รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 425 เกียรติยศอะไรนั่นไปตายซะ ข้าจะติดตามท่านเซียน!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 425 เกียรติยศอะไรนั่นไปตายซะ ข้าจะติดตามท่านเซียน!
บทที่ 425 เกียรติยศอะไรนั่นไปตายซะ ข้าจะติดตามท่านเซียน!
เสียงกระหึ่มดังไม่หยุดหย่อน ดาวดวงแล้วดวงเล่าร่วงหล่นลงมาในกระดานกฎแห่งสวรรค์และโลก ดำบ้าง ขาวบ้าง
ระหว่างนี้ อย่าให้พูดเลยว่าตงฟางเวิ่นรู้สึกแย่เพียงใด
ยังดีที่ขอบเขตพลังของเขาไม่นับว่าต่ำ อยู่ที่ขั้นตี้หวง ซ้ำยังเน้นบำเพ็ญวิญญาณและหทัยเต๋า เรียกได้ว่าพลังวิญญาณและพลังหทัยเต๋าอยู่ในระดับเดียวกัน
มิฉะนั้น เขาต้านไม่ไหวจริง ๆ!
ตาหมากเดินเยี่ยงนี้ ถือเป็นบททดสอบวิญญาณและหทัยเต๋าอย่างมาก หากเป็นตี้หวงทั่วไป เกรงว่าคงกลัวจนวิญญาณกระเจิง หทัยเต๋าแหลกเหลวไปนานแล้วกระมัง!
เขาเองระหว่างที่เดินหมากก็ค่อย ๆ แน่ใจขึ้น
ท่านเซียนมิได้คิดฆ่าเขาจริง ๆ!
กำกับกฎวิถีสวรรค์ หลอมรวมดวงดาวนับร้อยล้าน ต้องมีพลังแกร่งกล้าปานใดถึงทำได้!?
ภายใต้พลังแสนแกร่งกล้านี้ เขาตัวเล็กจ้อยราวเศษธุลี!
หากมิใช่ว่าพลังแกร่งกล้านี้ปราศจากจิตสังหาร ต่อให้มีจิตสังหารเพียงเศษเสี้ยวเขาก็ไม่อาจรอดมาได้ ต้องตายเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง!
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเล่นหมากอยู่ที่นี่
“น่าสนใจใช้ได้!”
หลี่จิ่วเต้ายิ่งเดินหมากยิ่งรู้สึกสนุก ฝีมือการเล่นหมากของตงฟางเวิ่นใช้ได้ ไม่เสียเที่ยวที่มาเล่นด้วย
ทว่าเทียบกับเขาแล้ว ตงฟางเวิ่นยังด้อยกว่านิดหน่อย หลังจากเดินหมากอีกสิบกว่าตา ตงฟางเวิ่นก็พ่ายแพ้ราบคาบ ปราชัยต่อเขาในหมากกระดานนี้
“ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยมจริง ๆ!”
“เก่งกาจเกินไปแล้ว!”
เหล่าบัณฑิตรอบ ๆ พากันส่งเสียงอุทาน ความสามารถด้านหมากของหลี่จิ่วเต้าและตงฟางเวิ่นเหนือชั้นกว่าพวกเขาจนยากจะไล่ตามได้ทัน หมากกระดานนี้ช่วยเพิ่มความรู้และประสบการณ์ให้พวกเขามหาศาล
ยอดเยี่ยมหรือ?
ตงฟางเวิ่นยิ้มขมขื่นในใจ จุดที่ยอดเยี่ยมที่สุดพวกเจ้ามองไม่เห็น!
กระดานหมากล้อมที่ถักทอด้วยกฎวิถีสวรรค์ ดาวนับร้อยล้านดวงกลายเป็นหมากดำขาว นี่ต่างหากจุดที่ยอดเยี่ยมที่สุด!
และถึงแม้เขาจะแพ้หมากกระดานนี้ ทว่าเขากลับได้รับประโยชน์มหาศาล!
ตงฟางเวิ่นสัมผัสได้ว่าวิญญาณและหทัยเต๋าของเขาพลังเพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว เขาในตอนนี้มีวิญญาณและหทัยเต๋าที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าตี้จวินเสียอีก!
นี่มันเรื่องอันใดกัน!?
ท่านเซียนไม่ฆ่าเขาแต่ยังช่วยเขาบำเพ็ญอีกหรือ?
เขาสับสนนิดหน่อย ท่านเซียนมีจุดประสงค์ใดกันแน่!
“ท่านผู้เฒ่ามีฝีมือเดินหมากใช้ได้เลย!”
หลี่จิ่วเต้ากล่าว “เมื่อครู่ข้าเป็นฝ่ายหมากดำมีสิทธิ์เดินก่อน ได้เปรียบทางกลยุทธ์ หนนี้เราสลับกัน เล่นกันอีกตา ท่านผู้เฒ่าถือหมากดำเดินก่อนได้เลย”
ฝีมือการเล่นหมากของตงฟางเวิ่นได้รับการยอมรับจากเขา เขาตัดสินใจเล่นกับตงฟางเวิ่นอีกสักตา
เล่นต่อหรือ!?
ตงฟางเวิ่นยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่ ไม่เข้าใจว่าท่านเซียนต้องการทำอะไร
“ได้”
เขามิกล้าถามให้มากความ จึงตกลงตามน้ำไป
ถึงอย่างไรดูจากสถานการณ์ตอนนี้ ทุกอย่างล้วนดำเนินไปในทางที่ดี ตราบใดที่เขาไม่บุ่มบ่ามหาเรื่องตาย สุดท้ายคงไม่เป็นไร
หลี่จิ่วเต้าแลกหมากกับตงฟางเวิ่น หนนี้ตงฟางเวิ่นถือหมากดำมีสิทธิ์เดินก่อน ชายหนุ่มถือหมากขาวต้องเดินทีหลัง
หมากจรดลงบนกระดาน กฎวิถีฟ้าดินปรากฏอีกครั้ง ประสานถักทอกลายเป็นกระดานหมาก ดาราร้อยล้านดวงหลอมรวมเข้ามา กลายเป็นหมากดำหมากขาว
“ก้าวหน้าได้ไวดีนี่!”
หลี่จิ่วเต้าอึ้งนิดหน่อย ขณะคิดในใจ
หนนี้ที่เล่นหมากกับตงฟางเวิ่นอีกครั้ง เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความก้าวหน้าของตงฟางเวิ่น มิใช่ความได้เปรียบที่มาจากการมีสิทธิ์เดินหมากก่อน หากแต่เป็นการยกระดับความสามารถหมากล้อมอย่างแท้จริง!
ตงฟางเวิ่นไม่ธรรมดา เรียนรู้ได้เร็วยิ่ง!
ส่งผลให้หลี่จิ่วเต้ายิ่งสนุกเข้าไปใหญ่ เขาชอบคู่ต่อสู้ฝีมือก้าวหน้าอย่างมากเช่นนี้เป็นที่สุด เช่นนี้การเล่นหมากถึงจะสนุก หากเทียบกับตาก่อนแล้วไม่มีการพัฒนาแต่อย่างใด ไร้ซึ่งความแตกต่าง เช่นนั้นเล่นไปแล้วจะสนุกตรงไหน
ผู้เฒ่าก้าวหน้าได้ว่องไวปานนี้เชียวหรือ?
บัณฑิตรอบ ๆ ต่างเห็นการพัฒนาของตงฟางเวิ่นกันถ้วนหน้า พวกเขาสะท้อนใจว่าไม่อาจสู้ ตงฟางเวิ่นอายุปูนนี้แล้ว ยังพัฒนาฝีมือได้รวดเร็วเยี่ยงนี้ พวกเขารู้สึกละอายใจเหลือแสน
เทียบกับตงฟางเวิ่นแล้ว พวกเขาอ่อนเยาว์กว่ามาก ตามปกติพวกเขาควรก้าวหน้าได้ไวกว่าจึงจะถูก ทว่าเอาเข้าจริง ๆ ตงฟางเวิ่นกลับพัฒนาฝีมือได้เร็วกว่าพวกเขามากนัก พวกเขารู้ตัวว่าเร็วได้ไม่เท่าเขา
กระดานนี้ใช้เวลานานกว่ากระดานที่แล้ว
หลังจากกระดานนี้จบ ตงฟางเวิ่นได้รับประโยชน์ยิ่งขึ้นกว่าเดิม พลังวิญญาณและพลังหทัยเต๋าของเขายกระดับอีกครั้ง
เขาในตอนนี้รู้สึกได้ว่าวิญญาณและหทัยเต๋าของเขามาถึงจุดสูงสุดของขั้นตี้จวิน อีกเพียงนิดเดียวก็เทียบชั้นเทียนตี้
ถึงแม้เขาพัฒนาฝีมือขึ้นมาก กระนั้นยังไม่อาจทัดเทียมท่านเซียน กระดานนี้จบด้วยความพ่ายแพ้เช่นเดิม
“เล่นต่ออีกตาเถิด”
หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม เอ่ยปากชวนเล่นต่ออีกตา
ตงฟางเวิ่นก้าวหน้าได้ไวเยี่ยงนี้ กระตุ้นความสนใจของเขา เขาอยากเดินหมากเช่นนี้กับตงฟางเวิ่นต่อไป เพื่อให้ความสามารถด้านหมากของตงฟางเวิ่นยกระดับขึ้นอีก
เช่นนี้เขายิ่งเล่นคงยิ่งสนุก
คู่ต่อสู้ด้านหมากดี ๆ หาได้ยากยิ่ง เขาอยากให้ฝีมือเดินหมากของตงฟางเวิ่นก้าวหน้ายิ่งขึ้น เช่นนั้นต่อจากนี้เขาจะได้มีคู่ต่อสู้ด้านหมากเสียที
ถึงอย่างไร ยิ่งตงฟางเวิ่นเก่งกาจด้านหมากล้อมเพียงใด ยามเล่นกับเขาก็ยิ่งสนุก
เล่นอีกหรือ?
ตงฟางเวิ่นจับต้นชนปลายไม่ถูก กระนั้นยังตอบออกไป “ได้”
มีแต่คนโง่เท่านั้นถึงปฏิเสธ!
การเล่นหมากตาแล้วตาเล่านี้ล้วนเป็นวาสนาการเปลี่ยนแปลงสูงสุด!
นอกจากนี้ ขืนบังอาจปฏิเสธท่านเซียน เกรงว่าเขาคงใกล้ตายแล้วเต็มที
เขาไม่มีทางทำอะไรโง่เง่าเช่นนั้น!
กระดานแล้วกระดานเล่า หลี่จิ่วเต้าเล่นกับตงฟางเวิ่นอีกหลายตา
ความสามารถในการเรียนรู้ของตงฟางเวิ่นสุดยอดจริง ๆ จบกระดานทุกครั้งล้วนสัมผัสได้ว่าเขาก้าวหน้าขึ้นอย่างชัดเจน มีฝีมือการเล่นหมากเก่งขึ้น
และทุกกระดานที่เขาเล่นกับตงฟางเวิ่นก็นานขึ้นเรื่อย ๆ
อีกด้าน อย่าให้พูดเลยว่าวิญญาณและหทัยเต๋าของตงฟางเวิ่นพัฒนารวดเร็วปานใด บัดนี้ พลังวิญญาณและพลังหทัยเต๋าของเขาเทียบเคียงเทียนตี้ได้แน่นอน มิหนำซ้ำยังจะเก่งกว่าเทียนตี้ทั่วไปอีกด้วย!
ส่งผลให้เขาตื้นตันใจเหลือคณา
เขาเป็นเพียงตี้หวง ทว่าบัดนี้พลังวิญญาณและพลังหทัยเต๋ากลับแข็งแกร่งเกินเทียนตี้ทั่วไปเสียอีก เลิศล้ำเกินไปแล้ว หากเป็นเขาในอดีต แค่คิดยังมิกล้า!
“ผู้เฒ่าเวิ่นฉกาจยิ่ง พัฒนาฝีมือเล่นหมากได้รวดเร็วปานนี้ น่าเสียดาย ผู้เฒ่าเวิ่นมิได้พำนักอยู่ในเมืองชิงซาน มิฉะนั้น ข้าคงได้ไปเล่นหมากกับผู้เฒ่าเวิ่นทุกวัน”
หลี่จิ่วเต้าพูดอย่างนึกเสียดาย “สถานที่ผู้เฒ่าเวิ่นอาศัยค่อนข้างไกลจากเมืองชิงซาน ใช้เวลาไปกลับนานเกินไป…”
เขาชื่นชอบการเล่นหมาก ทว่าโดยปกติน้อยครั้งนักจะได้เล่น เพราะหาคู่ต่อสู้ไม่ได้จริง ๆ
ตงฟางเวิ่นพัฒนาฝีมือได้ว่องไวเพียงนี้ นับเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่เลวจริง ๆ
ทว่าน่าเสียดาย ตงฟางเวิ่นอยู่ไกลเกินไป ไปกลับมิสู้จะสะดวกเท่าไร
ห่างกันค่อนข้างไกลหรือ?
เวลาไปกลับนานเกินไปหรือ?
ระยะห่างแค่นี้ไกลหรือ?
ตงฟางเวิ่นงุนงงไปนิดหน่อย ระยะห่างแค่นี้อย่าว่าแต่ท่านเซียนเลย ต่อให้เป็นผู้ฝึกตนเล็ก ๆ ก็มาถึงได้ในไม่กี่อึดใจ ไม่อาจเรียกว่าไกลได้เลย
ทว่าเหตุใดท่านเซียนถึงเอ่ยเช่นนี้
รู้แล้ว!
เข้าใจแล้ว!
ตงฟางเวิ่นรู้ตัวอย่างรวดเร็ว อึดใจเดียวก็เข้าใจทุกอย่าง!
ประเด็นมิใช่ประโยคท่อนหลังของท่านเซียน หากแต่เป็นประโยคท่อนแรกของท่านเซียน!
ท่านเซียนบอกว่าเสียดายที่เขามิได้พำนักในเมืองชิงซาน!
ยังไม่เข้าใจอีกหรือ
ท่านเซียนบอกให้เขาย้ายไปพำนักในเมืองชิงซาน!
นี่…นี่…นี่ท่านเซียนจะรับเขาไว้ใต้บัญชาหรือ
“ข้าเก็บตัวอยู่ที่นี่เพื่อลับฝีมือด้านหมาก บัดนี้ได้พบยอดฝีมือวิถีหมากล้อมเฉกเช่นคุณชาย ถือเป็นเกียรติของข้า!”
ตงฟางเวิ่นรีบบอก “ข้านับถือฝีมือการเล่นหมากล้อมของคุณชายยิ่ง หากคุณชายไม่รังเกียจ ข้ายินดีย้ายไปอาศัยในเมืองชิงซาน เล่นหมากเป็นเพื่อนคุณชายทุกวัน!”
ในฐานะสมาชิกเครือข่ายข่าวสารเทียนตี้ขั้นห้า ฐานะนี้ถือเป็นเกียรติยศสูงสุดอย่างแน่นอน
ช่างเกียรติยศอะไรนั่นไปตายซะ ข้าจะติดตามท่านเซียน!