ราชันเทพสงคราม[唐寅在异界] - บทที่ 428
บทที่ 428
บทที่ 428
สรุปแล้ว จากกองทัพเฟิงที่หยวนยู่และจ้านหูนำมาทั้ง 2 พันคน พอเป็นตอนนี้พวกเขากลับต้องสูญเสียทหารไปกว่า 200 นายเมื่อตอนข้ามแม่น้ำ ทว่าก็ยังโชคดีนัก …ที่กองกำลังส่วนใหญ่ยังคงอยู่ดี
หลังจากพักผ่อนอยู่ในป่าริมฝั่งแม่น้ำสักพัก หยวนยู่ก็พลันโบกมือให้พวกทหารและชี้ดาบของเขาไปทางทิศตะวันออก !
เมื่อเห็นเช่นนี้ พวกทหารก็พากันลุกขึ้นมาทีละคนและปลดสายรัดผมออกมาพันด้ามดาบไว้แน่น
ตอนนี้จ้านหูไม่ได้ใช้ค้อนเหล็กขนาดใหญ่ของเขา เพราะมันหนักและไม่เอื้อต่อการข้ามแม่น้ำ และด้วยความแข็งแกร่งกับการฝึกฝนของเขา พลังที่จ้านหูสามารถปลดปล่อยในการต่อสู้นั้นก็ไม่สามารถประมาทได้เลย !
…หยวนยู่และจ้านหูนำกองทัพนับพันเคลื่อนที่ผ่านป่าทึบไปอย่างเงียบๆ
ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้ป่าอีกด้านหนึ่งของเมืองหลีชานมากเท่าไหร่ ทุกคนก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น ด้วยพวกเขาทุกคนรู้อย่างชัดเจนในใจว่าพวกเขาสามารถพบเจอกับศัตรูได้ตลอดเวลา ! ทว่าหยวนยู่ไม่เพียงแต่ไม่ประหม่า แต่เขายังตื่นเต้นเป็นพิเศษด้วยดวงตาที่ส่องประกาย
เขาสวมชุดเกราะสีขาวและถือดาบในมือเดินไปที่ด้านหน้าของกลุ่ม ชายเลือดร้อนไม่ได้พยายามแม้แต่จะซ่อนตัวขณะที่พุ่งไปข้างหน้า …ราวกับว่าไม่มีใครอยู่รอบตัว
ในขณะที่กำลังเดินลึกเข้าไป เขาก็พลันได้ยินเสียงตะโกนจากด้านหน้า “หยุด ! เจ้าเป็นใครกัน ?”
‘ทหารฝ่ายศัตรู !’
หัวใจของจ้านหูบีบรัดอย่างแรง ในขณะที่เขาหยุดเดิน เช่นเดียวกับทหารเฟิงคนอื่น ๆ ที่หยุดนิ่งเฝ้ามอง ทว่าอย่างไรก็ตาม ….ทิวทัศน์แวดล้อมกลับเต็มไปด้วยป่าทึบที่มีใบไม้เขียวชอุ่มเกินกว่าที่จะมองเห็นได้ว่ามีอะไรอยู่ตามทิวไม้หนาแน่นนั้น !!!
หลังได้ยินเสียงไม่ทราบที่มานั่น แทนที่จะระแวดระวง หยวนยู่กลับไม่แม้แต่จะหยุดเคลื่อนไหว เขาไม่ชะลอด้วยซ้ำขณะที่เดินไปข้างหน้าอย่างเฉยเมย ก่อนที่ชายเลือดร้อนจะพูดด้วยเสียงแหบต่ำออกไป “ข้าเอง !” ทันใดนั้นหยวนยู่ก็พลันได้ยินเสียงกระแทกที่เหนือหัวของเขา ก่อนตามมาด้วยนายทหารเปิง 5 นายซึ่งสวมชุดเกราะสีแดงที่กระโดดลงมาจากต้นไม้
ด้วยเพราะพวกเขาต้องข้ามน้ำมา ดังนั้นแล้วแต่ละคนจึงเปลือยกายและสวมเพียงกางเกงขาสั้น ซึ่งก็เป็ยเพราะแบบนี้เอง มันจึงทำให้พวกเปิงไม่สามารถระบุได้ว่าพวกของหยวนยู่นั้นเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่ !
“ขอโทษนะ เจ้าคือ…” เมื่อมองไปยังชุดเกราะปราณของหยวนยู่ ท่าทีของทหารเปิงที่น่าจะเป็นหัวหน้าหมู่ก็ดูจะสุภาพมากขึ้น จนถึงขนาดที่ว่าเขาประสานมือในขณะเอ่ยถาม
หยวนยู่ใช้ประโยชน์จากคำถามของอีกฝ่ายขยับเข้าไปใกล้ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้า… หยวนยู่”
“เห้ย ! หยวนยู่อย่างนั้นเหรอ !?” ทหารเปิงบางคนนิ่งงันไปสักพัก ก่อนที่พวกเขาจะตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ …หยวนยู่คือแม่ทัพที่โหดเหี้ยมที่สุดของกองทัพเทียนหยวนไม่ใช่หรือไร ? หรือว่าคนพวกนี้คือชาวเฟิงกัน ? ทว่าเมื่อพวกเขากำลังจะขยับตัว ดาบปราณของหยวนยู่ก็พลันกวาดออกไปแล้ว
“ฉับ !”
แม้แต่การโจมตียังไม่สามารถมองได้อย่างชัดเจน แล้วจะนับประสบอะไรกับการหลบหลีก ด้วยเสียงอู้อี้ 3 ครั้งติดต่อกัน ทหารทั้งสามที่อยู่ตรงหน้าก็พลันถูกตัดครึ่งลำตัว ก่อนที่พวกเขาจะเสียชีวิตในทันที ส่วนทหารเปิงที่เหลืออีกสองคนต่างก็หวาดกลัว ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปมา จากนั้นจึงเป็นหยวนยู่ที่ใช้ดาบฆ่าทหารเปิงด้านขวาและใช้อีกมือที่ว่างปล่อยหมัดใส่ทหารเปิงด้านซ้าย
ต้องเข้าใจว่าหยวนยู่นั้นแข็งแกร่งขนาดไหน กำปั้นของเขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าอาวุธมีคมใด ๆ เลย !
ด้วยเสียงดัง ‘โพล่ะ !’ ทหารเปิงที่ถูกชกก็พลันระเบิดเป็นชิ้น ๆ จนเลือดและสมองของอีกฝ่ายกระเซ็นไปทั่วพื้น
หยวนยู่ฆ่าคนไปถึง 5 คนในชั่วพริบตา โดยไม่รอช้า เขาเหวี่ยงดาบขึ้นและตะโกนว่า “พวกเจ้าที่เหลือก็จงตามพวกมันไปด้วยเลยก็แล้วกัน !” ว่าแล้วดาบปราณก็พลันพุ่งออกไปพร้อมกลับคลื่นพลังปราณที่รุนแรง จนทำให้กิ่งก้านต้นไม้โดยรอบหักโค่นลงกระจัดกระจาย !
แน่นอนว่ากองทหารที่ซ่อนอยู่ตามต้นไม้ต่างก็ตกลงมาพร้อมเสียงกรีดร้องอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนเป็นหยวนยู่ที่กระโดดขึ้นฟ้า เข้าตัดหัวของทหารพวกนั้นจนหมด !
ยอดฝีมือ ! จ้านหูพยักหน้าเล็กน้อย ด้วยเขาชื่นชมหยวนยู่อย่างแท้จริง ส่วนพวกทหารโดยรอบก็ต่างเต็มเปี่ยมไปด้วยขวัญกำลังใจ เพราะแม่ทัพของพวกเขาทรงพลังยิ่ง !!!
ในขณะนี้พวกเขาต่างก็กำลังรู้สึก ว่าไม่ว่าจะมีศัตรูกี่คน.. ตราบใดที่พวกเขาติดตามหยวนยู่พุ่งไปข้างหน้า งั้นแล้วมันก็ไม่มีอะไรให้ต้องกลัว !!!
หยวนยู่มองไปยังศพที่อยู่บนพื้นและพูดด้วยเสียงเย็นเยียบออกมาหนึ่งคำ “สวะ !” จากนั้นจึงโบกมือสั่งให้คนข้างหลังติดตามมาและเดินต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หน่วยลาดตระเวนของกองทัพเปิงเข้มงวดมาก จนแม้แต่สายลับของเนตรเวหาและเครือข่ายใยพิภพยังไม่สามารถเข้าใกล้ได้ แน่นอนว่าทหารลาดตระเวนในสถานที่แห่งนี้ไม่ได้ประจำการอยู่ที่นี่เท่านั้น เมื่อหยวนยู่และพวกทหารเฟิงเดินทางลึกเข้าไป ไม่นานนักพวกเขาก็ได้พบเข้ากับทหารลาดตระเวนของกองทัพเปิงอีกครั้ง !
ซึ่งคราวนี้มันก็เป็นดั่งครั้งก่อนหน้า เพราะหยวนยู่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและฟาดฟันทุกคนที่ขวางทางด้วยดาบในมือทันทีโดยไม่แม้แต่จะเปิดโอกาสให้ศัตรูได้ทันตั้งตัว !!
พวกทหารเปิงค่อย ๆ ตายไปทีละคน อย่างไรก็ตามการต่อสู้ที่เกิดขึ้นมันทำให้ทหารบริเวณใกล้เคียงตื่นตระหนกไม่น้อย ก่อนจะตามมาด้วยเสียงนกหวีดแหลมดัง จนเกิดเสียงเตือนและความวุ่นวายขึ้นทั่วป่า
ในเมื่อการลอบโจมตีโดนเปิดโปงแล้ว งั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสู้แบบเงียบ ๆ อีก ! ชายเลือดร้อนไม่รอช้า เขาวิ่งทะยานตรงเข้าไปโดยมีเป้าหมายเป็นที่ตั้งค่ายหลักของกองทัพเปิง !!
และเมื่อมาถึงหน้าค่าย หยวนยู่ก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนของการต่อสู้ดังขึ้นจากป่าข้างหน้า ก่อนที่ทันใดนั้นกองทัพเปิงกว่าพันคนจะรีบออกมาจากป่าทึบ พวกเขาทั้งหมดต่างถือหอกหรือคันธนู และเมื่อเห็นหยวนยู่ มือธนูในกองทัพเปิงก็พลันยิงศรออกมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ฟุ่บ ! ฟุ่บ ! ฟุ่บ !
ลูกธนูทะลุสายลม พากันพุ่งทะยานเข้าหาหยวนยู่
ในระยะใกล้ ไม่ว่าหยวนยู่จะทรงพลังเพียงใด เขาก็คงไม่สามารถหลบลูกศรจำนวนมากที่เข้ามาได้ ทว่าด้วยการฝึกฝนที่ลึกล้ำ เกราะปราณที่แข็งแกร่งเขาจึงไม่จำเป็นต้องกลัวลูกศรของศัตรูเลยแม้แต่น้อย และแรงกระแทกของลูกศรที่ตกลงมา มันก็ทำให้หยวนยู่เพียงถอยหลังไปไม่กี่ก้าวเท่านั้น
อย่างไรก็ตามก่อนที่ศัตรูจะยิงอีกรอบ จู่ ๆ ชายเลือดร้อนก็พลันร้องคำรามและเหวี่ยงดาบของเขาไปข้างหน้า ! หยวนยู่ทำการปล่อยพลังปราณคลั่ง และเมื่อมันถูกปลดปล่อยออกมา ลมแรงก็ได้พัดผ่านป่าทำให้ดินกับหินปลิวไปทุกที่ …จนแม้แต่หญ้าและใบไม้ที่อยู่บนพื้นเองก็ถูกพัดขึ้นไปในอากาศด้วยเช่นกัน
เนื่องจากระยะห่างระหว่างพวกเขาทั้งสองไม่ได้อยู่ในระยะการโจมตีของปราณคลั่ง ดังนั้นแล้วมันจึงไม่อาจสร้างความเสียหายให้กับพวกเปิงได้มากนัก ทว่าแค่ร่องรอยขีดข่วนมากมายที่เหลือทิ้งไว้ มันก็มากพอแล้วที่จะทำให้พวกเขาหวาดกลัว !!!
…เหตุผลที่หยวนยู่ใช้ออกไปจากระยะทางที่ไกลเช่นนี้ มันไม่ใช่เพื่อทำร้ายศัตรู แต่เขาต้องการที่จะขัดขวางการมองเห็นของพวกนั้น เพื่อไม่ให้นักธนูในกองทหารของศัตรูยิงธนูรอบที่สองได้ในทันที !!!
แน่นอนว่าภายใต้ผลกระทบของลมพายุที่เกิดจากหยวนยู่ กองทัพเปิงหลายพันคนที่อยู่ข้างหน้าทุกคนต่างก็จำต้องเอามือปิดหน้าและถอยหลังไปสองสามก้าว
…ซึ่งเมื่อลืมตาขึ้นอีกที ก็เป็นหยวนยู่ที่วิ่งมาถึงตรงหน้าพวกเขาแล้ว !!!
ในการต่อสู้ระยะใกล้โดยปราศจากการคุกคามของธนูจากระยะไกล ทหารธรรมดาเหล่านี้จะเทียบกับหยวนยู่ได้อย่างไร ? ดาบในมือซ้ายและขวากวาดในแนวนอน ทำให้เกิดแตกร้าวดังขึ้นไม่หยุด ก่อนที่หอกนับสิบเล่มที่พุ่งเข้ามาหาชายเลือดร้อนจะหักกลางและตกลงไปที่พื้น
“ตายซะ !!” หยวนยู่เปล่งเสียงตะโกนสั้น ๆ จากนั้นจึงปล่อยลมคลั่งออกมา ทำให้พวกทหารเปิงล้มลงกับพื้นทันที ก่อนเป็นดาบปราณที่พุ่งทะยานออกไปทุกทิศทางเหมือนกับเคียวของยมทูตที่เข้าฉีกร่างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ขวางทาง
ในการต่อสู้ที่วุ่นวายนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการจัดการกับผู้คนจำนวนมาก ๆ ในคราวเดียว มันก็ทำให้หยวนยู่ไม่สามารถรักษาพลังปราณของเขาไว้ได้ ด้วยเพราะชายเลือดร้อนจำต้องใช้ทักษะระดับสูงอย่างต่อเนื่องสำหรับการโจมตีขนาดใหญ่ และภายใต้การโจมตีที่บ้าคลั่งนี้เอง มันก็ทำให้ทหารเปิงบาดเจ็บล้มตายไปนับร้อย ในขณะที่คนที่เหลือต่างก็หวาดกลัวและล่าถอยกลับไป
จ้านหูที่ติดตามจากด้านหลังเห็นทุกอย่างชัดเจน ทำให้เขาพยักหน้าด้วยรู้สึกชื่นชมการเคลื่อนไหวของหยวนยู่ ก่อนจะเหวี่ยงอาวุธในมือและตะโกนบอกทหารเฟิงทางซ้ายและขวาว่า “ติดตามท่านหยานยู่ไป คอยสนับสนุนเขา ฆ่าให้หมด !!”
ทหารเฟิงนับพันที่ได้รับการสนับสนุนจากหยวนยู่ผู้กล้าหาญรู้สึกเลือดเดือด เช่นเดียวกับขวัญกำลังใจของพวกเขาที่เพิ่มขึ้นถึงขีดสุด ในเวลานี้ทุกคนละทิ้งความกังวลเกี่ยวกับชีวิตและความตายโดยสิ้นเชิง พวกเขาต่างก็มีเพียงความคิดที่จะฆ่าศัตรูตรงหน้าให้สิ้นกันทั้งนั้น !!
ในเวลานี้ป่าทั้งผืนวุ่นวายราวกับจะระเบิดออกมาได้ ทหารเปิงจำนวนมากพากันวิ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง ก่อนที่พวกเขาจะเข้าปะทะเข้ากับหยวนยู่อย่างบ้าคลั่ง
…ในป่าที่กว้างใหญ่เช่นนี้ มันกลับเต็มไปด้วยเสียงของการต่อสู้เอาชีวิตระหว่างสองฝ่ายที่ดังลอยอัดแน่นอยู่ในอากาศ
อีกด้านหนึ่ง
ถังหยินและกองทัพหมื่นกว่านายบนแพไม้เตรียมพร้อมที่จะเดินทางแล้ว ทว่าในตอนนั้นเอง พวกเขาก็พลันได้ยินเข้ากับเสียงความโกลาหลในอีกด้านหนึ่ง …ที่เป็นเสียงอันแสดงให้เห็นว่าการต่อสู้ ณ อีกฝั่งของแม่น้ำได้เริ่มขึ้นแล้ว !!
ใบหน้าของถังหยินดูจะสว่างขึ้นในฉับพลัน เขาหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะโบกแขนไปข้างหน้าและตะโกนไปว่า “ตีกลองทำศึก !”