ราชันเทพเก้าสุริยัน Nine Sun God King - ตอนที่ 750 เจตนารมณ์จากอดีต
ตอนที่ 750 เจตนารมณ์จากอดีต
จ้านเฉียงเทียบเปรียบรูปลักษณ์ของฉินหยุนพร้อมอุทานวนซ้ำ “ผ่าน
มาหนึ่งหมื่นปี พวกเรานึกว่าท่านจะไม่กลับมาเสียแล้ว!”
“ผู้อาวุโส สิ่งนั้นอยู่ที่ใด?” ฉินหยุนเอ่ยถาม เขามั่นใจ ว่านั่นจะต้อง
เป็นสิ่งของที่ตัวเขาในชาติภพก่อนหลงเหลือไว้
เพียงแต่เขาไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดตัวเขาในชาติภพก่อนจึงทิ้งสิ่งของไว้
ที่นี่
“เสี่ยวหยุน ตัวเจ้าในชาติภพก่อนจะต้องรู้จักเขตแดนอ้างว้างจันทรา
ทมิฬแห่งนี้เป็นอย่างดี เพราะเหตุนั้นเจ้าจึงตระเตรียมทางออกไว้ให้
เย่ว์โยวได้หลบหนี เห็นได้ชัดว่าเจ้าได้เตรียมการไว้ที่นี่แต่แรก ทว่า
ภายหลังน่าจะต้องเกิดเรื่องขึ้น ทำให้เจ้าไม่อาจกลับมายังที่แห่งนี้!”
หลิงหยุนเอ๋อกล่าว
ฉินหยุนเองก็คิดเห็นเช่นเดียวกัน
ตอนนี้ เขาได้ทราบแล้วว่าผู้ใดสร้างเสาอาคมที่กำแพง นั่นจะต้อง
เป็นตัวเขาในชาติภพก่อน!
วิถีจารึกแห่งเต๋าของตัวเขาในชาติภพก่อน กล่าวได้ว่าเหนือชั้นอย่าง
แท้จริง
จ้านเฉียงกล่าว “แม้ท่านเหมือนดังรูปเหมือนนี้ ข้าก็ยังจำเป็นต้อง
ยืนยันตัวท่านก่อนจะส่งมอบของสิ่งนั้นให้!”
ฉินหยุนคิดอยู่ครู่จึงกล่าว “ผู้อาวุโส ข้าขอกล่าวตามตรง ตัวข้าใน
ชาติภพก่อนได้ตายจากไปแล้ว และข้าได้ถือกำเนิดขึ้นใหม่ ร่างกาย
ข้าไม่ใช่ดังเช่นเมื่อชาติภพก่อนหน้าอีกต่อไปแล้ว!”
จ้านเฉียงขมวดคิ้วกล่าว “ท่านกำลังกล่าว ว่าตัวท่านกลับชาติมาเกิด
ทำให้ความทรงจำเลือนหายอย่างนั้นหรือ?”
ฉินหยุนพยักหน้ารับ
“นั่นไม่สำคัญ ต่อให้กลับชาติมาเกิด ข้าก็ยังยืนยันตัวตนท่านได้!”
จ้านเฉียงนำเอากล่องทองคำออกมา
กล่องนี้งดงามอย่างยิ่ง มันส่องประกายสีทองสว่าง ทั้งยังมีอักขระ
แกะสลักเอาไว้จำนวนมาก
“วางมือท่านลง!” จ้านเฉียงกล่าว
ฉินหยุนวางมือตนเองลง กล่องจึงเผยเสียง “ครึก” ดังขึ้น ฝากล่องได้
เปิดออกแล้ว
ฝาที่เปิดออก มันปรากฏเป็นกุญแจที่ด้านในกล่อง!
“ฮ่าฮ่า วิเศษนัก!” จ้านเฉียงหัวเราะยินดี “ท่านสามารถนำสิ่งนั้นกลับ
ไปได้แล้ว!”
ฉินหยุนประหลาดใจจนต้องเอ่ยถาม “ผู้อาวุโส ข้าสร้างกล่องนี้อย่าง
นั้นหรือ?”
“เป็นเช่นนั้น ท่านสร้างมันขึ้นมา! ทั้งท่านยังได้ติดตั้งค่ายอาคมที่
สวนแห่งนี้ มันได้ช่วยเหลือชนเผ่านักรบของเรามาหลายครั้งครา!”
จ้านเฉียงกล่าว “ทุกครั้งที่เกิดศึกสงคราม หากพวกเราไม่อาจต้านรับ
ได้ไหว คนในชนเผ่าจะเข้ามาภายในสวนค่ายอาคมแห่งนี้เพื่อเอา
ชีวิตรอดจากวิกฤต!”
ฉินหยุนตอนนี้ค่อยเข้าใจ ว่าเหตุใดชนเผ่านักรบมีคนไม่มาก เพราะ
หากมีคนมากเกินไป พวกเขาจะไม่อาจเข้าสู่ด้านในค่ายอาคมได้
ครบถ้วน
“ข้าไม่นึกเลยว่าจะบังเอิญได้ถึงเพียงนี้ ถึงขั้นได้มารับสิ่งที่ตนเองใน
ชาติภพก่อนได้เหลือทิ้งไว้!” ฉินหยุนตื่นเต้นยินดี เขาติดตามจ้านเฉียง
ผ่านบันไดยาวมุ่งลงลึกใต้ดิน
ฉินหยุนคาดการณ์โดยคร่าว มันน่าจะลึกถึงหลายลี้
ด้านล่างเป็นสระน้ำ
จ้านเฉียงคว้าโซ่โลหะพร้อมดึงลูกบอลสีดำขนาดใหญ่ออกจากก้น
สระ
“ท่านประมุข ท่านสามารถเปิดมันด้วยกุญแจนั้นได้ ข้าขอตัวกลับขึ้น
ไปก่อน เพราะยามที่มันเปิดออก จะไม่มีผู้ใดได้รับอนุญาตให้อยู่
ที่นี่!” จ้านเฉียงกล่าวคำจบ เขาจึงเร่งรีบกลับขึ้นไป
ฉินหยุนถือกุญแจไว้ ภายในใจมีแต่ความสงสัยอัดแน่น เขาจ้องมอง
ที่บอลสีดำตรงหน้า
บอลสีดำนั้นสูงราวครึ่งตัวเขา พื้นผิวราบลื่นราวหินสีดำที่งดงาม ด้วย
มีแสงสาดส่อง ทำให้เขาสามารถพบเห็นพื้นผิวของมัน ที่ประกอบ
ไปด้วยอักขระมากมาย!
“ตัวเราในชาติภพก่อนหลงเหลืออันใดไว้ที่นี่กันแน่ นี่เผื่อเราที่กลับ
ชาติมาเกิดอย่างนั้นหรือ?” ฉินหยุนยิ่งสงสัย ไม่ช้า เขาจึงพบรูกุญแจ
หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “เสี่ยวหยุน มาเดากันว่าอะไรอยู่ข้างใน!”
ฉินหยุนคิดอยู่ครู่จึงกล่าว “น่าจะเป็นวิญญาณยุทธ์ที่ทรงพลังอำนาจ!”
หลิงหยุนเอ๋อหัวเราะ “ข้าว่ามันต้องเป็นวิญญาณดวงตะวัน!”
ฉินหยุนใส่กุญแจเสียบเข้าไป
แคร้ก!
ทรงกลมเปิดออก ดวงจันทราอันวิจิตรงดงามขนาดเล็กปรากฏที่
ภายใน ความงดงามของมันมากล้ำ
“นี่เป็นจารึกวิญญาณ! จารึกวิญญาณนายหญิงจันทรา!” หลิงหยุนเอ๋อ
ร้องตื่นตระหนก “ตัวเจ้าในชาติภพก่อน ถึงขั้นหลงเหลือจารึกวิญญาณ
อันล้ำค่าเพียงนี้ไว้ที่นี่!”
ฉินหยุนเองก็ตื่นตระหนก ทั้งยังยากจะเชื่อว่าสถานการณ์จะเป็นเยี่ยงนี้
จารึกวิญญาณนายหญิงจันทรา กล่าวกันว่าหาได้ยากยิ่งกว่าจารึก
วิญญาณจ้าวดวงดาว ตัวเขาเองยังต้องการได้รับมันมาโดยตลอด
และตอนนี้ เขากลับได้รับมันมาโดยไม่คาดคิด!
หลิงหยุนเอ๋อยินดีเป็นล้นพ้น นางเร่งรีบดูดกลืนจารึกวิญญาณนายหญิง
จันทราพร้อมผสานรวมเข้ากับมัน
ตอนนี้ เขาได้ครอบครองทั้งราชันสัตว์ อัคคีคลั่ง ราชันอุปกรณ์ จ้าว
ดวงดาว และนายหญิงจันทรา เป็นจารึกวิญญาณถึงห้าประเภทด้วย
กัน!
จารึกวิญญาณ มันเพียงพอให้ผู้คนคลุ้มคลั่งคิดต้องการ ยิ่งไม่ต้อง
กล่าวถึงเขาที่ครอบครองพวกมันมากมายเพียงนี้!
ฉินหยุนยังได้เห็นแผ่นหนังสัตว์ เขาเปิดมันออก พบว่ามีถ้อยคำเขียน
เอาไว้
“หากความทรงจำตื่นขึ้นแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องรับชมมัน! หากความ
ทรงจำตื่นขึ้นไม่สมบูรณ์ เช่นนั้นจงจดจำเนื้อหาที่เขียนไว้เบื้องล่าง
ให้ดี!”
เมื่อฉินหยุนได้เห็นถ้อยคำแรก เขายิ่งกระหายใคร่รู้ นี่คือเบาะแสที่
ตัวเขาในชาติภพก่อนเหลือทิ้งไว้สำหรับการถือกำเนิดขึ้นใหม่
“อันดับแรก หากเจ้าพบเจอศัตรูจากชาติภพก่อน หากเป็นสตรี เช่นนั้น
ดีที่สุดคืออย่าได้หาเรื่องต่อพวกนาง แล้วพวกนางจะเข้าใจตัวเจ้าใน
ไม่ช้าก็เร็ว!”
“สอง หากเจ้ายังไม่ฝึกฝนจนถึงขอบเขตศักด์ิสิทธ์ิ เช่นนั้นอย่าได้
เบาะแว้งกับจอมจักรพรรดิเซียนอ้างว้างและจอมจักรพรรดิอสูรเซียน!”
“สาม จารึกวิญญาณจักรพรรดิสุริยันอยู่ในแดนศักด์ิสิทธ์ิอ้างว้าง
อย่าได้ค้นหามันที่แดนเซียนอ้างว้าง นั่นเป็นการเสียเวลาเปล่า!”
“สี่ ค้นหาสตรีนามเหยาเฟิง หากนางยังมีชีวิตรอด เช่นนั้นให้นางขุด
ค้นนำเอา ‘พระสูตรโลกาวินาศเก้าสุริยัน’ ออกมาจากความทรงจำ
ของจอมจักรพรรดิอสูรเซียน”
“ห้า หากเย่ว์โยวไม่อาจได้รับจันทราทมิฬ เช่นนั้นจงใช้จารึกวิญญาณ
นายหญิงจันทราเพื่อขัดเกลาจันทราทมิฬให้แก่นาง วิธีการขัดเกลา
โดยละเอียดอยู่ภายในเปลือก พิจารณามันอย่างระมัดระวัง”
“หก พยายามอย่าได้ปลุกความทรงจำทั้งหมดขึ้นมาอย่างถึงที่สุด
ไม่อย่างนั้นเจ้าจะต้องตายอีกครั้ง!”
หลังอ่านครบถ้วน ฉินหยุนนิ่งค้างอยู่นาน เพราะตัวเขาในชาติภพก่อน
ทราบว่าตนเองต้องตายและกลับชาติมาเกิด
เขายังรู้สึกเรื่องนี้ช่างแยบยล เขาที่ยังไม่ทันตื่นรู้ความทรงจำใดขึ้นมา
แม้เพียงนิด กระนั้นกลับมีโอกาสจนได้มาถึงที่นี่
“หยุนเอ๋อ เหตุใดตัวข้าในชาติภพก่อนจึงไม่อยากให้ข้าตื่นรู้ความ
ทรงจำขึ้นมา?” ฉินหยุนสงสัยต่อเรื่องนี้อย่างยิ่ง
“ตัวเจ้าในชาติภพก่อน น่าจะต้องได้ทราบความลับที่นำหายนะมาสู่
ตัว หากเจ้าตื่นรู้ความทรงจำ เจ้าอาจเดินไปยังเส้นทางเดียวกันกับตัว
เจ้าในชาติภพก่อน!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว
ฉินหยุนมองที่ภายในเปลือกทรงกลมสีดำ มันมีหลายถ้อยคำเขียน
เอาไว้ที่ภายใน มองโดยคร่าว เขาไม่คิด ว่าเปลือกนี้จะเป็นสิ่งที่
สามารถให้กำเนิดจันทราทมิฬได้!
อีกทั้ง จันทราทมิฬของเขตแดนอ้างว้างจันทราทมิฬ ยังได้ถือกำเนิด
ขึ้นมาจากเปลือกนี้
วิธีการโดยละเอียดซับซ้อนอย่างยิ่ง ด้วยกำลังของฉินหยุนตอนนี้
เขาไม่อาจทำมันได้สำเร็จ ดังนั้น เขาจึงได้แต่ต้องเก็บเปลือกนี้เอาไว้
ระหว่างฉินหยุนเดินขึ้นบันไดกลับไป เขาพลันร้องเรียกเหยาเฟิงที่
อยู่ในไข่มุกเม็ดที่สาม
“พี่สาวเหยาเฟิง พี่สาวเหยาเฟิง ข้าจะตายแล้ว!” ฉินหยุนร้องตะโกน
เดิมเขาไม่คิดอยากโกหกต่อเหยาเฟิง ทว่าตอนนี้ เขาไม่มีทางเลือกอื่น
ตลอดสองปีที่ผ่านมา เขาได้พยายามเรียกหาเหยาเฟิงอยู่ทุกวี่วัน
ตอนนี้ ในที่สุดเหยาเฟิงค่อยตอบสนอง ทั้งนี้ นางยังออกมาจาก
ไข่มุกเม็ดที่สอง!
“เกิดอะไรขึ้น?” เหยาเฟิงที่ออกมา พอได้เห็นว่าฉินหยุนไร้ซึ่งปัญหา
ใด ดวงตานางจึงมีเพลิงโทสะผลาญไหม้
เพราะนางเกลียดชังฉินหยุนที่โกหกต่อนางเป็นที่สุด!
“เจ้า… นี่เจ้าหลอกข้าอีกครั้งแล้ว!” เหยาเฟิงกล่าวเกรี้ยวกราด
ฉินหยุนเร่งร้อนส่งแผ่นหนังสัตว์ให้แก่เหยาเฟิง จากนั้นจึงเร่งรีบ
บอกนางเรื่องจารึกวิญญาณนายหญิงจันทรา
เหยาเฟิงพอได้เห็นแผ่นหนังสัตว์ ความโกรธของนางจึงหายวับ ทั้ง
นางยังขมวดคิ้วแน่น
“พระสูตรโลกาวินาศเก้าสุริยัน พระสูตรโลกาวินาศเก้าสุริยัน… มัน
มีอยู่ในความทรงจำของจอมจักรพรรดิอสูรเซียนจริง!” เหยาเฟิง
พึมพำ นางตระหนกตกใจไม่น้อย
“พี่สาวเหยาเฟิง อะไรคือพระสูตรโลกาวินาศเก้าสุริยัน?” ฉินหยุน
เร่งรีบเอ่ยถามด้วยความใคร่รู้
“เจ้า… เจ้ายังไม่ต้องทราบ! หากข้าพบมันแล้ว ข้าจะส่งมันให้แก่เจ้า
เอง!” เหยาเฟิงกล่าวขณะจับจ้องแผ่นหนังสัตว์ “เจ้าตัวบัดซบ
ความลับอันใดที่เจ้าซุกซ่อนเอาไว้?”
ฉินหยุนเบะปากกล่าวคำ “ข้าเองก็คิดอยากทราบ! พี่สาวเหยาเฟิง ข้า
เป็นสาเหตุให้ท่านถูกคำสาป นี่น่าจะต้องเป็นการจงใจ ไม่ใช่การ
หลอกใช้ท่านกระมัง?”
เหยาเฟิงแค่นเสียง “เหตุใดเจ้าไม่บอกข้าแต่แรก!?”
“ข้า… ข้าไม่รู้! ทั้งหมดเป็นตัวข้าในอดีตที่ทำ!” ฉินหยุนถอนหายใจ
และเอ่ยถาม “อย่างนั้นแล้ว พวกเราควรทำอะไรต่อ?”
“ทำตามเจตนารมณ์ของตัวเจ้าในชาติภพก่อน!” เหยาเฟิงส่งแผ่น
หนังสัตว์กลับคืนฉินหยุน
“พี่สาวเหยาเฟิง อย่างนั้นท่านบอกได้หรือไม่ ว่าไข่มุกเม็ดที่สามมี
อันใด?” ฉินหยุนหัวเราะแห้งกล่าวถาม
“ไม่ได้ เจ้าต้องก้าวสู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำเสียก่อนแล้วข้าจึงค่อย
บอก!” เหยาเฟิงแค่นเสียง ก่อนจะกลับเข้าวิญญาณเทวะเก้าตะวันไป
“ไม่ว่าจะอะไร อย่างไรแล้ว นายน้อยผู้นี้ก็ได้รับจารึกวิญญาณนาย
หญิงจันทรามาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า!” ฉินหยุนหัวเราะยินดี
ก่อนกระโดดโลดเต้นกลับขึ้นไป
ที่แผ่นหนังสัตว์ มันยังมีถ้อยคำอื่นเขียนเอาไว้
จารึกวิญญาณนายหญิงจันทรา คือสิ่งที่ตัวเขาในชาติภพก่อนแยก
ออกมาและซ่อนมันเอาไว้ที่นี่ เพราะจารึกวิญญาณนายหญิงจันทรา
เป็นสิ่งที่ยากได้รับ ทั้งยังมีประโยชน์อย่างมากล้ำ
“เห็นได้ชัด ว่าตัวข้าในชาติภพก่อน ได้ลงแรงและเวลาไปมากเพื่อ
ค้นหาจารึกวิญญาณจักรพรรดิสุริยัน!” ฉินหยุนยิ้มกล่าวคำ
“จารึกวิญญาณจักรพรรดิสุริยัน มีไว้เพื่อใช้แกะสลักอักขระตะวัน!
ตัวเจ้าตอนนี้ไม่มีอักขระตะวันใดในครอบครอง อย่างนั้นแล้ว มี
จารึกวิญญาณจักรพรรดิสุริยันในตอนนี้ก็ไม่อาจใช้งานได้อยู่ดี!”
หลิงหยุนเอ๋อกล่าว
“นั่นก็จริง” ฉินหยุนสัมผัสถึงจารึกวิญญาณนายหญิงจันทรา เขายิ่ง
สุขเปี่ยมล้นหัวใจ
ด้วยการใช้จารึกวิญญาณนายหญิงจันทรา มันจะทำให้เขาสามารถ
เชี่ยวชาญอักขระจันทราได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงการเสริมระดับ
และคุณภาพให้แก่มัน
ฉินหยุนก้าวเดินขึ้นบันไดไป เมื่อขึ้นไปจนถึงด้านบน เขาไม่พบเห็น
จ้านเฉียง
เขาเดินออกมาที่สวนของจ้านเฉียง พบว่าภายนอกไม่มีผู้ใด
“ด้านนอกกำแพงใหญ่!” หลิงหยุนเอ๋อร้องตะโกน
ฉินหยุนเองก็สัมผัสได้ ว่าหลายคนอยู่ที่ด้านนอก เขาจึงเร่งรีบทำให้
ร่างโปร่งแสงก่อนพุ่งทะยานออกไป
เขาได้เห็นจ้านเฉียงและกลุ่มศิษย์ของชนเผ่านักรบยืนที่ด้านนอกด้วย
สีหน้าหนักอึ้ง
ชนเผ่านักรบมีกันเพียงไม่กี่พันคน พวกเขากำลังถูกล้อมเอาไว้คน
จำนวนนับแสน
คนจำนวนนับแสนเหล่านี้ คือชนเผ่าพื้นเมืองของที่นี่ พวกเขาต่างขึ้น
ขี่หมาป่ าร่างยักษ์ ออร่าของพวกเขารุนแรงยิ่ง
ฉินหยุนไม่คิด ว่าชนเผ่าพื้นเมืองที่นี่จะมีจำนวนประชากรมากมาย
เพียงนี้
“จ้านเฉียง ตราบเท่าที่เจ้ายอมศิโรราบต่อชนเผ่าหมาป่าคลั่ง พวกเรา
จะไม่ทำลายชนเผ่าพวกเจ้าอีก ไม่อย่างนั้น ต่อให้วันนี้ยืนหยัดอยู่
รอด ก็ยังต้องถูกพวกเราทุบตีชนเผ่าที่เจ้าทุ่มเทสร้างขึ้นมาจนแตก
พ่าย!” ชายชราร่างสูงกำยำจากชนเผ่าหมาป่ าคลั่ง กำลังส่งเสียงร้อง
ตะโกนพร้อมหัวเราะดัง
ชายชราร่างสูงใหญ่กำยำจากอีกชนเผ่า ร่างกายนั้นมีแผลเป็นเต็มอยู่
ทั่วไปหมด ร่างกายของเขาแข็งแกร่งอย่างยิ่ง พลังที่ผันแปรเผยออก
นั่นคือขอบเขตราชันยุทธ์
แม้ชนเผ่านักรบมีจำนวนคนน้อยกว่า กระนั้นพวกเขากลับไม่หวาด
เกรงแม้เพียงนิด
จ้านเฉียงกล่าวด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก “ชนเผ่าหมาป่ าคลั่ง หมื่นปีมาแล้ว
พวกเจ้าไม่เคยรุกรานพวกเรา! ตอนนี้ พวกเจ้าถึงขั้นลืมเลือน ทั้งยัง
คิดให้พวกเรายอมศิโรราบ!”
ตอนนี้เอง กลุ่มผู้เฒ่าของชนเผ่านักรบจึงปรากฏตัวออกมา ส่วนที่
เหลือต่างเร่งรีบถอยกลับเข้าสู่กำแพงยักษ์ เข้าสู่สวนของจ้านเฉียง
ตอนนี้เอง ฉินหยุนจึงปรากฏตัวข้างกายจ้านเฉียง เขากล่าวเสียงเบา
“ผู้อาวุโส ให้ข้าช่วยหรือไม่?”
จ้านเฉียงทราบว่าฉินหยุนหาได้แข็งแกร่ง นอกจากนี้ อีกฝ่ายยังมี
ราชันยุทธ์ที่แข็งแกร่งคงอยู่จำนวนหนึ่ง