ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 261
บทที่ 261
บทที่ 261
ทะเลทรายนั้นแห้งแล้งมาก เช่นเดียวกับเม็ดทรายนับไม่ถ้วนที่เก็บความร้อนเอาไว้มากมาย ทำให้เพียงการสูดลมหายใจเข้าไปเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ร่างกายร้อนระอุได้แล้ว
โชคยังดีที่ลูคัสคุ้นชินกับเส้นทาง จึงทำให้พวกเขาไม่หลงทางและได้แวะโอเอซิสอยู่เป็นระยะ
การเดินทางบนทะเลทรายตลอด 3 วันที่ผ่านมานี้ทำให้พวกถังหยินเหนื่อยล้ากันมาก ด้วยเมื่อพวกเขาเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นแต่ทะเลทรายสุดลูกหูลูกตาทุกคราไป จนทำให้ชายหนุ่มไม่อาจอดกลั้นได้อีก รีบควบม้าวิ่งเข้าไปหาลูคัสแล้วร้องถาม ลูคัส อีกนานไหมกว่าเราจะออกจากทะเลทราย
ลูคัสหัวเราะพลางเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก ไม่นานนัก พรุ่งนี้เที่ยงก็น่าจะออกไปได้แล้ว ส่วนดูกี ข้าก็คาดเดาว่าภายในเย็นพรุ่งนี้ก็น่าจะถึง
ถังหยินเงยหน้าขึ้นมองดวงอาทิตย์ที่ร้อนระอุ ดูเหมือนว่านี่จะเที่ยงแล้ว หาที่พักกันเถอะ
ลูคัสพยักหน้าให้แล้วครุ่นคิด ถ้าข้าจำไม่ผิดแถวนี้น่าจะมีโอเอซิสอยู่นะ แล้วที่นั่นมันก็น่าจะมีทะเลสาบเล็ก ๆ อยู่ด้วย
ชายหนุ่มที่ได้ยินก็ให้ความสนใจทันที เพราะตลอดหลายวันที่ผ่านมาเขายังไม่เคยได้กินน้ำสะอาดเลย ถ้าน้ำที่นั่นสะอาดล่ะก็ เราจะได้เติมเสบียงด้วยไปในตัว
ลูคัสหัวเราะ มันก็น่าจะมีล่ะนะ
น้ำในทะเลทรายนั้นราวกับมีชีวิต บางวันมันก็จะอยู่ที่หนึ่ง ส่วนอีกวันมันก็จะไปอยู่อีกที่หนึ่ง ซึ่งการย้ายที่ของมันก็เป็นหลักการที่ตายตัว ดังนั้นใครที่คุ้นชินกับการเดินทางในทะเลทรายจะตามหามันได้ง่ายมาก
ทันใดนั้นชัวน่าก็พลันควบม้าเข้ามาแล้วปลดเกราะออกจนเหลือแต่ชุดสีขาวภายใน ก่อนที่นางจะใช้ผ้าเช็ดหน้าปาดเหงื่อบนตัวออก ถ้าข้าหาที่อาบน้ำไม่ได้ ข้าจะต้องเน่าไปทั้งตัวแน่ ๆ
ลูคัสมองนางอย่างเหนียมอาย ฝ่าบาท น้ำในทะเลทรายมันมีค่ามากกว่าทองเสียอีก ต่อให้มีทะเลสาบอยู่ข้างหน้าจริง ข้าก็เกรงว่าท่านจะใช้มันอาบไม่ได้
อะไรนะ ? ทะเลสาบที่ใช้อาบน้ำไม่ได้ ? มันเป็นทะเลสาบแบบไหนกัน ? ชัวน่าถามด้วยนัยน์ตากลมโต
เดี๋ยวฝ่าบาทก็จะรู้เอง
ได้ยินแบบนี้ชัวน่าก็รู้สึกผิดหวัง
ถังหยินยื่นถุงน้ำของเขาให้กับนาง และอีกฝ่ายก็ดื่มมันอย่างเต็มที่โดยไม่เกรงใจ
ลูคัสพูดเอาไว้ไม่มีผิด ข้างหน้ามีโอเอซิสอยู่จริง ๆ แต่เมื่อพวกถังหยินมาถึง มันก็มีกลุ่มคาราวานอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
พวกเขามีกัน 2 หรือ 3 ร้อยคนได้ แถมยังมีอูฐมากมายหลายตัว ซึ่งเมื่อเห็นพวกถังหยินเข้ามา กลุ่มคาราวานนั่นก็พากันจับดาบที่อยู่ข้างตัวอย่างหวาดระแวง
ที่นี่มีโจรทะเลทรายชุกชุม และการที่ขี่ม้าเข้ามาแบบนี้ก็ทำให้พวกเขาดูน่าสงสัยพอตัว
…เรื่องนี้ถือเป็นธรรมชาติที่ควรจะระวังไว้ก่อน ด้วยไม่มีใครรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายหรอก จนกว่าจะได้พูดคุยกัน
เมื่อถังหยินเข้ามาใกล้ ๆ กลุ่มคาราวาน พวกเขาก็จ้องมองกันอย่างขึงขัง จากนั้นก็มีชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มเข้ามาพูดกับถังหยิน
ลูคัสกล่าว พวกเรามาจากเบสซ่าและกำลังจะไปยังรัฐดูกี
พวกคาราวานที่ได้ยินก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันทีแล้วคลายมือออกจากด้ามดาบ ชาวเบสซ่านั้นส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่โจรทะเลทราย เพราะงั้นคนพวกนี้ก็คงไม่ใช่โจรเช่นกัน
หัวหน้ากองมองถังหยินแล้วถามอีกครั้ง พวกเขาเป็นใครกัน ?
เขาหรือ ? ในขณะที่ลูคัสกำลังจะพูดตอบ ก็เป็นถังหยินที่เอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน
พวกเราเป็นพ่อค้าที่ผ่านเมืองเบสซ่ามาก็เท่านั้น
เบสซ่าหรือ ? ถ้างั้นเจ้าคือคนแคว้นเฟิงสินะ ? หัวหน้ากองถามขึ้นในทันที เพราะหน้าตาของพวกถังหยินนั้นดูคล้ายกับพวกเฮาเทียน และถ้าหากคิดจะเดินทางไปยังดูกีจากแคว้นเฟิง งั้นแล้วมันก็ต้องผ่านจากเมืองเบสซ่าไปเท่านั้น
เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะดูออกภายในชั่วพริบตา ชายหนุ่มจึงตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะได้สติและพยักหน้ารับ ถูกต้องแล้ว พวกเราคือชาวเฟิง
ชายผู้เป็นหัวหน้ากองมองถังหยินอยู่นาน เพราะน้อยคนนักที่จะถ่อมาไกลจากแคว้นเฟิงเพื่อไปยังดูกี
เสียเวลาคุยอะไรกันอยู่ได้ ข้าไปก่อนแล้วกัน ชัวน่าลงจากม้าแล้วรีบวิ่งไปยังโอเอซิสที่อยู่ตรงหน้าในทันที
โอเอซิสแห่งนี้กว้างมากและมีต้นไม้มากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือต้นหูหยาง ที่ว่ากันว่าตั้งตระหง่านอยู่เช่นนี้มานานนับ 3 พันปีแล้ว
ที่กลางโอเอซิสนี้มีทะเลสาบเล็กอยู่จริงตามที่ลูคัสว่าไว้ แต่เมื่อชัวน่าเห็น นางก็แทบจะน้ำตาไหลออกมาทันที เพราะมันมีขนาดเท่ากับแอ่งน้ำเล็ก ๆ ที่กว้างประมาณ 1 จั้งเศษเท่านั้น
นางยืนนิ่งอยู่แบบนั้นก่อนพูด นี่คือทะเลสาบที่เจ้าพูดถึงหรือ ?
ถูกต้องฝ่าบาท ข้าถึงได้บอกไงว่าท่านอาบน้ำไม่ได้หรอก ลูคัสยักไหล่ให้
เจ้าบ้าเอ้ย ! ชัวน่าระบายความหงุดหงิดด้วยการตะโกนสุดเสียงอย่างที่ไม่มีเจ้าหญิงองค์ไหนทำมาก่อน จากนั้นนางก็ได้แต่จำใจเดินไปนั่งใต้ต้นหูหยางด้วยท่าทีเหนื่อยล้า
มันก็คงจะแปลกเกินไปถ้าหากมีทะเลสาบกลางทะเลทรายแบบนี้ จริงไหม ? ถังหยินคิดแล้วก็เดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ชัวน่าพร้อมรอยยิ้ม
ถึงจะมีขนาดเล็ก แต่น้ำข้างในนั้นก็ไม่เคยแห้งเหือดไปเลย เพราะด้านล่างนั่นมีน้ำบาดาลอยู่มาก
เขาพยักหน้าให้อย่างพึงพอใจก่อนพูดขึ้น การให้ท่านตามมาด้วยเป็นการทรมาณตัวเองชัด ๆ เลยว่าไหม ?
ชัวน่ามองเขาทันที ข้าก็ยังไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย
แค่สีหน้าของท่านมันก็บอกทุกอย่างแล้วฝ่าบาท
นางขบริมฝีปากแล้วกระซิบ ไม่เสมอไปหรอก ข้าไม่เคยนึกเสียดายที่คิดไปดูกีกับเจ้าเลย ข้าก็แค่รู้สึกว่าระหว่างทางมันลำบากเท่านั้นเอง
หญิงสาวไม่เคยไปเมืองดูกีเลยสักครั้ง และตัวนางก็รู้แค่เพียงว่าต้องเดินทางผ่านทะเลทรายเท่านั้น ไม่เคยคิดว่ามันจะยากลำบากขนาดนี้มาก่อน
เมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังของนาง ถังหยินก็พลันเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับหญิงสาวตรงหน้าไปในทันที ครั้งนี้ข้าติดหนี้ท่าน ดังนั้นไว้จะตอบแทนให้ในภายหลังนะ
จริงหรือ ?
แน่นอนฝ่าบาท
ชัวน่าหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ถ้างั้นข้าต้องคิดอ่านวางแผนให้ดี ๆ แล้วล่ะ
ท่านจะเรียกร้องตอนไหนก็ได้เสมอ
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น รอยยิ้มของนางก็พลันอ่อนหวานมากขึ้นจนสมกับเป็นองค์หญิง ทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มดีขึ้นตามไปด้วย
หลังจากพักผ่อนกันเรียบร้อยแล้ว หัวหน้ากองคาราวานก็ถามไถ่เกี่ยวกับการค้าในเมืองดูกี เผื่อว่าจะได้ไปด้วยกันได้
…ซึ่งหน้าที่นี้ก็ตกเป็นของลูคัส ที่สามารถรับมือกับอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี
หลังมื้ออาหาร ถังหยินก็ได้หันมองไปยังดวงอาทิตย์ ก่อนจะเห็นว่ามันกำลังคล้อยไปยังทิศตะวันตก…
ทว่าในจังหวะนั้นเอง ! มันก็ได้มีเสียงฝีเท้าของม้าที่กำลังควบมาจากระยะไกลดังขึ้น !!
ชายหนุ่มถอนหายใจด้วยไม่คิดว่าปัญหาจะมาเร็วแบบนี้ พวกเรามีปัญหาแล้วล่ะ เขาตะโกนร้องบอก
จากนั้นคนจากหน่วยลับของถังหยินก็วิ่งเข้ามาบอกกับเขา นายท่าน มีกองทหารม้ากำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ขอรับ !