ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1213+1214
บทที่ 1213 การสลับร่างที่แสนวุ่นวาย 2
ทั้งสองเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ ทว่าเห็นตี้ฝูอียืนผ่าเผยอยู่ประตูตำหนัก สีหน้าลึกล้ำดั่งวารี “พวกเจ้าทำอะไรกัน?!”
แรงกดดันของความทรงอานุภาพนัก ทำให้ตำหนักแห่งนี้ที่เดิมทีเหน็บหนาวอยู่แล้วราวกับมีสายลมหนาวพัดกรรโชก
กู้ซีจิ่วตะลึง
หลงซือเย่เงียบงัน
อำนาจของตี้ฝูอีแข็งแกร่งเกินไป หลงซือเย่ถูกเขาทำให้ตกใจจนสั่นสะท้านไปหมด เข็มฉีดยาในมือแตกไปแล้วครึ่งหนึ่งก็หล่นลงพื้นเช่นกัน
……
จะอย่างไรกู้ซีจิ่วก็คิดไม่ถึงเลยว่าตี้ฝูอีจะพิโรธปานนี้ เขาปรากฏตัวขึ้นอย่างอึกทึกครึกโครม ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรไล่หลงซือเย่ออกไปเลย ซ้ำยังสั่งการคนเฝ้าประตู ถ้าภายหน้าหลงซือเย่มาให้ปฏิเสธไปเสีย นับจากนี้ไม่อนุญาตให้เขาเข้าเยี่ยมเยือนอีก
กู้ซีจิ่วไม่รู้จริงๆ ว่าสรุปแล้วนี่ไปล่วงเกินเกล็ดย้อนแผ่นไหนของเขาเข้า สู้ลมหายใจแล้วสูดลมหายใจอีก ถึงระงับเพลิงโทสะในใจลงแล้วเอ่ยถามเขา “ท่านหมายความว่ายังไง? ครูฝึกหลงแค่คิดจะสลับร่างคืนให้ข้า ทำไมต้องไล่เขาไปด้วย?”
เธอถามเขายามที่อยู่แถวๆ ประตูใหญ่ ยามนี้หลงซือเย่เพิ่งถูกเขาโยนออกไปได้ไม่ถึงสองนาทีเลย
พอกู้ซีจิ่วไล่ตามออกมา ประตูใหญ่ก็ปิดลงแล้ว
“กู้ซีจิ่ว เจ้าเชื่อเหรือว่าเชื่อข้า?” ตี้ฝูอีดึงมือเธอ กันไม่ให้เธอเปิดประตูออกไปดู
กู้ซีจิ่วเงียบไป
เธอมองตี้ฝูอี ไม่รู้ว่าคำพูดนิยายแบบนี้ออกมาจากปากเขาได้อย่างไร เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับการเชื่อใครเลยมิใช่หรือ?!
“เจ้าติดกับเขาสองครั้งแล้วยังไม่พอหรือ ยังคิดจะมีครั้งที่สามอีกหรือ?”
คำพูดประโยคนี้ค่อนข้างแทงใจ กู้ซีจิ่วสูดลมหายใจอีกคราหนึ่ง “ท่านก็รู้ว่าครั้งก่อนเป็นเพราะเขาถูกอูอู๋เหยียนผู้นั้นควบคุม ที่ทำร้ายข้ามิใช่เจตนาแต่เดิม อีกอย่างครั้งนี้ที่พวกเราหนีออกมาได้เขาก็ลงแรงไปไม่น้อยเหมือนกัน…”
ตี้ฝูอียิ้มเยียบเย็น “เขาแค่ไม่อยากให้เจ้าตกอยู่ในกำมือหลงฟั่นก็เท่านั้น! เจ้าไร้เดียงจนนึกว่าเขาจะไม่มีความคิดอันใดต่อเจ้างั้นหรือ?”
กู้ซีจิ่วนิ่งงัน
“ทักษะวิปริตเหล่านั้นของเขาไม่ด้อยไปกว่าหลงฟั่นเลย เจ้ารู้ได้ยังไงว่าเข็มนั้นที่เขาฉีดให้เจ้าจะเอาชีวิตของเจ้าหรือไม่? จะทำให้ดวงวิญญาณของเจ้าสูญหายไปยังสถานที่ผีสางอันใดอีกครั้งหรือเปล่า? เจ้าอยากให้ข้าคว้านหาตัวเจ้าไปทั่งหล้าอีกหรือ?” ตี้ฝูอีต้อนไปทีละขั้นๆ
กู้ซีจิ่วเคยเห็นด้านต่างๆ ของตี้ฝูอีแล้ว เพียงแต่ไม่เคยเห็นด้านที่ร้อนรนกระวนกระวายเช่นนี้เลย ถ้อยคำที่เขากล่าวเสมือนคมมีดที่กรีดลงบนหัวใจเธอ
ใบหน้าพริ้มเพราของเธอซีดขาวเล็กน้อย หันหลังหนีในทันใด ใช้วิชาเคลื่อนย้ายหายไปไม่เห็นเงา
เธอไม่ได้พานโกรธจนหนีออกประตูไป แต่เคลื่อนย้ายมาที่ตำหนักน้ำแข็งแห่งนั้น ที่นั้นยังมีเข็มฉีดยาแตกๆ อันนั้นอยู่ เธอต้องการดูส่วนประกอบในน้ำยา…
ค่อยยังชั่ว พื้นของที่นี่คือหยก ในกระบอกเข็มฉีดยายังมีเหลืออยู่นิดหน่อย เธอเก็บส่วนที่เหลืออยู่พวกนั้นขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เตรียมตรวจสอบองค์ประกอบของสิ่งนี้
เธอไม่เชื่อว่าหลงซือเย่จะทำร้ายเธออีก! ดังนั้นจะต้องทำให้กระจ่างว่าสรุปแล้วคืออะไรกัน
จะวิเคราะห์องค์ประกอบของตัวยาจะต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะทาง อุปกรณ์ที่กู้ซีจิ่วสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบากเหล่านั้นล้วนเก็ไว้ในช่องมิติบนร่างของหยกนภา
เธอเดินตรงไปที่ด้านหน้าโลงแก้วผลึก ตบหยกนภาเบาๆ “เสี่ยวชาง เปิดมิติเก็บของหน่อย ข้าจะหยิบของ“
ถึงแม้หยกนภาจะสื่อสารกับเธอไม่ได้ แต่ยังฟังคำพูดของเธอเข้าใจอยู่ มิติเก็บของเปิดออกมาจริงๆ เธอหยิบข้าวของที่จำเป็นด้านในออกมา
พอหันหลังไปก็เห็นตี้ฝูอียืนอยู่ตรงปากประตู เธอชะงักไปเล็กน้อย ยังคงกล่าวอิบายกับเขาประโยคหนึ่ง “ข้าจะตรวจสอบน้ำยาให้กระจ่าง ถ้าหากเขาปองร้ายข้าจริงๆ ชั่วชีวิตนี้ข้าจะไม่เชื่อใจผู้อื่นอีกแล้ว!” พลางเดินผ่านข้างกายเขาไป
ตี้ฝูอีคว้าข้อมือของเธอไว้ “ข้าจะวิจัยกับเจ้าด้วย!”
————————————————————————————-
บทที่ 1214 การสลับร่างที่แสนวุ่นวาย 3
กู้ซีจิ่วก็ไม่ปฏิเสธ พยักหน้ารับ “ได้!”
เธอขลุกอยู่ในห้องหลอมโอสถของตี้ฝูอีทำการวิจัยอยู่ทั้งวัน ตามองค์ประกอบของตัวยาสรุปผลได้ว่า ตัวนี้ไม่ใช่ยาพิษ กลับมีผลดีต่อร่างกายด้วยซ้ำ บำรุงร่างกาย ทำให้คนหลับลึกจนวิญญาณออกจากร่างโดยไม่รู้ตัว…
สรรพคุณของตัวยาเหมือนที่หลงซืออธิบายกับกู้ซีจิ่วไว้ไม่มีผิด
หลงซือเย่บอกเธอว่า หลงฟั่นได้เล่นเล่ห์บางอย่างกับร่างโคลนนิ่งร่างนี้ของเธอ ทำให้เธอไม่อาจถอดจิตกลับไปอย่างปกติได้ ร่างโคลนนิ่งเสมือนภาชนะที่กักขังดวงวิญญาณของเธอไว้ ยานี้เพียงจะเปิดทางของภาชนะนี้ออก ทำให้เธอถอดจิตได้ราบรื่นปลอดภัย กลับเข้าร่างเดิมได้
ยามนี้สรรพคุณของยาตัวนี้เหมือนที่หลงซือเย่กล่าวไว้ไม่มีผิด กู้ซีจิ่วจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
แต่ตี้ฝูอีกลับสาดน้ำเย็นใส่เธอ “องค์ประกอบของโอสถนี้คือเอาชีวิตเจ้า เมื่อวิญญาณเจ้าออกจากร่างแล้ว ผู้ใดจะรู้ได้ว่าดวงวิญญาณของเจ้าจะถูกคร่ากุมไปไว้ที่ใด? ที่ข้าว่าไว้ไม่ผิดเลย”
กู้ซีจิ่วแหนงหน่าย “ร่างโคลนนิ่งของเขาก็ถูกทำลายไปแล้ว ท่านบอกมิใช่หรือว่าพบร่างโคลนนิ่งที่เขาสร้างขึ้นในภูเขาไฟลูกนั้น? ถ้างั้นเขาจะคร่ากุมข้าไปใส่ไว้ที่หนล่ะ? คงไม่อาจปล่อยให้ข้าลอยไปลอยมาได้กระมัง?”
ตี้ฝูอีกล่าวอย่างเฉยเมย “ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ทั้งนั้น”
กู้ซีจิ่วมองเขาอย่างเหลืออดแวบหนึ่ง พลางเม้มริมฝีปากจิ้มลิ้ม “ท่านพูดอยู่เสมอว่าข้าขี้ระแวง ข้าว่าท่านเองก็ขี้ระแวงยิ่งนักเช่นกัน เห็นผู้อื่นมีแผนร้ายอยู่ตลอด”
“โดนงูกัดคราหนึ่ง ผวาเชือกไปอีกสิบปี ซีจิ่ว เกี่ยวกับตัวเจ้าข้าจะต้องระมัดระวังแล้วระมัดระวังอีก หากว่าเจ้าประสบอุบัติเหตุอันใดขึ้นมาอีกครั้ง ข้าอาจจะช่วยเจ้ากลับมาเป็นครั้งที่สองไม่ได้แล้ว”
กู้ซีจิ่วนิ่งงัน
เธอนึกถึงครานี้ที่เพื่อช่วยเหลือเธอตี้ฝูอีเกือบต้องเอาชีวิตเข้าแลกแล้ว หัวใจพลันอ่อนยวบ ในใจที่เดิมทีมีความขุ่นเคืองเล็กๆ น้อยๆ ต่อเขาสุดท้ายก็สลายไปดั่งหมอกควัน มองดูสีหน้าของเขา สีหน้าของเขายังคงซีดเซียวอยู่บ้าง
“อาการบาดเจ็บของท่านเป็นยังไงบ้าง?”
ตี้ฝูอีมองเธอเนิบๆ แวบหนึ่ง “ในที่สุดก็นึกถึงอาการบาดเจ็บของข้าขึ้นมาแล้วหรือ? ควรเปลี่ยนยาได้แล้ว!” พลางโยนขวดยาขวดหนึ่งให้เธอ จากนั้นถือโอกาสนอนลงบนเตียงเพียงตัวเดียวในห้องหลอมโอสถแห่งนี้
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย…
บาดแผลบนร่างตี้ฝูอีดีขึ้นไม่น้อย สมานตัวหมดแล้ว มีการตกสะเก็ด เป็นสัญญาณว่าแผลจะหยสนิทแล้ว
เมื่อกู้ซีจิ่วเห็นบาดแผลเหล่านั้นบนร่างเขาอารมรณ์หงุดหงิดอันใดก็ไม่เหลืออยู่แล้ว บาดแผลเหล่านี้เป็นเพราะเธอทั้งสิ้น…
เธอนั่งอยู่หน้าเตียงทายาให้เขา เอ่ยถามเขาอย่างอดไว้ไม่ได้ “ท่านนั่งสมาธิสามวันไม่ได้เปลี่ยนยาเองเลยหรือ?”
ตี้ฝูอีหลับตาลงนิดๆ เพลิดเพลินกับการปรนนิบัติของเธอ “ครั้งนี้ข้านั่งสมาธิจนเข้าสู่ภวังค์อย่างแท้จริง ไม่พูดคุยไม่เคลื่อนไหวไม่บริโภค ย่อมลุกขึ้นมาเปลี่ยนยาเองไม่ได้เช่นกัน”
กู้ซีจิ่วอดทอดถอนหายใจไม่ได้ “เช่นนั้นพอท่านนั่งสมาธิเสร็จก็เปลี่ยนยาสักครั้งได้นี่”
“เมื่อข้าตื่นจากสมาธิเรื่องแรกที่ทำก็คือไปหาเจ้า!” ตี้ฝูอีกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “และโชคดีที่ข้าไปหาทันเวลา มิเช่นนั้นยามนี้เจ้าอาจจะไม่ได้คุยกับข้าอยู่ตรงนี้แล้ว…”
กู้ซีจิ่วเงียบไปครู่หนึ่ง “…และไม่แน่ว่าตอนนี้อาจกลับเข้าร่างเดิมไปแล้ว กำลังใส่ยาให้ท่านอยู่! ตอนนี้ก็เห็นกันแล้วว่ายานั่นของหลงซือเย่ไม่มีปัญหา”
“คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ เด็กน้อย เจ้ายังอ่อนหัดไปหน่อย” ตี้ฝูอีไม่ลืมตาขึ้นมา
กู้ซีจิ่วไม่อยากถกเถียงปัญหาข้อนี้กับเขาอีกต่อไป โต้แย้งกันแบบนี้ต่อไปก็ไม่เกิดผลอะไรขึ้นมา จะทะเลาะกันได้ง่ายๆ…
เธอตัดสินใจอยู่ในใจแล้ว ว่าถ้าว่าจะสร้างน้ำยาตามส่วนประกอบยานี้ของหลงซือเย่ขึ้นมาอีกหลอดหนึ่ง จากนั้นจะหาสัตว์สักตัวมาทดสอบดู
“ช่างเถอะ พวกเราไม่พูดถึงเขาแล้ว ท่านก็น่าจะใช้วิชาสลับร่างได้เหมือนกันกระมัง? ถ้างั้นท่านสลับคืนให้ข้าได้ไหม?”
————————————————————————————-