ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 350
บทที่ 350
บทที่ 350
แม้ว่าคำพูดของชิวเจิ้นจะดูโหดร้าย แต่ก็ยังเป็นความจริงอยู่ดีเพราะเฉิงจินมีความสามารถมากที่สุดในบรรดาพวกหน่วยลับ ทำให้เขามีโอกาสที่จะใช้วิชานี้สำเร็จมากที่สุด
พวกหน่วยลับมองชิวเจิ้นด้วยความโกรธแค้น ก่อนจะก้มหัวไปอีกครั้ง
เมื่อเฉิงจินเข้าไปข้างใน เขาก็เห็นถังหยินนอนเปลือยอยู่บนเตียงพร้อมด้วยเหล่าเสนารักษ์รอบเตียงไปหมด ส่วนด้านข้างก็มีทหารองครักษ์ที่คอยเช็ดเลือดให้เขาตลอดเวลา
เย่เหล่ยที่เห็นเฉิงจินเข้ามาก็ถามอย่างเย็นชา “เจ้าเข้ามาทำไม ? ออกไป !”
เฉิงจินเดินเข้ามาก้มมองเจ้านายของเขา ชายหนุ่มนอนหลับตาแน่นิ่งหายใจรวยริน ร่างเต็มไปด้วยเลือดที่มาจากแรงระเบิด ถ้าเป็นคนธรรมดาน่าจะตายไปแล้ว และถ้าไม่ใช่เย่เหล่ยที่กำลังรักษาเขาอยู่ ถังหยินก็น่าจะตายไปแล้ว
เขาสูดลมหายใจแล้วบอก “ข้ามาเพื่อช่วยนายท่าน”
หญิงสาวไม่แม้แต่จะหันไปมองแล้วทำแผลต่อไป “ไม่ต้องมายุ่ง ออกไปเสีย !”
“ข้ามาเพื่อช่วยนายท่านจริง ๆ ข้าพร้อมจะใช้วิชาสละชีพ”
เย่เหล่ยไม่รู้จักวิชานี้ นางรู้แค่ว่าตัวนางในตอนนี้เท่านั้นคือคนที่จะช่วยถังหยินได้ “ถ้าเจ้ามีอะไรอยากจะทำก็ทำเลย อย่ามาเล่นแถวนี้ มันรบกวน !!”
เฉิงจินไม่พอใจกับท่าทีดังกล่าวของเย่เหล่ย แต่เขาก็อดกลั้นไว้ ด้วยไม่สนใจชีวิตตัวเองแล้วในจังหวะนี้ “คนที่ออกไปคือเจ้าต่างหาก จะได้ไม่รบกวนการสละชีพของข้า !”
เย่เหล่ยเริ่มหมดความอดทน แม้แต่ถังหยินนางยังกล้าปะทะคารมด้วย ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย นางมองเฉิงจินอย่างฉุนเฉียวแล้วโยนเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดให้กับเขา “ออกไป !”
ไม่ใช่แค่เฉิงจิน แต่เป็นทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ที่ต่างก็ตกตะลึงกับท่าทีของนาง
ทันใดนั้น ถังหยินที่นอนอยู่ก็พลันขยับตัว บาดแผลของเขาสาหัสมากจนเกือบจะตายไป ทว่าพลังปราณของเขาก็รักษาได้ดีจนเกินคาด
เขาได้สติตอนที่เฉิงจินเข้ามา แต่ก็เหนื่อยและเจ็บปวดกว่าจะพูดได้ ทว่าเมื่อได้ฟังทั้งสองฝ่ายจะทะเลาะกันเช่นนี้ มันก็เลยทำให้เขาปวดหัวขึ้นมาทันทีจนนิ่งเฉยไม่ได้อีก
เปลือกตาของเขาหนักเกินกว่าจะยกขึ้น ชายหนุ่มจึงทำได้เพียงพูดเสียงแผ่วเบา “ข้ายังไม่ตายสักหน่อย แล้วเจ้าจะสละชีพอะไร ?”
ทุกคนรอบเตียงตัวสั่นเทาทันทีที่ได้ยิน พวกเขาทั้งดีใจและประหลาดใจไปพร้อม ๆ กัน “นายท่าน !”
ถังหยินหนังตากระตุก แต่ก็ยังไม่สามารถลืมขึ้นมาได้ “เฉิงจิน ?”
พวกหมอทั้งหมดต่างก็แทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความยินดี รวมไปถึงเย่เหล่ยด้วย
เฉิงจินเดินเข้าไปคุกเข่าข้างเตียงแล้วจับมือถังหยินเอาไว้ “ไม่ต้องกังวลนายท่าน ข้าน้อยพร้อมจะสละชีวิตตัวเองเพื่อให้นายท่านรอด”
ถังหยินไม่สนใจคำนั้นแม้แต่น้อย เขาพูดขึ้น “ข้าจะต้องล้างแค้นครั้งนี้ให้ได้ ถ้าข้าเข้าไปในเมืองได้เมื่อไหร่ ข้าจะฆ่าให้หมดไม่เหลือเลย !!”
ทุกคนในห้องต่างก็อ้าปากค้างและไม่คิดว่าถังหยินจะพูดคำแบบนี้ออกมา ….พวกเขาไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี
เฉิงจินเองก็ตะลึงไม่ต่างกัน เขามองสีหน้าขาวซีดของถังหยินแล้วถาม “นายท่าน ?”
“ข้าไม่ยอมตายหรอก แล้วเจ้าก็ไม่ต้องสละชีวิตด้วย ไปบอกชิวเจิ้นและคนอื่นเถอะ”
“แต่นายท่าน…”
“ออกไป !”
ได้ยินคำสั่งแบบนั้นเฉิงจินก็ออกจากกระโจมไปอย่างไม่มีทางเลือก
เมื่อเดินออกมา ชิวเจิ้นและคนอื่นต่างก็ตะลึงแล้วถาม “เจ้า… อย่าบอกนะว่านายท่านหายดีแล้ว ?”
เฉิงจินเข้าใจความหมายดีแล้วตอบกลับ “ไม่ ! เอ่อ ใช่ ! นายท่านสบายดีแล้ว และเขาก็เพิ่งไล่ข้าออกมาเมื่อกี้เอง”
ได้ยินแบบนั้นพวกชิวเจิ้นและทุกคนต่างก็โล่งอกขึ้นมาทันที “ขอบคุณสวรรค์ นายท่านยังปลอดภัยดี !”
เฉิงจินหัวเราะอย่างขมขื่นเพราะไม่รู้ว่าถังหยินปลอดภัยดีจริง ๆ ไหม แต่เขาก็ไม่อยากพูดออกไปเพื่อทำลายบรรยากาศ
ผ่านไปสักประมาณครึ่งชั่วยาม เย่เหล่ยและหมอทุกคนต่างก็ทำแผลให้ถังหยินเสร็จสิ้นเสียที ซึ่งพวกเสนารักษ์ทั้งหลายที่ทำการรักษาต่างก็ประหลาดใจที่เห็นเครื่องในของถังหยินที่แหลกสลายไปแล้วแต่ก็ยังมีชีวิตรอดได้อยู่ …นี่มันคือปาฏิหาริย์ !!
ในวินาทีที่พวกเขาทำแผลภายนอกเสร็จสิ้น อวัยวะภายในของชายหนุ่มก็หายดีเป็นปกติแล้วเช่นกัน และก็เพราะแบบนี้ ที่ทำให้ปราณของถังหยินหมดลงไปกับการรักษาอวัยวะภายในจนไม่เหลือพอให้รักษาแผลภายนอก …ทำให้บาดแผลพวกนั้นตกเป็นหน้าที่ของพวกหมอทั้งหลายไปแทน
หลังจากยืนยันว่าถังหยินพ้นขีดอันตรายแล้ว ชิวเจิ้นกับทุกคนก็โล่งอกและพากันเข้าไปดูอาการของถังหยิน
เมื่อพวกเขามาถึง เย่เหล่ยก็พลันโบกมือเตือนพวกเขาเสียงเข้ม “นายท่านกำลังพักผ่อนอยู่ อย่าส่งเสียงดัง”
ทุกคนพยักหน้าให้อย่างขอไปที ด้วยพวกเขาทุกคนมีตำแหน่งที่สูงมากจนแทบไม่ต้องสนใจเย่เหล่ยที่เป็นแค่หัวหน้าหน่วยเสนารักษ์ ก่อนจะพากันหันมองถังหยินที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง
สภาพของถังหยินในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากมัมมี่ ร่างของเขามีผ้าพันแผลทั่วตัวและมียามากมายถูกทาไปทั่ว ดังนั้นเพื่อความแน่ใจ ทุกคนจึงพากันเดินไปรอบ ๆ เตียงโดยไม่ได้ส่งเสียงอะไรและใช้สายตาสำรวจบาดแผลของชายหนุ่ม
นอกจากใบหน้าของชายหนุ่มที่ซีดเผือดไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว การหายใจของเขาก็ดูจะเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากที่เห็นแบบนี้ทุกคนก็ดีใจ เพราะเจ้านายของพวกเขารอดแล้ว !
ไม่ว่าบาดแผลจะเป็นยังไง ตราบเท่าที่ถังหยินยังมีชีวิตอยู่ก็ยังมีโอกาสที่จะล้มซ่งเทียนได้
บอกได้เลยว่าชีวิตของถังหยินผูกมัดกับกองทัพเทียนหยวนหลายแสนนายนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้
พวกเขาอยู่ข้างในนั้นต่อไปสักเล็กน้อย
ถังหยินรอดแล้วก็จริง แต่ทางฝั่งเมืองหยานก็ยังไม่รู้เรื่องนี้
เย่เฉิงที่คิดว่าถังหยินน่าจะตายแบบหยุนเจียน เขาจึงรีบไปรายงานเรื่องนี้ก่อนใคร
หลี่ฉีแทบไม่เชื่อในคำพูดนี้ การที่ถังหยินตายมันเหมือนกับสวรรค์ทรงโปรดเลย “แม่ทัพเย่เฉิง เจ้าเห็นว่าถังหยินมันตายแล้วหรือ ?”
เจ้าตัวตอบทันควัน “ไม่ผิดแน่ แม่ทัพหลี่ ข้าเห็นมากับตาตัวเองเลย เจ้าคิดว่าพลังหยุนเจียนเป็นยังไงล่ะ ?”
“เก่งกาจยิ่งกว่าใคร !”
“แล้วถ้าเทียบกับถังหยินล่ะ ?”
หลี่ฉีครุ่นคิดก่อนจะตอบ “ต่อให้ไม่สูงกว่า แต่หยุนเจียนก็คงสามารถประมือกันได้สูสี !”
“ใช่แล้ว” เย่เฉิงพูดอย่างตื่นเต้น “ข้าล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าวิชาใดกันที่หยุนเจียนใช้ ! เฮ้อ น่าเสียดายที่หยุนเจียนกลับตายเสียก่อน ช่างน่าสงสารชะมัด …แต่ถ้าเขาตาย งั้นแล้วแล้วท่านคิดว่าถังหยินมันจะรอดหรือ ? แต่ก็อย่างว่าแหละ พวกเทียนหยวนมันเข้ามาเร็วเกินไป ทำให้ข้าเข้าไปเด็ดหัวของถังหยินไม่ทัน”
เย่เฉิงยิ้มออกมาอย่างเปรมปรีดิ์ เพราะการที่ถังหยินตายมันจะช่วยเขากลบเกลื่อนความผิดที่หยุนเจียนตายได้ด้วย
เมื่อเสี่ยวฮุ่ย หวางซ่ง และคนอื่นได้ยินต่างก็ขมวดคิ้ว เพราะถ้าหากเป็นอย่างที่เย่เฉิงว่ามา งั้นแล้วกองทัพเทียนหยวนก็จะต้องล่าถอยในไม่ช้าแน่ !!!