ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store - ตอนที่ 863 ผู้ชนะ
แสงสีทองส่องลงมาที่อนุสรณ์ และจัดเรียงภสพฉายตามลำดับใหม่ ขณะที่เจ้าดวงดาวหญิงพูด
ตามคาดซูผิงยังคงอยู่ที่ด้านบน และตัวเลขที่อยู่ถัดไปคือ… 58!
เจ้าดวงดาวทั้งหมดสูญเสียคำพูด
จากชั้นที่ 42 ไปถึงชั้นที่ 58… เขาข้ามชั้นสิบหกชั้นในเวลาเพียงสิบนาที!
เขายังคงทะยานด้วยความเร็วสูงหลังจากผ่านชั้น 40 แล้ว นั่นเป็นเรื่องที่น่ากลัว!
ชายหนุ่มถือดาบไม้ยังคงเป็นที่สอง เขาไปถึงชั้น 48 แล้ว
เขาอยู่ห่างจากชั้นที่ 50 เพียงสองชั้นเท่านั้น ทุกคนเชื่อว่าเขาจะไปถึงชั้นที่ 50 ก่อนการอัปเดตแต้มครั้งต่อไป ซึ่งจะเป็นการปรับครั้งที่สี่เท่านั้น นั่นหมายความว่าเวลาผ่านมาเพียงสี่สิบนาที! ผู้เข้าแข่งขันน้อยมากที่ไปถึงชั้นที่ 50 ภายในหนึ่งชั่วโมงตลอดทั้งประวัติศาสตร์ของอาณาจักรลับอนุสรณ์เทพลวงตา!
จักรพรรดิมังกรอยู่หลังชายถือดาบไม้ แต้มของเขายังคงอยู่ในอันดับสาม เขาอยู่ชั้น 44 น้อยกว่าชายหนุ่มถือดาบไม้สี่ชั้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตามช่องว่างระหว่างทั้งสองคนนั้นไม่ใหญ่นัก เขายังสามารถตามชายหนุ่มถือดาบไม้ได้ ท้ายที่สุดค่าแต้มของอนุสรณ์มังกรนั้นสูงกว่า!
ข้างหลังมีราชามังกรแห่งโอเอซิส ราชาศักดิ์สิทธิ์ ธิดาศักดิ์สิทธิ์พันใบไม้ ราชินีแห่งท้องทะเล จอมดาบคลั่ง และคนอื่นๆ
“เขาสูงกว่าอันดับสองสิบชั้น!”
“เขายังเลือกกับอนุสรณ์ทุกสาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุด!”
“ค่าแต้มของเขาเกือบจะเป็นสองเท่าของอันดับสอง!”
“สุดท้ายเขาจะสามารถขึ้นไปถึงชั้นที่ 90 ได้ไหมนะ?”
“…”
เจ้าดวงดาวทั้งหมดเพ่งสายตาไปยังชายที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุดหลังจากมองการจัดอันดับทั้งหมด ไม่มีใครให้ความสนใจซูผิงมากนักตอนที่เขาต่อสู้บนเกาะ ยกเว้นเจ้าดวงดาวจากสถาบันสุสานมังกร
อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดสามารถบอกได้ว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นดาวเด่นคนใหม่ที่จะเปล่งประกายและทำให้ชื่อของเขาดังกระจายออกไปไกลหลังจากการแข่งขันสุดยอดอัจฉริยะระดับจักรวาล!
“พวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันสักนิด ทายาทของเทพแห่งดาบนั้นก็ว่าไม่น่าเชื่อมากพอแล้ว แต่เขาก็ยังคงถูกบดบัง!”
“รอบหน้าเขาจะต้องไปถึงชั้น 60 อย่างแน่นอน!”
“คนอื่น ๆ เริ่มช้าลง พลังจิตภายในอนุสรณ์น่าจะใกล้จะหมดลงแล้ว” “ดูเหมือนว่าอนุสรณ์จะทำงานปกติจริงๆ…”
อันดับของรอบนี้ยืนยันสิ่งที่เจ้าดวงดาวกล่าว ท้ายที่สุดแล้วมันไม่สามารถผิดพลาดได้ถึงสองครั้งติดต่อกัน
…
เวลาผ่านไป
บนชั้นที่ 65 ภายในอนุสรณ์ ซูผิงมองอสูรร้ายทั้งห้าที่อยู่ข้างหน้าเขา ได้แก่ มังกร ปีศาจ สิ่งมีชีวิตสายธาตุสองชนิด และเทพย่อยอีกหนึ่ง
เขาสรุปว่ามันเป็นเทพย่อยเพราะเขาได้เห็นมามากมายในหลุมศพกึ่งเทพ
เทพย่อยมีคุณสมบัติทางกายภาพบางอย่างของเทพ แต่ก็มีบางส่วนของมนุษย์หรืออสูรอื่น ๆ …
นั่นบ่งบอกถึงความใจกว้างของเหล่าเทพ
ยิ่งฉันไปสูงเท่าไหร่ ศัตรูก็จะยิ่งแปลกมากขึ้นเท่านั้น แม้แต่เทพย่อยก็ปรากฏตัวที่นี่… จะมีแม้แต่เทพแท้จริงไหมเนี่ย? เทพย่อยตัวนี้ค่อนข้างฉลาดและต่อสู้ได้ดี ซูผิงสังเกตพวกมันขณะหลีกเลี่ยงการโจมตี
เขาเริ่มรู้สึกเหนื่อยที่ต่อสู้มาอย่างต่อเนื่อง เขาไม่มีเวลาเติมพลังดวงดาว ศัตรูและการต่อสู้ใหม่จะเกิดขึ้นทันทีหลังจากเคลียร์รอบ ไม่มีเวลาให้พัก
นอกจากนี้ที่นี่ไม่มีพลังดวงดาวให้ดูดซับอีกด้วย
นี่หมายความว่าเขาจะอ่อนล้าอย่างต่อเนื่อง เขาจะอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ในขณะที่ศัตรูของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ !
เขาไม่มีทางที่จะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ เว้นแต่เขาจะออกจากอนุสรณ์และกลับเข้ามาใหม่
ฉันต้องใช้พลังดวงดาวให้ฉลาด มิฉะนั้นฉันอาจจะไม่สามารถไปจนถึงสุดทางได้ ไม่มีใครบอกได้ว่าศัตรูที่จะมาถึงจะแข็งแกร่งแค่ไหน พวกมันคงไม่มีทางเป็นเจ้าดวงดาวได้หรอกใช่ไหม?
ศัตรูของซูผิงรู้กฎสองสามข้อแล้วเมื่อเขามาถึงชั้น 65 พวกมันยังมีพลังต่อสู้ของระดับดวงดาวขั้นสูงอีกด้วย!
สายพันธุ์ต่าง ๆ จะปรากฏขึ้นซึ่งมีความชำนาญในเทคนิคต่างๆ บ้างเป็นนักดาบ บ้างก็เป็นนักฆ่าที่เก่งกาจ และบ้างก็มีร่างกายที่แข็งแรง
ยิ่งเขาไปสูงเท่าไหร่ ศัตรูก็ยิ่งมีเล่ห์เหลี่ยมมากขึ้นเท่านั้น พวกมันยังทำงานเป็นทีมและปกป้องซึ่งกันและกัน มันยากที่จะจัดการ
ซูผิงอาจพ่ายแพ้ไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะเขาเคยเผชิญหน้ากับศัตรูแปลก ๆ ในสนามบ่มเพาะมาก่อน
อนุสรณ์อื่น ๆ จะแสดงศัตรูแบบเดียวกัน แต่ว่าพวกมันจะแข็งแกร่งขึ้นและมีความสามารถใหม่ๆ การขึ้นไปยังชั้นที่สูงขึ้นมีทางเป็นไปได้ ตราบใดที่ผู้เข้าร่วมมีความเชี่ยวชาญเพียงพอในเส้นทางเฉพาะนั้น
หวืด!
ความคิดของซูผิงหยุดชะงักเมื่อเขาเห็นจุดอ่อน ดังนั้นเขาจึงรีบเข้าไปหาเทพย่อย เขาใช้พลังเทพผสมกับกฎต่างๆ ซึ่งทะลุเกราะของเทพย่อยแล้วแทงที่ไหล่ของมัน มันระเบิด
เทพย่อยถูกฆ่าตายทันที เมื่อผู้บัญชาการของพวกมันหายไป ซูผิงรีบบินไปหาอสูรธาตุทั้งสองและฆ่าพวกมัน
ในไม่ช้า ชั้นที่ 65 ก็ถูกเคลียร์ ซูผิงพบว่าตัวเองอยู่ในส่วนลึกของท้องทะเลภายใต้แรงกดดันมหาศาล
ซูผิงเกือบจมน้ำขณะที่เขาถูกจับโดยไม่รู้ตัว โชคดีที่เขากลั้นหายใจได้ทัน เขาพยายามผลักน้ำทะเลออกไปโดยไม่รู้ตัวด้วยพลังดวงดาว แต่จากนั้นก็ตัดสินใจที่จะต้านทานแรงกดดันด้วยร่างกายของเขาเพียงอย่างเดียว และควบคุมการใช้พลังดวงดาว
พลังดวงดาวมีวันหมด แต่ร่างกายของเขาสามารถทนต่อแรงกดดันได้ไม่มีกำหนด
จากนั้นมีเจ้าตัวโตสองสามตัวปรากฏขึ้นในระยะไกลใหญ่ราวกับภูเขาสองสามลูก แขนขาของพวกมันน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพวกมันเข้ามาใกล้… …
อันดับปรับครั้งที่เจ็ด!
เจ้าดวงดาวทั้งเจ็ดมารวมตัวกันที่หน้าอนุสรณ์คะแนนและพบซูผิงที่ด้านบนเหมือนเดิม
“เขาอยู่บนชั้น 81…”
“เขาไปถึงชั้น 80 ในเวลาเพียงเจ็ดสิบนาที เขาใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งนาทีในแต่ละชั้น!”
“ความเร็วของเขาน่ากลัวมาก เขามีพลังต่อสู้ของระดับดวงดาวขั้นสูงสุดหรือเปล่า?”
“เขาอยู่ในสภาวะชะตากรรมเท่านั้น แต่พลังต่อสู้ของเขากลับสูงพอๆ กับนักรบระดับดวงดาวขั้นสูงสุดเนี่ยนะ?”
“เท่าที่ฉันจำได้ แม้แต่หญิงสาวอัจฉริยะจากอามิลล์ก็ยังไม่เก่งเท่าเขา”
“เธอนำหน้าคนอื่นๆ ทั้งหมดในปีนั้น แต่เธอไม่ได้เหนือกว่าชัดเจนมากนัก ท้ายที่สุดอัจฉริยะก็โผล่ออกมาจากสถาบันสุสานมังกรในปีนั้นด้วยเช่นกัน”
“ทายาทของเทพแห่งดาบอยู่ที่ชั้น 65 เองตะกี้ฉันแค่พูดว่า ‘เอง’ หรอวะ?”
“จักรพรรดิมังกรเพิ่งถึงชั้น 60…”
“ ในปีนี้มีอัจฉริยะเยอะจริงๆ เจ็ดคนทะลุชั้น 50 แล้ว! ที่เหลืออ่อนแอกว่ามาก อันดับสุดท้ายอยู่ชั้น 32 เขามาทำอะไรที่นี่”
เจ้าดวงดาวยิ้มอย่างขมขื่น อัจฉริยะคนอื่น ๆ ทั้งหมดดูเหมือน “ธรรมดา” เมื่อเทียบกับซูผิงซึ่งอยู่ในอันดับสูงสุด
หากไม่มีเขา ทายาทของเทพแห่งดาบจะทำให้ทุกคนตกใจที่ไปถึงชั้น 65
อนุสรณ์แห่งหนึ่งส่องแสงระยิบระยับ และมีคนก้าวออกมา
เขาเป็นชายหนุ่มจากสถาบันมีอาหลัก เขาส่ายหน้าด้วยใบหน้าซีด เขาไม่เห็นใครอื่นนอกจากเจ้าดวงดาวทั้งเจ็ดเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบๆ
นั่นหมายความว่าเขาเป็นคนที่ออกมาเป็นคนแรก
ชายหนุ่มยิ้มเจื่อนๆ จากนั้นจึงบินไปที่ภาพฉายของอนุสรณ์โดยหวังว่าจะเห็นอันดับของเขา
ฉันหวังว่าฉันจะไม่ใช่อันดับสุดท้าย เขาภาวนา
อนุสรณ์อีกแห่งส่องแสงระยิบระยับ คนที่สองปรากฏตัวออกมา
ดวงตาของชายหนุ่มเป็นประกาย เขาออกมาเร็วกว่าคนอื่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มันไม่ได้น่าอายมากนัก
เขาคงจะรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก จนอยากจะฆ่าตัวตายถ้าเขาต้องรอนับหนึ่งชั่วโมงอยู่กับเจ้าดวงดาวทั้งเจ็ดก่อนที่จะมีใครออกมา
ในไม่ช้าผู้คนจำนวนมากก็กลับออกมาจากอนุสรณ์
พวกเขามองไปรอบ ๆ และมีความสุขที่พบว่าพวกเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ถึงกระนั้นพวกเขายังหงุดหงิดเมื่อรู้ว่ายังไม่มีใครจากคนที่อยู่บนยอดเขาออกมาสักกะคนเดียว
พวกเขามารวมตัวกันอย่างรวดเร็วที่หน้าอนุสรณ์คะแนน ซูผิง—ผู้ที่ติดอันดับหนึ่งในอนุสรณ์—มองเห็นได้ในทันที
ทุกคนอ้าปากค้างและอุทานอย่างควบคุมไม่ได้หลังจากพวกเขาเห็นจำนวนแต้มของเขาและชั้นที่เขาอยู่
”มันเป็นไปได้ยังไง?”
“81? ตาของฉันไม่ได้ฝาดใช่ไหม? หรือฉันควรอ่านจากขวาไปซ้าย?”
“ฉันปีนได้แค่ 41 ชั้น แต่ผู้ชายคนนั้นอยู่ชั้นที่ 81 เลยหรอ?”
”มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน? คุณหลิงหู่จากสถาบันของฉันอยู่ในอันดับที่สองเท่านั้น”
“จักรพรรดิมังกรอยู่อันดับสาม? เป็นไปไม่ได้!”
“ไม่จริง!”
นักเรียนทุกคนตกใจ พวกเขาเห็นผลลัพธ์ที่ยอมรับไม่ได้ ไม่มียอดฝีมือระดับแนวหน้าจากสถาบันของพวกเขาที่ติดอันดับสูงสูด
ซูผิงกลับอยู่อันดับสูงสุดแทน เขาได้รับชัยชนะด้วยความช่วยเหลือจากอสูรของเขาก่อนหน้านี้
ที่น่ากลัวกว่านั้นคือเขากำลังท้าทายอนุสรณ์ทุกสายและไปถึงชั้น 81 แล้ว มันไม่มีเหตุผลเลย!
แม้แต่ทายาทของเทพเจ้าแห่งดาบที่ท้าทายอนุสรณ์ดาบก็ไปถึงแค่ชั้น 65 การไปถึงชั้นที่ 81 ของอนุสรณ์ทุกสายนั้นยากพอๆ กับที่จะไปถึงชั้นที่ 90 ของอนุสรณ์ดาบ!
นั่นไม่ได้หมายความว่าผู้ชายคนนั้นเหนือกว่าทายาทของเทพเจ้าแห่งดาบกว่า 25 ชั้นหรอกหรอ?
เจ้าดวงดาวยังคงนิ่งและเมินเฉยเมื่อได้ยินคำอุทานของนักเรียนราวกับว่าพวกเขาหัวเราะเยาะความไม่รู้ของนักเรียน
มีเสียงอุทานดังขึ้นเป็นระยะๆ เมื่อมีนักเรียนออกจากอนุสรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่นานหลังจากนั้น อันดับก็ถูกปรับเป็นครั้งที่แปด และซูผิงยังคงอยู่ที่ด้านบนสุด เขาไปถึงชั้นที่ 88 แล้ว! ชั้น 90 นั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม แม้แต่เจ้าดวงดาวทั้งเจ็ดก็เปลี่ยนการแสดงออกเมื่อเห็นมัน!
ชั้นนั้นเป็นธรณี บรรดาผู้ที่ผ่านชั้น 90 ล้วนเป็นอัจฉริยะท่ามกลางเหล่าอัจฉริยะ ชื่อของพวกเขาจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของอาณาจักรลับอนุสรณ์เทพลวงตา!
“เมื่อพิจารณาความเร็วของเขาแล้ว มันแน่ใจได้เลยว่าเขาต้องไปถึงชั้น 90!”
“นอกจากนี้เขาอยู่ที่นั่นตลอด เขาไม่ได้ออกมา!”
“ที่เก็บพลังงานของเขาช่างน่ากลัวจริงๆ” Aileen-novel
“เขามีพลังต่อสู้ของระดับดวงดาวขั้นสูงสุดแน่ๆ!”
ระดับดวงดาวทั้งเจ็ดคนดูเคร่งขรึม อัจฉริยะอย่างนี้อาจจะอยู่ยงคงกระพันมากขึ้นถ้าก้าวขึ้นสู่ระดับดวงดาว!
นักเรียนเงียบไปครู่หนึ่ง
ก่อนหน้านี้มีคนคิดว่าอันดับผิดพลาด แต่การอัปเดทก็ตบหน้าพวกเขา
ชายหนุ่มถือดาบไม้ผ่านชั้นที่ 70 แล้ว ซึ่งน่าจะเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่หากเป็นปีอื่นๆ แต่ดูเหมือนธรรมดาเมื่อเทียบกับเลข 88…
จากนั้นอันดับก็ถูกปรับเป็นครั้งที่เก้า
ตามที่คาดไว้ซูผิงไปถึงชั้นที่ 90 แล้ว!
ชายหนุ่มถือดาบไม้ขึ้นไปถึงชั้น 73 การก้าวหน้าสามชั้นในเวลาสิบนาทีนั้นเป็นความก้าวหน้าที่ดีมากจริงๆ
เจ้าดวงดาวทั้งเจ็ดยังคงนิ่งเงียบ พวกเขารอดูการจัดอันดับ อยากรู้ว่าชายหนุ่มจะตัดสินใจออกมาตอนไหน
เวลาผ่านไป
อันดับปรับทุก ๆ สิบนาที
ตำแหน่งของซูผิงจะสูงขึ้นหลังจากการปรับทุกครั้ง
ความเร็วของเขาลดลงอย่างมากหลังจากชั้น 90 เขาปีนขึ้นไปหนึ่งชั้นหลังจากการปรับแต่ละครั้ง ถึงกระนั้นคนข้างนอกก็ยังตกใจ ท้ายที่สุดแล้ว ชั้นที่ 90 นั้นยากเกินจินตนาการอยู่แล้ว พวกเขายังไม่แน่ใจว่าพวกเขาสามารถอยู่ในนั้นได้ถึงสิบนาทีหรือไม่ ไม่ต้องพูดถึงการเอาชนะศัตรู!
ชายหนุ่มถือดาบไม้ จักรพรรดิมังกร และนักรบระดับสูงคนอื่นๆ ก็ชะลอตัวลงเช่นกัน ก้าวขึ้นที่ละชั้นเช่นเดียวกับซูผิง
นักเรียนทุกคนจากทั้งห้าสถาบันต่างเงียบเมื่อเห็นการเปรียบเทียบ
ซูผิงกำลังขึ้นที่ละชั้นในชั้นที่ 90 ในขณะที่คนอื่นๆ รู้สึกลำบากเช่นเดียวกันเมื่อต้องเผชิญหน้ากับชั้นที่ 70
ทุกคนรู้เกี่ยวกับช่องว่างยี่สิบชั้น!
ทันใดนั้นอนุสรณ์แห่งหนึ่งก็ส่องประกายระยิบระยับ
ปีศาจมังกรตัวสูงและแข็งแกร่งก็ปรากฏตัวขึ้น เขาดูเหนื่อยล้า จนกระทั่งเขาสังเกตเห็นว่ามีคนจำนวนมากมารวมตัวกันที่หน้าอนุสรณ์คะแนน
เทพธิดาแห่งแสงออกมาจากอนุสรณ์ใกล้ ๆ ทันทีหลังจากที่เขาออกมา
เธอเหลือบมองปีศาจมังกรและสูดหายใจ จากนั้นเธอก็บินตรงไปยังอนุสรณ์คะแนน
พวกเขาเข้าไปใกล้อนุสรณ์และมองอันดับ ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างทันทีพร้อมกับสีหน้าไม่เชื่อ
…
บนชั้นที่ 78 ในอนุสรณ์ดาบ—
อสูรปีศาจที่มีแขนคล้ายเคียวกำลังกระพริบตา ยังมีชายชราผมขาวคนหนึ่งถือดาบยาว แต่ชายคนนั้นมีหน้าเป็นนกอินทรี เขาเป็นอสูรร้าย!
กรงเล็บของเขาสะบัดในขณะที่เขาปล่อยรัศมีต่างๆ
ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เขาคือชายหนุ่มถือดาบไม้
ดาบไม้บนหลังของเขาหายไปแล้ว เขาถือดาบสีทองอร่ามที่เปล่งพลังเทพและรัศมีอันน่าเกรงขาม!
ชายหนุ่มได้รับบาดเจ็บสาหัส รอยยิ้มสบายๆ ของเขาหายไปนานแล้ว ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่นักดาบผมขาวในขณะที่เขาใช้วิชาดาบที่ไม่ธรรมดา
ปัง!
นักดาบผมขาวเคลื่อนไหวอย่างคาดเดาไม่ได้ ราวกับผี เขาและสิ่งมีชีวิตที่ถืออาวุธเคียวกำลังบังคับให้ชายหนุ่มถอยหนี
ปัง!
นักดาบผมขาวก็หมุนดาบของเขาและปล่อยรัศมีดาบอันเจิดจรัสที่สุดออกมา ซึ่งอัดพลังงานทั้งหมดของเขาและผลักชายหนุ่ม
ชายหนุ่มหรี่ตาและโต้กลับอย่างรวดเร็ว แต่ครู่ต่อมา ร่างกายและดาบของเขาก็ถูกครอบงำ
จิตสำนึกของเขาขาดหายไป
ชายหนุ่มสะดุ้งตื่น เขารู้สึกว่าเขากำลังฝัน ขณะนี้เขาอยู่ในความว่างเปล่าในอนุสรณ์ เขายังคงจำการโจมตีอันน่าทึ่งของศัตรูได้ มันครอบงำมาก
น่าเสียดายที่ฉันใช้กำลังไปมากเกินไปแล้ว… ชายหนุ่มมองที่แขนของเขาด้วยความเสียใจ การโจมตีอาจจะน่าตื่นเต้น แต่มันไม่ได้อยู่นอกเหนือความสามารถของเขา เขาแค่รู้สึกหมดแรงเกินกว่าจะป้องกันตัวเองได้
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วยิ้มออกมา 78 ชั้น ก็ไม่เลว…
เขาทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการต่อสู้ ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจจำนวนชั้นมากนัก เขาหลงใหลในวิชาดาบ เขาตัดสินใจท้าทายอนุสรณ์นี้เพื่อพัฒนาฝีมือดาบของเขา เขาไม่มีเวลาสนใจอย่างอื่น
ชื่อเสียงและโชคลาภเป็นเรื่องรอง ดาบของเขาเท่านั้นที่เป็นนิรันดร์!