ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King - ตอนที่ 726
ตอนที่ 726 สอนสั่งบทเรียน
ฉินหยุนไม่หวาดเกรงใดต่อคนกลุ่มคน เขาแค่นเสียงตอบกลับ “เหตุ
ใดข้าจึงต้องไสหัวไป? เพียงกลุ่มชนชั้นสวะเช่นพวกเจ้า คิดหรือว่า
จะพอให้ข้าต้องไป?”
“เจ้ามันเพียงลำพัง ขณะพวกเราอยู่กันมากมาย หากติดตามเราไป
นั่นไม่ใช่การเอาเปรียบต่อพวกเราหรืออย่างไร?” น้องชายคนหนึ่ง
ของนายน้อยตระกูลเยี่ยตะโกนดัง “พวกเราบอกเจ้าให้จากไปอย่างมี
มารยาทแล้ว เพราะพวกเราต้องการไว้หน้าแก่นายหญิงน้อยหลง
ไม่เช่นนั้น ขาเจ้าคงหักนอนนิ่งที่นี่ไปแล้ว!”
เพื่อแสดงความอหังการต่อหน้าลูกพี่ มิตรสหายน้องชายเหล่านี้จึง
เผยความอวดดีได้เพียงนี้
“เหอะ จะบอกว่าพวกเจ้ามีมากแล้วแข็งแกร่งอย่างนั้นหรือ? น่าขัน!”
ฉินหยุนหัวเราะดัง “กลุ่มสวะเช่นพวกเจ้า แม้มีสักสิบคน ก็ไม่อาจ
เอาชนะข้าได้!”
“สิบงั้นหรือ? เจ้าให้ค่าตนเองสูงเกินไปแล้ว เพียงมือเดียวข้าก็เอาชนะ
เจ้าได้!” น้องชายคนหนึ่งของนายน้อยตระกูลเยี่ยนำหอกยาวออกมา
พุ่งแทงใส่ฉินหยุน คลื่นอากาศทะลักล้นจากกายเขาเกิดเป็นสายลม
รุนแรงวูบหนึ่ง
สายลมพัดเข้าหาทั้งฉินหยุน เชี่ยวเย่ว์เหม่ยที่อยู่ใกล้เคียงเผยอาการ
ร้อนใจกล่าวเกลี้ยกล่อมไม่ให้ต่อสู้
ผู้คนที่นี้ล้วนไม่สนคำเกลี้ยกล่อมของเชี่ยวเย่ว์เหม่ย พวกเขาเพียงแต่
เชื่อฟังลูกพี่ของตนเองเท่านั้น
“นายหญิงน้อยหลง ชายผู้นี้อหังการอวดดีเกินไป ให้ข้าสอนสั่งแก่
มันสักบทเรียนจะได้หลาบจำ ภายหน้าจะได้ไม่สร้างปัญหาให้แก่
ผู้อื่น!” นายน้อยเยี่ยหัวเราะกล่าว “ท่านเพียงรับชม มันก็แค่ไก่อ่อน
ตัวหนึ่ง คิดเอาชนะน้องชายข้านั้นไม่อาจทำได้แน่!”
ขณะน้องชายของนายน้อยเยี่ยพุ่งทะยานออก หอกในมือเล็งเป้าที่
ลำคอของฉินหยุน การลงมือครั้งนี้เจตนาสังหารอย่างชัดเจน
เขากล้าอวดดีได้เพียงนี้ ทางหนึ่งก็เพราะเป็นที่ชื่นชอบของนายน้อย
เยี่ย และอีกทางหนึ่ง เขาอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับต้น ด้วย
สัมผัสถึงออร่าของฉินหยุน เขาพบว่าตนสามารถเอาชนะอีกฝ่ายแม้มี
ระดับการฝึกฝนสูงกว่าได้
ผู้คนล้วนทราบถึงความแข็งแกร่งของน้องชายนายน้อยเยี่ยผู้นี้อย่างดี
พวกเขาล้วนคิด ว่าถึงคราวฉินหยุนจบสิ้นแล้ว!
ยามเมื่อหอกเสียดแทงออกด้านหน้า ฉินหยุนพลันคว้าปลายหอก
เอาไว้ เปลวเพลิงทะลักล้นออกจากฝ่ามือทำการหลอมละลายปลาย
หอกในพริบตา
“ข้าบอกไปแล้ว พวกเจ้าล้วนเป็นสวะ กระนั้นก็ยังไม่เชื่อข้าอย่างนั้น
หรือ? ดูเหมือนข้าคงมีแต่ต้องให้ได้เห็นกับตา!” ฉินหยุนแค่นเสียง
ดังขึ้น หลังคว้าปลายหอกเอาไว้ได้ หมัดเขาต่อยพุ่งตรง หมัดนี้ไม่แม้
สัมผัสกับชายหนุ่ม กลับเป็นพลังปะทุจากหมัดที่เบิกผ่านร่างชาย
หนุ่ม ทำการบดขยี้ป่ นแก่นเต๋าอีกฝ่ายออกเป็นชิ้น
ตึง!
น้องชายนายน้อยเยี่ยร่างกระเด็นปะทะต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะร่วงหล่น
ร่างกองกับพื้นกระอักเลือดออกคำโต
ชายวัยกลางคนเร่งรีบพุ่งเข้าไปตรวจสอบอาการ สีหน้านั้นกลับ
กลายเป็นน่าเกลียด!
“แก่นเต๋าแตกสลาย!”
ยามผู้คนได้รับฟัง เสียงอึกทึกจึงบังเกิด
นี่ไม่ใช่เพราะพวกเขาตื่นตะลึงต่อกำลังของฉินหยุน แต่เป็นเพราะ
พวกเขามองว่าอีกฝ่ายหาญกล้าจนเกินไป ถึงขั้นทำร้ายน้องชายนาย
น้อยเยี่ยจนพิการต่อหน้า!
“เจ้าผู้แซ่มู่หรง เจ้าโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!” นายน้อยเยี่ยคำรามด้วย
โทสะ เดิมเขาคิดอยากร่วมมือกับนายน้อยผู้อื่นสอนสั่งบุตรหลาน
ตระกูลมู่หรง หวังจะได้หยามเหยียดอีกฝ่ายสักฉากหนึ่ง
ทว่าพวกเขาไม่คาดคิด ว่าเรื่องราวใหญ่โตจะบังเกิดขึ้นเช่นนี้
“โหดเหี้ยมหรือ? เป็นมันคิดแทงใส่ลำคอข้า!” ฉินหยุนแค่นเสียง
กล่าว “นายน้อยเยี่ยใช่หรือไม่? เจ้าจึงเป็นคนที่ปฏิเสธไม่มองถึง
ความเป็นจริง ตัวเจ้ามีกำลัง กระนั้นกลับส่งน้องชายขอบเขตวรยุทธ์
วิญญาณระดับต้นมาจัดการข้า เป็นเจ้าที่ส่งมันมาตาย!”
ฉินหยุนกล่าวจนเป็นผลให้นายน้อยเยี่ยตกสถานการณ์ยากลำบาก
หากเขาไม่ทำอะไรเสียเดี๋ยวนี้ ผู้ใต้บัญชาทั้งหลายย่อมสงสัยในกำลัง
ของเขา
“ผู้แซ่มู่หรง จงเร่งรีบคุกเข่าขอขมาต่ออาหยวนหนึ่งร้อยครั้ง! จากนั้น
คิดไสหัวไปที่ใดจงไป มีแต่ทำเช่นนี้พวกเราจึงจะปล่อยเจ้ารอดพ้น!
หากไม่ใช่เพราะไว้หน้าแก่นายหญิงน้อยหลง ชะตาเจ้าคือต้องเป็น
คนตายอยู่ที่นี่!” นายน้อยเยี่ยกล่าวคำเสียงเย็นเยือก
“ลูกพี่เยี่ยของเราครอบครองวิญญาณยุทธ์หมีทองม่วง ในนครจันทรา
โกลาหล เขาคืออาจารย์ยุทธ์ผู้เลิศล้ำแห่งขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ
ระดับกลาง!”
“ผู้แซ่มู่หรง เร่งรีบโขกหัวขอขมาต่ออาหยวน ยอมรับความผิดของ
เจ้า ไม่เช่นนั้น เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้มีชีวิตรอด!”
“หากไม่ใช่เพราะเมตตาจากนายหญิงน้อยหลงที่ไม่ชื่นชอบการเห็น
ผู้คนตกตาย เจ้าสมควรถูกลูกพี่เยี่ยสังหารไปแล้ว!”
“ยังยืนเฉยทำบ้าอะไร? เร่งรีบม้วนตัวโขกหัวแก่อาหยวนแล้วไสหัว
ไปได้แล้ว!”
บรรดาผู้ใต้บัญชาของนายน้อยเยี่ยต่างตะโกนอย่างเดือดแค้น
กลุ่มของนายน้อยผู้อื่นเพียงแต่รับชมจากด้านข้าง แม้พวกเขาไม่ยินดี
กับคนของตระกูลมู่หรงผู้นี้เท่าใดนัก กระนั้นพวกเขาไม่ใช่โง่ พวก
เขารับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนที่ล้อเล่นด้วยได้
“กลุ่มสุนัขที่ดีแต่เห่าหอน หากหาญกล้าจงเข้ามาสังหารข้าเสียที่นี่!
กลุ่มชนชั้นสุนัขสวะเช่นพวกเจ้า ก็ดีแต่เห่าหอนผายลมออกมา!” ฉิน
หยุนหัวเราะดัง “กลุ่มสวะเช่นพวกเจ้าไม่อาจทำอื่นใด เพียงแต่ยกตน
ข่มท่านโดยที่ไม่มีดีอะไรให้ยก!”
นายน้อยเยี่ยยิ่งมีโทสะ เขาตะโกนดัง “อย่าได้ว่าร้ายผู้ใต้บัญชาข้า!
ให้ข้าลงมือสังหารเจ้าเสียเดี๋ยวนี้!”
พูดกล่าวจบ ร่างนายน้อยเยี่ยจึงเผยร่างมายาหมีทองม่วงขนาดใหญ่
ขึ้น ราวกับเขาเป็นหมีพิโรธคลุ้มคลั่ง ร่างนั้นพุ่งทะยานมา พื้นดิน
สั่นสะเทือน เสียงคำรามดังจนเป็นผลให้เส้นขนผู้คนชี้ตั้ง
นายน้อยเยี่ยพุ่งทะยานใส่ มือนั้นเปรียบดังอุ้งตีนหมีขนาดใหญ่ยักษ์
คิดเข้าตะปบใส่ฉินหยุน พละกำลังอีกฝ่ายถึงขนาดทำพื้นดินจมลึก
หลายเมตรเกิดเป็นหลุมมากมาย
“ด้วยกำลังอันน้อยนิดของเจ้า ยังกล้ากล่าวว่าจะสังหารข้าอีกหรือ?”
ฉินหยุนมองฝ่ามือที่เข้ามาอย่างเชื่องช้า เขาเพียงผลักฝ่ามือออก พลัง
สั่นไหวภายในหมัดส่งผลให้แขนที่พุ่งเข้ามาใกล้ต้องระเบิดจนเลือด
ทะลัก
ต้องทราบว่าฉินหยุนตอนนี้คือขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูง
ทว่าที่ผู้คนหมิ่นประมาทต่อเขา ก็เพราะเขาจงใจเผยออร่าออกมา
เพียงแค่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับกลาง
ที่นี่หาได้มีขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูงไม่ ดังนั้นฉินหยุนถือว่า
ไร้เทียมทานที่นี่!
แขนนายน้อยเยี่ยระเบิดออกเป็นหมอกโลหิตกลุ่มก้อนหนึ่งกระจาย
ทั่วทิศ หยาดเลือดที่สาดกระเซ็นออกเป็นผลให้บรรดาน้องชายผู้ใต้
บัญชาต้องสั่นกลัวสันหลังเย็นเยือก
ลูกพี่เยี่ยซึ่งพวกเขานับถือบูชา แท้จริงอ่อนแอถึงเพียงนี้ แขนข้างหนึ่ง
ถึงกับสิ้นสภาพได้ในพริบตา!
นายน้อยเยี่ยผู้นี้เดิมคิดอยากสำแดงกำลัง แต่แล้วเมื่อรับรู้ถึงออร่าทรง
อำนาจตอบโต้สวนกลับคืน เขากลับกลายเป็นหวาดกลัวจนขาสั่น
“นายน้อยเยี่ย ไม่ใช่ท่านแข็งแกร่งนักหรอกหรือ?” ฉินหยุนแค่น
เสียงเย้ยหยัน
“ข้า… ข้า… ท่านลุงมู่หรงโปรดละเว้นข้า!” นายน้อยเยี่ยคุกเข่ากับ
พื้นโขกคำนับอีกฝ่าย
ผู้คนต่างตื่นตะลึง นายน้อยเหล่านี้ปกติทำตัวอหังการอวดดี กระนั้น
เวลานี้กลับคุกเข่าขอเมตตาจากอีกฝ่าย!
“ข้า ด้วยเพราะเป็นคนมีคุณธรรม ย่อมไม่เอาความกับคนหลงผิด
ดังนั้นครั้งนี้ข้าจะยอมเห็นแก่หน้านายหญิงน้อยหลงปล่อยเจ้าไป!”
ฉินหยุนหัวเราะเสียงดังก่อนจะเดินไปทางเชี่ยวเย่ว์เหม่ย
ทันใดนี้ นายน้อยเยี่ยผู้มีโทสะเปี่ยมล้น ฉับพลันนำกระบอกออกมา
บ้องหนึ่งพ่นเข็มพิษออก ทันทีเมื่อเข็มสีดำปรากฏ ผู้คนต่างรับรู้ว่า
ฉินหยุนย่อมต้องตายแน่นอนแล้ว
เพราะฉินหยุนกำลังหันหลังให้แก่นายน้อยเยี่ย!
“ระวัง!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว ร่างงดงามของนางเผยแสงวูบปรากฏ
ตัวด้านหลังฉินหยุน นางสะบัดแขนเสื้อส่งเข็มพิษเหล่านั้นลอย
กลับไปปักเข้าที่ลำคอของนายน้อยเยี่ย
นายน้อยเยี่ยเมื่อต้องถูกพิษ ผิวหนังจึงเริ่มเน่าเปื่อยจนทำให้ผู้พบเห็น
หวาดกลัว
ผู้คนล้วนกายแข็งทื่อ พวกเขาไม่คาดคิด ว่าสตรีผู้งดงามตรงหน้า จะ
ถึงขั้นครอบครองเคล็ดวิชาเคลื่อนไหวอันเลิศล้ำ นางถึงขั้นสามารถ
ปัดป้องอาวุธลับได้อย่างง่ายดาย
นายน้อยเยี่ยตายตก ผู้คนต่างหวาดกลัวกันถ้วนหน้า!
โดยเฉพาะกับบรรดานายน้อยผู้อื่น ก่อนหน้าพวกเขาเพิ่งสนทนากัน
อย่างสนุกสนานร่วมกับสตรีในตำหนักจารึกเทวะ พวกเขาย่อมไม่
คาดคิด ว่าสตรีผู้มากมารยาทงดงามตรงหน้าจะแข็งแกร่งได้เพียงนี้
นายน้อยจีขมวดคิ้วกล่าว “นายหญิงน้อยหลง ท่านสังหารนายน้อย
เยี่ย ตระกูลเยี่ยย่อมไม่ปล่อยท่านไป! หากตบแต่งกับข้า เช่นนั้นจึง
ค่อยอยู่รอดปลอดภัยได้!”
ฉินหยุนพลันหัวเราะ “นายน้อยจี เจ้าคล้ายให้ค่าตนเองไว้สูงล้ำยิ่งนัก
เจ้าหรือจะคู่ควรกับนายหญิงน้อยหลง? นายหญิงน้อยหลงคืออาจารย์
จารึกลึกล้ำ เป็นอัจฉริยะแห่งตระกูลหลง กระทั่งว่านางสังหารพวกเจ้า
ประหนึ่งมดปลวก ผู้อาวุโสเบื้องหลังพวกเจ้าก็ไม่คิดกล้าทำอันตราย
ใดแก่นาง!”
นายน้อยจีแค่นเสียงตอบกลับ “นายหญิงน้อยหลงอย่าได้ฟังคำของ
มัน! หากบรรดาผู้อาวุโสตระกูลเยี่ยทราบเรื่อง พวกเขาเหล่านั้นย่อม
คิดจับตัวท่าน! ขอท่านกลับไปยังตระกูลจีร่วมกับข้า ตราบเท่าที่ตบ
แต่งกับข้า ตระกูลเยี่ยย่อมไม่กล้าทำอันตรายท่าน!”
“นายหญิงน้อยหลง เป็นเพียงท่านพลาดพลั้งสังหารนายน้อยเยี่ยไป!
เพียงติดตามข้าไปหลบซ่อนที่ตระกูลเจียงก็พอแล้ว!” นายน้อยเจียง
ก้าวเดินเข้ามา ทั้งยังคว้ามือเชี่ยวเย่ว์เหม่ย กระนั้นเชี่ยวเย่ว์เหม่ยกลับ
หลบลี้
“เหอะ! ไม่นึกว่าจะดื้อรั้นเพียงนี้! เอาเถอะ อย่างไรวันนี้เจ้าก็หนีไม่
รอดพ้น! ทุกคนล้อมสองคนนี้เอาไว้!” นายน้อยเจียงเผยรอยยิ้มชั่ว
ร้าย “ นายหญิงน้อยหลง ในเมื่อเจ้าได้รับสิ่งของล้ำค่าจากพวกเราไป
มาก เช่นนั้นจงมาหลับนอนกับพวกเราสักหลายคืน นี่เป็นคำสั่ง หา
ได้ใช่คำบอกกล่าว!”
บรรดาผู้ใต้บัญชานายน้อยทั้งหลายต่างตั้งวงล้อม พวกเขาเหล่านี้เผย
ความคิดดุร้ายโฉดชั่วออกอย่างไม่ปิดบัง
นายน้อยเซียพลันหัวเราะชั่วร้ายขึ้นตอนนี้ “กับข้านั้นหลับนอนที่นี่
ยังได้! ข้าชื่นชอบมีอะไรที่ภายนอกยิ่งนัก!”
ด้วยการกระทำของนายน้อยเหล่านี้พร้อมผู้ใต้บัญชา ฉินหยุนค่อย
ทราบว่าพวกเขาร่วมมือกันก่อเรื่องเช่นนี้บ่อยครั้งเพียงใด! เรื่องนี้ยิ่ง
ทำเขาโกรธแค้นยามได้ยิน เพราะอีกฝ่ายถึงขั้นร่วมมือกันคิดจับเชี่ยว
เย่ว์เหม่ยเอาไว้!
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยหัวเราะเบา “ในเมื่อพวกเจ้าชื่นชอบการหลับนอนมาก
นัก อย่างนั้นข้าจะส่งพวกเจ้าไปหลับนอนชั่วนิรันดร์!”
หลังกล่าวคำจบ ดาบยาวจึงปรากฏในมือขาวงดงามของนาง พร้อม
จ้วงแทงเข้าใส่ศีรษะของนายน้อยเจียง
พร้อมกันนี้ ฉินหยุนได้ปลดปล่อยมีดบินออกมา!
วูบ วูบ วูบ!
มีดบินร่ายรำไปทั่ว พวกมันทิ่มแทงใส่ร่างและศีรษะของกลุ่มคน
พรากเอาชีวิตเหล่านั้นไปอย่างรวดเร็ว
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยย่อมใช้พลังจิตควบคุมดาบยาวเช่นกัน พวกมันแปรเปลี่ยน
เป็นลำแสงอันเย็นเยือก มาพร้อมกับพลังอันแข็งแกร่ง เข้าแทงทะลวง
ใส่ร่างของหลายผู้คน
ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยยืนที่ตรงกลาง ใช้วิชาวิญญาณควบคุม ส่ง
อาวุธบินไปมาพรากชีวิตเศษเดนของกลุ่มคนเหล่านี้
นายน้อยจี นายน้อยเจียง และนายน้อยเซีย ทั้งหมดนอนกับพื้นร้อง
โอดครวญอย่างรวดร้าว
“ไม่ใช่พวกเจ้าบอกหรือว่าอยากหลับนอนกับข้า? ทั้งยังเป็นการหลับ
นอนที่ภายนอกเช่นนี้!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยควบคุมดาบของนางพลาง
หัวเราะยินดี “คราวนี้พวกเจ้าค่อยได้นอนหลับไปชั่วนิรันดร์แล้ว!”
นางกล่าวคำจบ ดาบในมือสะบัดออกเข้าบั่นเศียรนายน้อยเหล่านี้จน
กลิ้งกับพื้น!
ฉินหยุนบุ้ยปากกล่าวคำ “พวกมันเหล่านี้ล้วนเป็นสวะกันทั้งสิ้น!”
เชี่ยวเย่ว์เหม่ยนำเอาอสรพิษดูดกลืนวิญญาณออกมา นางหัวเราะ
กล่าว “พวกมันก็อวดดีได้เพียงแต่ที่นครจันทราโกลาหล!”
ไม่นานจากนั้น ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยจึงเริ่มพูดคุยพลางหัวเราะ
ขณะนำวิญญาณยุทธ์คนเหล่านี้ออกมา
“พี่ชาย ข้ามอบพวกนี้ให้แก่ท่าน ข้าเพียงต้องการแต่ผลไม้!” เชี่ยวเย่ว์
เหม่ยรับผลไม้ลึกล้ำระดับราชันไว้ นางกัดเข้าปากก่อนมันจะหายวับ
ทั้งลูกในพริบตา
อักขระลึกล้ำอัคคีพยัคฆ์ หยกผลึกแก้วเต๋า รวมถึงผลึกแก้วหัวใจลึก
ล้ำ ทั้งหมดล้วนมอบให้แก่ฉินหยุน
ฉินหยุนทราบ ว่าเชี่ยวเย่ว์เหม่ยหาได้ต้องการสิ่งเหล่านี้ไม่ เพราะ
วิญญาณยุทธ์กระจกของนาง ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ระดับการฝึกฝนของ
นางพุ่งทะยานอยู่แล้ว
กวาดล้างที่แห่งนี้เรียบร้อย พวกเขาจึงมุ่งหน้าเข้าสู่ส่วนลึกของ
เทือกเขานิราศจันทรา
ไม่นานหลังเริ่มเดินทาง พวกเขาพลันพบเจอออร่าที่ทรงพลังตามมา
จากทางด้านหลัง เหล่านี้คือยอดยุทธ์ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ!
“พวกมันมาถึงเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?” ฉินหยุนตื่นตะลึงหลังสัมผัส
ถึงออร่าที่ใกล้เข้ามาได้
“นี่ไม่ใช่คนของตระกูลพวกมัน แต่เป็นพวกท่านป้า! นางรับรู้ถึง
ตำแหน่งข้า เพราะเหตุนั้นจึงมุ่งหน้ามาทางนี้!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว
คำเบา “พี่ชาย ท่านคิดอยากพบท่านป้าตอนนี้หรือไม่?”
ฉินหยุนจำได้ ว่าเชี่ยวเสวียนฉิน สื่อชิงเฉิง และสุ่ยเทียนสื่ออยู่ร่วม
ด้วยกัน ทั้งสามมาที่นี่ก็เพราะต้องการหาตัวหยางฉีเย่ว์ กระนั้นเวลา
นี้กลับพบเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเสียก่อน!
“แน่นอนว่าต้องคิดอยากพบเจอนาง พวกเรามีเรื่องต้องคุยกัน ทั้งยัง
ต้องทำความเข้าใจต่อกันเสียใหม่ด้วย!” ฉินหยุนไม่คิดหวั่นเกรงการ
พบหน้า