ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King - ตอนที่ 734
ตอนที่ 734 สังเวยสัตว์อสูร
ฉินหยุนเองก็คิด ว่าหยางฉีเย่ว์น่าจะลักลอบก่อการใหญ่อยู่ กระนั้น
เขาไม่อาจทราบว่านางคิดทำอะไร
เซี่ยวเสวียนฉินนำฉินหยุนมุ่งหน้าสู่กลุ่มภูเขาตรงหน้า ออร่าของ
สัตว์อสูรดวงดาวปรากฏจากที่แห่งนั้น
“ป้าเซี่ยว ท่านต้องการแกนกลางดวงดาวหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ใช่!” เซี่ยวเสวียนฉินพยักหน้ารับ
“ท่านขาดแคลนเหรียญม่วงหรือไม่? ข้ามอบให้ท่านได้บ้าง!” ฉิน
หยุนยิ้มกล่าว
“ไม่ต้อง ข้าย่อมมีของตนเอง! เจ้าเพียงช่วยข้าสร้างอุปกรณ์ลึกล้ำที่
ไม่ต้องดีมากนักให้ก็พอ!” อันที่จริง เซี่ยวเสวียนฉินหาได้มีเหรียญ
ม่วงจำนวนมากแต่อย่างใด เพราะเหตุนั้นนางจึงต้องการเงินโดยการ
ล่าสัตว์อสูรดวงดาว ทว่านางจะไม่มีทางให้ฉินหยุนต้องมอบเหรียญ
ม่วงแก่นาง
ฉินหยุนยิ้มกล่าว “อุปกรณ์ลึกล้ำที่ข้าสร้างย่อมต้องดี! เมื่อใดกลับไป
ข้าจะเร่งรีบสร้างมันขึ้นมา! ป้าเซี่ยว อาวุธและชุดเกราะใดที่ท่าน
ต้องการ? พูดคุยถึงเรื่องนี้กันก่อน ระหว่างทางกลับข้าจะได้คิดอ่าน
ไว้ล่วงหน้าได้!”
“เจ้า… นี่เจ้าไม่ต้องใช้พิมพ์เขียวอุปกรณ์ลึกล้ำเลยหรือไร?” เซี่ยว
เสวียนฉินเอ่ยถาม
“หาได้จำเป็นไม่!” ฉินหยุนยิ้มตอบภาคภูมิ “อาจารย์จารึกที่แข็งแกร่ง
ดังเช่นข้า สามารถสร้างขึ้นโดยใช้พิมพ์เขียวของตนเอง!”
ฉินหยุนไม่ได้คุยโว เขาสามารถทำได้จริง นั่นคือพรสวรรค์ของตัวเขา
เซี่ยวเสวียนฉินต้องลอบนับถือขณะบอกกล่าวถึงอุปกรณ์ลึกล้ำที่นาง
ต้องการ
นางทราบกระจ่างชัดดี ว่าหากได้ครอบครองอาวุธที่ดี เมื่อใดนางพบ
เจอศัตรู มันจะขยับขยายพลังให้แก่นางได้ใช้รับมืออย่างเหมาะสม
ฉินหยุนพบว่าที่เซี่ยวเสวียนฉินต้องการไม่ใช่ยากสร้างเกินไป เขา
จดจำพวกมันอย่างขึ้นใจ เพื่อที่กลับไปเมื่อใดจะได้ลงมือโดยทันที
พวกเขาบินผ่านฟากฟ้ากว่าชั่วยาม ก่อนจะไปถึงยังยอดเทือกเขาซึ่งมี
แต่เมฆและหมอก
ที่เบื้องล่าง ออร่าของสัตว์อสูรดวงดาวแทบเกิดเป็นรัศมีพลัง พวก
มันอัดแน่นด้วยพลังดวงดาว
“ป้าเซี่ยว ด้านล่างมีสัตว์อสูรดวงดาวมหาศาลนัก น่าจะเกินกว่าหนึ่ง
หมื่นตัว และพวกมันทั้งหมดไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว!” ฉินหยุนมอง
ขึ้นไปบนท้องฟ้า ตอนนี้ยังคงเป็นกลางวัน เขาเอ่ยถามอย่างนึกสงสัย
“หรือสัตว์อสูรดวงดาวเหล่านี้เคลื่อนไหวได้แต่ตอนกลางคืน?”
“ไม่ใช่!” น้ำเสียงเซี่ยวเสวียนฉินกลายเป็นเคร่งเครียด “ที่เบื้องล่าง
ต้องมีอะไรบางอย่างควบคุมสัตว์อสูรดวงดาวเหล่านี้เป็นแน่!”
“หรือจะเป็นพี่หยางที่ลอบเร้นควบคุมพวกมัน? หากเป็นอย่างนั้น
พวกเราก็ไม่ควรสังหารสัตว์อสูรดวงดาวพวกนี้ นี่จะต้องเป็นแผนการ
ที่พี่หยางวางไว้!” ฉินหยุนกล่าว
“อาจเป็นอย่างนั้น พวกเราเข้าไปดูให้ใกล้กว่านี้จะดีกว่า!” เซี่ยวเสวียน
ฉินส่งเสียงสื่อสารบอกต่อฉินหยุน
ฉินหยุนใช้งานวิญญาณยุทธ์โปร่งแสง ทำให้ร่างกายโปร่งแสง ทั้ง
สองรุกคืบผ่านหมู่เมฆจนเข้ามาถึงป่ าเบื้องล่างภูเขา
ทั้งสองย่อมได้เห็นสัตว์อสูรดวงดาว พวกมันเหล่านี้รูปลักษณ์คล้าย
แพะ ทั้งหมดเป็นสีขาว และมีเขาที่บนหัว
ที่แตกต่างจากแพะทั่วไป คือแพะเหล่านี้มีตัวใหญ่กว่า ขนาดตัวยาว
กว่าหลายเมตร ทั้งร่างกายยังมีพลังดวงดาวทอประกายเผยออก
สัตว์อสูรแพะดวงดาวเหล่านี้แทบบดบังภูเขาใหญ่เอาไว้ พวกมันยืน
นิ่งไร้การเคลื่อนไหว ไม่อาจทราบได้ว่าพวกมันคิดทำอันใด
“ภูเขานั่นกำลังดูดกลืนพลังจากสัตว์อสูรดวงดาว!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว
ทางด้านเซี่ยวเสวียนฉินเองก็พบเรื่องราวโดยคร่าว นางกล่าวคำเบา
“ฉินหยุน ภูเขาที่ตรงนั้นภายในมีเรื่องแปลก! ความสามารถเทวะ
ทะลุทะลวงของเจ้าสามารถบุกฝ่าเข้าไปได้ใช่หรือไม่?”
“ให้ข้าลอง!” ฉินหยุนดึงเซี่ยวเสวียนฉินมุ่งหน้าไปยังภูเขาลูกดังกล่าว
สัตว์อสูรแพะดวงดาวเหล่านี้ล้วนอยู่ที่ตีนเขา พวกเขาที่ไปสำรวจบน
ยอดเขา จึงไม่อาจพบเห็นสัตว์อสูรแพะดวงดาวได้อีก ดังนั้นจึงไม่
อาจทราบสถานการณ์ทั้งหมดอย่างกระจ่างชัด
“ป้าเซี่ยว ท่านพบอะไรบ้างหรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ยังไม่! เจ้าสามารถใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวงบุกฝ่าไปได้
หรือไม่?” เซี่ยวเสวียนฉินเอ่ยถามหลังร่อนลงมา
“ย่อมต้องได้! ให้ข้าพาท่านไปรับชมด้วยแล้ว!” ฉินหยุนกล่าวพร้อม
ดึงเซี่ยวเสวียนฉินเข้าหาเพื่อใช้ความสามารถเทวะทะลุทะลวง
ในพริบตา ฉินหยุนและเซี่ยวเสวียนฉินจึงทะลวงผ่านมวลหินหนาที่
พื้นผิวภูเขาไปยังเบื้องล่าง
กระนั้น ฉินหยุนกลายเป็นต้องเร่งรีบนำเซี่ยวเสวียนฉินกลับขึ้นมา
เพราะภายในภูเขา มันมีม่านพลังแข็งแกร่งขวางกั้นเขาเอาไว้ มันคือ
สิ่งที่ไม่อาจทะลวงผ่าน ดังนั้นเขาจึงได้แต่ต้องถอยกลับมา
“มีม่านพลังคุ้มกันภูเขาเอาไว้!” ฉินหยุนขมวดคิ้ว “ข้าไม่อาจทะลวง
เข้าไปได้!”
“ภูเขาลูกนี้สมควรเป็นทางเข้าแล้ว!” เซี่ยวเสวียนฉินยิ่งสงสัยตัวภูเขา
ลูกนี้มากขึ้น
อย่างกะทันหัน เสียงแพะร้องพลันดังขึ้นจากก้นบึ้งภูเขา
“มีคนบุกโจมตีสัตว์อสูรดวงดาวพวกนั้น!” เซี่ยวเสวียนฉินสบถเสียง
เบา “พวกมันช่างเป็นตัวบัดซบยิ่งนัก!”
“มากันหลายคนเสียด้วย! ลงไปดูสถานการณ์ก่อน!” ฉินหยุนกล่าว
ฉินหยุนและเซี่ยวเสวียนฉินระแวดระวังเคลื่อนตัวลงจากภูเขา ไม่ช้า
พวกเขาจึงได้เห็นคนกลุ่มใหญ่กำลังโหมโจมตีสัตว์อสูรดวงดาว
“เป็นพวกตัวบัดซบหวังเหลียงเห่า!” เซี่ยวเสวียนฉินพอนึกย้อนถึง
กลุ่มคนของหวังเหลียงเห่า ความรู้สึกโกรธแค้นจึงท่วมท้นหัวใจนาง
“ฉินหยุน พวกเราควรโจมตีพวกมันเลยหรือไม่?” เซี่ยวเสวียนฉิน
เอ่ยถาม
ฉินหยุนส่ายศีรษะ “ยังไม่! พื้นที่นี้กล่าวได้ว่าอันตรายยิ่ง สาเหตุที่
พวกมันมาที่นี่ ชัดว่าเป็นเพราะติดตามผู้อาวุโสพวกมันมา!”
“หากพวกเราบุ่มบ่าม ตาเฒ่าราชันยุทธ์เหล่านั้นได้เสนอหน้ากัน
ออกมา ถึงตอนนั้นพวกเราจะตกอยู่ในปัญหา!”
เซี่ยวเสวียนฉินเอ่ยถาม “อย่างนั้นควรทำอย่างไร? หากพวกมันสังหาร
สัตว์อสูรดวงดาวเหล่านี้จนหมด แผนการของฉีเย่ว์ได้พังแน่!”
ฉินหยุนคิดอยู่ครู่จึงค่อยตอบ “พวกเราจะรอจนฟ้ามืด!”
มีแต่เป็นเวลาค่ำคืน ราชสีห์สวรรค์ใต้พิภพที่เขาอัญเชิญออกมา จึง
จะแข็งแกร่งพอจัดการหวังเหลียงเห่าและคณะได้
เซี่ยวเสวียนฉินนำหน้ากากออกมา “ฉินหยุน ข้าไปก่อน เจ้ารับชมที่
ตรงนี้ หากข้าต้านรับไม่ไหว เจ้าค่อยโจมตี! อย่างนี้เป็นไร?”
“ตกลง!”
ฉินหยุนพยักหน้ารับ พวกเขามีแต่ต้องทำเช่นนี้
แม้สัตว์อสูรแพะดวงดาวมีพลังแข็งแกร่งในร่าง กระนั้นพวกมัน
กลับอ่อนแอยิ่ง
หวังเหลียงเห่าและคณะล้วนอยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ คิดสังหารพวก
มันเป็นไปง่ายดายและรวดเร็ว!
เซี่ยวเสวียนฉินถือดาบเต๋าของฉินหยุน ฉับพลันปรากฏกายเบื้องหลัง
หวังเหลียงเห่า
ยามเมื่อดาบเสียดแทงรุกคืบ พลังงานในตัวดาบจึงสั่นไหวจนเกิด
เสียงคล้ายเครื่องสายดีดดังขึ้น พลังคลื่นเสียงได้แปรเปลี่ยนเป็น
พลังงานแข็งแกร่งทะลักออกมา
“แม่นางเซี่ยว ข้าทราบว่าเป็นเจ้า!” หวังเหลียงเห่าหัวเราะดังขณะกล่าว
“แม้ข้าไม่ทราบว่าเจ้าหลบหนีพ้นจากอาจารย์พวกเราได้อย่างไร แต่
คราวนี้ชะตาเจ้ามีแต่ต้องตายแน่นอนแล้ว!”
เซี่ยวเสวียนฉินกล่าวอย่างนึกโกรธแค้น “พวกเจ้าตัวบัดซบ จงเข้ามา
รับความตายต่อหน้าข้า!”
ฉินหยุนพบว่าสถานการณ์ผิดคาด จึงเร่งรีบนำเอาปืนใหญ่ราชันลึกล้ำ
ออกมา ตัวเขาเวลานี้ยังคงโปร่งแสง มีแต่วิธีการเช่นนี้จึงทำให้เขา
สามารถซ่อนตัวโดยไม่ถูกพบเห็นได้
หวังเหลียงเห่าและคณะอยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ เวลานี้ต่างหยุดมือ
ไม่โจมตีสัตว์อสูรแพะดวงดาว แต่เลือกปิดล้อมเซี่ยวเสวียนฉิน
เอาไว้แทน
“ป้าเซี่ยว เร่งรีบมาทางนี้!” ฉินหยุนร้องโพล่งบอก
เซี่ยวเสวียนฉินถือดาบเต๋าต้านรับการโจมตีหวังเหลียงเห่า ทำลาย
อุปกรณ์ลึกล้ำอีกฝ่าย เรื่องนี้ทำเอาหวังเหลียงเห่าปวดใจพร้อมมี
โทสะ
เซี่ยวเสวียนฉินบุกฝ่าวงล้อมออกมา นางมุ่งตรงไปยังทิศทางที่ฉินหยุน
คงอยู่
“กลุ่มตัวบัดซบ รับปืนใหญ่ข้าไปกิน!” ฉินหยุนควบคุมปืนใหญ่
ราชันลึกล้ำ ยิงกระสุนปืนใหญ่ออกไปชุดหนึ่ง
เมื่อกระสุนปืนใหญ่ที่ขัดเกลาขึ้นจากน้ำมันสัตว์ระเบิดออก อัคคี
เพลิงรุนแรงจึงทะลักล้นทั่วสารทิศ อุณหภูมิและแรงระเบิด ทั้งสอง
ต่างเป็นพลังอำนาจระดับชวนสะพรึง
เมื่อเซี่ยวเสวียนฉินพุ่งมาทางฉินหยุน นางรับรู้ได้ถึงคลื่นความร้อน
รุนแรงที่แผ่นหลัง นางถูกผลักให้พุ่งด้านหน้าด้วยแรงระเบิดก่อนจะ
โผเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดฉินหยุน และนางที่ไม่มีทางเลือกอื่น จึงได้
แต่ต้องอยู่ในอ้อมกอดฉินหยุน
ด้วยการกระแทกครั้งหนึ่ง ร่างกายเซี่ยวเสวียนฉินจึงแนบแน่นสัมผัส
กับฉินหยุน นางรับรู้ได้ ว่าหน้าอกของตนเองและฉินหยุนสัมผัสถึง
อัตราการเต้นของหัวใจกันและกัน
ตู้ม!
เมื่อเซี่ยวเสวียนฉินหลงเข้าสู่โลกมายา ฉินหยุนจึงยิงปืนใหญ่ออกอีก
นัดหนึ่ง เสียงดังสนั่นบังเกิด เป็นผลให้เซี่ยวเสวียนฉินดึงสติตนเอง
กลับคืนมาได้
เซี่ยวเสวียนฉินมองทางหวังเหลียงเห่าซึ่งเร่งรีบออกมาจากทะเลเพลิง
นางยินดีไม่น้อย เพราะกลุ่มของหวังเหลียงเห่าเชื่องช้าลงได้มาก ตาม
ร่างมีแต่รอยแผลไฟไหม้
“ฉินหยุน อัคคีเพลิงเจ้าร้อนแรงนัก!”
เซี่ยวเสวียนฉินกล่าวคำชื่นชม จากนั้นร่างจึงทะยานออก เข้าสังหาร
หนึ่งในศิษย์สำนักเซียนด้วยการฟาดฟันดาบเพียงครั้งเดียว
นางเพียงกระโดดไปไม่กี่ครั้ง ศิษย์สำนักเซียนอีกหนึ่งที่เดิมได้รับ
บาดเจ็บจึงถูกสังหารไปอีกคน
“หวังเหลียงเห่า เจ้าคงคาดไม่ถึงใช่หรือไม่? ว่าข้าเองก็มีอาวุธดีให้ใช้
งาน!” เซี่ยวเสวียนฉินกล่าวคำเสียงเย็นเยียบ
หวังเหลียงเห่า ผู้ซึ่งร่างมีแต่บาดแผลไฟไหม้ เขาไม่คาดคิด ว่าอาวุธ
ของเซี่ยวเสวียนฉินจะทรงอำนาจเพียงนี้ มันกระทั่งทำอุปกรณ์ลึกล้ำ
ของเขาเสียหายร้ายแรง
ชุดเกราะของหวังเหลียงเห่า เวลานี้มันถูกเผาไหม้จนเสียหาย เซี่ยว
เสวียนฉินจึงสามารถจ้วงแทงดาบได้ง่ายดาย
“แม่นางเซี่ยว ในเมื่อพวกเราเคยเป็นสหายที่ดีต่อกัน ดังนั้นโปรด
อย่าได้สังหารข้าแล้ว!” หวังเหลียงเห่าเร่งร้อนร้องขอความเมตตา
“ชะตาเจ้าคือต้องตาย!” ดาบของเซี่ยวเสวียนฉินแทงผ่านลำคอของ
หวังเหลียงเห่า จากนั้นจึงค่อยเป็นการสะบั้นเศียรอีกฝ่าย
ฉินหยุนเร่งรีบเข้ามา พร้อมนำวิญญาณยุทธ์อีกฝ่ายออกมาเก็บไว้
“ป้าเซี่ยว พวกเราควรไปจากภูเขาลูกนี้!” ฉินหยุนกล่าวขณะเร่งรีบ
ดึงเซี่ยวเสวียนฉิน
เซี่ยวเสวียนฉินบินนำฉินหยุนขึ้นฟากฟ้าสูง นางเองก็สัมผัสได้ ว่า
ออร่าของราชันยุทธ์กำลังใกล้เข้ามา
“ที่นี่มีสัตว์อสูรดวงดาวมากมายนัก ราชันยุทธ์ที่อยู่ใกล้ย่อมสัมผัสถึง
พวกมันได้ เมื่อครู่เกิดความอึกทึกครั้งใหญ่ พวกมันที่อยู่ใกล้เคียง
ย่อมต้องมาแน่!” ฉินหยุนกล่าวคำ
เขาและเซี่ยวเสวียนฉิน ต่างมองไปยังยอดเขาที่ห่างไกลหลายพัน
เมตร ภูเขาแห่งนั้นกำลังลุกท่วมด้วยอัคคีเพลิงเผาไหม้
ฉินหยุนทิ้งเนตรวิญญาณเอาไว้ที่นั่น เพื่อให้สามารถพบเห็นได้ว่า
เกิดอันใดขึ้น
ละแวกใกล้เคียงมีราชันยุทธ์อยู่หลายคน รวมถึงกลุ่มราชันยุทธ์ซึ่งถูก
พวกเขาลวงหลอกไป เมื่อคนกลุ่มนั้นมาถึงและได้เห็นสัตว์อสูร
ดวงดาว พวกเขาจึงเริ่มลงมือสังหารด้วยความยินดี
ฉินหยุนรู้สึกว่าเรื่องราวน่าเสียดาย แต่แล้ว เขาพลันได้เห็นเรื่องราว
ชวนตื่นตะลึงจากเนตรวิญญาณ
สัตว์อสูรดวงดาวเหล่านั้นพลันถูกธรณีสูบลงไปในพริบตา พวกมัน
ทั้งหมดหายตัวไปจนสิ้น
ฉินหยุนเร่งรีบบอกเรื่องราวต่อเซี่ยวเสวียนฉิน
“นี่ถือว่าดี แผนการของฉีเย่ว์ยังไม่พังทลาย!” เซี่ยวเสวียนฉินถอน
หายใจยาวอย่างโล่งอก
“ป้าเซี่ยว พวกเราควรเข้าไปยังส่วนลึกของเทือกเขานิราศจันทราต่อ
หรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ไม่ต้องแล้ว เพียงรอที่นี่ให้จันทราสีครามปรากฏ น่าจะอีกไม่กี่วัน
เท่านั้น!” เซี่ยวเสวียนฉินเงยหน้ามองฟากฟ้า “ภูเขาแห่งนั้นดูดกลืน
พลังจากสัตว์อสูรดวงดาว มันน่าจะต้องการดึงความสนใจของสัตว์
อสูรดวงดาวจำนวนมหาศาลมา!”
“เมื่อใดจันทราสีครามปรากฏ ภูเขาแห่งนั้นต้องมีความเคลื่อนไหว!”
ฉินหยุนยังคงสงสัยขณะรับชมที่ไกลห่างออกไปร่วมกับเซี่ยวเสวียน
ฉิน
รอคอยอยู่สองวัน อย่างกะทันหัน พวกเขาพลันรับรู้ได้ถึงออร่าที่เข้า
มาจากทั่วทิศ!
“สัตว์อสูรดวงดาวแห่กันมาแล้ว!” เซี่ยวเสวียนฉินบินขึ้นสู่ด้านบน
ฉินหยุนเองก็ลอยสูงกลางอากาศ เขาได้เห็นต้นไม้ล้มตามรายทาง
จากทั่วทิศที่ห่างไกลออกไป พวกมันคือสัตว์อสูรดวงดาวจำนวนนับ
ไม่ถ้วนที่เร่งรีบพุ่งทะยานมา
พร้อมกันนี้เอง ออร่าของจักรพรรดิยุทธ์และครึ่งเซียนได้ปรากฏ
เซี่ยวเสวียนฉินเร่งรีบดึงฉินหยุนลงสู่ยอดเขา
“จักรพรรดิยุทธ์และครึ่งเซียนมาที่นี่แล้ว!” เซี่ยวเสวียนฉินเผยสีหน้า
มืดมน “ภูเขาลูกนั้น เวลานี้กลายเป็นศูนย์รวมความอันตรายแล้ว!”