ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 823 ไหวพริบ
ในเวลาไม่ครึ่งชั่วโมงเจ้าดวงดาวทั้งหมดก็ถอยมาถึงบันไดขั้นแรก
“นายไปถึงขั้นไหนแล้ว?”
“ขั้นที่ 18”
“9”
“ฉันไปถึงขั้นที่ 32!”
“บันไดค่อนข้างแปลก เป็นไปไม่ได้เลยที่บททดสอบสวรรค์จะทรงพลังหากพวกนายอ่อนแอ บางคนค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็พบบททดสอบสวรรค์ที่เบาบางด้วย”
ทุกคนขมวดคิ้วและครุ่นคิดอย่างหนัก
เจ้าดวงดาวทั้งหมดได้เปิดเผยความแข็งแกร่งของพวกเขาบนบันได ดังนั้นพวกเขาจึงรู้จักกันค่อนข้างดี
“พวกที่ถอยภายในสิบขั้นแรกล้วนอ่อนแอ ผู้นำของพันธมิตรหมัดสวรรค์นั้นแข็งแกร่ง พลังแห่งศรัทธาของเขาถูกรวมเข้ากับโลกใบเล็กของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ เขาเป็นเจ้าดวงดาวที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน แต่เขาก็ต้องหยุดภายในสิบขั้นแรก มันไม่สมเหตุสมผลเลย…”
ผู้นำสาวขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสับสน
บันไดโบราณนั้นน่าสับสนจริงๆ
“ต้องมีรูปแบบในบททดสอบสวรรค์ ไม่ใช่การสุ่มแน่ๆ”
“อันที่จริง ไม่ว่าฉันจะไปที่นั่นกี่ครั้ง ความรุนแรงของสายฟ้าในแต่ละขั้นก็เท่าเดิม!”
“ฉันกำลังคิดว่า… เนื่องจากมันไม่เกี่ยวกับความแข็งแกร่ง มันเกี่ยวข้องกับอายุหรือเปล่า?”
”อายุ?”
เจ้าดวงดาวมองหน้ากันด้วยความงงงวย นั่นเป็นไปได้
“คนที่ผ่านไปได้สามสิบขั้น อายุเท่าไหร่กัน?” หนึ่งในเจ้าดวงดาวถาม
พวกเขาถูกแบ่งออกเป็นหลายระดับ ระดับแรกมีหกคนซึ่งไปไกลกว่าสามสิบขั้น หนึ่งในนั้นไปถึงขั้นที่ 40
“นายควรรายงานข้อมูลของนายก่อน” ผู้นำของพันธมิตรพันขนนกกล่าว เขาอยู่ในระดับแรก แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชาย แต่เขาไม่ชอบถูกถามเกี่ยวกับอายุของเขา
“ฮึ่ม มีอะไรต้องปิดบัง? อายุเป็นเพียงตัวเลขสำหรับเรา ไม่มีใครแก่จนกว่าจะอายุหนึ่งหมื่นปี!” เจ้าดวงดาวกล่าวและพ่นลมหายใจ เขาอยู่ในระดับสองและสามารถไปถึงขั้น 20 เท่านั้น แต่เขาแข็งแกร่งมาก เขากำลังสังเกตพวกคนในระดับแรก
ตามการประเมินของเขา คนเหล่านั้นแข็งแกร่งพอๆ กับเขา
ยิ่งกว่านั้น—หลังจากพูดคุยกัน—เห็นได้ชัดว่าบันไดไม่ได้ตัดสินพวกเขาจากความแข็งแกร่ง ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจ แม้ว่าผู้นำของพันธมิตรพันขนนกจะอยู่ในระดับแรกก็ตาม
มีคนยืนขึ้นและพยายามรักษาบรรยากาศ “ทุกคน สะพานนี้เป็นโอกาสเดียวของเราที่จะเข้าไปในที่พำนัก ฉันหวังว่าเราจะสามารถร่วมมือกันและค้นหารูปแบบของบททดสอบสวรรค์ได้ เพื่อให้เราทุกคนสามารถผ่านพ้นไปและไปค้นหาสมบัติได้
“ท้ายที่สุด เรามาที่นี่เพื่อล่าสมบัติ ไม่ใช่หรอ?”
คนอื่นๆ รู้สึกเหมือนโดนดูถูก พวกเขาไม่ยอมรับความคิดนี้ แต่ก็ไม่ได้แสดงความไม่พอใจเช่นกัน
ไม่มีเจ้าดวงดาวคนไหนเต็มใจที่จะฟังคำสั่งของเจ้าดวงดาวคนอื่น พวกเขาจะฟังเฉพาะนักรบสภาวะเทพดวงดาวเท่านั้น!
“แน่นอน ทุกคน มาบอกอายุของเรากัน เพื่อความเป็นธรรม” มีคนแนะนำแล้วเสริมว่า “ฉันอายุมากกว่าเก้าพันปีแล้ว ฉันจำตัวเลขแน่ๆไม่ได้”
“ฉันคิดว่าฉันอยู่อายุประมาณหกพัน” เจ้าดวงดาวอีกคนกล่าว
“ถ้าเรากำลังพูดถึงอายุร่างกาย ฉันน่าจะอายุประมาณหนึ่งหมื่นสองพันปี”
“อายุทางร่างกายหมายความว่ายังไง?”
“ฉันไปสำรวจอาณาจักรลับที่กระแสเวลาเร็วกว่า หนึ่งพันปีในโลกนั้นเท่ากับหนึ่งวันในความเป็นจริง ขณะที่พวกนายอาศัยอยู่ในสหพันธ์ ฉันใช้เวลาหลายพันปีที่นั่น ดังนั้นอายุร่างกายของฉันจึงเพิ่มขึ้นหลายพันปี”
“นั่นก็จริง”
“จิ๊ ตึ๊จิ๊ ทุกคนแก่จัง ฉันอายุแค่สามพันปี ฉันวางแผนที่จะเตรียมฉลองวันเกิดที่ยิ่งใหญ่ในปีนี้!”
“ฉันคิดว่าฉันอายุประมาณ 5,600 ปี”
“ดูเหมือนว่านายจะเป็นรุ่นน้องของฉันกันหมด ฉันมีชีวิตอยู่มามากกว่า 100,000 ปี ฮ่าๆ”
ในไม่ช้าทุกคนก็บอกอายุของพวกเขา เจ้าดวงดาวเกือบจะเป็นอมตะและสามารถหลอมร่างกายของพวกเขากับโลกใบเล็กได้ พวกเขาแทบจะไม่ตายเลย จนกว่าพวกเขาจะสูญเสียพลังศรัทธา มันง่ายสำหรับพวกเขาที่จะมีชีวิตอยู่หลายแสนปี นานพอที่จะเห็นความรุ่งเรืองและการล่มสลายของอารยธรรม
“ฮึ่ม มีอะไรยิ่งใหญ่หรอ? นายก็เป็นแค่เจ้าดวงดาวเหมือนกันกับฉัน ยังไม่ได้อยู่ในสภาวะเทพดวงดาวซักหน่อย!”
“แน่นอนว่านายยังคงเป็นเจ้าดวงดาวหลังจากมีชีวิตอยู่นานนับ 100,000 ปี ถ้าฉันเป็นนาย ฉันคงจะไปถึงสภาวะเทพดวงดาวนานแล้ว”
”นายจะไปรู้อะไร? นายคิดว่านายสามารถไปถึงสภาวะเทพดวงดาวโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสวรรค์เหรอ? มีโอกาสมากที่นายจะได้ใช้ชีวิตที่เหลือในฐานะเจ้าดวงดาว!”
เจ้าดวงดาวที่มีอายุมากที่สุดกล่าวอย่างเย็นชาว่า “มีเพียงหนึ่งในร้อยเท่านั้นที่สามารถไปสภาวะเทพดวงดาวได้ ฉันเป็นเจ้าดวงดาวก่อนจะอายุสองพันปี แต่ตอนนี้ฉันก็ยังเป็นแค่เจ้าดวงดาวอยู่ ข้างหน้านายยังมีแต่การรอคอย ฮึ!”
เจ้าดวงดาวอีกคนหนึ่งสนับสนุนเขา “นั่นเป็นความจริง ฉันมาถึงระดับเจ้าดวงดาวเมื่ออายุประมาณสองพันปี ฉันอยู่มาสามหมื่นปีแล้ว และก็คืบหน้ามาเล็กน้อยเท่านั้น ช่องว่างระหว่างเจ้าดวงดาวและเทพดวงดาวนั้นไม่ง่ายอย่างที่นายคิด มันยากกว่าการขึ้นเป็นเจ้าดวงดาวจะระดับดวงดาวนับร้อยเท่า นายคิดว่ายอดฝีมือสภาวะเทพดวงดาวที่น่าเกรงขามเติบโตขึ้นมาอย่างง่ายดายงั้นเหรอ?”
ใบหน้าของเจ้าดวงดาวคนอื่นๆ เปลี่ยนไปเล็กน้อย
หลายคนกลายเป็นเจ้าดวงดาวตอนที่พวกเขาอายุสองพันปีหรือแก่กว่านั้น หมายความว่าพวกเขาต้องอยู่ในระดับนี้เป็นเวลาหลายหมื่นปีหรอ?
นี่ไม่ใช่ที่พวกเขาคิดเอาไว้เลย!
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้นำของพันธมิตรพันขนนกก็เยาะเย้ยและกล่าวว่า “ช่างเป็นคนแก่หัวโบราณจริงๆ ฉันอายุแปดร้อยปี และเป็นเจ้าดวงดาวมานานกว่าร้อยปีแล้ว สิ่งที่พูดมาเป็นเพียงบรรทัดฐาน และอัจฉริยะต้องทำลายมัน!”
เขากำลังบอกเป็นนัยว่าเจ้าดวงดาวคนอื่นๆ เป็นแค่คนธรรมดา!
เจ้าดวงดาวคนอื่นๆ ไม่พอใจกับคำพูดของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีอายุมากกว่าหมื่นปี
อย่างไรก็ตาม สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเมื่อนึกถึงอายุของเขา เขาใช้เวลาเจ็ดร้อยปีในการเป็นเจ้าดวงดาว? เขาเป็นอัจฉริยะที่หาตัวจับยากจริงๆ!
“ฉันอายุ 629 ปี” ผู้หญิงตัวสูงดูแข็งแกร่งกล่าว
เธอมองไปที่ผู้นำกลุ่มพันธมิตรพันขนนกอย่างดูถูกเหยียดหยามด้วยใบหน้าที่สวยงามของเธอ นายคิดว่านายเด็กสุดหรอ? ฉันอายุน้อยกว่า!
เธอค่อนข้างภูมิใจในตัวเอง ท้ายที่สุด เธอแข็งแกร่งมากสำหรับคนในวัยเดียวกับเธอ!
ผู้นำของพันธมิตรพันขนนกหน้าเปลี่ยนสี แค่หกร้อยกว่าปี?
เขาเคร่งขรึมทันที เขาเคยเห็นการโจมตีของผู้นำหญิงแห่งพันธมิตรราชันมาหลายครั้ง ซึ่งแสดงถึงพลังแห่งศรัทธาจำนวนมาก ดูเหมือนว่าเธอจะบ่มเพาะมาเพียงไม่กี่ร้อยปี
พลังแห่งศรัทธานั้นต้องใช้เวลารวบรวม ยิ่งนานยิ่งเก็บได้เยอะ!
เว้นแต่เธอจะมีแหล่งพลังซึ่งมอบพลังแห่งศรัทธาให้กับเธออย่างมากมาย!
“ฮ่าฮ่า ช่างอ่อนแอเสียจริง!” ในบริเวณใกล้เคียง ผู้นำของพันธมิตรอู่หวงหัวเราะและกล่าวว่า “ฉันอายุ 580 ปี ฉันคงเป็นเจ้าดวงดาวที่อายุน้อยที่สุดที่นี่ ฮ่าๆ ดูเหมือนว่าเจ้าดวงดาวทั้งหมดที่ฉันรู้จักจะแก่กว่าฉัน ฝึกหนักกันจริงหรอ? ทุกคนไม่ใช่แค่แข็งแกร่งขึ้นด้วยการกินและนอนหรอกหรอเนี่ย?”
คนอื่นๆ ตกใจเล็กน้อย 580?
ชายคนนี้ยังอายุไม่ถึงหกร้อยปีเลยเหรอ?
คนส่วนใหญ่ในวัยเท่าเขายังไปไม่ถึงสภาวะชะตากรรมด้วยซ้ำ!
อัจฉริยะบางคนเพิ่งจะไปถึงระดับดวงดาวตอนอายุเท่าเขา และไม่ค่อยมีคนทำสำเร็จ!
ผู้ชายคนนี้คืออัจฉริยะ!
ริมฝีปากของผู้นำกลุ่มพันธมิตรพันขนนกกระตุก เขาไม่คิดว่าคนงี่เง่าที่เขาไม่เคยชอบจะเด็กขนาดนี้ ไม่ได้หมายความว่าชายคนนี้มีพรสวรรค์มากกว่าเขาหรอกหรอ?
ไม่ยุติธรรมเลย!
ใบหน้าของผู้นำหญิงแห่งพันธมิตรราชันก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เธอขมวดคิ้วแล้วก็บ่น
เธอค่อนข้างโกรธหลังจากพบว่าเธอแก่กว่าหลายสิบปี
ถึงแม้ว่าเวลาหลายทศวรรษจะเป็นเพียงแค่ชั่วพริบตาตลอดช่วงชีวิตการบ่มเพาะ แต่เธอก็ช้ากว่าเล็กน้อย
ในขณะนั้น จู่ๆ ผู้นำสาวพันธมิตรดวงดาวก็อ้าปากของเธอขึ้น “พูดกันจบหรือยัง?”
เธอมีท่าทางแปลก ๆ ซึ่งเป็นการผสมระหว่างความตื่นเต้นและความภาคภูมิใจ การดูถูกเหยียดหยามในสายตาของเธอ บวกกับริมฝีปากที่โค้งงอบนใบหน้าของเธอบ่งบอกว่าเธอไม่สามารถรอได้อีกต่อไป
ฉันไม่รู้ว่าทุกคนง่อยกันขนาดนี้!
ถอยไป ถึงเวลาที่ฉันจะทำให้ทุกคนต้องตะลึง!
”ฮะ?”
คนอื่นๆ มองมาที่เธอ ผู้นำของพันธมิตรพันขนนกรู้สึกไม่ดี เมื่อเห็นความตื่นเต้นผิดปกติบนใบหน้าของหญิงสาว เขาก็ยิ่งเคร่งขรึมขึ้น
”ทำไม? เธออายุน้อยกว่าฉันเหรอ?” ผู้นำของพันธมิตรอู่หวงมองเธอด้วยความประหลาดใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับเจ้าดวงดาวที่อายุน้อยกว่า
ไม่มีแววตาล้อเลียนอีกต่อไปแล้ว เขาค่อนข้างเคร่งขรึม
เขาดูบ้าและดูไม่น่าเชื่อถือ แต่จริงๆ แล้วเขาค่อนข้างสุขุม และรู้ว่าอายุหมายถึงอะไร
บางทีพวกเขาอาจจะเป็นเจ้าดวงดาวมาหลายหมื่นปี แต่การเป็นเจ้าดวงดาวตั้งแต่อายุยังน้อยมักจะหมายความว่าพวกเขามีพรสวรรค์มากกว่า!
ระหว่างทางจะมีผลต่อโอกาสในอนาคต บางคนมีพรสวรรค์ แต่พวกเขาอาจตายโดยอุบัติเหตุ
บางคนอาจไม่มีพรสวรรค์ แต่ภายหลังพวกเขาสามารถตรัสรู้ได้!
”อื้ม อื้ม!”
ผู้นำสาวยิ้มอย่างดูถูก เธอไม่สามารถดูหยิ่งไปได้มากกว่านี้แล้ว
เธอวางมือบนคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่ำลงและเย็นชา “ตอนนี้ฉันอายุ 89 ปีแล้ว!”
เงียบสนิท!
ไม่มีอะไรนอกจากความเงียบ!
ทุกคนมองเธอราวกับเธอเป็นคนบ้า.ไอลีนโนเวล.
89 ปี?
89!
เจ้าดวงดาวทุกคนตกตะลึง ผู้คนในระดับดวงดาวที่เดินทางในโลกใบเล็กต่างเบิกตากว้าง กรามแทบจะแตะถึงพื้น
เด็กหญิงอายุเพียง 89 ปี?
ในทางเทคนิคแล้ว เธอไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ด้วยอายุ 89 ปี อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงอายุขัยของเจ้าดวงดาวเธอเกือบจะยังเป็นทารกในครรภ์!
ผู้นำของพันธมิตรพันขนนกคาดเดาไว้อยู่บ้างแล้ว แต่เขายังคงโพล่งตอบกลับด้วยความตกใจเมื่อได้ยินอายุของเธอ “นั่นเป็นไปไม่ได้!”
แม้ว่าเธอจะเริ่มบ่มเพาะตั้งแต่ยังเป็นทารก แต่เธอก็ไม่สามารถเป็นเจ้าดวงดาวได้ในเวลาไม่ถึงร้อยปี!
นอกจากนี้หญิงสาวยังมีพลังแห่งศรัทธาจำนวนมาก เธอแทบจะไม่มีทางพบศรัทธาในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ เธอสามารถรวบรวมพลังแห่งศรัทธาได้ยังไง?
”อิอิ!”
ผู้นำสาวพอใจมากเมื่อเห็นคำตอบของพวกเขา พลางยิ้มเยาะเย้ย
ซูผิงพูดไม่ออกเมื่อเขาเห็นว่าผู้นำของเขาเยาะเย้ยผู้หญิงคนนั้น…หรืออาจจะเป็นคุณยาย
อายุ 89 ปี?
เธอแน่ใจหรอ?
เธอแก่ขนาดนี้แล้ว แต่ยังทำตัวเหมือนเด็กอนุบาล?
แต่ในไม่ช้า ซูผิงก็เข้าใจ
อายุของเธอบ่งบอกว่าเธอไม่เพียงแต่มีความสามารถ แต่ยังค่อนข้างขยันอีกด้วย!
ไม่มีใครประสบความสำเร็จได้ด้วยพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว ความพยายามอย่างหนักต่างหาก นั่นคือความจริงที่โหดร้าย!
หากเธอทุ่มเทให้กับการบ่มเพาะ มันก็สมเหตุสมผลที่จะเห็นเธอจะทำตัวเป็นเด็กในด้านอื่นๆ เนื่องจากเธอยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่อย่างแท้จริง
“อายุ 89 ปี… ตอนนั้นฉันยังอยู่สภาวะว่างเปล่าอยู่เลย”
“โอ้พระเจ้า เธอต้องโกหกแน่ๆใช่ไหม?”
“ฉันไปถึงสภาวะชะตากรรมตอนอายุร้อยปี และฉันก็เป็นอัจฉริยะชั้นนำแล้ว แต่…”
ผู้ที่อยู่ในระดับดวงดาวทำได้เพียงเสียใจอยู่เงียบ ๆ
การเปรียบเทียบอาจเป็นอันตรายได้จริงๆ
เจ้าดวงดาวคนอื่น ๆ มองหน้ากันและเงียบไป
89 ปี…ถ้าเธอไม่โกหกแสดงว่าเธอสุดยอดมาก!
แม้ว่าอายุจะไม่ได้แสดงถึงความแข็งแกร่ง แต่หลายคนรู้สึกทึ่งกับความสามารถพิเศษของเธอ สิ่งที่ผู้นำของพันธมิตรพันขนนกกล่าวนั้นถูกต้องบางส่วน อัจฉริยะเกิดมาเพื่อทำลายบรรทัดฐาน บางทีเด็กผู้หญิงอาจจะไม่ต้อง
อยู่ในอาณาจักรเจ้าดวงดาวเป็นเวลาหลายหมื่นปีเหมือนที่พวกเขาอยู่
หลังจากเงียบไปชั่วครู่ ทุกคนก็กลับมาได้สติและรายงานอายุของตัวเองต่อไป จากนั้นพวกเขาก็พบว่าทั้งสามระดับอาจถูกตัดสินตามอายุอย่างแท้จริง!
ไม่เป็นความจริงในทุกกรณี แต่มีแนวโน้มอย่างแน่นอน!
คนทั้งหมดในระดับแรกล้วนแต่อายุยังน้อย เช่นผู้นำสาว ผู้นำพันธมิตรพันขนนกและพันธมิตรอู่หวง ยกเว้นคนที่ไปถึงขั้น 40 เขาอายุสองพันปีแล้ว
แต่ทว่า ลำดับอายุใช้ไม่ได้กับระดับสอง
บางคนในระดับสองมีอายุสามหมื่นปี ขณะที่คนอื่นมีอายุเจ็ดหมื่นปี ในระดับสาม มันเป็นพวกที่อายุแค่เจ็ดพันปีเท่านั้น
“อายุไม่ได้เป็นแค่ปัจจัยเดียว แต่คนที่เด็กกว่านั้นเหนือกว่าคนอื่นจริง”
“ฉันคิดว่ามันอาจเกี่ยวกับอายุ..เดี๋ยวก่อน ลำดับนี้ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ด้วยหรือเปล่า?”
ทุกคนแปลกใจกับความเข้าใจนั้น พวกเขาเข้าอาณาจักรลับมามาก บ้างทิ้งไว้โดยยอดฝีมือโบราณที่ตั้งบททดสอบเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีแค่อัจฉริยะถึงสืบทอดมรดกพวกเขา
นั่นไม่ใช่เหตุการณ์หายาก สุดท้าย แนวคิดของ’,มรดก’อยู่ในยีนมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทรงสติปัญญาทั้งหมด!
การสืบพันธ์เป็นแค่รูปแบบหนึ่งของการรับมรดก
มันเป็นนิสัยที่ฝังลึกในจิตวิญญาณพวกเขา
“บันไดจะทดสอบไหวพริบ?มรดกของที่พำนักศักดิ์สิทธิ์อยู่ปลายบันได?”บางคนอดเดาไม่ได้ วินาทีที่พวกเขาคิดแบบนั้น ดวงตาของทุกคนก็วาววับอย่างบ้าคลั่ง
มรดกของที่พำนักศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงนั้น?พวกเขาไม่อยากเชื่อ!
“อาจไม่มีมรดกอะไรก็ได้ บางทีนี่คงเป็นแค่บททดสอบให้เราเขาประตู ไม่ว่าในกรณีใด เราสามารถดูได้ว่ามันเป็นจริงด้วยอสูรของเรา!”บางคนเสนอ
ไม่มีใครค้าน ทันใดนั้น ก็มีคนเรียกอสูรและส่งมันไปบันไดเพื่อทดลองทฤษฏีนั้น