ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 310 ทุกครั้งทำได้แค่หนีหรือ
“หรงอวี้ป้อนฝ่าบาทเองเพคะ”
หรงอวี้จ้องมองเจียงหลีอย่างลึกซึ้ง จอกสุราในมือนั้นสัมผัสกับริมฝีปากสีแดงของนาง
กลิ่นเหล้าจากริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากของเจียงหลีเผยขึ้น นางค่อยๆ อ้าริมฝีปาก กัดขอบจอก ชิงจอกสุรามาจากมือของเขา ยกคอขึ้นและเหล้าในจอกก็ค่อยไหลจากริมฝีปากเข้าไปในปากของนาง
มือที่ว่างเปล่าของหรงอวี้ ยังคงค้างไว้ที่ท่ายกจอก ตาของเขาเป็นประกายราวกับถูกพฤติกรรมที่สง่ารุนแรงของเจียงหลีสะกดไว้
ดื่มสุราจนหมด ปากของเจียงหลีก็คลายออก ทำให้จอกที่ว่างเปล่าตกลง
หรงอวี้รีบรับไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ถือแก้วไว้ในอุ้งมือของตน รอยปากที่หลงเหลืออยู่บนขอบแก้วทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกไฟเผาในใจ ยากที่จะควบคุมตัวเอง
เขาก้มหัวลงอย่างระมัดระวัง ปกปิดแรงกระตุ้นในสายตา หันตัววางแก้วลงบนโต๊ะ
ในเวลานี้เขารู้สึกหายใจไม่ออก ทันใดนั้นร่างทั้งร่างของเขาก็ถูกยกขึ้นแขวนไว้เหนือห้องบรรทม
หรงอวี้อ้าปากพยายามส่งเสียง แต่พบว่าไม่สามารถส่งเสียงได้ แขนขาของเขาดิ้นรนในอากาศ ดวงตาที่ยื่นออกมาเบิกกว้างนั้นเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ทำให้เจียงหลีถอดสีหน้าเกียจคร้าน แล้วลุกขึ้นจากเตียง
“ลู่เจี้ย!”โดยไม่ต้องคิด นางก็รู้ได้ทันทีว่าใครเป็นคนทำ
เมื่อนางเรียกชื่อนี้ออกมา หรงอวี้ก็ตกใจ ลู่เจี้ยรึ ลู่เจี้ยตายไปแล้วมิใช่หรือ ความสงสัยของเขาอยู่ได้ไม่นานเพราะหลังจากคำพูดของเจียงหลี ก็มีร่างๆ หนึ่งปรากฏขึ้นในห้องบรรทมลู่เจี้ย!ใช่ลู่เจี้ยจริงๆ ด้วย!เขายังไม่ตาย!
หรงอวี้รู้สึกหวาดกลัวในใจอย่างสุดขีด เขามองไปที่ลู่เจี้ย นั่นคือลู่เจี้ยไม่ผิดแน่ แต่ทำไมลู่เจี้ยคนนี้ถึงทำให้เขารู้สึกกลัวมากขนาดนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาดูเหมือนว่าแม้แต่มดก็เทียบไม่ได้
สายตาที่เย็นชาของจักรพรรดิลู่เจี้ยไม่ได้มองไปที่เจียงหลี แต่มองไปที่ร่างที่ถูกแขวนของหรงอวี้ มองไปที่สีหน้าที่หวาดกลัวของเขา
ชายคนนี้สมควรตายโดยแท้
เขากล้าป้อนเหล้านางได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น สายตายังเต็มไปด้วยความคิดชั่วร้าย!
แต่สิ่งที่ทำให้เขาโกรธมากที่สุด คือนางดื่มเหล้านั้นด้วยจริงๆ
ไม่ ยกโทษให้ข้าเถอะ ช่วยด้วยข้าไม่อยากตาย หรงอวี้รู้สึกถึงจิตสังหารได้อย่างชัดเจนและเขาก็พยายามกลอกตามองหาเจียงหลี โดยหวังว่าเธอจะช่วยเขาได้
ในที่สุดเขาก็หันไปมองเจียงหลีได้ไม่ทันไร เขาพบว่าสายตาของนางไม่ได้ให้ความสนใจกับเขาเลย
กรอบ!
เสียงกระดูกหักดังขึ้นอย่างกะทันหัน
หัวของหรงอวี้แขวนอยู่ในมุมที่แปลกตา แสงในดวงตาของเขาดับลง หลังจากที่แขนขาของเขาหยุดดิ้น มีสิ่งของสองอย่างหล่นลงมาจากเสื้อคลุมหลวมๆ และตกลงไปที่พื้น
“…” ปากของเจียงหลีกระตุกอย่างรุนแรง เหลือบมองไปที่ศพของหรงอวี้ จากนั้นก็มองไปยังชายหนุ่มที่หน้าดำหน้าแดงด้วยความปวดหัวเล็กน้อย
ตูม!
ได้มีไฟที่ไร้ต้นตอเผาร่างของหรงอวี้ และในทันใดก็ได้เผาจนไม่เหลือขี้เถ้า
เหตุการณ์นี้ ทำให้สายตาของเจียงหลีกระตุกอย่างรุนแรง
ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะโกรธจริงๆ
เมื่อจักรพรรดิหน้าดำหน้าแดงก้าวเข้ามาหานาง ทันใดนั้นเจียงหลีก็ส่งเสียง “หึ” และหยิบสิ่งที่ตกลงมาจากร่างหรงอวี้จากพื้นอย่างสงสัย “นี่มันอะไรกัน”
“ยาพิษ ระเบิดควัน” ชายหนุ่มตอบอย่างเย็นชา จ้องไปที่นางอย่างไม่ละสายตา ดีมาก เป็นเปลี่ยนหัวข้อที่ไร้สาระอีกแล้ว
“โอ้โห! ไม่คิดว่าเขาจะมีเจตนาร้ายขนาดนี้ ดีที่ตาย!” เจียงหลีกล่าวอย่างเคร่งขรึม เมื่อรู้สึกถึงความโกรธที่ไม่ลดลงของชายหนุ่ม นางก็ยิ้มอย่างประจบประแจงให้ชายหนุ่มอีกครั้ง “แต่ระเบิดควันนี้ยังมีประโยชน์ เขาน่าจะใช้ส่งสัญญาณหลังจากกลอุบายสำเร็จพรึ่บ!
ระเบิดควันและขวดยาในมือของนางถูกแรงประหลาดดึงออก ลอยออกจากมือของนางและตกลงบนพื้นที่ไกลออกไป
ขวดยาแตกเป็นเสี่ยงๆ ยาที่อยู่ข้างในก็กระเด็นไปทั่ว แต่ยังดีที่ระเบิดควันไม่เสียหาย
เจียงหลีมองไปยังขวดยาที่แตกแล้วรู้สึกเสียดาย ยาพิษที่ตระกูลหรงเอาออกมาเพื่อทำลายนาง ต้องเป็นของดี จะไว้ใช้ในอนาคตก็ไม่เลว! ทิ้งแตกไปอย่างนี้ เสียของเสียจริง
ทันใดนั้น บรรยากาศอันทรงพลังก็พุ่งเข้ามา ทำให้เจียงหลีต้องหันกลับไปมองชายหนุ่มที่อยู่ไม่ห่างจากตน
ใบหน้าที่เศร้าหมองและลมหายใจเย็นๆ ของชายหนุ่ม ทำให้นางรู้สึกขลาดกลัวในใจ นางค่อยๆ ถอยห่างออกไป
“เจ้าสัญญาอะไรไว้” จักรพรรดิลู่เจี้ยก้าวประชิดอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศรอบเขาค่อยๆ เย็นลงๆ
เจียงหลีถอยออกอย่างไม่ลดละและพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่แตะต้องตัวเขา และไม่ให้เขาแตะต้องตัวข้า”
“แล้วเป็นอย่างไร” จักรพรรดิถามอย่างเย็นชา
เจียงหลีรีบยกมือขึ้นและพูดอย่างไร้เดียงสา “ข้าไม่ได้แตะต้องตัวเขา หรือปล่อยให้เขาสัมผัสตัวข้า!” ข้านี่มันน่าสงสารเสียจริง!
นัยน์ตาที่แวววาวหรี่ลงช้าๆ หญิงสาวเจ้ากรรมคนนี้ยังจะเถียงอีก!
นางใช้ริมฝีปากของตนกัดแก้วที่เขายื่นให้ ด้วยท่าทางคลุมเครือเช่นนี้ นางทำมันออกมาได้อย่างไรกัน
มือของเขาได้สัมผัสโดนจอกสุรา แล้วริมฝีปากของเจ้าก็สัมผัสกับจอกด้วย” ชายหนุ่มชี้ให้นางเห็นความผิดพลาดด้วยใบหน้าที่มืดมน
อะไรนะ!
อย่างนี้ก็นับด้วยหรือ
“…” เจียงหลีจ้องมองเขาด้วยความประหลาดใจ อธิบายด้วยความไม่เต็มใจว่า “ก็ยังมีจอกสุราที่คั่นกลางอยู่ ไม่นับว่าข้าผิดสัญญา! นอกจากนี้ คนท่านก็ฆ่าไปแล้ว ยังต้องการอะไรอีก”
“ข้าต้องการอะไรหรือ” ชายหนุ่มกัดฟันแล้วก็ก้าวจ้ำอ้าวไปข้างหน้า
“อ๊ะ!”
เจียงหลีตกใจ เท้าที่กำลังถอยหลังก็สะดุดเข้ากับขอบเตียง ร่างทั้งร่างก็เอนล้มไปด้านหลัง
ตูม!
ร่างของนางตกลงไปในผ้าห่มนุ่มๆ อย่างไม่แปลกใจ และทันใดนั้น ร่างใหญ่ก็คร่อมอยู่บนตัวนางและควบคุมนางไม่ให้หลบหนีไปได้
ข้าต้องการอะไรหรือ ชายหนุ่มหน้าตางดงามมีเสน่ห์ จ้องมองหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่าง สายตาของเขาไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ เขาต้องการอะไร เขาเองก็ไม่อาจรู้เหมือนกัน
เขารู้ดี ว่าเมื่อเห็นนางมีสัมพันธ์คลุมครือกับชายอื่น เขาก็จะรู้สึกโกรธในใจและอยากจะฆ่าคน อยากจะลงโทษนางอย่างรุนแรง!
แต่ทว่า จะลงโทษอย่างไรล่ะ
“เป็นแค่ตระกูลหรงเล็กๆ ไม่คุ้มที่เจ้าจะทำเช่นนี้” เขาพ่นคำพูดเย็นชาออกมา
ความโกรธของเขาทำให้เจียงหลียิ้มออกมา ผู้ชายของนางช่างน่ารักทำให้ผู้คนชื่นชอบเสียจริง!
“แล้วท่านล่ะ คุ้มให้ข้าทำอย่างนี้ไหม” นางใช้มือทั้งสองข้างดึงเสื้อของเขาให้เขาล้มลงบนร่างของตน หน้าอกของทั้งสองสัมผัสกัน จมูกสัมผัสเบาๆ ลมหายใจที่ไม่เป็นจังหวะ
ในลมหายใจจากเจียงหลี มีกลิ่นเหล้าจางๆ เหล้าชนิดนี้ไม่สามารถส่งผลใดๆ กับเขาได้ แต่เมื่ออยู่บนตัวนางกลับได้ผล ทำให้เขารู้สึกหลงใหล
ริมฝีปากของนางหุบลงต่อหน้าเขาพร้อมกับกลิ่นเหล้าจางๆ เขาอดไม่ได้ที่จะนึกย้อนไปถึงท่าทีที่ร้อนแรงที่กัดจอกสุราด้วยริมฝีปากของนาง
หากว่าสามารถทำได้ หากว่าทำได้
ไม่! ทำไม่ได้!
ก่อนที่เขาจะคิดอะไรไม่ออก ไม่ได้!
เขาจับมือของนาง ดึงนางออกจากเสื้อของตน ปล่อยนางให้ออกจากการควบคุมของตน จากนั้นก็ก้าวถอยหลังพร้อมกับร่างค่อยๆ หายไป “ไปจัดการในสิ่งที่เจ้ายังทำไม่สำเร็จ”
เจียงหลีลุกขึ้นจากเตียง มองดูเขาที่ค่อยๆ หายไปพร้อมพึมพำ “ทุกครั้งก็รู้แค่จะหนี!”