ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 278
บทที่ 278
บทที่ 278
เมื่อได้ยินว่ามีข่าวร้าย ถังหยินและแม่ทัพโดยรอบก็พากันตกตะลึง ก่อนที่จะพร้อมใจหันหลังกลับไปมอง และเห็นเข้ากับทหารบนหลังม้านายหนึ่งที่กำลังพุ่งตรงเข้ามา !
ก่อนที่ม้าจะหยุดสนิท เขาก็ได้กระโดดลงจากหลังม้าและวิ่งไปข้างหน้าสองก้าว ก่อนคุกเข่าข้างหนึ่ง พร้อมหอบหายใจขณะพูดว่า มีการดักซุ่มโจมตีขอรับ !
อะไรนะ ? ถังหยินที่ได้ยินก็ขมวดคิ้วทันที ศัตรูซุ่มโจมตีงั้นหรือ ? แล้วศัตรูพวกนี้มาจากไหนกัน ? ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ตรวจสอบอย่างดีแล้วไม่ใช่เหรอไง ! นอกจากนี้ด้วยผู้คนมากมายที่อยู่เคียงข้าง ศัตรูเพียงไม่กี่พันคนย่อมไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้ ดังนั้นเขาจึงได้ถามออกไปว่า พวกมันมาจากทางไหน มีกันกี่คน
สายสืบผู้นั้นพูดว่า ขอรับ… หน่วยส่งเสบียงของพวกเราถูกโจมตีจากด้านหลัง จำนวนไม่ทราบแน่ชัด ท่านชิวเจิ้นพยายามที่จะจัดการกับพวกมัน แต่พวกมันก็ล่าถอยกลับไปได้ ส่วนเสบียงของพวกเราก็ถูกทำลายไปไม่น้อยเลยขอรับ !
หืมม ? ถังหยิน หายใจเข้าลึก ๆ ด้วยไม่ใช่แค่กองทัพของพวกเขาเท่านั้นที่ถูกโจมตี แต่เสบียงอาหารที่สำคัญก็ได้ถูกทำลายไปเช่นกัน !
เมื่อถังหยินได้ยินจบ เขาที่นั่งอยู่บนหลังม้าก็พลันกำหมัดแน่น ด้วยมีศัตรูจอมเจ้าเล่ห์แอบอยู่ข้างหลังตัวเองจริง ๆ เสียด้วย !!
เป็นเช่นเดียวกับที่ชิวเจิ้นได้คาดการณ์เอาไว้ การสังหารทูตที่ฝ่ายของเขาส่งไป ก็เพื่อให้พวกเขาเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ก่อนที่พวกมันจะใช้ความคุ้นเคยกับภูมิประเทศเพื่อซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง แล้วจึงลอบโจมตีอย่างลับ ๆ จากด้านข้างเพื่อบังคับให้พวกเขาล่าถอย !!!
ถังหยินเงียบเป็นเวลานาน ก่อนกัดฟันแล้วชี้ไปยังเมืองตรงหน้า ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับด้านหลัง ไม่ต้องกังวลเรื่องเสบียง พวกเราจะบุกโจมตีเต็มกำลัง !
ขอรับนายท่าน ! แม่ทัพโดยรอบทั้งหมดพร้อมใจกันรับคำสั่ง
คราวนี้หยวนเปียวไม่ใช่คนเดียวที่เข้าโจมตีอีกต่อไป เพราะแม้แต่ถังหยินและทหารของเขาก็ไปด้วย !
ทหารม้าเกราะเบาจำนวนหมื่นนายพุ่งไปข้างหน้าราวกับดาบอันแหลมคมแทงตรงเข้าไปในเมือง !
ถังหยินได้ตัดสินใจแล้วว่าในเมื่อเสบียงถูกทำลาย งั้นแล้วพวกเขาก็เข้าตีและบุกยึดเมืองเพื่อหาเสบียงทดแทนในส่วนที่เสียไป !!
กองทัพได้ติดตามเหมาอันออกจากเมืองมานานแล้ว และเมื่อถังหยินเข้ามาถึง ประตูเมืองก็ว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่ทหารรักษาการณ์ !
ภาพตรงหน้าทำให้ถังหยินหัวเราะเสียงดัง ก่อนที่เขาจะโบกมือไปมาแล้วร้องตะโกน กำแพง ! เข้าไปข้างในแล้วเปิดประตู !
ตามคำสั่งของเขา กลุ่มทหารเฟิงก็รีบลงจากหลังม้าและเดินไปที่กำแพงเมือง และเมื่อพร้อม พวกเขาก็พากันใช้เชือกกับตะขอในมือ ทว่าเมื่อขึ้นไปแล้ว พวกเขาก็ไม่พบใครเลยอยู่ด้านบนนั้นเลย !!
ทหารที่ขึ้นมาไม่สนใจมากนัก พากันเดินตามทางเข้าไปหากลไกเปิดประตูเมือง และเมื่อพวกเขาร่วมกันเลื่อนสลัก ประตูเมืองก็พลันเปิดออกอย่างช้า ๆ!
จากความเจ็บแสบที่เหมาอันทำไว้ ทำให้ถังหยินระมัดระวังมากขึ้น ดังนั้นในครั้งนี้เขาจึงไม่กล้าที่จะเข้าไปโดยประมาทอีก ชายหนุ่มได้ทำการส่งคนกลุ่มหนึ่งเข้าไปตรวจสอบ และเมื่อยืนยันได้แล้วว่าไม่มีกองกำลังใดซ่อนอยู่ เขาก็พลันร้องสั่งให้กองทัพทั้งหมดเคลื่อนทัพเข้าไป
เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่เมืองว่างเปล่า ด้วยเหล่าพลเมืองพากันซ่อนตัวอยู่ในบ้านของพวกเขาและไม่กล้าออกมา
หลังจากถังหยินเข้ามาในเมือง เขาก็ได้หันมองไปรอบ ๆ และเมื่อเห็นว่าบ้านกับร้านค้าทั้งสองฝั่งของถนนถูกปิด เขาก็ได้หายใจเข้าลึก ๆ แล้วหันกลับไปมองทหารที่อยู่ด้านหลังก่อนพูดว่า พาพวกชาวเมืองมาที่นี่ !
ขอรับ !
เฉิงจินลงจากหลังม้า เข้าเดินไปตามถนนและหยุดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งที่มีซุ้มค่อนข้างใหญ่ จากนั้นเขาก็พลันเอื้อมมือออกไปเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก ก๊อก !
หลังจากเคาะอยู่นาน ก็ยังคงไม่มีใครออกมาเปิดประตู ทำให้เฉิงจินขมวดคิ้วแน่น ก่อนเดินถอยหลังและเตะเข้ากับประตู จนทำให้เกิดเสียงดังพร้อมกับประตูไม้ที่ถูกทุบออกเป็นสองส่วน
เฉิงจินเงยหน้าขึ้น ทำให้เห็นเข้ากับคนกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่ที่ลานบ้าน อันประกอบไปด้วยชายและหญิง คนแก่และเด็กที่กำลังหน้าขาวซีด !
พวกเจ้าไม่ได้ยินที่ข้าเรียกงั้นหรือ ? เฉิงจินเดินเข้าไปในลานบ้านและส่ายหน้าไปทางครอบครัวนั้นพร้อมพูดว่า ออกมากับข้า !
ท่านแม่ทัพ ไว้ชีวิตพวกเราด้วย ไว้ชีวิตพวกเราด้วย ! สมาชิกในครอบครัวที่เดินตามเฉิงจินพากันตัวสั่นเทาและกรีดร้อง ก่อนที่จะพร้อมใจกันคุกเข่าลงบนพื้นร้องขอความเมตตา
อะไรกัน ? ไม่ได้จะฆ่าเสียหน่อย ! เฉิงจินขมวดคิ้วแน่น ปากเอ่ยตะโกนด้วยเสียงทุ้ม ตามข้ามาเดี๋ยวนี้ !
ทั้งครอบครัวไม่ทราบเจตนาของเขา และคิดเพียงว่าอีกฝ่ายกำลังจะฆ่าทุกคนตรงนั้น ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าที่จะยืนขึ้น ต่างก็พากันกรีดร้องขอชีวิตไม่หยุด ทำให้เฉิงจินหมดความอดทน หันกลับไปพูดกับพวกผู้ติดตามพร้อมกับส่ายหัว ลากพวกมันออกมาให้หมด !
รับทราบขอรับ พวกผู้ติดตามตอบกลับ ขณะที่พวกเขาเดินไปข้างหน้าโดยไม่สนใจเสียงร้องของผู้ชาย ผู้หญิง คนแก่และเด็กก่อนจะลากพวกเขาทีละคนออกจากลานบ้าน
พวกเขาถูกลากพามาโดยกลุ่มศรทมิฬ จนกระทั่งมาถึงที่หมาย
ถังหยินมองลงไปที่คนพวกนั้น และเมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นพากันกลัวจนหัวหด ชายหนุ่มก็พลันรู้สึกฉงนในใจ ว่าทำไมชาวหลินเฉียวถึงกลัวแม่ทัพและทหารของพวกเขากัน ?
สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือเหมาอันได้กุข่าวว่ากองทัพเทียนหยวนนั้นเป็นดั่งอสูรกาย และเรียกพวกเขาว่ากองทัพปีศาจ ! ซึ่งภายใต้การสร้างเรื่องของเหมาอัน ชาวเมืองหลินเฉียวก็ค่อย ๆ รู้สึกหวาดกลัวและตื่นตระหนกมากยิ่งขึ้นจนกลายเป็นอย่างที่เห็น !!!
ถังหยินจ้องมองไปที่ชายชราในฝูงชน ก่อนที่จะเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า ท่านผู้เฒ่า ท่านไม่ต้องกลัวไป ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าและครอบครัว ข้าแค่อยากรู้ว่าจวนผู้ว่าและคลังเก็บของในเมืองอยู่ที่ใดก็เท่านั้น ?
ชายชราเรียกความกล้าหาญของเขา ทำการเงยหน้าขึ้นมองถังหยิน จากนั้นก็ลดศีรษะลงอย่างรวดเร็วและพูดอย่างสั่น ๆ ว่า ข..ข้าไม่รู้
คนพวกนี้ไม่รู้เรื่องที่พวกเขาควรจะรู้ด้วยซ้ำ ?
โดยไม่รอให้ถังหยินพูด เฉิงจินก็ได้ยื่นมือไปจับคอของชายชราและพูดอย่างโกรธเกรี้ยว พวกเราคือกองทัพเทียนหยวน มาเพื่อกำจัดซ่งเทียน แต่พวกเจ้ากำลังปกป้องไอ้คนทรยศนั่น แล้วแบบนี้พวกเจ้าทั้งหมดยังจะเรียกตัวเองว่าเป็นชาวเฟิงได้อีกอย่างนั้นเหรอ ?
ขาของผู้อาวุโสถูกยกลอยจากพื้น ในขณะเดียวกับใบหน้าของชายแก่ก็แดงระเรื่อไปหมดแล้วในตอนนี้ด้วยหายใจไม่ออก !
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น สมาชิกในครอบครัวโดยรอบทุกคนก็พากันคุกเข่าลงขณะที่พวกเขาร้องไห้และร้องขอความเมตตา ทำให้บริเวณโดยรอบตกอยู่ในความโกลาหล
สายตาของถังหยินหันมองไปที่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่อายุประมาณ 10 ขวบ ก่อนที่เขาจะก้มตัวลงคว้าสาวน้อยขึ้นมานั่งบนหลังม้า เด็กน้อย ช่วยชี้ทางไปให้กับเราที !
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ มองไปที่ถังหยินอย่างอยากรู้อยากเห็น และแม้ว่าบิดามารดาของนางจะบอกว่ากองทัพเทียนหยวนจะฆ่าทุกคนที่เข้ามาขวางทางพวกเขา แต่ไม่ว่าเด็กสาวจะมองยังไง ถังหยินก็ดูจะไม่ใช่คนเลวอย่างที่เขาว่ากันเลย !
แน่นอนว่านี่เป็นเพราะถังหยินมีท่าทีที่สง่างาม และไม่ใช่แค่ใบหน้าอันหล่อเหล่าเท่านั้น เพราะเขายังมีรอยยิ้มทรงเสน่ห์ประดับบนใบหน้าอีกด้วย !
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ สะดุ้งในตอนแรกที่ถูกเขาอุ้ม หากแต่นางก็สงบลงอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นเขายิ้ม
เด็กสาวจ้องตรงไปที่ถังหยิน และพูดด้วยเสียงต่ำ ท่านแม่บอกว่า พวกท่านเป็นคนไม่ดี เป็นเรื่องจริงงั้นหรือ ?
ถังหยินหัวเราะและพูดว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ด้วยที่แท้แล้วพวกเรามาจัดการคนไม่ดีที่ว่านั่นต่างหาก !
จริงเหรอ ?
แน่นอน !
จะฆ่าเขาเหรอ ?
ถ้าเป็นคนเลวน่ะนะ !
ท่านปู่ ท่านย่า ท่านพ่อ ท่านแม่ และทุกคนเป็นคนดีนะ !
ถังหยินรู้สึกขบขันกับคำพูดของเด็กสาวจนเขาหัวเราะออกมา ก่อนที่เขาจะพูดว่า งั้นข้าก็จะปกป้องพวกเจ้าเอง !
งั้นแล้ว… ข้าจะพาพวกท่านไปที่ที่ต้องการเอง ! เด็กหญิงไม่ได้วางแผนอะไรเลย และถูกกระตุ้นด้วยคำพูดสั้น ๆ ของถังหยินอย่างง่ายดาย
…อย่างไรก็ตาม เมื่อสิ้นเสียง หยาดเหงื่อมากมายบนร่างของสมาชิกในครอบครัวของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็พากันหลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยถ้าพวกเทียนหยวนไม่ฆ่าเขา งั้นแล้วก็คงเป็นพวกเหมาอันนี่แหละที่จะฆ่าเขาถ้าหากทราบเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ !
เมื่อตกลงได้แล้ว ชายหนุ่มก็ไม่รอช้า รีบกระตุ้นให้ม้าศึกเคลื่อนไหวแล้วร้องตะโกน ไปกันเถอะ !
ด้วยการนำทางของเด็กหญิง ถังหยินและกลุ่มของเขาก็มาถึงจวนผู้ว่าอย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อพวกเขาเห็นว่าประตูถูกปิดอย่างแน่นหนา ถังหยินก็พลันหันศีรษะของเขา และโดยไม่ต้องพูดอะไร พวกทหารที่ติดตามมาก็พากันพุ่งตรงเข้าไปกระแทกประตูอย่างแรง จนกระทั่งมันเปิดออก !
ทุกคนมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง หากแต่พวกเขาก็ไม่พบแม้แต่เงาของคนรับใช้หรือทหารยามเลยสักคน จนกระทั่งทุกคนกลับมารายงานต่อถังหยิน ทำให้ชายหนุ่มได้รู้ว่าไม่มีใครอยู่ในจวนทั้งสิ้น ซึ่งถังหยินก็ไม่แปลกใจแม้แต่น้อย เนื่องจากเหมาอันได้ละทิ้งเมืองไปแล้ว เช่นเดียวกับครอบครัวของเขาที่ได้หลบหนีไปอย่างลับ ๆ
ชายหนุ่มหันกลับไปโบกมือให้ฝูงชน เพื่อบอกให้พวกเขากลับไป จากนั้นถังหยินก็ได้ก้มมองลงไปที่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ในอ้อมแขนและถามว่า สาวน้อย คลังอยู่ที่ไหน ?
ทางนั้น ! เด็กหญิงตัวเล็กชี้ไปทางซ้ายของจวน
ถังหยินพยักหน้า ก่อนยกมือขึ้นและลูบหัวของเด็กสาว ในขณะเดียวกันเขาก็ได้เตะม้าและควบมันเข้าไป
ผ่านไปไม่นาน ถังหยินและคนอื่น ๆ ก็ได้มาถึงที่คลังแล้ว ทว่าหัวใจของถังหยินก็ต้องเย็นเฉียบ เมื่อเขาพบว่าประตูเหล็กของคลังเสบียงเปิดทิ้งไว้ ! และเมื่อเข้าไปใกล้ พวกเขาก็ได้พบว่าคลังว่างเปล่าอย่างที่คาดไว้ !!!
เหมาอัน !!! ไอ้ลูกหมา !!! ถังหยินสบถออกมาอย่างไม่อาจควบคุม เพราะมาตอนนี้เสบียงของพวกเขาก็ถูกทำลายหมดแล้ว เช่นเดียวกับที่นี่ที่ว่างเปล่าไร้สิ่งใด …แบบนี้ก็เท่ากับว่าพวกเขาจำต้องถอยกลับไปจริง ๆ งั้นหรือ ?
แต่แล้วชายหนุ่มก็พลันคิดถึงเรื่องบางอย่างออก ว่าแล้วถังหยินเผยรอยยิ้มออกมา ด้วยเขานึกออกแล้ว ว่าถ้าที่คลังว่างเปล่า งั้นแล้วที่บ้านของพวกชาวเมืองเล่า ? ภายในนั้นต้องมีอาหารแน่ ๆ และกับเมืองที่ใหญ่ขนาดนี้ ปริมาณของมันก็จะต้องมากพอที่จะเลี้ยงคนทั้งกองทัพได้อย่างแน่นอน !!!