ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 579 ผู้สังหารสวรรค์
ยอดเขานั้นงดงามแต่มีความโค้งเหมือนเลข “7”
ไม่สิ มันเหมือนกับ… นิ้วมากกว่า!
นิ้ว!
ช่างแปลกประหลาดเหลือเกิน
แต่ปลายนั่นนิ้วหักเหรอ?
นิ้วที่เขาเห็นในภาพลวงตานั่น?!
หากเป็นแบบนี้แล้วตัวมันจะใหญ่ขนาดไหน! ซูผิงไม่สามารถส่งเสียงใดๆได้
เขาคงไม่คิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้นั้น หากไม่ใช่เพราะว่าเขาได้เห็นสิ่งมีชีวิตมากมายในสนามบ่มเพาะ อย่างอาณาจักรโกลาหลแห่งอันเดธ เขาได้พบกับสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่ซากศพสามารถกลายเป็นภูเขาได้
หอคอยมังกรนี้เป็นนิ้วของคนที่เรียกตัวเองว่าผู้สังหารสวรรค์?
ผู้สังหารสวรรค์คนนั้นต้องอยู่เหนือระดับดวงดาว น่ากลัวมาก!
หอคอยมังกรที่สถาบันใช้ทดสอบนักเรียนจริง ๆ แล้วคือนิ้วหัก!
ซูผิงมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่ามันเป็นนิ้วที่หักจริงๆ
อสูรร้ายและแมลงที่เขาเห็นข้างในนั้นน่าจะเป็นสิ่งที่งอกออกมาจากเนื้อเยื่อที่เน่าเปื่อย
แมลงเหล่านั้นกินเนื้อและเลือดของนิ้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่กรงเล็บของพวกมันจะแหลมคม และเปลือกของมันจะแข็งมาก
“ฉันสงสัยว่าผู้สังหารสวรรค์ตายไปนานแค่ไหน ฉันเห็นภาพลวงตาและได้ยินเสียงคำราม นิ้วต้องบันทึกทั้งหมดนั้นไว้…”
ซูผิงตกตะลึง นิ้วยังอยู่ที่นี่ ภาพและเสียงยังคงใช้งานได้ คงมีแค่พระเจ้าที่จะรู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าผู้สังหารสวรรค์นั้นทรงพลังเพียงใด
“โจแอนนาน่าจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันสามารถถามเธอได้” ซูผิงพูดกับตัวเอง ตัวตนดั้งเดิมของโจแอนนาเป็นรองแค่เทพสูงสุดในหลุมศพกึ่งเทพ แต่เขาไม่แน่ใจว่าเทพสูงสุดของหลุมศพกึ่งเทพนั้นเหมือนกับในแดนเทพอาเคี่ยนหรือไม่
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดตัวตนดั้งเดิมของโจแอนนาควรอยู่ต่ำหรือสูงกว่าระดับดวงดาว
ซูผิงมองไปที่ยอดเขาเป็นครั้งสุดท้าย นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญในตอนนี้ ไม่สำคัญสำหรับเขาว่ายอดเขาคือนิ้วหรือไม่ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการหาหาซูหลิงเยวี่ย และอันดับที่สองคืออุดรูบนยอดเขา
โว้ว!
เขาบินไปหาคนที่ยืนอยู่หน้าหอคอยมังกร
นักเรียนบางคนที่มีการรับรู้เฉียบแหลมตะโกนว่า “มีคนมา”
นักเรียนคนอื่นๆ หันไปมอง
นักเรียนทุกคนทำราวกับว่าพวกเขาเห็นผีเมื่อเห็นว่าเป็นซูผิง
หลายคนถึงกับสงสัยว่านั่นเป็นฝาแฝดของซูผิงหรือเปล่า
พวกเขาดูเหมือนกันมาก!
“คุณซู?”
หานยู่เซียงแม้จะประหลาดใจ แต่ก็รีบเข้าไปหา “คุณอยู่ในหอคอยมังกร แล้วออกมาได้ยังไง…?”
“ฉันมาจากด้านบน” ซูผิงตอบหลังจากที่เขายืนบนพื้นแล้ว
เฟยเทียนอวี่จ้องมองซูผิงจากระยะไกล สับสนอย่างเห็นได้ชัด เขายังได้ยินเสียงของซูผิง ฝาแฝดสามารถมีลักษณะเหมือนกันได้ แต่ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันจนน่ากลัวขนาดนี้!
หอคอยมังกรมีทางเข้าหนึ่งช่องที่นักเรียนและอาจารย์ทุกคนรู้จัก
ผู้คนต่างเห็นว่าซูผิงเข้าไปในหอคอยมังกร มันไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อว่าเขาออกมาจากด้านบน!
“ด้านบน…”
หานยู่เซียงยกหัวขึ้น ในเวลาเดียวกันเขาก็พบว่าตัวเองรู้สึกโง่ที่เชื่อข้ออ้างของซูผิง
ถ้าเขาลงมาจากด้านบน แสดงว่าซูผิงเจาะทะลุหอคอยมังกรมา
หอคอยมังกรมี 33 ชั้น แต่เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ไม่เคยมีการยืนยัน
ชั้นสูงสุดที่ทุกคนเคยไปถึงคือชั้นที่ 22 บันทึกนี้เป็นของนักเรียนที่ดีที่สุดคนหนึ่งที่สถาบันเคยมีมา
ยังไม่มีใครผ่านไปถึงชั้นนั้นอีกเลย
อย่างไรก็ตามหอคอยมีกฎเรื่องอายุที่แปลกประหลาด แม้แต่นักรบอสูรในตำนานก็ไม่สามารถฝ่าฝืนกฎนั้นได้
นักรบอสูรในตำนานเคยมาเยี่ยมชมสถาบันในอดีต แต่ไม่มีใครสามารถบุกเข้าไปในหอคอยมังกรได้
นอกจากนี้ยังมีนักรบอสูรในตำนานมากกว่าหนึ่งคนที่พยายาม นั่นคือเหตุผลที่สถาบันสรุปว่านักรบอสูรในตำนานไม่สามารถข้ามขีดจำกัดอายุได้! และชั้น 33 ก็เป็นแค่ข่าวลือ
พวกเขาวัดความสูงจากด้านนอก และคำนวณตามความสูงของแต่ละชั้น
หานยู่เซียงจำได้ว่านักเรียนที่ไปถึงชั้นที่ 22 นั้นรู้จักกันในชื่อผู้ท้าทายโชคชะตาในเวลานั้น เขาได้ฆ่านักรบอสูรในตำนานและราชาอสูรร้าย!
เขาเดินทางไปรอบดาวเคราะห์สีน้ำเงิน ต่อมาเขาได้พบกับราชาสวรรค์ดีชั่ว และเสียชีวิตไป ไม่เช่นนั้นเขาคงกลายเป็นราชาของนักรบอสูรในตำนาน นายแห่งหอคอย! “คุณซูหอคอยมังกรมีทางเข้าออกเพียงทางเดียว คุณ…เข้าไปข้างในจริงๆเหรอ?” หานยู่เซียงต้องถาม เขาเห็นซูผิงอยู่ด้านบน แต่เขาสงสัยว่าเขาอยู่ที่นั่นมาตลอดหรือเปล่า ร่างที่เข้าไปในหอคอยนั้นเป็นภาพลวงตาหรือเปล่า
ท้ายที่สุดความคิดที่ว่าซูผิงที่ได้ผ่านทุกชั้นของหอคอยมังกรนั้นมันมากเกินไป!
ซูผิงไม่ได้สนใจที่จะอธิบาย
“ฉันไม่คิดว่านายเข้าใจว่าหอคอยมังกรคืออะไร ไปตามอาจารย์ใหญ่ของนายมา ฉันต้องบอกบางอย่างกับเขา นอกจากนี้ ผู้ชายที่นำทางฉันบอกฉันว่าน้องสาวของฉันออกจากหอคอยมังกร และหายตัวไปหลังจากนั้น ไม่มีกล้องวงจรปิดในมหาวิทยาลัยเลยเหรอ?”
“อาจารย์ใหญ่?”
ทำไม?
โม่เฟิงผิงรู้สึกกลัวเล็กน้อย อาจารย์ใหญ่เป็นคนสำคัญของสถาบัน เขาเป็นนักรบอสูรในตำนาน เป็นที่เคารพนับถือของนักเรียนและอาจารย์ทุกคน
โม่เฟิงผิงไม่พอใจเมื่อเห็นว่าซูผิงกำลังพูดถึงอาจารย์ใหญ่ในท่าที่ที่หยาบคาย ไม่ว่าซูผิงจะแข็งแกร่งเพียงใด เขาก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับนักรบอสูรในตำนานได้!
“นายกำลังพูดเรื่องอะไร?”
เฟยเทียนอวี่เดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่ขุ่นมัว “นายไม่สมควรที่จะได้เจออาจารย์ใหญ่ ฉันเห็นว่านายเข้าไปในหอคอยมังกรได้ ดังนั้นฉันถือว่านายอายุเท่าฉัน อืม ฉันไม่รู้ว่านายใช้กลอุบายอะไร…ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ฉันสามารถท้าทายนายได้เพราะนายคือคนรุ่นเดียวกับฉัน!”
ซูผิงจ้องมองเขา “ท้าทายฉัน? นายไม่คู่ควร”
“นายกลัวเหรอ?”เฟยเทียนอวี่หรี่ตาลง
ความเยือกเย็นแวบผ่านดวงตาของซูผิง ใครก็ตามที่ตั้งใจทำแบบนี้กับเขามันจะต้องตาย
คนหนึ่งรีบเร่งเข้ามา เป็นชายหนุ่มที่นำทางให้ซูผิง ชายหนุ่มยังคงตะลึงเมื่อเห็นซูผิงยืนอยู่ตรงนั้น
“นั่น นี่…”
เขาไม่เข้าใจ
เขาเพิ่งออกจากหอคอยมังกร ถ้าซูผิงออกมา เขาควรจะอยู่ข้างหลังเขา ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่?
ซูผิงอยู่ข้างในจริงๆเหรอ?
หัวของชายหนุ่มว่างเปล่า
หานยู่เซียงสังเกตเห็นการแสดงออกที่แปลกประหลาดของชายหนุ่ม เขาคว้าชายหนุ่มและดึงเขาข้ามอากาศ “นายกำลังทำอะไร? ฉันบอกให้นำทางคุณซูผิง นายไปไหนมา” ชายหนุ่มยังคงงุนงง เมื่อหานยู่เซียงถาม เขาจึงรู้สึกตัว “รองอาจารย์ใหญ่ ผมอยู่ที่นั่นกับคุณซู… คุณซูเลือกท้าทาย แต่ผมไม่รู้… ว่าทำไมเขาถึงมาที่นี่”
“ไร้สาระ! นายบอกว่าคุณซูเข้าไปแล้ว แล้วบันทึกของเขาล่ะ?” หานยู่เซียงตะโกน
ในที่สุดชายหนุ่มก็รู้ว่าเขาควรทำอะไร เขามองไปที่ซูผิงราวกับว่าซูผิงเป็นสัตว์ประหลาดในขณะที่ริมฝีปากของเขาสั่น “ผม ผมมีบันทึก มันอยู่ตรงนี้”
เขายกหนังสือทองดำที่จดบันทึกขึ้นมา หานยู่เซียงรู้สึกสับสน “อะไร?” ชายหนุ่มวิ่งไปที่แผ่นจารึกสีดำ แผ่นจารึกสีดำถูกเปิดใช้งาน รังสีแสงสีทองส่องสว่างและในไม่ช้าก็ถึงจุดหนึ่ง
ชื่อของเฟยเทียนอวี่อยู่ในนั้น
แสงสีทองยังคงส่องสว่างต่อไป มีการเพิ่มชื่ออื่น เฟยเทียนอวี่อยู่ในอันดับที่ 2
ชื่อใหม่อยู่สูงกว่าเฟยเทียนอวี่
ซูผิง
ข้างหลังชื่อนั้นคือเลข 33 ไม่มีใครส่งเสียงใด ๆ ผู้ชมที่เคยคุยโวก็เงียบสนิท
ทุกคนจ้องมองไปที่ชื่อนั่นและตัวเลขนั้น
ความประหลาดใจหยุดนิ่งบนใบหน้าของเฟยเทียนอวี่
ชั้นที่ 33?
ซูผิงผ่านทุกชั้น?!
ทำลายสถิติ!
ดูเหมือนเป็นเรื่องตลก
หานยู่เซียง โม่เฟิงผิง และสวี่คังก็มึนงงเช่นกัน
ในทางกลับกันซูผิงไม่สนใจ เขาไม่เคยสนใจอันดับใดๆ ประเด็นคือการตามหาซูหลิงเยวี่ย อันดับไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับเขา เขาจะมีความสุขมากกว่าถ้าเขาทำเงินได้มากขึ้นในร้านของเขา
“มันเป็นเรื่องจริง…”
ชายหนุ่มถึงกับอึ้งพูดไม่ออก เครื่องบันทึกไม่ได้พัง! “ฉันบอกให้พาอาจารย์ใหญ่มาที่นี่ เดี๋ยวนี้ ฉันจะไม่รับผิดชอบหากมีบางอย่างเกิดขึ้น” ซูผิงพูดซ้ำอย่างไม่พอใจ ซึ่งดึงหานยู่เซียงกลับสู่ความเป็นจริง
ซูผิงหมดความอดทน ตอนแรกเขากังวลที่จะตามหาซูหลิงเยวี่ย แต่เขาต้องจัดการกับรูนั่นก่อน
หานยู่เซียงถามซูผิงอีกครั้ง “คุณซู คุณออกมาจากด้านบนจริงๆ เหรอ?” “ฉันได้เงินจากการโกหกนายหรือไง?”
“ครับ…”
หานยู่เซียงไม่รู้จะพูดอะไร เงิน? นั่นไม่ควรจะเป็นคำพูดของคุณ!
แต่หานยู่เซียงไม่กล้าถามอะไรเพิ่มเติมแม้ว่าเขาจะยังคงตะลึง เขาตกตะลึงมากเมื่อรู้อายุของซูผิง เขาไม่สามารถหาคำใดมาบรรยายความรู้สึกของเขาได้ เนื่องจากเขาได้ตรวจสอบแล้วว่าซูผิงปีนขึ้นไปถึงชั้นที่ 33 จริง
และดูเหมือนไม่อุกอาจนัก เมื่อพิจารณาเรื่องราวทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับซูผิง
แน่นอนว่านั่นไม่สามารถบรรเทาความสับสนของหานยู่เซียงได้เลย
คนอายุต่ำกว่า 24 ปีกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง?
ซูผิงไม่ใช่คนมีพรสวรรค์ เขาเป็นสัตว์ประหลาด!
เขาจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดอัจฉริยะแม้แต่ในสหพันธ์!
หานยู่เซียงเพิ่มความเคารพี่มีต่อซูผิงมากขึ้น ไม่ช้าก็เร็วเขาจะออกจากดาวเคราะห์สีน้ำเงิน และท่องไปในจักรวาล!
คนมีพรสวรรค์บางคนตาย บางคนออกจากดาวเคราะห์สีน้ำเงินเพื่อค้นหาโลกที่กว้างขึ้น พวกเขาสามารถพัฒนาได้ดีขึ้นไปอีก หานยู่เซียงส่ายหัว “แล้วทำไมคุณถึงถามหาอาจารย์ใหญ่ล่ะ”
“นายไม่มีทางเข้าใจ มันเป็นเรื่องใหญ่ ฉันจะพูดแค่นี้ มันเป็นเรื่องของชีวิตและความตายสำหรับของทั้งสถาบันและแม้แต่อนุทวีปทั้งหมด” ซูผิงเริ่มเบื่อ
หานยู่เซียงตระหนักว่าซูผิงไม่ได้ล้อเล่น แต่เรื่องนี้ยิ่งทำให้เขาสับสนมากขึ้น
เรื่องของความเป็นความตายสำหรับเขตอนุทวีปทั้งหมด?
ซูผิงมาที่นี่เพื่อตามหาน้องสาวของเขาไม่ใช่หรอ? แล้วนี่มันอะไร?
เขาควรจะไปหาอาจารย์ใหญ่ตอนนี้เลย
ด้วยความที่เขาไม่สามารถหาคำตอบได้ หานยู่เซียงจึงไม่สร้างความรำคาญให้กับซูผิงอีกต่อไป เพราะดูเหมือนเขาเริ่มจะหมดความอดทนแล้ว “อาจารย์ใหญ่เข้าใจยากมาก ผมไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ผมจะโทรหาเขา แต่ผมไม่แน่ใจ…”
“หยุดพูด โทรไป” “ครับ”
หานยู่เซียงโทรหาอาจารย์ใหญ่ทันที
ในที่สุดเฟยเทียนอวี่ก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง เขามองไปที่ซูผิง แต่ซูผิงไม่เห็น ซูผิงจ้องมองไปไกลในขณะที่เขากำลังคิด
เฟยเทียนอวี่เม้มปาก แม้ว่าเขาจะเป็นนักเรียนที่มีความสามารถมากที่สุดในรอบร้อยปีของสถาบัน แต่เขากลับโดนเมิน!
“ผู้ชายคนนี้…”
เฟยเทียนอวี่กัดฟัน และกำหมัด
เขาไม่เคยถูกเมิน
เขาได้รับความสนใจอยู่เสมอเมื่อเขาอยู่กับตระกูล และตอนที่เขาอยู่ในโรงเรียน เขาเป็นผู้นำเสมอ!
ทันใดนั้น เขาก็นึกถึงนักเรียนที่พยายามท้าทายเขา แต่เขาเลือกที่จะเมิน
เขาเป็นแบบนี้ในสายตาผู้ชายคนนี้หรือเปล่า?
เฟยเทียนอวี่รู้สึกอับอาย และโกรธมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่เฟยเทียนอวี่ครุ่นคิดอยู่ลึกๆ นักเรียนต่างก็ตกใจกับคำพูดของซูผิง
เรื่องของความเป็นความตายของสถาบัน และเขตอนุทวีป?
ผู้ชายคนนี้รู้บางสิ่งที่ร้ายแรงได้ยังไง?
บางคนคิดว่าซูผิงกำลังโกหก และบางคนก็เริ่มเชื่อในสิ่งที่เขาพูด
“ใช่ ใช่ เขา…” หานยู่เซียงดูให้ความเคารพอย่างมาก เขาได้สร้างม่านพลังกันเสียงรอบตัวเขาไว้ ไม่นานสายก็ตัดไป เขารอให้อาจารย์ใหญ่วางสายก่อน
หานยู่เซียงยกเลิกม่านพลังและบอกซูผิงว่า “เขากำลังมาครับ”
ซูผิงพยักหน้า “นายยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลย น้องสาวของฉันออกจากหอคอยมังกร นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เห็นเธอครั้งสุดท้าย แล้วเธอไปอยู่ที่ไหน?”