจำนวนไม่น้อยก็ต้องยิ้มเจื่อนๆ กับสิ่งนี้ แม้แต่ฉินเจี้ยนเหยา ดาบอริยะกวานไห่ที่เป็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคลในหล้าก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ
ถ้าหากเป็นคนอื่นที่พูดคำๆ นี้ออกมา พวกเขายังสามารถไม่ยอมรับได้ แต่ทว่า เมื่อคำพูดนี้หลี่ชิเย่เป็นคนพูดออกมาในเวลานี้ พวกเขาได้แต่ยอมรับเงียบๆ แม้แต่จะไม่ยอมก็ไม่ได้
เจ้า ยังมีเจ้า มีสุดยอดฝีมือในหล้าอะไรก็สำแดงออกมาก็แล้วกัน ข้าจะเด็ดหัวพวกเจ้าออกมาเดี๋ยวนี้แล้ว ถ้าหากเวลานี้ยังไม่พยายามสู้อย่างเต็มที่ล่ะก็ เกรงว่าจากนี้ต่อไปพวกเจ้าไม่มีโอกาสแม้แต่จะขัดขืน หลี่ชิเย่ลุกขึ้นยืน และชี้ไปที่ทังเฮ่อเสียงและหม่าหมิงชุนตามอารมณ์และยิ้มกล่าวขึ้นมา
ทังเฮ่อเสียงและหม่าหมิงชุนทั้งสองคนต่างมีสีหน้าที่ดูไม่จืดถึงขีดสุด เมื่อถูกดูถูกและเหยียดหยามถึงเพียงนี้ พวกเขาต่างเผยปณิธานฆ่าออกมาทางสายตาทั้งสองข้าง อดที่จะขบเขี้ยวเคี้ยวฟันไม่ได้และจ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่
เสียงตูม…ดังสนั่นขึ้น พริบตาเดียวนี้เอง บนตัวของทังเฮ่อเสียงได้พวยพุ่งประกายดาวที่ดั่งคลื่นที่โหมสาดซัดอย่างบ้าคลั่ง ร่างทั้งร่างของเขาล้วนแล้วแต่ถูกห่อหุ้มด้วยประกายดาวที่ละลานตายิ่ง ในขณะนี้ปรากฎดาวขนาดใหญ่ลอยล่องอยู่บนตัวของเขาไปทั่วทั้งตัว เสมือนหนึ่งได้กลับกลายเป็นจักรวาลไปแล้วอย่างนั้น
ฆ่า… ทังเฮ่อเสียงไม่สามารถอดกลั้นเท่ากับหม่าหมิงชุน ส่งเสียงคำรามเสียงหนึ่ง โล่ยักษ์และทวนมังกรบุกเข้าโจมตีและสังหารหลี่ชิเย่ในทันที
ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว โล่ยักษ์เสมือนหนึ่งเป็นแผ่นฟ้าที่ซัดใส่หลี่ชิเย่อย่างแรง ตบฟ้าดินจนแหลกละเอียด ขณะที่ทวนมังกรส่งเสียงฉึกขึ้นมาและกลับกลายเป็นประกายเย็นยะเยือกที่น่ากลัวสายหนึ่ง ทะลุอากาศที่ว่างเปล่าพลันปรากฏอยู่ด้านหน้าลำคอของหลี่ชิเย่ หวังอาศัยหนึ่งทวนแทงละลุคอหอยหลี่ชิเย่
ปัง…เสียงดังสนั่นขึ้นมา พริบตาเดียวนั่นเองหลี่ชิเย่ได้ลงมือแล้ว พลันที่เขาลงมือฟ้าดินเสมือนหนึ่งหยุดนิ่งเอาไว้ มิติกาลเวลาคล้ายหยุดการเคลื่อนไหวอย่างนั้น
ปรากฏภาพที่เห็นตรงหน้าอย่างชัดเจนต่อสายตาของคนทุกคน แม้แต่รายละเอียดที่เล็กน้อยมากๆ ก็ยังปรากฏต่อสายตาของทุกคน
หลี่ชิเย่ที่กระโดดขึ้นมา ท่ามกลางเสียงปังที่ดังขึ้น เข่าขวาได้พุ่งเข้าปะทะทวนมังกรแตกละเอียด ตามติดด้วยการแตกละเอียดของโล่ยักษ์ จังหวะที่โล่ยักษ์แตกละเอียดนั้น หัวเข่าได้ทะลุผ่านทุกสิ่งทุกอย่าง พุ่งชนทุกอย่างจนกลายสภาพเป็นความขมุกขมัว ดังนั้น ค่ายกลพลันแตกสลายไปทันที กองกำลังที่เกรียงไกรซึ่งประกอบเข้าด้วยกันจนกลายเป็นค่ายกลพลันเผยโฉมออกมา
ในพริบตาเดียวนั้นเอง ได้ยินเสียงปุเสียงหนึ่ง หลังจากที่ค่ายกลแตกสลายไปแล้ว กองกำลังอันเกรียงไกรที่เป็นยอดฝีมือหลายร้อยคนพลันถูกหัวเข่าพุ่งชนกระแทกจนกลายเป็นหมอกเลือดในทันที
ขณะที่หนึ่งเข่าอันหนักหน่วงของหลี่ชิเย่ไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น ยังคงพุ่งเข้าชนบริเวณใต้คางของทังเฮ่อเสียง
ในพริบตาเดียวนั่นเอง จึงได้ยินเสียงแตกละเอียดปัง ปังดังขึ้น มันเป็นเสียงแตกละเอียดของทวนมังกรและโล่ยักษ์ โดยเสียงแตกละเอียดทั้งสองเสียงดังขึ้นมาเกือบจะเป็นเวลาเดียวกัน ยากที่จะแยกแยะก่อนหรือหลังได้
ผู้อาวุโสหม่า ช่วยข้าด้วย… พริบตาเดียวนั่นเอง ได้ยินเสียงร้องแหลมจากทังเฮ่อเสียง
ความจริงแล้ว พริบตาเดียวที่เข่าอันหนักหน่วงของหลี่ชิเย่ที่ทำลายทวนมังกรจนแตกละเอียดนั้น ทังเฮ่อเสียงได้ส่งเสียงร้องแหลมขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ความเร็วของหลี่ชิเย่รวดเร็วเกินไป เสียงร้องเพิ่งจะส่งมาถึงในเวลานี้
ฆ่า… จังหวะที่เข่าอันหนักหน่วงของหลี่ชิเย่โจมตีออกมานั้น หม่าหมิงชุนก็ได้ลงมือแล้วเช่นกัน เจดีย์วิเศษพุ่งโจมตีลงมาโดยหอบเอาอานุภาพของเทพแท้จริงขั้นอมตะที่อาละวาดต่อฟ้าดิน ทำลายสรรพสิ่งจนแตกสลาย โดยเจดีย์วิเศษที่พุ่งโจมตีลงมานั้นพุ่งเป้าทีที่ศีรษะของหลี่ชิเย่ หวังจะพุ่งชนศีรษะของหลี่ชิเย่จนแหลกละเอียด
ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ภาพที่เดิมทีถูกหยุดนิ่งเอาไว้ ดุจดั่งวันเวลาได้มีการไหลรินขึ้นมาอีกครั้งในพริบตาเดียว เสียงปังที่ดังขึ้นมาเสียงนี้ไม่รู้ว่ามาจากการโจมตีครั้งไหน
ท่ามกลางเสียงปังที่ดังขึ้น ก็ได้ยินเสียงปุดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง มองเห็นบริเวณคางของทังเฮ่อเสียงที่ถูกเข่าอันหนักหน่วงของหลี่ชิเย่กระแทกเข้าให้อย่างแรง ศีรษะพลันแตกละเอียดไปทันที่ ถูกพุ่งชนจนกลายเป็นหมอกเลือดโดยพลัน
ไม่… ก่อนทังเฮ่อเสียงจะตาย เขาอดที่จะร้องเสียงน่าเวทนาขึ้นมาไม่ได้ แต่ว่า ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่สายไปเสียแล้ว
ท่ามกลางเสียงดังปังนี้ หลี่ชิเย่ไม่ได้เลิกกระทั่งหนังตาด้วยซ้ำ เพียงอาศัยมือที่ฟาดกลับหลังไปทีหนึ่ง ฟาดถูกเจดีย์วิเศษที่พุ่งชนเข้ามาท่ามกลางเสียงดังปังเสียงนี้ เจดีย์วิเศษได้พุ่งเข้าหาหม่าหมิงชุน
ตอนที่หม่าหมิงชุนรับเจดีย์วิเศษของตนเอาไว้นั้น ตึง ตึง ตึงก้าวถอยหลังติดต่อกันหลายก้าว และกระอักเลือดออกมาอย่างแรง
ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันได้สติกลับมานั้น พลันที่หลี่ชิเย่ลงมือ หนึ่งเท้าหนึ่งฝ่ามือก็ทำให้ทังเฮ่อเสียงและหม่าหมิงชุนหนึ่งตายหนึ่งบาดเจ็บ ส่วนทหารเก่าแก่ที่เกรียงไกรหลายร้อยคนได้กลายเป็นหมอกเลือดไปโดยไม่มีโอกาสแม้แต่ร้องเสียงน่าเวทนาออกมา
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นมารวดเร็วมาก ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่ทันตั้งตัว ในขณะที่สมองของคนจำนวนมากยังไม่สามารถมีปฏิกิริยารับรู้เรื่องราว ศพที่ปราศจากศีรษะของทังเฮ่อเสียงก็ได้ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าสูงแล้ว
ในเวลานี้ หลี่ชิเย่พลันหันกลับมาอย่างรวดเร็ว มองดูหม่าหมิงชุนที่กอดเจดีย์วิเศษอย่างเย้ยหยัน หม่าหมิงชุนพลันก้าวถอยหลังไปหลายก้าว เขาถูกทำให้หวาดหวั่นพรั่นพรึงจนขนลุกซู่ ก้าวถอยหลังติดต่อกันหลายก้าวด้วยสัญชาตญาณ
นำทหารก่อกบฏก็ยกโทษตายให้เจ้าแล้ว ยังไม่รู้จักกาลเทศะอีก หลี่ชิเย่จ้องมองหม่าหมิงชุนแวบหนึ่งด้วยท่าทีเฉยเมย และกล่าวว่า วันนี้สมควรตาย!
พลันที่พูดขาดคำ ยกเท้าเตะวงกว้างออกไปตรงๆ การเตะวงกว้างนี้รวดเร็วมากเหลือเกิน เพียงพริบตาเดียวท้องฟ้าที่ว่างเปล่าแตกสลาย ปรากฏเป็นรอยร้าวสายหนึ่ง เสมือนหนึ่งช่องว่างถูกตัดขาดอย่างนั้น ขณะเดียวกัน การเตะวงกว้างนี้ได้ทิ้งร่องรอยของเงาเอาไว้
ลูกเตะวงกว้างของหลี่ชิเย่ไม่มีท่วงท่าที่เปลี่ยนแปลงใดๆ ไม่มีความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของสัจธรรม เป็นเพียงลูกเตะที่ธรรมดาจนไม่รู้จะธรรมดาอย่างไรอีกแล้ว
แต่ทว่า ด้วยลูกเตะวงกว้างที่สุดแสนจะธรรมดานี้ที่เตะเข้าไปนั้น ไม่รู้ว่าได้ทำให้ระดับบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรต้องหวาดผวา และมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากทีเดียว ลูกเตะที่เตะเข้าไปนั้นคือการสังหารที่เด็ดขาด ทั้งยังไม่สามารถหลบเลี่ยงไปได้ ต่อให้หนีไปสุดขอบฟ้ายังคงหลบลูกเตะนี้ไปไม่พ้น
ฆ่า… สีหน้าของหม่าหมิงชุนดูหวาดผวาเมื่อเห็นลูกเตะวงกว้างที่ฟาดเข้ามา เขาเองก็รับรู้ถึงความน่ากลัวของลูกเตะนี้ แต่ในเวลานี้เขาถอยไม่ได้อีกแล้ว นอกจากสู้แล้วไม่มีทางเลือกทางอื่น
ภายใต้การคำรามเสียงดังของหม่าหมิงชุน วงแหวนศักดิ์สิทธิ์ทั้งตัวได้พวยพุ่งออกมา วงแหวนแต่ละวงพุ่งขึ้นท้องฟ้าอย่างรุนแรง ค้ำยันฟ้าดิน เปิดระเบียบสัจธรรมเสมือนหนึ่งได้เปิดฟ้าดิน และฟ้าดินหมื่นอาณาจักรขึ้นอย่างนั้น
เสียงตูมดังสนั่น หม่าหมิงชุนได้ต่อสู้สุดแรงเกิด พลังทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกรวบรวมเอาไว้ในเจดีย์วิเศษ ยามที่เจดีย์วิเศษของเขาโจมตีลงมาได้ต้านลูกเตะวงกว้างของหลี่ชิเย่ ได้ยินเสียงกรรรที่เป็นเสียงร้องคำรามแต่ละเสียงที่ดังขึ้น
ท่ามกลางเสียงคำรามแต่ละเสียงที่ดังกรรรขึ้น มองเห็นมังกรแท้จริงเก้าตัวปรากฏขึ้น โดยมังกรทั้งเก้าตัวได้ลากเจดีย์วิเศษ ดึงฟ้าดินหมื่นอาณาจักรพุ่งโจมตีลูกเตะวงกว้างที่ฟาดเข้ามาของหลี่ชิเย่
นี่คือท่าการโจมตีที่ทรงพลังมากที่สุดของหม่าหมิงชุนแล้ว เก้ามังกรป้องเจดีย์ หนึ่งเจดีย์ที่โจมตีออกไป หยิบยืมพลังจากมังกรแท้จริงเก้าตัว พลันกลิ่นอายมังกรแท้จริงพวยพุ่งทะลักฟ้าดิน มังกรทั้งเก้าเหินฟ้าขึ้นไป แยกเขี้ยวกางเล็บเหมือนหนึ่งต้องการฉีกฟ้าดินให้ขาดอย่างนั้น
มังกรแท้จริงทั้งเก้าตัวมีความน่ากลัวอย่างยิ่ง กำลังของพวกมันสามารถฉีกทำลายท้องฟ้าได้ทั้งหมด สรรพสิ่งมีชีวิตล้วนแล้วแต่ถูกฉีกจนละเอียดในชั่วพริบตาเดียว
ปัง…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ภายใต้ลูกเตะหนักหน่วงฟาดเข้าให้อย่างแรง ในพริบตาเดียวนั่นเอง ฟ้าดินเสมือนถูกโจมตีจนกลับไปสู่จุดดั้งเดิม
จังหวะที่ลูกเตะวงกว้างฟาดลงมานั้น ได้ยินเสียงกรรรร้องน่าเวทนา มังกรแท้จริงทั้งเก้าตัวพลันถูกฟาดจนร้องกรรรที่น่าเวทนา มังกรทั้งเก้าถูกฟาดจนแหลกละเอียด กลายเป็นผงไปโดยพลัน และถูกท้องฟ้าคลุมมิดไปทันที่
ได้ยินเสียงปังดังกึกก้อง ลูกเตะวงกว้างได้ฟาดเข้าหาเจดีย์วิเศษ ตามติดด้วยเสียงดังคร๊ากกกที่เป็นเสียงแตกละเอียด ภายใต้ลูกเตะนี้ปรากฏว่าเจดีย์วิเศษถูกฟาดจนแหลกเป็นชิ้นๆ กลายเป็นเศษชิ้นส่วนจำนวนนับไม่ถ้วนที่โปรยปรายทั่วท้องฟ้า
เสียงปังดังขึ้นอีกครั้ง แรงเฉื่อยของลูกเตะวงกว้างฟาดใส่บนตัวของหม่าหมิงชุน
อ๊ากกก…เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้นเสียงหนึ่ง มองเห็นร่างกายของหม่าหมิงชุนที่ถูกลูกเตะวงกว้างฟาดเข้าใส่ ร่างถูกฉีกเป็นสองท่อนในทันที ท่ามกลางเสียงฉึก เลือดสดๆ แตกกระจาย เหมือนตกเป็นฝนเลือดอย่างนั้น
สุดท้าย ได้ยินเสียงชาาาดังขึ้น ร่างของหม่าหมิงชุนที่ถูกฟาดจนกลายเป็นสองท่อนได้ตกลงไปในทะเลสาบ เลือดสดๆ ทำให้น้ำทะเลสาบกลายเป็นสีแดง และเลือดสดๆ ได้แผ่ออกเป็นวงกว้างอย่างช้าๆ
พริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนต่างถูกทำให้หวั่นไหวจนเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดคิดทั้งสิ้น ทุกคนต่างงงงันกับภาพที่เห็นตรงหน้า ทุกคนล้วนแล้วแต่ถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ
หนึ่งเข่าสังหารทังเฮ่อเสียงก็นับว่าน่ากลัวมากพออยู่แล้ว แต่แล้ว หนึ่งเท้าที่เตะวงกว้างออกไปนั้น ทำลายเจดีย์วิเศษของหม่าหมิงชุน แล้วจัดการฟาดร่างของหม่าหมิงชุนกลายเป็นสองท่อน ช่างเป็นพลังที่น่ากลัวเพียงใด
ระดับเทพแท้จรงขั้นอมตะคนหนึ่ง หม่าหมิงชุนคือระดับเทพแท้จรงขั้นอมตะนะเนี่ย ในมือของหลี่ชิเย่กระทั่งรับไม่ได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว ลองนึกภาพดูว่ามันเป็นเรื่องที่น่ากลัวเพียงใด เรื่องเช่นนี้หากพูดออกไป คงทำให้มีผู้คนต้องตกใจตาย
ฟ้าดินเงียบสงัดจนน่ากลัว ในเวลานี้ทุกคนต่างยากจะเรียกสติกลับมา ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ตกใจจนเข่าอ่อนทั้งสองข้าง และทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น ยิ่งกว่านั้นยังมีผู้ที่ถูกทำให้ตกใจจนปัสสาวะราด
ลองคิดดู แม้แต่ระดับเทพแท้จรงขั้นอมตะยังรับกับการโจมตีไม่ได้ โลกนี้ยังจะมีใครที่จะต่อกรกับเขา?
แหวะ… ผู้ที่ขวัญอ่อนถูกทำให้ตกใจจนอาเจียนออกมา แม้แต่น้ำดีก็อาเจียนออกมาพร้อมกัน ในขณะนี้พวกเขายังคงมีขาทั้งสองข้างที่สั่นเทา
นี่ นี่น่ากลัวมากเหลือเกิน อย่าว่าแต่บรรดาผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่เลย แม้แต่ขาทั้งสองข้างของระดับบรรพบุรุษตระกูลขุนนางโบราณสั่นเทาอย่างช่วยไม่ได้
กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว หม่าหมิงชุนที่เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะนับว่าน่ากลัวมากพอแล้ว แต่ว่า ยังคงถูกฮ่องเต้องค์ใหม่ฟาดด้วยลูกเตะวงกว้างจนขาดสองท่อน ความแข็งแกร่งของฮ่องเต้องค์ใหม่นั้นน่ากลัวเช่นใด ไม่แน่นักแค่เขาดีดนิ้วทีหนึ่งก็สามารถเข่นฆ่าทำลายสำนักได้แห่งหนึ่งแล้ว
………………………………………………