ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 75 จูเสียปรากฏ สังหารหลิงเจี้ยง!
ราชินีพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 75 จูเสียปรากฏ สังหารหลิงเจี้ยง!
“เจียงหลี เจ้าเห็นถึงความแตกต่างระหว่างเรารึยัง เจ้าจะเอาอะไรมาสู้กับข้า” ด้านหลังของหลิงเจี้ยงตระกูลเย่ว์มีวิญญาณยุทธ์ปรากฏขึ้นสองตัว
ท่ามกลางเนตรญาณมีปีศาจที่ใหญ่ยักษ์สองตัว คำรามอย่างดุร้าย แค่ชั่วพริบตาเดียวพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า!
พลังที่ล้อมรอบตัวเขา กลายเป็นพายุหมุน ทำให้ซากปรักหักพังที่อยู่รอบๆ แหลกเป็นผุยผง
“หลิงเจี้ยง! ก็คือหลิงเจี้ยง! น่ากลัวจริงๆ!”
“ท่ามกลางพลังนี้ ข้าใช้พลังไม่ได้!”
“พระเจ้าช่วย! สู้กับหลิงเจี้ยงด้วยพลังขั้นหลิงซื่อ โดนบดขยี้เละแน่!”
“สาวใช้ตระกูลลู่ได้ตายแน่วันนี้!”
“……”
ผู้คนถูกพลังของหลิงเจี้ยงตระกูลเย่ว์ทำให้ต้องรีบถอยหลังไป พวกเขาหน้าซีด ความรู้สึกแรกที่แวบขึ้นคือการมาดูอะไรสนุกๆ อาจทำให้ตายได้
แต่ทว่าเจียงหลีที่ยืนอยู่กลางพายุหมุน ผมและเสื้อผ้าโดนลมพัดจนเกิดเสียง พายุที่เกิดจากพลังนั้น ราวกับมีดที่แหลมคม บาดผิวของนาง และไม่มีทางให้นางถอยแม้แต่ก้าวเดียว ขาทั้งสองข้างของนางเหมือนปักอยู่กับพื้น หลังตรง แข็งแกร่งมากจนทำลายไม่ได้!
ร่างเล็กๆ ในตอนนี้ปลดปล่อยความสามารถที่ไม่เป็นสองรองใคร ทำให้ผู้คนตกใจ และชมเชย
“สู้เถอะ!” เจียงหลีแววตาดุดันทันที แล้วเริ่มจู่โจมก่อน “ฉีกเวหาาาา!” พอลงมือนางก็ใช้ทักษะการต่อสู้พรสวรรค์ของเนตรญาณใส่หลิงเจี้ยงแห่งตระกูลเย่ว์
ในแววตาของหลิงเจี้ยงตระกูลเย่ว์เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน พูดกับเจียงหลีด้วยท่าทีที่อยู่เหนือคนอื่นว่า “ทุกๆ ระดับ แบ่งเป็นเก้าขั้น ทุกๆ การเลื่อนระดับขั้น คือการควบคุมพลังวิญญาณ และคือการปลดปล่อยความสามารถของวิญญาณยุทธ์เพิ่มไปอีกขั้น เจ้าไม่เพียงแต่จำนวนของวิญญาณยุทธ์สู้ข้าไม่ได้ พลังของมันก็ยิ่งเทียบข้าไม่ได้ เจ้าจะเอาอะไรมาสู้กับข้า ช่างโง่เขลายิ่งนัก!”
พอเขาโบกมือ พลังที่แข็งแกร่งก็ปรากฏขึ้นดั่งกระแสน้ำ ปะทะเข้ากับพลังของเจียงหลี ทันใดนั้นก็สั่นสะเทือนไปทั้งเมือง ตึกรามบ้านช่องพังทลาย พื้นดินเกิดเป็นหลุม
พลังที่มองไม่เห็น แตกกระจายเป็นแสงสีทองแสบตา ทำให้ผู้คนที่ดูอยู่รอบๆ ต้องถอยไป
“แค่พลังขั้นหลิงซื่อ ก็กล้าท้าทายหลิงเจี้ยง? น่าขันจริงๆ” อู๋เชียนหัวเราะด้วยความเยือกเย็น เหมือนความตายของเจียงหลีเป็นสิ่งที่นางก่อไว้เอง
หนานอู๋เฮิ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ชอบน้ำเสียงของเขา เปิดปากพูดว่า “ถึงแม้ว่าศัตรูจะแข็งแกร่ง แต่เมื่อเจอศัตรูที่แข็งแกร่ง ก็จะล้างคอรอให้ศัตรูมาฆ่า? ข้ากลับชอบนิสัยของนาง ถึงรู้ว่าสู้ไม่ได้ แต่ก็จะสู้อย่างสุดพลัง ยิ่งไปกว่านั้น สังหารหลิงเจี้ยงด้วยพลังขั้นหลิงซื่อก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”
ประโยคสุดท้ายแฝงไว้ด้วยความยั่วยุเล็กน้อย
อู๋เชียนพูดอย่างเยือกเย็น รู้ว่าที่เขาพูดคือเรื่องของไป๋หลี่เฟิ่ง เขาที่เป็นคนของราชสำนักก็รู้สึกขายหน้า แต่ว่าตอนนี้เขาพูดได้แค่ว่า “เจียงหลีพลังเพียงขั้นห้า หรือว่าท่านอาจารย์หนานจะคิดจริงๆ ว่านางคือไป๋หลี่เฟิ่งคนที่สอง?”
หนานอู๋เฮิ่นกลับส่ายหัวเบาๆ “ผิดแล้ว ไป๋หลี่เฟิ่งก็คือไป๋หลี่เฟิ่ง เจียงหลีก็คือเจียงหลี เกรงว่าหลังจากวันนี้ ไป๋หลี่เฟิ่งจะถูกเจียงหลีมาแทน”
“คนที่ตายไปแล้วเนี่ยนะ?” อู๋เชียนพูดอย่างเยือกเย็น เขาได้ตัดสินไปไว้แล้วว่า เจียงหลีต้องตาย!
เจียงหลีต้องตาย!
ผู้คนที่ดูการต่อสู้อยู่เกือบทุกคน ไม่มีใครคิดว่าเจียงหลีจะรอดในสถานการณ์แบบนี้
อย่าว่าแต่คนที่สู้กับนางคือหลิงเจี้ยง นอกจากการต่อสู้รอบนี้ ยังมีหลิงเจี้ยงอีกสามคนที่มองนางอย่างดุร้าย
นางสู้จนชนะได้หนึ่งคน แล้วจะชนะอีกสามคนได้ไหม
ไม่ได้ เป็นไปไม่ได้
ปังงง
พลังระเบิดออก ทั้งสองที่สู้อยู่แยกออกจากกัน
ท่ามกลางฝุ่นที่ฟุ้ง ผู้คนเห็นเพียงแค่เสื้อของหลิงเจี้ยงขาดเล็กน้อย แต่เจียงหลี เสื้อดำของนางเต็มไปด้วยเลือดตั้งนานแล้ว เลือดไหลลงมาจากหน้าผาก อาบแก้มนางไปข้างหนึ่ง ในตามีเลือดแดงคั่งอยู่
แขนขวาของนาง แขนเสื้อขาดหมดแล้ว เผยให้เห็นแขนที่ขาวผ่องที่ถูกเลือดอาบ
แต่ทว่าแววตานางยังคงเด็ดเดี่ยว ใบหน้าเย็นชา จ้องมองหลิงเจี้ยงแห่งตระกูลเย่ว์ตาเขม็ง
“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า รีบกลับไปกับข้าซะ!” หลิงเจี้ยงตระกูลเย่ว์ยกมือขึ้นแล้วพุ่งไปหานาง วิญญาณยุทธ์ทั้งสองที่อยู่ด้านหลังของเขา คำรามอย่างดุร้าย ในขณะเดียวกันก็ยื่นกรงเล็บที่แหลมคมออกมา ราวจะตะปบนางกลับไป
เจียงหลีเงยหน้ามองอย่างช้าๆ พูดออกมาสองคำด้วยความเยือกเย็น “ฉีกเวหาาาา!”
โฮกกกกก
เสียงร้องคำรามของเลี่ยเทียนซื่อดังขึ้นอีกครั้ง พลังที่บ้าคลั่งระเบิดออกจากตัวเจียงหลี เสริมแรงทักษะพรสวรรค์
หลิงเจี้ยงตระกูลเย่ว์ที่พุ่งเข้าหาตกตะลึง พลั้งปากพูดออกมาว่า “เป็นไปไม่ได้! ด้วยขั้นพลังของเจ้า ต่อสู้มานานขนาดนี้ ใช้พลังอย่างต่อเนื่อง ทำไมถึงได้สามารถปล่อยพลังทักษะพรสวรรค์ติดต่อกันได้ถึงสองครั้ง”
พลังของเจียงหลีนั้นเกินว่าปกติ
แม้แต่หนานอู๋เฮิ่นก็มีสีหน้าตกใจ
แววตาเขาเคร่งขรึม คาดเดาในใจ พลังของเจียงหลีมากมายมหาศาลขนาดนี้ เกินกว่าคนธรรมดาทั่วไป หรือว่าร่างกายของนางจะไม่เหมือนกับคนอื่น?
เงาภาพมายาของเลี่ยเทียนซื่อ ค่อยๆ ขยายขึ้น เขาหนึ่งเดียวบนหัวของมัน ยาวขึ้นราวกับบันไดสูง มันคำรามด้วยความโกรธ เหมือนว่าจะกระทุ้งท้องฟ้าให้แตก เหยียบพื้นให้สลาย
“นี่คือการบรรลุการใช้วิญญาณยุทธ์ของผู้ที่อยู่ในระดับหลิงซื่อจริงๆ หรือ”
“ปลดปล่อยพลังแบบนี้ ทำคนทึ่งจริงๆ!”
“น่ากลัวมาก! หลิงซื่อขั้นห้าคนหนึ่ง ไม่คิดว่าจะสู้กับหลิงเจี้ยงขั้นหนึ่งได้แบบนี้! ถ้าเป็นข้าล่ะก็ คงตายไปนานแล้ว!”
พลังทำลายล้างฟ้าดินพุ่งเข้าใส่หลิงเจี้ยงแห่งตระกูลเย่ว์
เขาตาเบิกโพลง ในขณะเดียวกันเนตรญาณทั้งสองที่อยู่ด้านหลังของเขาก็ใช้พลัง ท่ามกลางความวิตกกังวล เขาไม่คิดว่าจะถูกหลิงซื่อขั้นห้าบีบบังคับให้ใช้หนึ่งในทักษะพรสวรรค์ “แพ้ซะ!”
ปังงง
พลังทักษะพรสวรรค์ทั้งสองปะทะกันกลางอากาศ
ความเคลื่อนไหวนี้ เกือบทำให้ตกใจไปทั้งเมืองซูหนาน เสียงดังดังไปถึงสถานที่จัดงานประลองชิงเจียว ทำให้คนทั้งบนและล่างเวทีการประลอง คนที่ดูอยู่บนอัฒจันทร์ต่างพากันมองไปทางประตูเมืองซูหนาน
มู่หว่านโหรวกลอกตาไปมา ดูไม่ออกว่านางคิดอะไรอยู่ เฮ่อเหลียนเฟิงอยากไปดู แต่ว่ามีมู่หว่านโหรวอยู่เลยไม่ค่อยดีถ้าจะละนางไปดูเหตุการณ์นั้น
แต่ทว่า ไป๋หลี่เฟิ่งที่ต่อสู้อยู่บนเวทีตอนนี้ กลับลงจากเวทีทันที แล้วไปยังเมืองซูหนาน
พอเขาไป คนที่สู้กับเขาก็ถอนหายใจ และมู่หว่านโหรวเห็นไป๋หลี่เฟิ่งที่เดินออกไปแบบนั้น สายตาแวววาว แล้วก็รีบตามไป พอนางไป เฮ่อเหลียนเฟิงก็รีบตามไป
แล้วงานประลองชิงเจียวล่ะ……
อืม หยุดไว้ก่อนแล้วกัน!
……
ปัง
บนท้องฟ้า ภาพมายาของเลี่ยเทียนซื่อถูกวิญญาณยุทธ์ทั้งสองฉีกออก สลายหายไป ร่างของเจียงหลีตกลงมาจากอากาศ กระแทกลงกับพื้นอย่างแรง
นางในตอนนี้ สติเลือนรางไปบ้างแล้ว อาศัยเพียงแค่จิตใจที่แน่วแน่ในการสู้ต่อ
หลิงเจี้ยงแห่งตระกูลเย่ว์ลงมาอยู่ข้างๆ เจียงหลี มองร่างเล็กๆ ที่ตกลงมาในหลุม แล้วพูดว่า “ยอมแพ้เถอะ! ถ้าไม่ใช่เพราะนายท่านให้ข้าจับเป็นเจ้า เจ้าคงไม่รอดมาถึงตอนนี้หรอก!”
ยอมแพ้งั้นรึ! เหอะ ข้าเจียงหลีเคยยอมแพ้ที่ไหนกัน เจียงหลีตอบกลับในใจ นางจะสู้! ต่อให้เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย นางก็จะสู้ให้ถึงที่สุด!
นางรวบรวมพลังที่มีทั้งหมด ต้องการจะสู้อีกครั้ง
ทันใดนั้นจิตวิญญาณของนางสั่นไหว แสงสีแดงงดงามแผ่ออกมาจากหว่างคิ้วของนาง ไปยังหลิงเจี้ยงตระกูลเย่ว์คนนั้น