ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ - ตอนที่ 848
ราชันเร้นลับ 848 : ความซวยมาเยือนปลาในคู
กรุงเบ็คลันด์ เขตราชินี ภายในคฤหาสน์สุดหรูของตระกูลฮอลล์
หลังจากลองชุดราตรีทั้งสามแบบของวันนี้ ออเดรย์นั่งบนเก้าอี้เบาะหนังพลางครุ่นคิดว่าควรจับคู่กับเครื่องประดับชิ้นใด ชอบแบบไหนมากกว่า ความคิดเห็นของมารดาเป็นเช่นไร?
ทันใดนั้น หญิงสาวมองเห็นหมอกสีเทาสุดลูกหูลูกตาและร่างคลุมเรือผู้มองลงมาจากด้านบนราวกับปกครองโลกใบนี้
ภาพถัดมาเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่กำลังสวดวิงวอนท่ามกลางสายหมอกสีเทา ถ้อยคำดังกล่าวดังกังวาน
สำหรับออเดรย์ การได้เห็นฉากเหล่านี้นอกจากจะไม่แปลกใจยังช่วยมอบความสุข ความกังวลเล็กๆ ที่ชุมนุมทาโรต์ต้องเลื่อนออกไปหนึ่งสัปดาห์ สลายเป็นปลิดทิ้งทันที
นึกแล้วเชียวว่าต้องไม่มีอะไร! อา… มิสเตอร์เวิร์ลมีอาการทางจิตจริงๆ เขาคงตกอยู่ในภาวะตึงเครียดเป็นเวลานาน ไม่อย่างนั้นคงไม่จองตัวเราล่วงหน้า… ออเดรย์ถอนหายใจ นึกทบทวนเวลาว่างของตัวเอง
ขณะครุ่นคิด สายตาออเดรย์กวาดมองไปทั่วห้องที่มีสาวใช้กำลังทำงานขะมักเขม้น จนกระทั่งเห็นซูซี่ โกลเดนรีทรีเวอร์ตัวใหญ่ที่กำลังนั่งหน้าประตู
ออเดรย์ยกมุมปากเล็กน้อยอย่างมิอาจควบคุม ก่อนจะลดศีรษะลงพลางสวดวิงวอนตอบกลับ
“ช่วยบอกกับมิสเตอร์เวิร์ลว่า ช่วงนี้ดิฉันกำลังว่าง ให้เขานัดหมายเวลาและสถานที่มาได้เลย เอ่อ แต่ต้องไม่ใช่ตอนกลางคืน และต้องไม่เกินเขตตะวันตกของกรุงเบ็คลันด์”
ระหว่างนี้ ซูซี่ที่กำลังมองสาวใช้ทำงาน สัมผัสได้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมาทางเธอ จึงรีบหันไปมองออเดรย์อย่างหวาดระแวง แต่สุดท้ายก็ไม่พบความผิดปรกติจากอีกฝ่าย
…
เหนือสายหมอก ท่ามกลางพระราชวังที่คล้ายถิ่นพำนักของคนยักษ์
ช่วงนี้กำลังว่าง… ไม่สะดวกกลางคืน… ไม่ไกลจากที่พักของตน… ไคลน์ลูบหน้าผากพลางตีความคำตอบของจัสติส
ความคิดแรกในหัวก็คือ นัดหมายทันทีไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ เมื่ออีกฝ่ายยืนยันจุดนัดพบก็จะใช้ยุบพองหิวโหย ‘เที่ยว’ ไปแถวนั้นทันที แต่หลังจากครุ่นคิดสักพัก ชายหนุ่มพบปัญหา
ดอน·ดันเตสกำลังถูกสอบสวนโดยเหยี่ยวราตรี หากใช้ท่องเที่ยวส่งเดชอาจทำให้ความลับแตก
รอสักสองสามวัน? หรือว่า… หลังจากไตร่ตรองสักพัก ไคลน์เสกเกอร์มัน·สแปร์โรว์ออกมาสวดวิงวอน
“ได้โปรดบอกกับมิสจัสติสว่า พวกเราจะรักษากันวันนี้ บนมิติเหนือสายหมอก”
…
เห…? ดวงตาออเดรย์พลันเบิกกว้าง เธอพบว่าคำตอบจากมิสเตอร์เวิร์ลค่อนข้างเหนือความคาดหมาย
ถ้าเป็นแบบนั้น เธอจะส่งซูซี่ไปทำงานแทนได้ยังไง!
นอกจากนั้น ภายในวังของมิสเตอร์ฟูล เราไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดของอีกฝ่ายได้ชัดเจน นั่นจะเป็นอุปสรรคในการบำบัดอาการป่วยทางจิต นับเป็นการรักษาที่ขาดประสิทธิภาพ… ออเดรย์รวบรวมความสุขุม ถ่ายทอดความไม่สบายใจไปยังเดอะฟูล ให้อีกฝ่ายส่งต่อไปถึงเดอะเวิร์ล
เพียงไม่นาน เธอได้รับคำตอบ
“ผมจะบอกให้มิสเตอร์ฟูลยกเลิกการอำพรางบุคคล พวกเราจะใช้วิธีอื่นในการปกปิดรูปลักษณ์”
ทำแบบนั้นได้ด้วยหรือ? สิทธิพิเศษของข้ารับใช้? อา… การถ่ายทอดข้อความระหว่างเรากับมิสเตอร์เวิร์ลที่เกิดขึ้นหลายครั้งติดต่อกัน แทบจะเรียกได้ว่าเป็นบทสนทนายาว ถ้ามัวโต้เถียงเกรงว่าคงเป็นการรบกวนมิสเตอร์ฟูลมากเกินไป… ออเดรย์เปลี่ยนความคิด เลิกโต้แย้งหรือตั้งคำถาม
“ตกลง… ห้าทุ่มครึ่งถึงเที่ยงคืนครึ่งของวันนี้”
ก่อนงานวันเกิดจะจบลง เธอไม่เชื่อว่าตนจะมีเวลาอยู่คนเดียว
…
ขณะเดียวกัน ภายในบ้านเลขที่ 39 ถนนเบิร์คลุน
ด้วยสายตาเบื่อหน่าย เฮเซลยืนมองชุดราตรีที่ถูกเลือกเฟ้นมาให้เธอสวม พลางฟังคำแนะนำของมารดาด้านข้าง
เธอมีกำหนดการต้องพาพ่อและแม่เข้าร่วมงานวันเกิดของมิสออเดรย์·ฮอลล์ในค่ำคืนนี้
ท่ามกลางความคิดมากมาย เฮเซลหันไปเห็นหนูสีเทาตัวหนึ่งตรงประตู อีกฝ่ายกำลังโบกมือเล็กๆ อย่างหวาดระแวง
นี่มัน… เฮเซลอดทนฟังคำพูดมารดาจนจบ ก่อนจะขอตัวกลับไปยังห้องนอน
หลังจากหญิงสาวลงกลอนปิดประตูห้องมิดชิด หนูสีเทาตัวเดิมกระโดดออกมาจากสักแห่ง หยุดลงที่ปลายเท้าหญิงสาวด้วยท่าทางชวนให้ขบขัน
“ข้าพบความผิดปรกติแถวนี้!”
หนูตัวดังกล่าวพูดภาษาคนโดยการสั่นไหวอากาศ!
เฮเซลมิได้แปลกใจกับเรื่องนี้ เพียงย้อนถาม
“เกิดอะไรขึ้น?”
หนูสีเทายกอุ้งเท้าหน้าข้างขวาชี้ไปบนถนนนอกหน้าต่าง
“มีผู้วิเศษจากโบสถ์รัตติกาลจำนวนมากกำลังสืบสวนบางสิ่งในบล็อกนี้… น่าจะเป็นคดีที่สำคัญมาก”
“พวกเขากำลังตามหาอะไร?” เฮเซลขมวดคิ้ว
หนูสีเทาหายใจเชื่องช้าพลางกล่าว
“ข้าจะไปรู้ได้ยังไง? แต่มันต้องเป็นเรื่องใหญ่มากแน่… หากปล่อยไว้แบบนี้ พวกเขาจะพบความผิดปรกติเกี่ยวกับเจ้า”
เฮเซลถามด้วยน้ำเสียงกังวลเจือฉงน
“จะพบได้ยังไง? ไม่ใช่ว่าเบาะแสในท่อระบายน้ำถูกระเบิดทำลายไปหมดแล้วหรือ? จะบอกว่ายังมีบางส่วนหลงเหลือ?”
หนูสีเทาเงียบไปสักพัก ก่อนจะตอบหลังจากครุ่นคิดเป็นเวลานาน
“ผู้วิเศษของทางการมีวิธีพิสดารมากมายในการสืบสวน และพวกเขามักทำสำเร็จ… สรุปโดยสั้น ข้าต้องจัดการกับความฝันของเจ้าก่อน นั่นคือวิธีเดียวที่จะรอด”
เฮเซลก้มมองหนูสีเทาบนพื้น ขมวดคิ้วเล็กน้อยและคลายออก
“ก็ได้…”
ไม่ต้องมาทำอิดออด! กว่าข้าจะฟื้นพลังคืนมาได้ กลับต้องถูกใช้ไปอย่างเปล่าประโยชน์อีกแล้ว! ถนนบล็อกนี้ถูกสาปหรือยังไง? ตอนแรกเป็นแม่มดที่เข้ามาหลบในสภาพปางตาย หลังจากนั้นก็เป็นจอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืด แล้วนี่ยังมีเหตุการณ์พิสดารที่ทำให้เหยี่ยวราตรีลงพื้นที่สืบสวนแบบปูพรมอีก! หนูสีเทารำพันด้วยความฉุนเฉียว
…
หนึ่งทุ่มครึ่ง เฮเซลพาบิดา ส.ส. มัคท์ และมารดา มาดามลีอานน่าไปยังเขตราชินี ก่อนจะเดินเข้าไปในคฤหาสน์ของเอิร์ลฮอลล์
เนื่องจากเป็นงานเลี้ยงวันเกิด เฮเซลจึงยังไม่ได้พบกับออเดรย์โดยตรง เพียงคอยฟังบทสนทนาระหว่างผู้ใหญ่อย่างเจียมตัว ปล่อยให้พ่อและแม่คุยกับเอิร์ลฮอลล์ คุณหญิงเคทลิน ลอร์ดฮิบเบิร์ต และคนอื่นๆ
ในสายตาเฮเซล ขุนนางและชนชั้นสูงเหล่านี้ไม่ต่างอะไรกับสามัญชน เธอจึงมิได้ทำตัวนอบน้อมจนเกินพอดี พฤติกรรมและการวางตัวยังคงองอาจ
หากไม่ใช่เพราะมารดาเอาแต่เน้นย้ำจนน่ารำคาญ เฮเซลคงนึกชื่นชมคุณค่าและความงามของฟลอร์เต้นรำ จิตรกรรมฝาผนัง และรูปปั้นแสนสง่างาม
หลังจากยิ้มทักทายคนที่รู้จักและไม่รู้จัก เฮเซลอดทนรอจนกระทั่งงานเลี้ยงเริ่มขึ้น จึงได้เห็นตัวเอกค่ำคืนนี้ มิสออเดรย์·ฮอลล์เดินจับมือเอิร์ลฮอลล์และคุณหญิงเคทลินเดินออกจากห้องบนชั้นสอง ตรงมายังราวบันไดที่หันหน้าเข้าฟลอร์เต้นรำ
เฮเซลชำเลืองสายตาพลางทำเป็นไม่สนใจรูปลักษณ์อีกฝ่าย สมาธิจดจ่ออยู่กับสไตล์การแต่งตัวและการจับคู่เครื่องประดับ
อย่างไรก็ตาม เฮเซลมิอาจละสายตาได้เลย เทียนไขปลาวาฬจากโคมระย้าด้านบนช่วยให้ออเดรย์ในวัยสิบแปดปีถูกฉาบด้วยแสงนวลชวนฝัน ดวงตาสีมรกตช่างโดดเด่นระยิบระยับ ใบหน้างดงามเกินพรรณนา เส้นผมสีทองยาวสลวยประหนึ่งถูกถักทอจากด้ายทองค้ำแท้ องค์ประกอบทั้งหมดทำให้ชุดราตรีและเครื่องประดับหมองลงถนัดตา
เฮเซลตกอยู่ในห้วงภวังค์ชั่วขณะ เหม่อลอยจนไม่ได้ยินสุนทรพจน์ของเอิร์ลฮอลล์ รอจนกระทั่งเพลงแรกถูกบรรเลงขึ้นพร้อมกับออเดรย์ที่เต้นรำเป็นคู่เปิดงานกับเอิร์ลฮอลล์ เฮเซลจึงค่อยได้สติกลับมา
ความหยิ่งทระนงของเฮเซลเริ่มถูกสั่นคลอน เธอเชื่อว่าแม้สตรีพราวเสน่ห์ตรงหน้าจะมิได้ครอบครองพลังพิเศษ แต่ก็ไม่มีส่วนใดเลยที่ตกเป็นรองตน
เฮเซลเม้มริมฝีปากพลางมองสำรวจไปรอบๆ พบว่าสายตาทุกคนกำลังจับจ้องไปยังจุดเดียวโดยไม่มีข้อแม้ สิ่งที่แตกต่างมีเพียงอารมณ์และความรู้สึกบนใบหน้าของแขกผู้ร่วมงาน
ฟู่ว… เฮเซลถอนหายใจ
ภายในงานเลี้ยงดังกล่าว เฮเซลเริ่มทำตัวหยิ่งผยอง ในใจมีเพียงความรู้สึกอยากกลับบ้านเพื่อไปศึกษาค้นความศาสตร์เร้นลับและเสริมความแข็งแกร่งให้ตัวเอง
จนกระทั่งงานเลี้ยงสิ้นสุดลง ครอบครัวเฮเซลกล่าวคำอำลากับเจ้าภาพและเดินไปที่ประตูคฤหาสน์
ก่อนจะกลับ เฮเซลอดมองย้อนเข้าไปในคฤหาสน์ไม่ได้ และพบกับมิสออเดรย์ที่กำลังยืนริมฟลอร์เต้นรำพลางทักทายแขกผู้มีเกียรติที่กำลังทยอยกลับ
จนกระทั่งงานเลี้ยงเลิก ออเดรย์ยังคงโดดเด่นที่สุดในงานเลี้ยง
…
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดจบลง ออเดรย์ถอดเครื่องประดับทั้งหมด สวมชุดนอนและเดินเข้าห้องน้ำ
หลังจากมองไปยังกลุ่มก้อนไอน้ำสีขาวและเสื้อคลุมอาบน้ำที่วางอยู่ ออเดรย์ไม่รีบนำตัวเองลงไปแช่ แต่เลือกสวดวิงวอนถึงเดอะฟูลเพื่อแจ้งให้ทราบว่าเธอพร้อมแล้ว
ผ่านไปราวสิบวินาที หญิงสาวมองเห็นแสงสีแดงเข้มท่วมท้นร่างกาย
เหนือสายหมอกสีเทา ออเดรย์ปรากฏกายบนเก้าอี้ของโต๊ะทองแดงยาว
เธอมองไม่เห็นมิสเตอร์ฟูลที่ปกคลุมไปด้วยหมอกสีเทา พบเพียง ‘ตู้สารภาพบาป’ ตัวเก่าวางอยู่ด้านข้าง – เป็นกล่องสีน้ำตาลสูงราวคนครึ่ง มีประตูสองฝั่งซ้ายขวา มีแผ่นไม้กระดานกั้นระหว่างสองห้อง
คิดว่ามิสเตอร์เวิร์ลจะขอให้มิสเตอร์ฟูลสร้างกำแพงกั้นแล้วคุยผ่านกำแพงเสียอีก… ถึงแม้จุดประสงค์จะเหมือนกัน แต่ภายในตู้สารภาพบาปทั้งคับแคบและมืดมิด ไม่คิดถึงความรู้สึกของฝ่ายหญิงเลยสักนิด! ไม่สิ… คงจะแปลกกว่าถ้ามิสเตอร์เวิร์ล ‘คิดถึงความรู้สึกของผู้หญิง’ … ออเดรย์ยิ้มมุมปาก เดินเข้าไปในตู้สารภาพบาปที่ประตูถูกเปิดแง้ม โน้มตัวลงและนั่งในท่าห้อยขาเฉียง
หลังจากปิดประตูไม้ ออเดรย์ที่กำลังจะได้รักษาผู้ป่วยอาการทางจิตตัวจริงเป็นเคสแรก เริ่มเกิดความตื่นเต้น
ท่ามกลางความมืด ท่ามกลางสภาพแวดล้อมและอารมณ์ที่ไม่ปรกติ ออเดรย์ผ่อนปรน ‘กฎ’ หลายข้อที่เคยเคร่งครัด ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามสบาย ยกมุมปากเล็กน้อยพร้อมกับงอนิ้วเคาะแผ่นไม้
“ฮัลโหล~ มิสเตอร์เวิร์ลอยู่ไหม?”
ไคลน์ที่นั่งไขว่ห้างอยู่ในห้องติดกัน เริ่มเกิดความผ่อนคลายเล็กๆ หลังจากได้ยินน้ำเสียงอันร่าเริงของหญิงสาว
“มาเริ่มกันเลย”
ในเวลานี้ ชายหนุ่มมิได้เสกหมอกสีเทาขึ้นมาบดบังร่างกาย แต่กำลังอยู่ในโฉมหน้าเกอร์มัน·สแปร์โรว์
เป็นอย่างที่คิด จิตใจของมิสเตอร์เวิร์ลอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยดีนัก เขาเครียดและกังวลเกินไป… เมื่อสัมผัสถึงความผิดปรกติทางอารมณ์ ออเดรย์ใช้พลัง ‘ปลอบโยน’ ของนักจิตบำบัด
กระแสความผันผวนที่มองไม่เห็นค่อยๆ แผ่ซ่านเข้ามาในร่างกาย ไคลน์รู้สึกราวกับตนได้ตื่นเช้าในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว กำลังยืนรับสายลมยามเช้าอันสดชื่นที่พัดผ่าน ความร้อนรุ่มและหงุดหงิดภายในใจถูกชะล้างหายไปเป็นปลิดทิ้ง
เมื่อพบว่าสภาพจิตใจของมิสเตอร์เวิร์ลฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ออเดรย์ถามด้วยความโล่งใจ
“พักนี้คุณฝันร้ายบ้างไหม?”