รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人 - บทที่ 839 กงเกวียนกำเกวียน ผู้ทำชั่วย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย!
- Home
- รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人
- บทที่ 839 กงเกวียนกำเกวียน ผู้ทำชั่วย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย!
บทที่ 839 กงเกวียนกำเกวียน ผู้ทำชั่วย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย!
เลือดสาดกระเซ็น ฝนโลหิตโปรยปรายอยู่ทั่วฟ้า จ้าวเฉินเย็นชาไร้ความปรานี ไม่เห็นสิ่งมีชีวิตภพเซียนในสายตาสักนิด พริบตาเดียวก็สังหารไปจำนวนมาก!
พื้นดินถูกย้อมเป็นสีแดงแล้ว เศษเนื้อและท่อนกระดูกกองเป็นภูเขาลูกแล้วลูกเล่า ต้นไม้ยอดเขาอันสูงใหญ่ต่างกลายเป็นต้นโลหิตและเขาโลหิต ทุกสิ่งที่มองเห็นล้วนเป็นสีชาด!
สิ่งมีชีวิตอีกจำนวนไม่น้อยในภพเซียนพากันมองมาที่นี่
พวกเขาเป็นเช่นเดียวกับจ้าวเฉิน ล้วนมาจากจักรวาลโกลาหลอื่น อยู่ในขอบเขตลอยชาย
กับการฆ่าล้างอันอำมหิตของจ้าวเฉิน พวกเขามิได้รู้สึกรู้สาอะไร แต่ละคนต่างมีสีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก
แมลงกลุ่มหนึ่งเท่านั้น หาใช่เรื่องใหญ่ไม่
ต่อให้จ้าวเฉินไม่ฆ่า วันหน้าพวกเขาก็ต้องลงมืออยู่ดี
ภพเซียนวิเศษถึงเพียงนี้ สสารระดับสูงพวยพุ่งไม่หยุด เหนือกว่าจักรวาลโกลาหลที่พวกเขาอยู่มามากนัก พวกเขาตัดสินใจไว้นานแล้วว่าจะรับสมาชิกในกองกำลังของพวกเขาแต่ละคนมาที่นี่ และสร้างดินแดนตระกูลขึ้นใหม่
เก็บแมลงต่ำต้อยเหล่านี้ไปรั้งแต่จะขวางมือขวางเท้า
“ภาพนี้ควรเกิดขึ้นนานแล้ว หากจะโทษก็ต้องโทษตัวพวกเขาเองที่อ่อนแอเกินไป ไม่มีวาสนาแบกรับวาสนาการเปลี่ยนแปลงอันสะท้านโลกันตร์นี้”
อสูรปีกมหึมาตนหนึ่งเอ่ยเสียงเย็น
ก่อนนี้พวกเขายังมิรู้ตื้นลึกหนบางของภพเซียน จึงมิกล้าผลีผลามด้วยกลัวจะเกิดเรื่อง
ต่อมา พวกเขาได้รู้ว่าทั้งหมดเป็นเพราะพวกเขาคิดมากไปเท่านั้น ในภพเซียนนี้มิมีสิ่งใดอยู่เลย เพียงแค่ได้รับผลดีไปด้วยเฉย ๆ ไม่จำเป็นต้องกลัวเกรงสิ่งใดอีก
หลังจากนั้น อสูรปีกตนนี้อ้าปากกว้าง แรงดูดมหาศาลปรากฏออกมาทันที สิ่งมีชีวิตในที่นี้ถูกอสูรปีกตนนี้กลืนกินท่ามกลางเสียงร้องด้วยความหวาดผวา
อสูรปีกตนนี้มาจากเผ่าพันธุ์อันดับต้น ๆ เริ่มแรกมันได้เข้ามาด้วยท่าทีเป็นมิตรเช่นกัน บัดนี้มันปลดปล่อยตัวเอง ไม่นึกยำเกรงต่อสิ่งใดอีก กลืนกินเผ่าอสูรเหล่านี้จนหมดเกลี้ยง
เหตุการณ์คล้าย ๆ กันนี้เกิดขึ้นอีกมากมายในพื้นที่ต่าง ๆ
บรรดาสิ่งมีชีวิตจากจักรวาลโกลาหลอื่นที่เคยเข้าร่วมพวกเขาด้วยท่าทีเป็นมิตรต่างก่อกรรมทำเข็ญอยู่ในเวลานี้ ฆ่าล้างสิ่งมีชีวิตในกองกำลังที่ตนพำนักอยู่ เสียงร้องโหยหวนดังระงมอยู่ทั่วทุกหนแห่งในภพเซียน
สำหรับพวกเขา สิ่งมีชีวิตภพเซียนเป็นเพียงแมลงต่ำต้อยเท่านั้น พวกเขาไม่นึกแยแสสักนิด สังหารได้ในพริบตา
…
ณ ดินแดนตระกูลเฟ่ย
“อ๊ากกกกก!”
ซ่างกวนอิ๋งร้องครวญครางอย่างน่าเวทนา นางถูกมดกัดทั้งตัว และมดเหล่านี้ล้วนมิใช่มดธรรมดา ยามกัดกินตัวนางได้กัดกินวิญญาณของนางไปด้วย!
วิญญาณของนางแหว่งหายไป ต้องพบเจอกับความเจ็บปวดที่ผู้อื่นทนมิไหว
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้นนางก็มิได้ยอมจำนน สายตาเด็ดเดี่ยววาวโรจน์เป็นที่สุด
“สายตาของเจ้าชวนให้ข้าไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก!”
จ้าวเฉินหรี่ตากึ่งหนึ่ง จิตมุ่งร้ายเดือดพล่านในตัว เขาไม่สนสิ่งมีชีวิตภพเซียนที่บุกเข้ามาอีกต่อไป หากแต่หวดแส้ยาวในมือเพื่อเฆี่ยนซ่างกวนอิ๋งอีกครั้ง
เขาขุ่นเคืองกับสายตาแน่วแน่เช่นนี้ของซ่างกวนอิ๋ง ไม่ว่าอย่างไร ก็จะบดขยี้แรงศรัทธาที่นางยึดมั่นในใจให้ได้
ซ่างกวนอิ๋งถูกแส้ยาวเฆี่ยนตีจนเนื้อตัวแหลกเหลว กระดูกหักไปหมด เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย
“ข้าไม่มีทางยอมจำนนต่อเจ้า!”
นางรวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อตะโกนประโยคนี้ออกมา สายตายังคงเด็ดเดี่ยว
“เรื่องนั้นเจ้าไม่มีสิทธิ์ตัดสิน!”
หน้าตาจ้าวเฉินเหี้ยมเกรียม ไฉนเลยจะยอมให้แมลงต่ำต้อยเช่นซ่างกวนอิ๋งท้าทายบารมีของเขา
เขาหวดเร็วขึ้น แรงขึ้น
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
เวลานั้นเอง ฟ้าดินพลันเดือดพล่านขึ้นมา กฎระเบียบเกินจินตนาการปรากฏ รายล้อมอยู่รอบตัวซ่างกวนอิ๋ง
“เกิดอะไรขึ้น!”
สีหน้าจ้าวเฉินเปลี่ยนไปอย่างมากในพริบตา กฎระเบียบเหล่านั้นชวนให้เขาตกตะลึง อดรู้สึกหวาดกลัวมิได้ เป็นพลังที่เหนือขอบเขตความเข้าใจของเขาไปมาก!
ขณะที่กฎระเบียบห้อมล้อม พลังมหาศาลจรดลงบนตัวซ่างกวนอิ๋ง บาดแผลในตัวซ่างกวนอิ๋งหายไปในบัดดล คืนสภาพดั่งเก่า!
ลมหายใจรวยรินของนางพลันทรงพลังแข็งแกร่งขึ้นมาเหลือแสน ทุกอิริยาบถล้วนมีพลังที่จินตนาการไม่ออกไหลเวียนอยู่!
‘คุณชาย!’
ซ่างกวนอิ๋งน้ำตาไหลนอง ร้องตะโกนในใจ นางไฉนเลยจะไม่รู้ว่ากฎระเบียบเช่นนี้ย่อมเกี่ยวข้องกับคุณชาย
คุณชายนั้นปากร้ายใจดี ทั้งที่เคยเอ่ยว่าจะไม่สนชีวิตนางอีก บอกให้นางพึ่งพาตนเองหลังจากนี้
ทว่าคุณชายก็ยังลงมือในช่วงเวลาจวนตัวของนาง จุติพลังกฎระเบียบลงมาปกป้องนาง!
อันที่จริง นางคิดไม่ผิด นี่คือพลังกฎระเบียบที่หลี่จิ่วเต้าทิ้งไว้ให้จริง ๆ
ซ่างกวนอิ๋งนั้นไม่เลวเลย หลี่จิ่วเต้าชมชอบนางมาก
แม้เขาจะเคยกล่าวเสียงขึงขังว่าจะไม่ยุ่งเรื่องของซ่างกวนอิ๋งอีก ต่อให้นางต้องพบเจอวิกฤตชีวิตก็ไม่มีทางแทรกแซงอีกแล้ว
กระนั้น ลงท้ายเขาก็มิได้ทำเช่นนั้น
ก่อนจากไปได้ทิ้งพลังไว้กระแสหนึ่งเพื่อปกป้องซ่างกวนอิ๋ง
ยามซ่างกวนอิ๋งประสบกับอันตรายที่มิอาจต่อต้าน พลังกระแสนี้จะปรากฏออกมาช่วยซ่างกวนอิ๋งไว้
สีหน้าจ้าวเฉินเปลี่ยนไปมหันต์ ในใจผวาเหลือคณา เขามิกล้าอยู่ที่นี่ต่อ หนีอุตลุดไปอย่างรวดเร็ว!
กฎระเบียบนี้น่าสะพรึงเกินไป เขาไม่มั่นใจเลยว่าจะต่อกรกับซ่างกวนอิ๋งไหว
นอกจากนี้ เขายังสบถในใจไปว่า เหตุใดแมลงต่ำต้อยอย่างซ่างกวนอิ๋งถึงมีพลังน่าประหวั่นพรั่นพรึงเช่นนี้อยู่เบื้องหลัง?!
“จะไปไหน!”
ซ่างกวนอิ๋งตวาดเสียงเย็น ฟ้าดินส่งเสียงกู่ร้องไม่หยุด ฉับพลันนั้น พลังซึ่งมองไม่เห็นเล็งไปที่จ้าวเฉิน!
จ้าวเฉินตกตะลึงแทบแย่ นี่คือพลังเช่นไรกัน?
น่ากลัวเหลือเกิน!
เขารีดเร้นพลังทั้งหมดในกายก็ยังต้านมิไหว ร่างกายถูกสะกดอยู่ที่ตรงนั้น ไม่อาจขยับเขยื้อนได้เลย!
“ไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด! ขอโอกาสให้ข้าสักครา! ข้ายินดีรับใช้ท่าน!”
จ้าวเฉินร่ำไห้ขอความเมตตา เขาไม่อยากตายอยู่ที่นี่
สสารระดับสูงพวยพุ่งอยู่ในภพเซียน การที่เขาได้ฝึกฝนที่นี่ย่อมมีอนาคตสดใส สามารถบรรลุขอบเขตซึ่งสูงกว่านี้ได้
แต่บัดนี้ ทุกอย่างได้จบสิ้นแล้ว เขาเจ็บใจยิ่งนัก!
“ไม่จำเป็น!”
สีหน้าของซ่างกวนอิ๋งเย็นชา ฟาดฝ่ามือกลางอากาศ จ้าวเฉินกระเด็นในบัดดล กลายเป็นหมอกเลือด
ทว่าจ้าวเฉินยังไม่ตาย หลอมร่างขึ้นมาใหม่
ซ่างกวนอิ๋งยั้งมือไว้ มิได้ปลิดชีพจ้าวเฉิน เพราะจ้าวเฉินสังหารสิ่งมีชีวิตภพเซียนไปจำนวนมาก นางไม่ต้องการฆ่าจ้าวเฉินไปง่าย ๆ อย่างนี้
นางตั้งใจส่งตัวจ้าวเฉินไปให้สิ่งมีชีวิตภพเซียนที่ยังเหลืออยู่จัดการ
พรวด! พรวด! พรวด!
นางกระหน่ำลงมือจนจ้าวเฉินเหลือลมหายใจเพียงเฮือกสุดท้าย ก่อนจะส่งมอบจ้าวเฉินให้สิ่งมีชีวิตภพเซียนที่เหลือจัดการ
หากไม่อัดจ้าวเฉินจนเหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย สิ่งมีชีวิตภพเซียนคงเล่นงานจ้าวเฉินมิได้
“แมลงต่ำต้อยอย่างพวกเจ้าจงหลีกไปเสีย ผู้ใดบังอาจแตะต้องตัวข้าแม้แต่ครั้งเดียว ข้าย่อมไม่ปล่อยพวกเจ้าไว้แน่!”
สิ่งมีชีวิตภพเซียนมากมายกรูไปหาจ้าวเฉิน จ้าวเฉินส่งเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง
เขายอมตายในมือซ่างกวนอิ๋งยังดีเสียกว่าตายในมือสิ่งมีชีวิตภพเซียนเหล่านี้
ในสายตาของเขา สิ่งมีชีวิตภพเซียนเหล่านี้เป็นเพียงแมลงต่ำต้อยเท่านั้น เขาไม่อนุญาตให้แมลงต่ำต้อยเหล่านี้แตะต้องตัวเขา
และเขายิ่งไม่อยากตายในมือของแมลงต่ำต้อยเหล่านี้ นับเป็นความอัปยศอันใหญ่หลวง!
“เจ้ายังมีหน้าวางมาดโอหังอีกหรือ! ป่านนี้แล้วยังทำทีสูงส่งเหนือผู้ใดอยู่อีก!”
“พวกเรามิได้จะแตะต้องตัวเจ้าครั้งเดียว เพราะพวกเราจะแยกร่างเจ้าเสีย!”
สิ่งมีชีวิตภพเซียนเอ่ยเสียงเคียดแค้น
จ้าวเฉินนั้นไร้ความเป็นมนุษย์ เพียงครู่เดียวก็สังหารสิ่งมีชีวิตภพเซียนไปแล้วตั้งไม่รู้เท่าใด
ในบรรดาสิ่งมีชีวิตภพเซียนที่ถูกฆ่า มีครอบครัวของพวกเขา มีศิษย์พี่ศิษย์น้องของพวกเขา พวกเขาต่างเคียดแค้นจ้าวเฉินเข้ากระดูกดำ!
จากนั้น พวกเขาพุ่งออกไปอย่างพร้อมเพรียง จ้าวเฉินคำรามด้วยความเจ็บปวดราวกับจะขาดใจตาย
ขณะเดียวกัน ยอดฝีมือจากจักรวาลโกลาหลอื่น ๆ ต่างตกอกตกใจ
“มิใช่กระมัง?!”
อสูรปีกผู้กลืนกินทั้งเผ่าพันธุ์เข้าไปในคำเดียวกลัวจนวิญญาณแทบออกจากร่าง
แหวะ ๆๆ!
มันรีบอ้าปากอาเจียน หมายจะขย้อนเอาอสูรที่กินเข้าไปออกมาให้หมด
ทว่าอสูรเหล่านั้นถูกมันย่อยไปหมดแล้ว ไฉนเลยจะอาเจียนออกมาได้อีก
มันไม่สามารถขย้อนสิ่งใดออกมาได้ทั้งสิ้น!
“จบเห่แล้ว!”
มันนั่งก้นจำเบ้ากับพื้น ร้องไห้เสียงดัง
ซ่างกวนอิ๋งอยู่ฝ่ายเดียวกับสิ่งมีชีวิตภพเซียน มันก่อกรรมทำเข็ญเช่นนี้ ซ่างกวนอิ๋งย่อมไม่มีทางปล่อยมันไป สิ่งที่รอมันอยู่มีเพียงความตายเท่านั้น!
“เหตุใดข้าถึงมือบอนเช่นนี้?!”
“อยากตบตัวเองให้ตายนัก!”
บรรดายอดฝีมือจากจักรวาลโกลาหลอื่นที่ฆ่าล้างสิ่งมีชีวิตในที่พำนักของตนต่างมีสีหน้าซีดเผือด ไม่เหลือเลือดฝาดแม้แต่น้อย
ซ่างกวนอิ๋งไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปเช่นกัน!
พวกเขาสำนึกเสียใจเหลือแสน!
อย่างที่คิด ลมหายใจต่อมา พวกเขาก็รู้สึกได้ว่าถูกพลังบางอย่างเพ่งเล็ง ซ่างกวนอิ๋งไม่คิดจะปล่อยพวกเขาไปจริง ๆ!
พรวด! พรวด! พรวด!
เลือดสาดกระจาย พวกเขาล้วนถูกพลังนั้นสังหาร ไม่มีพลังพอจะขัดขืนได้แม้แต่น้อย!
“กงเกวียนกำเกวียน ผู้ทำชั่วย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย!”
ซ่างกวนอิ๋งเอ่ยเสียงเย็น
หลังจัดการเรียบร้อยแล้ว พลังกฎระเบียบที่รายล้อมอยู่รอบตัวนางหายไป นางคุกเข่าลงกับพื้น โขกศีรษะไปยังทิศทางหนึ่งเสียงดัง
‘ขอบคุณคุณชาย!’
นางเอ่ยเสียงขึงขังในใจ
วันหน้าหากมีโอกาส นางจักตอบแทนบุญคุณของคุณชายด้วยชีวิต
…
ภายในนิกายอวี้ซวี
“นี่ก็ผ่านไปห้าวันแล้ว เหตุใดสือเฟิงยังไม่ออกมาอีก แม้ว่าข้าวใหม่ปลามันนั้นยอดเยี่ยม กระนั้นก็ต้องหักห้ามใจบ้าง…”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยออกมาอย่างอดมิได้
เดิมเขาอยากรอสือเฟิงออกมาเพื่อบอกลาแล้วกลับ
ทว่านี่ก็ถัดจากคืนวิวาห์มาห้าวันแล้ว สือเฟิงยังไม่ยอมออกมาอีก!
“คนหนุ่มสาวนี่เปี่ยมไปด้วยพละกำลังจริง ๆ!”
หลี่จิ่วเต้าสะท้อนใจ “โดยเฉพาะผู้ฝึกตนวัยหนุ่มสาว! นี่ถ้าหากเป็นปุถุชนธรรมดา ไฉนเลยจะทนไหว!”
ห้าวันเชียวนะ นานเกินไปแล้ว!