ราชันเร้นลับ Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ - ตอนที่ 947
ราชันเร้นลับ 947 : เยี่ยมชม
กรุงเบ็คลันด์ เขตตะวันออก ภายในห้องพักแบบสองห้องนอน
ตำรวจหลายนายในเครื่องแบบสีขาวสลับดำเดินตามเจ้าของบ้านที่เปิดประตูเข้ามา แต่ละคนเลื่อนมือขึ้นมาปิดปาก
ด้านในมีกลิ่นคาวเลือดเข้มข้น!
“คุณตำรวจ ผมเองก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้เช่าใกล้เคียงแจ้งว่าได้กลิ่นเลือดจำนวนมาก” เจ้าของอาคารที่สวมหมวกผ้าไหม มองไปรอบๆ ด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าอยู่ในห้องอีกแม้แต่วินาทีเดียว
เจ้าหน้าที่ตำรวจตาสีฟ้า ผมสีดำ ประดับอินทรธนูสารวัตร โบกมือและกล่าว
“ไปรอที่ประตู พวกเราจะสอบปากคำคุณด้วย”
ขณะกล่าว พวกมันสวมถุงมือสีขาว สายตาจดจ้องไปยังประตูไม้ของห้องนอน
ทว่า ไม่มีใครรีบร้อนเข้าไป ทุกคนเพียงมองไปรอบๆ พร้อมกับเก็บรายละเอียด
กองถ่านหิน ตู้กับข้าวที่เก็บจานชามและอาหาร เตาขนาดเล็ก กระทะเหล็กสะอาดสะอ้าน โต๊ะที่มีคราบมันเยิ้มเล็กน้อย โต๊ะกลมสองตัวที่ล้มลง เก้าอี้สองตัวที่บิดเบี้ยว ขวดแก้วที่บรรจุผงลึกลับจำนวนมาก และไพ่ทาโรต์ที่กระจัดกระจาย
“ผู้คลั่งไคล้ศาสตร์เร้นลับที่มีเงินทุนปานกลาง?” สารวัตรตาสีฟ้าพยักหน้าเล็กน้อยพลางประเมิน จากนั้นก็ส่งสัญญาณบอกให้ลูกน้องเปิดประตูห้องนอน
ท่ามกลางเสียงเสียดสีของไม้ กลิ่นที่เหม็นฉุนยิ่งกว่าเดิมพลันพวยพุ่ง
เจ้าหน้าที่คนที่เปิดประตูชำเลืองเข้าไปเล็กน้อย อุทานไม่เป็นภาษาก่อนจะรีบถอยห่าง
สารวัตรขมวดคิ้วเล็กน้อย จับบ่าเจ้าหน้าที่คนที่เพิ่งถอยออกมา เดินอ้อมเข้าไปใกล้ห้องนอน
กวาดสายตาหนึ่งครั้ง สีหน้าของมันพลันแปรเปลี่ยน
ภายในห้องนอน บนเตียงไม้ ชายคนหนึ่งกำลังนอนอยู่โดยถูกมัดมือไว้กับราวกั้นเหนือศีรษะ
มันอยู่ในสภาพเปลื้องผ้า ทั่วร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่ เลือดแห้งหมดตัวไปนานแล้ว ย้อมผ้าปูที่นอนและผ้าห่มข้างๆ ให้กลายเป็นสีแดงเข้ม
เมื่อเพ่งมองอย่างชัดเจน ดูเหมือนคนตายจะถูกรัดแน่นด้วยลวดเหล็ก ผิวหนังและเนื้อจมลึกเข้าไปถึงกระดูก
ฉากตรงหน้า กระทั่งตำรวจที่เคยผ่านตาฉากฆาตกรรมนับไม่ถ้วนก็ยังรู้สึกยากจะทำใจยอมรับ สัมผัสได้อย่างเลือนรางว่านี่อาจเป็นพิธีกรรมบางอย่าง
ขณะสารวัตรเตรียมกล่าวบางสิ่ง คนสองคนวิ่งพรวดเข้ามาในห้อง คนหนึ่งพยายามถ่ายรูป ส่วนอีกคนยิงคำถามชุดใหญ่
“คดีฆาตกรรมอีกแล้ว? ไม่ใช่ว่าเมื่อเร็วๆ นี้ เขตตะวันออกเต็มไปด้วยคดีฆาตกรรมหรอกหรือ? คุณตำรวจ คิดว่านี่เป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องหรือไม่?”
สารวัตรผมดำตาฟ้าขมวดคิ้วชนกัน โบกไม้โบกมือ
“อย่าเข้ามาวุ่นวายในที่เกิดเหตุ ไม่อย่างนั้นจะถือว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของคนร้าย”
มันหันไปกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนเมื่อครู่
“คาลิส เชิญนักข่าวสองคนนี้ออกไป บอกพวกเขาว่า ถ้ามีข้อสงสัยอะไร กรุณาติดต่อไปที่ซิลวารัสยาร์ดโดยตรง”
รอจนกระทั่งนักข่าวถูกเชิญออกจากที่เกิดเหตุ สารวัตรถอนหายใจยาว
“คงได้ลงหนังสือพิมพ์อีกแล้ว… บ้าจริง”
…
เขตจักรพรรดินี ภายในคฤหาสน์สุดหรูของเอิร์ลฮอลล์
“เกิดเหตุฆาตกรรมในเขตตะวันออก เหยื่อต้องสงสัยว่าจะถูกทรมานก่อนตาย” ออเดรย์ที่กินมื้อค่ำเสร็จแล้ว กำลังอ่านหนังสือพิมพ์เบ็คลันด์ยามเย็นไปเรื่อยๆ ภายในห้องนั่งเล่น
ได้ยินเสียงบุตรสาวพึมพำ เอิร์ลฮอลล์ส่ายหน้าพลางถอนหายใจ
“สำหรับเขตตะวันออก นี่ไม่ใช่ข่าวใหม่ จากสถิติแล้ว ที่นั่นมีคนตายทุกวัน และไม่ใช่แค่หนึ่ง”
ออเดรย์มิได้ใส่ใจมากนัก หลังจากสนทนากับพ่อ แม่ พี่ชายสักพัก เธอกับซูซี่เดินกลับห้องส่วนตัว
หนึ่งคนหนึ่งสุนัขเข้าใจความคิดของกันและกันโดยไม่ต้องบอกกล่าว ซูซี่เดินไปเฝ้าหน้าประตูห้อง ส่วนออเดรย์ก็ลงกลอนมิดชิด นั่งลงข้างเตียง สวดวิงวอนถึงเดอะฟูลอย่างเงียบงัน
ผ่านไปสักพัก แสงสีแดงเข้มท่วมท้นการมองเห็น ปกคลุมทุกสิ่งมิดชิด
ออเดรย์ถูกส่งมายังมิติเหนือสายหมอก ภายในพระราชวังอันงดงามและแปลกตา
จากนั้น เธอเห็นห้องเล็กๆ ถูกวางอยู่ด้านข้าง บานประตูที่มีลวดลายเล็กน้อยกำลังเปิดแง้ม
ดีกว่าห้องสารภาพบาปคราวก่อนมาก… แต่สิ่งนี้ไม่สอดคล้องกับอุปนิสัยของมิสเตอร์เวิร์ล สภาพจิตใจของเขาไม่ปรกติ? ออเดรย์เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าครุ่นคิด พลางปิดประตูที่มีลวดลาย
ก่อนหน้านี้ เธอได้นัด ‘เดอะเวิร์ล’ เกอร์มัน·สแปร์โรว์เพื่อมาดูอาการและพบว่า สภาพจิตใจของอีกฝ่ายหายเป็นปรกติแล้ว แต่วันนี้กลับได้รับคำขอร้องให้รักษาอย่างกะทันหัน
สิ่งนี้ทำให้เธอฉงนปนประหลาดใจ
ภายในห้องมืดที่ค่อนข้างกว้าง ออเดรย์เอนหลังพิงกำแพงที่เห็นได้ชัดว่ามีมนุษย์อยู่อีกฝั่ง ร่างกายค่อยๆ ไถลลงอย่างเชื่องช้า งอเข่าลงในท่าวางขาเฉียง
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ เธอปรับสภาพจิตใจและเป็นฝ่ายพูดก่อน
“สายัณห์สวัสดิ์ค่ะ มิสเตอร์เวิร์ล~”
ยังไม่ทันสิ้นเสียง สัมผัสวิญญาณออเดรย์เริ่มตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบันของกายปัญญาอีกฝ่าย หรือในภาษาที่เข้าใจได้ง่ายก็คือ อารมณ์และความรู้สึก
หม่นหมอง ท้อแท้ สับสน ซึมเศร้า และไร้จุดหมาย… ปัญหาของมิสเตอร์เวิร์ลแตกต่างจากคราวก่อนโดยสิ้นเชิง… เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่? ออเดรย์เม้มริมฝีปากล่างแผ่วเบา ตัดสินใจใช้ ‘ปลอบโยน’ ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
นี่คือหนึ่งในพลังที่มีประโยชน์ที่สุดของนักจิตบำบัด ซึ่งในสมัยโบราณชื่อว่านักจิตวิเคราะห์
‘เมฆมืด’ ด้านหลังกำแพงสลายไปเล็กน้อย ในที่สุดเกอร์มัน·สแปร์โรว์ก็เปิดปากพูด
“สายัณห์สวัสดิ์ มิสจัสติส”
ออเดรย์เอนหลังพิงกำแพงครุ่นคิดสักพัก เปลี่ยนแผนเดิม ยังคงรักษาน้ำเสียงสดใสเอาไว้
“ดิฉันอยากทราบว่า คุณเพิ่งเผชิญหน้ากับสิ่งใดมา… ดูเหมือนจะเป็นประสบการณ์ที่เข้มข้น… เข้มข้นจนเหนือคำบรรยาย… ยังไม่ต้องคิดเรื่องอื่น คุยกันก่อน คุยกันเหมือนเพื่อนสนิท… ถ้าคุณสนใจเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของฉัน ทางนี้ก็ยินดีเล่าในส่วนที่น่าตื่นเต้นให้ฟัง”
เกอร์มัน·สแปร์โรว์อีกฟากหนึ่งกำแพงยังคงเงียบ ถามโดยไม่ตอบอีกฝ่าย
“คุณวาดฝันอนาคตแบบไหนเอาไว้”
สายตาออเดรย์เปลี่ยนไปเล็กน้อย ตอบขึงขัง
“เลื่อนลำดับพลัง พัฒนาตัวเองให้เป็นครึ่งเทพ จะได้ปกป้องพ่อแม่พี่น้องได้อย่างมั่นคง… จริงสิ ในช่วงก่อนหน้านี้ ฉันได้ติดตามเจ้าหน้าที่ของกองทุนไปเยี่ยมผู้ขอทุนหลายราย สภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาช่างอนาถาเกินกว่าจินตนาการไปมาก แม้จะอ่านรายงานและเตรียมใจไว้บ้างแล้ว แต่เมื่อได้เห็นของจริงก็อดสะเทือนใจไม่ได้… เด็กผู้หญิงบางคนอายุน้อยกว่าดิฉันไม่กี่ปี แต่ผอมและตัวเล็กมาก เธอไม่ได้กินอาหารทุกวัน เสื้อผ้ามีแค่สองชุด แถมยังเก่าโทรม ในตอนที่เธอพูดว่าอยากเรียน ดวงตาของเธอช่างบริสุทธิ์และจริงใจ เต็มไปด้วยความเว้าวอน จนทุกวันนี้ก็ยังลืมไม่ลง”
ขณะกล่าว เธอพบความเปลี่ยนแปลงทางสภาพจิตใจของเกอร์มัน·สแปร์โรว์ พบว่าอีกฝ่ายมิได้เป็นทะเลสาบสงบนิ่งอีกต่อไป หากแต่มีคลื่นกระเพื่อมขึ้นลงที่ไม่มั่นคง
ครุ่นคิดสักพัก ‘นักจิตบำบัด’ รายนี้แสร้งไม่พบความผิดปรกติ ยังคงพึมพำกับตัวเอง
“ฉันเคยตั้งตารอการสมรสที่ดี โดยหวังว่า ‘เจ้าชาย’ ในฝันจะเป็นคนที่ยอดเยี่ยมตามที่นิยายเรื่องดังบรรยายเอาไว้ แต่หลังจากกลายเป็น ‘ผู้ชม’ ฉันพบว่าความฝันของตนคงยากจะเกินขึ้นจริง เพราะตัวเองสามารถอ่านความคิดของผู้ชายเหล่านั้นได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ยืนมองอีกฝ่ายโกหกหน้าตายเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ พบว่าโลกนี้มิได้สวยหรูอย่างที่เข้าใจ นั่นทำให้มโนภาพของฉันแตกสลายและเกิดความผิดหวัง… อา… แน่นอน บางที ในอนาคตฉันอาจเปิดใจยอมรับข้อบกพร่องของผู้อื่น แต่สำหรับปัจจุบันคงทำใจได้ยาก”
เมื่อเห็นเกอร์มัน·สแปร์โรว์อีกฝั่งกำแพงเริ่มเผยอารมณ์ขัน ออเดรย์ใช้พลังปลอบโยนอีกครั้งพลางได้ยินคำถามจากอีกฝ่าย
“คุณเคยฟังข้อมูลของมังกรจากเดอะซันน้อย น่าจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับมังกรจินตภาพใช่ไหม… สมมตินะ ถ้าผมบอกว่า พ่อแม่และพี่น้องของคุณ ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่เทวทูตของเส้นทาง ‘ผู้ชม’ จินตนาการขึ้น ไม่เคยมีอยู่จริงมาก่อน คุณจะมีท่าทีเช่นไร?”
เสียสติและคลุ้มคลั่งคาที่… มิสเตอร์เวิร์ลเป็นเช่นนี้เพราะว่า เขาค้นพบว่าเป้าหมายสูงสุดของชีวิตตนจะไม่มีวันถูกเติมเต็ม? ออเดรย์ตื่นตัวในตอนต้น ก่อนจะพบแก่นของปัญหาในตัวเกอร์มัน·สแปร์โรว์
เธอไม่ตอบ ย้อนถามกลับ
“ดูเหมือนว่า คุณเพิ่งได้เห็นความหวังของตัวเองถูกทำลายมาไม่นาน”
“หึ…” ณ กำแพงด้านหลังออเดรย์ เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้น “ก็ถูกของคุณ… ผมเคยคิดว่าตัวเองยังมีครอบครัว แต่ในภายหลัง นั่นเป็นได้แค่ความหวังลมๆ แล้งๆ”
“ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้น” ออเดรย์ถามอย่างเป็นกันเอง
เกอร์มัน·สแปร์โรว์เงียบไปสองสามวินาที ก่อนจะกล่าว
“คุณเคยฟังนิทานที่จักรพรรดิโรซายล์ใช้สอนลูกไหม?”
“พวกมันคือความทรงจำในวัยเด็กของฉัน” ออเดรย์อืมในลำคอ
พร้อมกันนั้น เธอพบว่าอารมณ์ของเดอะเวิร์ลเกิดความผันผวนรุนแรง ความเจ็บปวดมากมายกำลังพรั่งพรูอย่างมิอาจหักห้าม
ในคราวนี้ ออเดรย์มองว่าไม่มีประโยชน์ที่จะใช้พลังปลอบโยน เพราะสัมผัสวิญญาณและความรู้พื้นฐานทางวิชาชีพกำลังบอกเธอว่า อีกฝ่ายจำเป็นต้องระบายด้วยตัวเอง
“ถ้าอย่างนั้น คงเคยฟังเรื่องเจ้าหญิงนิทรากับเจ้าชาย…” เกอร์มัน·สแปร์โรว์กล่าวด้วยเสียงค่อนข้างแหบพร่าและล่องลอย “มีคนแบบนั้นอยู่จริง… หลับใหลอย่างยาวนานจนกระทั่งตื่นขึ้นมาในวันหนึ่ง… เขาคิดว่าครอบครัวของตัวเองยังคงอยู่ที่เดิม จึงพยายามทำงานหนักเพื่อพัฒนาตัวเองโดยหวังจะมีช่องทางตามหาพวกเขา นั่นคือเป้าหมายหลักของชีวิต แต่แล้ววันหนึ่ง เขาพบว่าตัวเองหลับใหลมานานไม่ต่ำกว่าสองสามร้อยปี หรืออาจนานถึงพันปี หรือนานยิ่งกว่านั้น ทุกสิ่งที่เคยเป็นของเขาจะไม่มีวันถูกหาพบ”
ความเจ็บปวดและสับสนที่กำลังท่วมท้น ออเดรย์สามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจน ช่วยให้เธอเริ่มเข้าใจในบางประเด็น
ชายที่มืดมน สงวนกิริยา มากประสบการณ์ และป่าเถื่อนอย่างมิสเตอร์เวิร์ลเองก็มีเป้าหมายหลักของชีวิต เป้าหมายในการดำรงอยู่!
สอดคล้องกับด้านที่อ่อนโยนของเขา…. ช่างน่าสงสาร… แม้ว่าจะเปรียบเทียบด้วยนิทาน แต่น้ำเสียงและอารมณ์เมื่อครู่มีความจริงซ่อนอยู่… ทุกครั้งที่เขาพูดว่า ‘หลับใหล’ ‘ครอบครัว’ ‘สามร้อยปี’ ‘พันปี’ ‘หรือนานกว่านั้น’ ‘ไม่มีวันหาพบ’ ความเจ็บปวดของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ… แสดงว่าเป็นคนจากยุคโบราณ แต่มีชีวิตรอดมาถึงปัจจุบันได้ด้วยเหตุการณ์บางอย่าง? สอดคล้องกับมิสเตอร์ฟูลที่เป็นเทพบรรพกาลคืนชีพ เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงได้เป็นข้ารับใช้… ออเดรย์จับประเด็นสำคัญของเรื่องราว
หญิงสาวเม้มริมฝีปาก ไตร่ตรองสักพักและกล่าว
“ครอบครัวของเขาได้ทิ้งคำพูดไว้บ้างไหม? ทำนองว่า ให้เขาทำอะไรหลังจากลืมตาตื่น?”