ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1201+1202
บทที่ 1201 สะใภ้ขี้เหร่ถึงอย่างไรก็ต้องเจอพ่อแม่สามี
เธอเหลือบมองด้านข้างของตี้ฝูอี ตอนนี้เขายังบาดเจ็บอยู่ เธอไม่อยากโต้เถียงกับเขาเรื่องนี้
กระแอมเสียงหนึ่งที “บาดแผลของท่าน…”
ตี้ฝูอียื่นขวดสีเขียวเข้มเล็กให้นาง “ข้าเจ็บแผล เด็กน้อย เจ้าทายาให้ข้าหน่อย”
โม่เจ้าโหดร้ายยิ่งนัก ตอนตรึงตรวนสลายวิญญาณไว้บนร่างกายของตี้ฝูอี นอกจากแขนขาทั้งสองข้างแล้ว ตำแหน่งที่ตรึงโซ่ตรวนอื่นนั้นอันตรายมาก บนกระเบนเหน็บ หลังหัวไหล่ ต้นขา หน้าอก…ล้วนเป็นรอยแผลที่สิ่งนั้นหลงเหลือไว้
เมื่อสักครู่ ตอนที่กู้ซีจิ่วตรวจสอบบาดแผลบนตัว เขายับยั้งเล็กน้อย ให้เธอดูแค่แขนขาทั้งสองข้างกับกระดูกไหปลาร้า
กู้ซีจิ่วทายาให้เขาสามแห่งนี้ก่อน มองดูกระดูกไหปลาร้าที่ร้ายแรงกว่าแขนขาทั้งสองข้าง ก็รู้ได้ว่าเข้าใช้กลอุบายเล่นตุกติกอันใดแล้ว…
เธอนึกตำแหน่งที่ถูกตรึงตรวนสลายวิญญาณในตอนนั้นได้ จึงดึงเสื้อคลุมเขาอย่างไม่คิดชีวิต “ถอด!”
ตี้ฝูอีนิ่งอึ้ง
เมื่อสักครู่ เขาเลื่อนเสื้อคลุมลงมาจากหัวไหล่แค่เพียงนิดเดียว ตอนนี้เมื่อเห็นสายตาวาบไหวและแหลมคมของกู้ซีจิ่ว เขารู้สึกกดดัน กระแอมเสียง “ที่อื่นเดี๋ยวข้าทาเองได้”
กู้ซีจิ่วขบเม้มริมฝีปาก จ้องมองเขาจริงจังยิ่งนัก “เจ้าอายหรือ?” คนหน้าหนาเช่นนี้กลับรู้จักเขินอาย ช่างหาได้ยากเสียเหลือเกิน
ความจริงตี้ฝูอีไม่รู้ว่าเขินอายคืออะไร เมื่อครู่ที่เขาให้นางทายาให้ก็เพื่อที่จะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา บาดแผลบนตัวเขามากมายยิ่งนัก เขากลัวจะทำให้นางตกใจ…และเขาไม่อยากให้นางเห็นสภาพเขาที่น่าอนาจเช่นนี้…
ใครๆ ก็อยากแสดงด้านที่ดีที่สุดของตัวเองต่อหน้าคนที่ตัวเองชอบ ผู้ยิ่งใหญ่อย่างตี้ฝูอีก็ไม่ละเว้น
หากแต่เห็นสายตาไม่ยอมลดละของนาง ตี้ฝูอีก็รู้ว่าหนีไปไหนไม่รอด ทอดถอนใจเอ่ย “ช่างเถิด สะใภ้ขี้เหร่ถึงอย่างไรก็ต้องเจอพ่อแม่สามี[1]” ถอดเสื้อคลุมออกอย่างรู้ชะตากรรม…
กู้ซีจิ่วรู้จักเขามานาน แต่ยังไม่เคยเห็นร่างกายที่แท้จริงของเขา ต่อให้ครั้งนั้นที่สระน้ำร้อน เขาที่เห็นก็สวมอาภรณ์แดงตัวใหญ่ไว้อยู่…
ทว่าตอนนี้ ชายหนุ่มที่น่าหลงใหลมาปรากฏต่อหน้าเธอเยี่ยงนี้
สวมเสื้อผ้าดูผอมบาง ถอดเสื้อผ้าดูมีเนื้อหนัง กล้ามท้องด้านข้าง ร่องหน้าท้อง ซิกแพค ลายเส้นมีพลังสมบูรณ์แบบ…
กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าคำเหล่านี้ที่มักจะใช้พรรณนาร่างกายผู้ชายไม่เพียงพอสำหรับเขา! ถึงขั้นมิอาจบรรยายข้อดีของรูปร่างเขาออกมาได้หมด
คนผู้นี้ไม่เพียงแต่มีใบหน้าที่มีเสน่ห์ แม้แต่รูปร่างก็เป็นประเภทล่มบ้านล่มเมืองได้ ทำให้คนเยือกเย็นอย่างเธอมองแล้วหัวใจสั่นไหว ชาติที่แล้วเธอเป็นถึงนักเรียนแพทย์ เห็นร่างกายมนุษย์มาเยอะ หนึ่งในนั้น มีรูปร่างนายแบบที่ทำให้สายตายเป็นประกาย ต่อให้เป็นเพื่อนร่วมงานชายของเธอหลายคน รูปร่างเยี่ยมยอด ตอนเดินเล่นบนชายหาด สามารถดึงดูดสายตาจิ้งจอกของหญิงสาวจำนวนมาก…
ทว่ารูปร่างอันยอดเยี่ยมของคนเหล่านั้นรวมกันแล้วยังสวยงามเทียบไม่ได้กับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่อยู่เบื้องหน้า!
หากต้องสรรหาคำหนึ่งคำมาเพื่ออธิบายให้ได้ เช่นนั้นก็คือสามคำ…สมบูรณ์แบบ!
แน่นอนว่า หากบนตัวเขาไม่มีบาดแผลที่น่าสยดสยองเหล่านี้ก็จะยิ่งสมบูรณ์แบบ เพราะความสมบูรณ์แบบอย่างมากของรูปร่างจึงทำให้บาดแผลเหล่านี้ดูขัดตาเป็นพิเศษ! อกสั่นขวัญหายเป็นพิเศษ!
ยามนี้ กู้ซีจิ่วไม่มีกะจิตกะใจชื่นชมชายหนุ่ม ดังนั้น หลังจากเธอตกตะลึงไปไม่กี่วินาที จึงเริ่มทายาให้เขาอย่างระมัดระวัง…
ตี้ฝูอีเพลิดเพลินกับความอ่อนโยนของนาง ถึงแม้นางจะทำหน้านิ่งตลอดเวลา แต่การเคลื่อนไหวนุ่มนวลยิ่งนัก ราวกับเขาเป็นเครื่องลายครามสูงค่าที่บอบบาง ต้องการการปกป้องอย่างละเอียดอ่อน
นิ้วมือของนางสัมผัสผิวเขาเป็นครั้งคราว ละเอียด นุ่มลื่น
เดิมทีบาดแผลของเขาเจ็บปวดรวดร้าว…
————————————————————————————-
บทที่ 1202 ข้าทนรับไหว
เดิมทีบาดแผลของเขาเจ็บปวดรวดร้าว แต่การสัมผัสของมือเล็กของนางทำให้ความเจ็บปวดนั้นบรรเทาลงอย่างน่าประหลาดใจ และบางทีก็ถูกเขามองข้ามไป
ความรู้สึกเสียวซ่าจากรอยเย็บบริเวณที่นางสัมผัสเอ่อล้น ทำให้ร่างกายของเขามีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ดวงตายิ่งลึกขึ้นเรื่อยๆ…
กู้ซีจิ่วเป็นหมอที่ดีคนหนึ่ง ตอนนางรักษานางตั้งใจมาก ดังนั้น จึงไม่ทันได้สังเกตสายตาของตี้ฝูอี สมาธิทั้งหมดของนางทุ่มเทไปที่บาดแผลนั้น
บาดแผลหน้าท้องของเขาเป็นแผลฉกรรจ์ ปากแผลไม่เล็ก จะให้ดีที่สุดคือเย็บแผลแล้วรักษา แผลจะหายได้เร็ว
นางนำเข็มผ่าตัดและยาชาออกมาจากตัว…
สิ่งเหล่านี้ล้วนนำมาจากห้องทดลองของหลงฟั่น ตอนนั้นที่ยังสูญเสียความทรงจำ เธอเดินเที่ยวไปมาในห้องทดลองของเขา เมื่อเห็นสิ่งของเหล่านี้ สัญชาตญาณเธอบอกว่าของสิ่งนี้ใช้การได้ ดังนั้นเธอจึงขอมันมาจากหลงฟั่น ท่าทางของหลงฟั่นในตอนนั้นซับซ้อนยิ่งนัก มองเธออยู่หลายที ก่อนจะพูดอย่างช้าๆ ‘สิ่งของเหล่านี้ไม่ใช่ของเล่น เจ้าไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งนี้’ จากนั้นเขาให้เครื่องประดับแก่เธอหลายอย่าง เพื่อให้เธอออกไป
แต่เขาไม่รู้ว่ากู้ซีจิ่วเป็นคนประเภทที่หากปรารถนาสิ่งใดจะต้องหาวิธีทำให้สิ่งนั้นมาอยู่ในมือให้ได้ ตอนนั้นเธอออกไปแล้วและไม่ได้ร้องขออีก เพราะเธอหยิบไปโดยไม่ได้บอกกล่าวแล้ว…
ตอนนี้กลับได้ใช้มันจริงๆ
เธอผสมยาชาเล็กน้อย กำลังจะใช้กับตี้ฝูอี กลับถูกตี้ฝูอียับยั้งไว้ “แผลนี้ของข้าใช้อันนี้ไม่ได้”
กู้ซีจิ่วรู้ว่าเข้าเชี่ยวชาญด้านนี้ ไม่ได้โต้แย้งกลับไป เพียงแค่ขมวดคิ้ว “แต่ถ้าไม่ใช้อันนี้จะเจ็บมาก…” ปากแผลนี้ของเขาต้องเย็บอย่างน้อยแปดถึงเก้าเข็ม
ตี้ฝูอีอมยิ้ม “ไม่เป็นไร ความเจ็บปวดแค่นี้ ข้าทนรับไหว”
เอาเถอะ กู้ซีจิ่วยอมเขาแล้ว “เช่นนั้น ท่านอดทนหน่อยแล้วกัน หากทนไม่ไหวเมื่อใดก็บอกข้า ข้าจะได้หยุดชั่วคราว”
“ตกลง!”
ตี้ฝูอีทนเจ็บได้มากยิ่งนัก เขาไม่ร้องเจ็บสักแอะจนกระทั่งกู้ซีจิ่วเย็บแผลของเขาเรียบร้อย ถึงขั้นไม่ได้ขมวดคิ้วเลยสักนิด ทำให้กู้ซีจิ่วสงสัยว่าต่อมรับรู้ความเจ็บของเขาไม่ทำงาน…
หลังจากจัดการบาดแผลหน้าท้องเสร็จเรียบร้อย บาดแผลครึ่งท่อนบนก็รักษาหมดแล้ว สายตากู้ซีจิ่วร่อนลงบนกางเกงของเขา เธอจำได้ว่าต้นขาเขาเคยมีตรวนสลายวิญญาณสองเส้นตรึงอยู่ ตำแหน่งต้นขาใกล้กับ…
สายตาของเธอร่อนลงที่ตำแหน่งนั้น เขาเปลี่ยนกางเกงแล้ว ตรงนั้นยังมีคราบเลือดเลือนๆ
เธอหยุดชะงักเล็กน้อย ถ้าหากรักษาตรงนั้นก็ต้องให้เขาถอดกางเกง แต่คนยุคสมัยนี้ไม่ใส่กางเกงใน นั่นไม่ใช่…
ถึงแม้เธอตัดสินใจว่าจะแต่งงานกับเขาแล้ว แต่นี่ก็ยังไม่ได้แต่ง จนถึงตอนนี้เขาและเธอชิดเชื้อกันมากที่สุดก็คือเคยจูบกันไม่กี่ครั้ง แต่ไม่เคยก้าวเท้าเข้าสู่กองเพลิง นับได้ว่าเป็นความสัมพันธ์รักอันบริสุทธิ์ ตอนนี้ให้มามองดูส่วนสงวนของเขาอย่างฉับพลัน ความกดดันนี้จึงมากนัก
เธอวุ่นวายใจครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยถามเขา “บาดแผลที่ต้นขาเจ้าไม่สาหัสกระมัง? หากไม่สาหัส เจ้าก็ทายาด้วยตัวเองได้…”
ตี้ฝูอีตัดบทนาง “สาหัส! สาหัสมาก! สาหัสยิ่งกว่าแผลที่หน้าท้องนี้อีก!”
เช่นนั้นก็ต้องเย็บด้วยหล่ะสิ…
ตี้ฝูอีนอนราบอยู่ตรงนั้น หรี่ตามองใบหน้าอันสวยงามที่ค่อนข้างสับสนของนาง โบกมือให้นาง กู้ซีจิ่วคิดว่าเขามีอะไรจะพูด จึงโค้งตัวลงเข้ามาใกล้เขา “ท่านจะพูดอะไร?”
ยังไม่ทันสิ้นเสียง ก็ถูกเขาดึงคอล้มลง นางไม่ทันได้เตรียมป้องกัน นอนทับลงบนตัวเขาไปพอดี
เธอร้องเบาๆ ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาคืออย่าทับบาดแผลของเขา ยังไม่ทันประมวลความคิดนี้เสร็จ จุมพิตของเขาก็ประกบเข้ามา…
————————————————————————————-
[1] สะใภ้ขี้เหร่ถึงอย่างไรก็ต้องเจอพ่อแม่สามี อุปมาว่า แอบซ่อนไว้ไม่ได้