รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 826 ส่งมอบโลงศพในวันมงคล!
บทที่ 826 ส่งมอบโลงศพในวันมงคล!
“มียางอายเสียสักนิดก็ดี! เจ้าอายุตั้งเท่าใด? กลับยังต้องการมาสู้กับเด็กอายุเพียงสิบปี ไม่รู้สึกละอายบ้างหรือ? หน้าเจ้าไปไหนเสียแล้ว?”
สุนัขสีดำเดินออกมา ดวงตาเปล่งประกายไม่เป็นมิตร จับจ้องไปทางผู้แข็งแกร่งวัยกลางคนที่ต้องการลงสนาม
นี่คือผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในขอบเขตลอยชายแล้ว ทั้งยังอยู่ประมาณขั้นที่หก ส่วนพวกต้าเต๋อและอ้ายฉานมากสุดก็อยู่เพียงแค่ขั้นที่สองเท่านั้น
หากต้องสู้กันจริง ๆ เกรงว่าพวกต้าเต๋อจะต้องย่ำแย่อย่างแน่นอน
“ก่อนหน้านี้ข้าได้เอ่ยไปแล้ว ผู้ฝึกตนล้วนไม่สนทนาเรื่องอายุ เคารพกันที่พลัง เหล่าสหายน้อยแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ย่อมสามารถนับเป็นรุ่นเดียวกับข้าได้ การแลกเปลี่ยนวิชาย่อมไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย”
ผู้แข็งแกร่งวัยกลางคนยืนกรานด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
อันที่จริง นี่นับว่าน่าอับอายขายหน้าอยู่บ้าง อย่างไรเสียพวกต้าเต๋อก็ยังนับว่าเด็กไปมากจริง ๆ ทว่าเขาก็ต้องกัดฟันโยนใบหน้าทิ้งไป เพราะต้องการจะทราบความตื้นลึกหนาบางของอาณาจักรแห่งนี้!
นี่นับเป็นโอกาสอันหาได้ยาก ไม่ว่าอย่างไรเขาก็มีคำว่า ‘การแลกเปลี่ยนวิชา’ คุ้มอยู่ ท้ายที่สุดแม้ว่าอาณาจักรแห่งนี้จะน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง ก็จะไม่เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับเขา
หากพลาดครั้งนี้ พวกเขาก็นับว่าสูญเสียโอกาสอันดีไป เมื่อหาญกล้าก่อเรื่องขึ้นมาแล้ว เกรงว่าจะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นได้
“ใช่ สหายน้อยเหล่านี้นับได้ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนที่สามารถเทียบเคียงพวกเราได้”
“สหายน้อยมีพรสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่งตั้งแต่อายุยังน้อย สิ่งที่ทำให้พวกเราอดทนไม่ไหวจริง ๆ ต้องการจะแลกเปลี่ยนวิชากัน”
“การแลกเปลี่ยนวิชาระหว่างสหายไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่อย่างใด พวกเราเหล่าผู้ฝึกตนก็มักจะแลกเปลี่ยนวิชากันบ่อย ๆ ไม่ใช่หรือ?”
เหล่าผู้แข็งแกร่งวัยกลางคนอีกหลายคนออกมา ต้องการจะลงสนาม พวกเขาเองก็กระจ่างแจ้งชัดว่าโอกาสเช่นนี้หาได้ยาก ไม่ต้องการจะพลาดไป
เอ่ยออกมาหน้าไม่อาย!
สีหน้าของสุนัขสีดำเย็นเยียบ ขอบเขตห่างกันหลายขั้นเพียงนี้ ยังจะนับว่าเท่าเทียมได้อย่างไร?
ขอบเขตลอยชายกว้างใหญ่เป็นอย่างยิ่ง แต่ละขั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน ไม่รู้ว่ามีสิ่งมีชีวิตตั้งมากน้อยเพียงใดที่ใช้ทั้งชีวิตก็ไม่อาจก้าวสู่ขั้นถัดไปได้
อาจารย์และลูกศิษย์จำนวนมากในขอบเขตนี้มีระดับขั้นต่างกันเพียงแค่หนึ่งหรือสองขั้นเท่านั้น เช่นนี้การมานับว่าเท่าเทียมกันถือเป็นเรื่องน่าขบขันโดยสิ้นเชิง
มันกระจ่างแจ้งในจุดประสงค์ของผู้แข็งแกร่งวัยกลางคนเหล่านี้ดี พวกเขาไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ต้าเต๋อ แต่ต้องการจะล่อให้ผู้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าออกมา เพื่อทดสอบความตื้นลึกหนาบางของอาณาจักรแห่งนี้
“คุณชาย ท่านให้ข้าไปเถิด หากพวกเขาต้องการแลกเปลี่ยนวิชา เช่นนั้นข้าจะเป็นคู่มือให้เอง”
สุนัขสีดำต้องการจะลงมือ จึงหันไปขอคำอนุญาตจากคุณชาย
หลี่จิ่วเต้าเองก็มองออก ดูแล้วพวกต้าเต๋ออาจไม่ใช่คู่มือของผู้แข็งแกร่งวัยกลางคนเหล่านั้น ทำให้สุนัขสีดำเอ่ยวาจาออกมา ต้องการจะออกไปสู้เอง
คิดดูแล้วก็ใช่ แม้ว่าพวกต้าเต๋อจะมีพรสวรรค์สูงล้ำเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรเสียอายุก็ยังน้อยยิ่งนัก ไม่อาจเทียบเท่าได้กับผู้แข็งแกร่งวัยกลางคนเหล่านี้
“ตกลง”
หลี่จิ่วเต้าพยักหน้า เห็นชอบให้สุนัขสีดำออกไปต่อสู้
เนื่องจากสุนัขสีดำเป็นฝ่ายเอ่ยปากออกมาเอง ดังนั้นสุนัขสีดำย่อมต้องมีความมั่นใจที่จะสามารถเอาชนะผู้แข็งแกร่งวัยกลางคนเหล่านั้นได้ เขาเองก็ไม่มีสิ่งใดต้องกังวล
“รับทราบ!”
หลังจากได้รับคำยินยอมจากคุณชาย สุนัขสีดำก็แย้มยิ้มกว้าง หางที่เหลือครึ่งหนึ่งกระดิกอย่างแรง
“โฮ่ง พวกเจ้าคิดประลอง เช่นนั้นข้าจะเป็นคู่มือเอง!”
สุนัขสีดำเดินออกไปด้านหน้า ยืดตัวขึ้นยืนตรง อุ้งขาหน้าทั้งสองไขว่หลังเอาไว้ ดูวางท่าเป็นอย่างยิ่ง
“ตัวต่อตัวน่าเบื่อเกินไป พวกเจ้าเข้ามาพร้อมกันเสีย!”
มันปรายตามองเหล่าผู้แข็งแกร่งวัยกลางคนอย่างไม่แยแส
โอหังเกินไปแล้ว!
โทสะพลุ่งพล่านภายในใจของผู้แข็งแกร่งวัยกลางคนเหล่านั้น สุนัขสีดำตนนี้หยิ่งผยองไม่แพ้กับพวกต้าเต๋อ หรืออาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ!
ทว่าแม้พวกเขาจะโกรธ แต่ก็ยังให้ความจริงจังกับสุนัขสีดำเป็นอย่างมาก
ความผยองจำเป็นต้องมีทุน สุนัขสีดำกล้าผยองถึงเพียงนี้ แสดงว่าย่อมต้องไม่ธรรมดา ไม่อาจจัดการได้โดยง่าย พวกเขาเข้าใจว่าสุนัขสีดำอยู่เบื้องหลังต้าเต๋อไปอีกที!
‘เกรงว่าหลี่จิ่วเต้าคนนั้นจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด!’
‘ทุกคนต่างเคารพเขาเป็นอย่างมาก กระทั่งสุนัขสีดำยังต้องขอคำยินยอมจากเขา…’
พวกเขาต่างตัดสินว่าหลี่จิ่วเต้าจะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่า ภายในใจของเขาต้องการจะต่อสู้กับหลี่จิ่วเต้ามากขึ้น
แต่พวกเขาก็เข้าใจดี หากพวกเขาไม่สามารถเอาชนะสุนัขสีดำ เกรงว่าคงไม่อาจประลองกับหลี่จิ่วเต้าได้
“สหายเจ้าอย่าล้อเล่นเลย! ข้าจะเป็นผู้ประลองกับสหายเอง!”
มีผู้แข็งแกร่งวัยกลางคนเอ่ยปาก ก่อนรีบตรงเข้าใส่สุนัขสีดำ เขาไม่ต้องการให้ผู้อื่นลงมือต่อกรกับสุนัขสีดำร่วมกัน
“สหาย? เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาเรียกข้าว่าสหาย? ดูจากคำพูดของเจ้าแล้ว ผู้ฝึกตนเคารพกันที่พลัง เช่นนั้นเจ้าก็ควรเรียกข้าว่าท่านปู่!”
สุนัขสีดำพ่นลมหายใจเย็นชา ไม่ไว้หน้าอีกฝ่ายแม้แต่น้อย มันรู้ดีว่าเบื้องหลังของผู้แข็งแกร่งวัยกลางคนเหล่านี้ต้องการจะสร้างความวุ่นวายในงานแต่งของสือเฟิง เพื่อต้องการจะประเมินความแข็งแกร่งของอาณาจักรแห่งนี้
มันตะปบกรงเล็กออกไป พลังอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งเป้าไปที่ผู้แข็งแกร่งวัยกลางคนภายในพริบตา!
ผู้แข็งแกร่งวัยกลางคนตกตะลึง จิตวิญญาณสั่นสะท้าน นี่เป็นพลังที่เขาไม่อาจต้านทานได้โดยสิ้นเชิง ช่องว่างใหญ่เกินกว่าจะเปรียบเทียบได้!
เขาระเบิดพลังในร่างออกมา อีกทั้งยังเรียกให้สมบัติล้ำค่าออกมาเพื่อต้านทานกรงเล็บของสุนัขสีดำ
ทว่าทั้งหมดล้วนเปล่าประโยชน์
สมบัติล้ำค่าที่เขาเรียกออกมาถูกอุ้งเท้าของสุนัขสีดำทำลายทิ้งทันที อีกทั้งร่างของเขายังตีลอยกระเด็น กระอักเลือดออกจากปาก ได้รับบาดเจ็บสาหัส!
ทันใดนั้นเอง สิ่งมีชีวิตจำนวนมากก็ต่างอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง พรั่นพรึงกับความแข็งแกร่งของสุนัขสีดำ
ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตจากจักรวาลโกลาหลอื่น หรือกระทั่งสิ่งมีชีวิตของจักรวาลโกลาหลแห่งนี้ พวกเขาต่างล้วนตื่นตะลึง ภายในใจเต็มไปด้วยความระทึก!
สุนัขสีดำแข็งแกร่งเกินไป!
เพียงแค่กรงเล็บเดียวก็สามารถทำลายสมบัติล้ำค่าได้ พลังเช่นนี้สามารถสังหารพวกเขาได้ภายในพริบตาโดยไร้ปัญหาใด ๆ!
นี่คือพลังของอาณาจักรแห่งนี้หรือ?
พวกเขาต่างก็คิดไปในทางเดียวกัน สุนัขสีดำแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เช่นนั้นแล้วหลี่จิ่วเต้าจะแข็งแกร่งถึงเพียงใด?
พริบตานั้นเอง ภายในใจของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกโชคดี ยังดีที่พวกเขายังไม่ได้ลงมือใด ๆ ไม่เช่นนั้นจะต้องประสบเคราะห์ครั้งใหญ่แล้วจริง ๆ!
“ยังมีผู้ใดคิดต้องการแลกเปลี่ยนวิชาอีกหรือไม่?”
สุนัขสีดำยืดตัวตรงแล้วกล่าวออกมา “หากยังต้องการแลกเปลี่ยนวิชา ก็สามารถมาหาข้าได้ทุกเมื่อ!”
ทุกคนต่างพูดไม่ออก จะมีผู้ใดกล้าไปหาสุนัขสีดำเพื่อแลกเปลี่ยนวิชากัน?
ย่อมไม่มี!
หากทำเช่นนั้นจริง ก็มีแต่จะหาเรื่องใส่ตัว และไม่มีทางมีผลลัพธ์เป็นอื่น!
ยอดฝีมือจากจักรวาลโกลาหลต่าง ๆ พากันถอนหายใจอย่างหนัก เดิมทีพวกเขาต้องการจะต่อสู้แย่งชิงอาณาจักรแห่งนี้ เพื่อครอบครองสถานที่ที่ดีสุด
ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นการดีกว่าหากพวกเขาทำตัวซื่อตรงเข้าไว้
ไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจตายไปแบบไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ!
“วันมงคลเช่นนี้ ทุกคนต่างก็มาเพื่อแสดงความยินดี ข้าหวังว่าทุกคนจะสามารถมีความสุข คิดวางแผนหรือต่อยตีกันน้อยลง”
หลี่จิ่วเต้าก้าวไปด้านหน้าแล้วเอ่ยปากออกมา
เขากำลังเตือนเหล่าผู้มีความคิดแผนการ ให้ทิ้งความคิดไร้สาระเหล่านั้นลงเสีย ในวันแต่งงานของสือเฟิง ไม่มีที่ว่างสำหรับเรื่องวุ่นวาย!
หลังจากนั้นเขากับพวกลั่วสุ่ยก็ตามสือเฟิงเข้าไปยังนิกายอวี้ซวี
เมื่อสุนัขสีดำลงมือแล้ว เหล่าสิ่งมีชีวิตที่ต้องการสร้างปัญหาพลันหยุดความคิดทันทีอย่างไม่ลังเล
“เร็วเข้า เตรียมของขวัญที่ดีที่สุดให้ข้าแล้วรีบส่งมอบเสีย!”
“นำไข่มุกนภามา!”
ยอดฝีมือจากทุกจักรวาลโกลาหลติดต่อกับสมาชิกภายในกองกำลังของตน บอกให้พวกเขานำของขวัญที่ดีที่สุดมา
ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะส่งมอบของขวัญให้ ดังนั้นจึงไม่ได้นำสิ่งใดติดมาด้วย ทำให้ยามนี้ต้องเตรียมของขวัญอย่างเร่งรีบ
พวกหลี่จิ่วเต้าที่อยู่เบื้องหลังสือเฟิงนั้นแข็งแกร่งเกินไป ยามนี้พวกเขายังจะกล้าละเลยสือเฟิงได้อย่างไร ต่างก็ให้ความสำคัญกับสือเฟิงเป็นอย่างมาก
ภายในนิกายอวี้ซวี
สือเฟิงได้เตรียมห้องรับรองอย่างดีไว้สำหรับพวกหลี่จิ่วเต้าแล้ว เมื่อตกกลางคืน หลี่จิ่วเต้าก็บอกให้เหล่าบรรดาคนรู้จักของเขามาที่นี่ เพื่อรวมตัวกันร่ำสุราสักเล็กน้อย
เมื่อพวกเขาดื่มกันจนพอใจ สุดท้ายก็แยกย้ายกลับห้องเพื่อพักผ่อน
วันใหม่มาถึงอย่างรวดเร็ว นี่เป็นวันแต่งงานของสือเฟิง!
ทุกหนแห่งในนิกายอวี้ซวีต่างยุ่งวุ่นวาย ตกแต่งประดับประดาด้วยกระดาษมงคล ทุกหนแห่งต่างเต็มไปด้วยความยินดี
สือเฟิงสวมชุดเจ้าบ่าว หลี่จิ่วเต้าที่เห็นก็อดชื่นชมไม่ได้ เมื่อสือเฟิงอยู่ในชุดเจ้าบ่าวแล้วช่างแตกต่าง หล่อเหลายิ่งกว่ายามปกติเป็นอย่างมาก
เมื่อถึงเวลา สือเฟิงก็รับเจ้าสาวอย่างฉินซินมา ทุกคนต่างประหลาดใจกับความงดงามของฉินซิน
ฉินซินมีรูปร่างอิ่มเอิบ ดูงดงามเป็นพิเศษในชุดแต่งงานสีแดง
“วันนี้เจ้าสวยที่สุด!”
หลี่จิ่วเต้ายิ้ม ก่อนมอบของขวัญที่เขาเตรียมด้วยตัวเองให้
มีแหวนเพชรคู่หนึ่ง อีกทั้งยังมีเครื่องประดับเพชรครบชุด
เขาส่งมอบของให้กับสือเฟิง บอกให้สือเฟิงนำไปให้ฉินซินด้วยตัวเอง
“ขอบคุณ คุณชาย!”
สือเฟิงตื้นตันจนน้ำตาริน คุณชายให้ความสำคัญกับพวกเขามาก ถึงกับทำแหวนและเครื่องประดับเพชรให้ด้วยตนเอง
ทันทีที่เขารับแหวนเพชรและเครื่องประดับเพชรไป ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความเหนือชั้นไม่ธรรมดา พวกมันต่างก็เป็นสมบัติที่ไม่อาจระบุระดับขั้นได้ มีพลังมหาศาลเกินกว่าจะจินตนาการได้
นอกจากนี้ยังมีกฎเกณฑ์บางอย่างอยู่บนแหวนเพชรและเครื่องประดับเพชร นี่เป็นกฎเกณฑ์ที่สามารถท้าทายสวรรค์ได้อย่างแน่นอน น่าหวาดกลัวเกินกว่าจะสามารถเอื้อนเอ่ยออกมา สือเฟิงรู้สึกว่าหากมีแหวนและเครื่องประดับเพชรเหล่านี้ ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นในอนาคต เขาก็มั่นใจในความปลอดภัยอย่างไร้กังวล จะต้องมิมีปัญหาอันใดเกิดขึ้น!
แม้ว่าสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ จะไม่อาจสัมผัสได้ชัดเจนเท่าสือเฟิง แต่พวกเขาก็ยังสามารถมองออกได้ว่าแหวนและเครื่องเพชรเหล่านี้เป็นสมบัติล้ำค่าจนไม่อาจจินตนาการถึงได้ ระดับของพวกมันสูงเสียจนทำให้คนตกใจจนตายได้!
เมื่อเทียบกับแหวนและเครื่องประดับเพชรแล้ว สมบัติต่าง ๆ ของพวกเขาล้วนเป็นเพียงแค่เศษขยะไม่อาจเปรียบเทียบได้แม้แต่น้อย!
ใจกว้างเกินไปแล้ว!
ภายในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย นี่คือผลงานจากสิ่งมีชีวิตสูงสุดใช่หรือไม่? เครื่องประดับเหล่านี้น่าตื่นตะลึงเหนือชั้นเป็นอย่างยิ่ง!
อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
หลังจากหลี่จิ่วเต้ามอบของขวัญแล้ว พวกเซี่ยเหยียนก็พากันทยอยก้าวออกไปด้านหน้าเพื่อมอบของขวัญที่ตนนำมา
ของขวัญที่พวกเขาหยิบออกมา ไม่มีชิ้นใดธรรมดา ต่างล้วนพิเศษจนทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดตื่นตะลึง!
“สวรรค์ แม้ว่าพวกเราจะรวบรวมสมบัติจากทั้งจักรวาลโกลาหลของพวกเรา ก็ไม่อาจเทียบได้กับของขวัญใดสักชิ้น…”
ไม่ต้องกล่าวเลยว่าผู้แข็งแกร่งจากจักรวาลโกลาหลอื่นรู้สึกอิจฉามากเพียงใด
ของขวัญที่สือเฟิงได้รับจะมากเกินไปแล้ว ทุกสิ่งล้วนน่าตื่นตะลึงไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาต่างเชื่อว่าของขวัญเหล่านั้นที่สือเฟิงได้รับ ต่อให้เอาสมบัติทั้งจักรวาลโกลาหลของพวกตนมามัดรวมกันก็ไม่สามารถเทียบได้ ต่างกันไม่รู้ตั้งกี่เท่า!
“ขอบคุณทุกท่าน!”
สือเฟิงเต็มไปด้วยความซาบซึ้งตื้นตันใจ ทุกคนต่างเห็นเขาเป็นคนสำคัญ ดูจากของขวัญเหล่านี้แล้ว เขาสามารถเห็นได้ว่าทุกคนต่างก็ตั้งใจเลือกมา!
“ไม่ต้องขอบคุณ! อย่าลืมปฏิบัติต่อฉินซินให้ดี พวกเราทุกคนล้วนเป็นครอบครัวฝ่ายมารดาของฉินซิน หากพวกเรารู้ว่าเจ้าทำไม่ดีกับฉินซิน พวกเราย่อมไม่มีทางปล่อยเจ้าไป!”
หลี่จิ่วเต้ายิ้มพร้อมเอ่ยกับสือเฟิง
“ขอบคุณคุณชายสำหรับการสนับสนุน!”
หลังจากได้ยิน ฉินซินก็ยิ้มออกมาอย่างเบิกบาน มีความสุขเป็นอย่างยิ่ง
ครอบครัวมารดา!
ฮิฮิ คุณชายใจดีมาก!
“เอาล่ะ อย่าได้ทำให้การมอบของขวัญของผู้อื่นล่าช้าไปเลย”
หลี่จิ่วเต้ายิ้มแล้วจากไปพร้อมกับพวกลั่วสุ่ย ปล่อยให้คนอื่น ๆ ที่ยังต้องการจะมอบของขวัญเข้ามา
หลังจากนั้นก็มีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากเข้ามามอบของขวัญ ทุกอาณาจักร แดนบรรพโกลาหล กระทั่งต่างจักรวาลโกลาหลล้วนแล้วแต่มอบของขวัญที่ดีที่สุดให้กับสือเฟิง
แน่นอนว่าของขวัญเหล่านั้นยังห่างไกลไม่อาจเทียบได้กับของขวัญที่หลี่จิ่วเต้าและคนอื่น ๆ มอบให้ เมื่อเทียบกับของขวัญที่พวกหลี่จิ่วเต้ามอบให้แล้ว ของขวัญเหล่านี้ช่างดูจืดชืด ธรรมดาเสียจนไม่รู้จะธรรมดาเช่นไร
คนของนิกายอวี้ซวีบรรเลงดนตรีรื่นเริง สือเฟิงสวมแหวนและเครื่องประดับเพชรให้ฉินซิน ก่อนฤกษ์ยามมงคลจะมาถึง สิ้นสุดช่วงมอบของขวัญ ก็เป็นการกราบไว้ฟ้าดินของพวกเขา!
ฉินซินสวมแหวนและเครื่องประดับเพชร ทำให้งดงามตราตรึง แหวนและเครื่องประดับเพชรขับเน้นให้ฉินซินงดงามอย่างไม่อาจหาที่เปรียบได้
“ช้าก่อน พวกข้ายังไม่ได้ส่งมอบของขวัญเลย!”
ทว่าในตอนนั้นเอง พลันมีเสียงเหยียดหยันดังขึ้นมา ในช่วงเวลามงคลเช่นนี้ เสียงที่ดังขึ้นมานับว่าโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง!
“พวกข้าได้ส่งโลงศพคู่ให้พวกเจ้าแล้ว หวังว่าพวกเจ้าจะได้เข้าไปในเร็ววัน อาศัยอยู่ภายในด้วยกัน!”
มีโลงศพสีดำขนาดใหญ่ลอยเข้ามาก่อนตกลงไปภายในนิกายอวี้ซวี
ยอดฝีมือจากปรโลกปรากฏตัวแล้ว!