ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1315+1316
บทที่ 1315 ช่วยชีวิต
แทบจะไม่ทันได้ถามอะไร นางเปิดประตูทันใด “อะ…อะไรนะ?”
เจ้าหอยยักษ์แทบจะร้องไห้น้ำตานองหน้าอยู่ด้านนอกประตู “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมาแล้ว แต่เขาบาดเจ็บสาหัส เกือบจะหมดลมหายใจแล้ว…”
กู้ซีจิ่วร่างซวนเซเล็กน้อย ไม่ทันได้ถามต้นสายปลายเหตุทั้งหมดในเวลานี้ เธอถามแค่เพียงว่า “เขาอยู่ที่ไหน?”
“ในเรือนร้อยสมานของข้า…” หลัวจั่นอวี่กล่าว
เงาร่างกู้ซีจิ่วขยับวูบวาบ พลันหายวับไป
หลัวจั่นอวี่นิ่งอึ้ง
ไป๋หลี่เช่อที่รับการผ่าตัดไปครึ่งหนึ่งเอ่ยปาก “ขะ…แขนของข้ายังต่อไม่ติดเลย…”
หลัวจั่นอวี่อดไม่ได้ที่จะย่นหน้าผาก เขาไม่ค่อยรู้เรื่องราวระหว่างตี้ฝูอีกับกู้ซีจิ่วว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และไม่รู้ว่าตี้ฝูอียึดครองตำแหน่งใดในใจของกู้ซีจิ่ว ทว่าดูจากการกระทำของทั้งสองคน เห็นได้ชัดยิ่งว่าทั้งสองต่างใส่ใจซึ่งกันและกันเป็นที่สุด
หากรู้เช่นนี้แต่แรก เมื่อสักครู่ตอนเขาช่วยตี้ฝูอีกลับมาก็จะเคาะประตูห้องกู้ซีจิ่วโดยทันที ไม่ใช่เสียเวลาอยู่นานแต่ก็พบว่าตัวเองช่วยไม่ได้ถึงค่อยมาเรียกนางไป
ทว่าถึงแม้กู้ซีจิ่วสร้างปาฏิหาริย์ช่วยชีวิตคนเจ็บกลับมาได้ หากทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายต้องมาจบชีวิตเยี่ยงนี้ เกรงว่าน้องสาวจะใจสลาย…
ขอให้ยังไม่สายเกินไปด้วยเถิด!
เขามองไป๋หลี่เช่อแวบหนึ่ง กล่าวในใจว่า ยามนี้อย่าว่าแต่แขนของเจ้ายังต่อไม่ติดเลย ต่อให้ศีรษะของเจ้ายังต่อไม่ติด นางก็จะไปช่วยตี้ฝูอีทันที…
ทักษะการแพทย์ของหลัวจั่นอวี่ดีเยี่ยมยิ่งนัก ส่วนที่สำคัญที่สุดในการผ่าตัดแขนของไป๋หลี่เช่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลัวจั่นอวี่แค่เย็บเนื้อเยื่อบริเวณผิวหนังด้านนอก และทายาอีกนิดหน่อยก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้น ดังนั้นเขาจึงรั้งอยู่ต่อ…
กู้ซีจิ่วแทบจะกระโจนเข้าไปในเรือนร้อยสมาน ในที่สุดเธอก็เห็นตี้ฝูอีแล้ว นิ้วมือในแขนเสื้อสั่นเทา
เธอไม่เคยเห็นตี้ฝูอีที่อ่อนแอจนมีสภาพเป็นแบบนี้มาก่อน ดวงตาทั้งคู่ปิดสนิท ใบหน้าซีดขาวเฉกเช่นกระดาษแผ่นหนึ่ง ริมฝีปากบางขบเม้มเป็นเส้นเดียวกัน ซีดจนแทบจะเป็นสีเดียวกันกับใบหน้า มีเลือดตรงมุมปาก บนใบหน้าก็เช่นกัน ผมเผ้ายุ่งเหยิงอยู่ใต้ร่าง มือของเขาราวกับว่ากำลังทำมุทราบางอย่าง นิ่งไม่ขยับเขยื้อนอยู่ตรงนั้น
ดูจากแค่รูปลักษณ์ของเขา สภาพเหมือนกับคนตายไม่ผิด! กู้ซีจิ่วมองไม่เห็นพลังชีวิตจากตัวเขาแม้แต่น้อย
เขามาทำไม? เขามาอย่างไร? เขามาเมื่อไร?…
คำถามเหล่านี้ไม่มีความสลักสำคัญในยามนี้ กู้ซีจิ่วโผเข้าไปข้างกายเขาทันที ตรวจดูบาดแผลของเขา และวัดชีพจรให้
เวลานี้สมองของเธอว่างเปล่า แทบจะทำทุกอย่างรวดเร็วดังเครื่องจักรกล ในหัวมีเพียงความคิดเดียวคือไม่อาจให้เขาตายเป็นอันขาด! ต่อให้เธอตาย เธอก็ไม่ต้องการให้เขาตาย! ต้องช่วยชีวิตเขา! เธอต้องช่วยชีวิตเขา!
ชีพจรของเขาไม่สม่ำเสมอ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ…
กระดูกซี่โครงบริเวณหน้าอกหักสี่ซี่ หนึ่งในนั้นแทงทะลุเข้าห้องหัวใจ เขาน่าจะถูกโจมตีหนักหนาปางตาย เลือดคั่งอยู่ภายในตับ บริเวณช่องท้องมีบาดแผลขนาดใหญ่ ถึงแม้ว่าหลัวจั่นอวี่จะรักษาไปแล้ว ทว่าดูจากความลึกของบาดแผลน่าจะบาดเจ็บถึงอวัยวะภายในเช่นกัน…
ลักษณะการบาดเจ็บเช่นนี้ของตี้ฝูอี หากเปลี่ยนเป็นคนธรรมดา ยามนี้คงได้กลับไปอยู่ในสังสารวัฏนานแล้ว!
เคราะห์ดีที่เป็นเขา ถึงรักษาพลังชีวิตของร่างกายนี้ได้ไม่ถึงขั้นตายจากไป
กู้ซีจิ่วยิ่งตรวจดูมือก็ยิ่งสั่นมากขึ้น เขาบาดเจ็บถึงเพียงนี้! เพราะอะไร? เป็นไปได้อย่างไร?!
“ตี้ฝูอี! ตี้ฝูอี! ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย! ฝูอี! ฝูอี…”
กู้ซีจิ่วตรวจร่างกายให้เขาอย่างรวดเร็วพลางร้องเรียกชื่อเขาสุดชีวิต หมายจะเรียกสติเขากลับคืนมา
บาดแผลของเขาเยี่ยงนี้ การรักษาของหมอก็เรื่องหนึ่ง ผู้บาดเจ็บยังต้องมีเจตจำนงอันแรงกล้าที่จะมีชีวิตอยู่ด้วย…
————————————————————–
บทที่ 1316 ช่วยชีวิต 2
บาดแผลของเขาเยี่ยงนี้ การรักษาของหมอก็เรื่องหนึ่ง ผู้บาดเจ็บยังต้องมีเจตจำนงอันแรงกล้าที่จะมีชีวิตอยู่ มิเช่นนั้นต่อให้กู้ซีจิ่วมีความสามารถสร้างปาฏิหาริย์ฟื้นคนตายให้กลับมาเป็นได้ ก็ไร้ประโยชน์กับบาดแผลของเขา
เธอร้องเรียกชื่อทั้งหลายของเขาอยู่หลายรอบ ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ กลับมา
“เจ้านาย เขาจะตายแล้วใช่หรือไม่?” น้ำตาเจ้าหอยยักษ์ยังคงเอ่อล้นนัยน์ตา มันไม่อยากให้ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมีอันเป็นไป ถึงแม้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายจะเข้มงวดกับพวกมันสามตัว แต่ละวันสั่งให้พวกมันทำงานกองโต ฝึกฝนจนพวกมันยอมตายเสียยังดีกว่า ทว่าเขาก็สอนทักษะที่แท้จริงให้พวกมัน บอกว่าพวกมันเป็นผู้ช่วยของกู้ซีจิ่ว ต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องเจ้านายได้ถึงจะถูก
เขายังให้เม็ดยาพวกมันกิน ทำให้พลังวิญญาณของพวกมันพัฒนารวดเร็วกว่าการพัฒนาแบบธรรมชาติมากกว่าเท่าทวี!
ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่เป็นเช่นนี้จึงไม่อาจตายได้ เขาตายไปแล้วเจ้านายจะทำอย่างไร? เจ้านายไม่กลายเป็นม่ายตั้งแต่อายุยังน้อยหรอกหรือ?
“ข้าจะไม่ยอมให้เขาตาย!” กู้ซีจิ่วราวกับให้สัตย์สาบาน ซ้ำยังเติมต่อท้ายอีกหนึ่งประโยคในใจว่า ‘ถึงแม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิตข้าก็ตาม!’
ถึงแม้เธอจะหนีการแต่งงานมา ถึงแม้อยากจะเดินทางใครทางมัน ทว่าเธอไม่เคยคาดหวังให้เกิดเรื่องอันใดกับเขา และย่อมยิ่งไม่ต้องการให้เขาตายแน่นอน ถึงขั้นคิดขึ้นมาแล้วก็หวาดกลัวจนตัวเย็นเฉียบ! แทบไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าหากเขาตายไปจริงๆ เธอจะทำอย่างไร…
เธอรีบร้อนรักษาเขา เจ้าหอยยักษ์เหมือนจะบ่นพึมพำอยู่ข้างกาย แต่เธอก็ไม่ได้ยินแม้แต่น้อย ในสายตาเธอมีเพียงแค่บาดแผลของเขาเท่านั้น…
เรื่องคนอื่นเก่งนัก พอเจอกับตัวถึงกับไปไม่เป็น
ตอนที่กู้ซีจิ่วรักษาคนอื่น ไม่ว่าคนคนนั้นบาดเจ็บสาหัสเพียงใด สถานการณ์จะน่าเวทนาเพียงใด เธอก็รักษาให้คนผู้นั้นแบบไม่กะพริบตาได้ จิตใจสงบเป็นที่สุด ไม่มีอาการมือสั่นแม้แต่น้อย
ทว่ายามนี้มือของเธอสั่นแล้ว! สั่นเหมือนไม่ใช่มือของตัวเอง
เช่นนี้ไม่ได้การ! การผ่าตัดมือจำเป็นต้องนิ่ง! มิเช่นนั้นหากสั่นเพียงเล็กน้อยก็อาจคร่าชีวิตคนได้!
และตอนนี้เธอก็ไม่มีใครอื่นที่ฝากความหวังได้ มีแค่เธอเท่านั้น และมีเพียงเธอที่รักษาชีวิตเขาได้
ทันใดนั้นเธอหยิกแขนตัวเองอย่างแรง ให้ความเจ็บปวดอันรุนแรงนี้ช่วยครองสติเอาไว้…
ไม่มีทาง เขาไม่มีทางตายได้! กู้ซีจิ่ว เจ้าต้องนิ่งไว้!
เขาเป็นเทพ เขาไม่มีทางตายได้! ผู้คนในโลกหล้านี้ตายแต่เขาจะตายไม่ได้! ตอนนี้สิ่งที่เจ้าต้องทำก็คือรักษาบาดแผลของเขา อย่าคิดสะเปะสะปะไปไกล เจ้าต้องใจเย็น!
เธอสูดหายใจเข้าลึก และสูดหายใจเข้าลึกอีกครั้ง จากนั้นจับมืออันเย็นเยือกของเขาไว้ “ตี้ฝูอี ข้าไม่อนุญาตให้ท่านตาย! ท่านได้ยินไหม! ท่านเป็นอันตรายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพื่อเข้ามาที่นี่ เพราะอยากพูดอะไรกับข้าใช่หรือไม่? ท่านยังไม่ได้พูดเลย ข้ายังไม่ได้ฟังที่ท่านพูดเลย ข้าอยากฟังท่านพูด…”
น้ำเสียงของเธอจุกอยู่ในลำคอ น้ำตาทำให้การมองเห็นพร่ามัว
เธอสูดลมหายใจเข้าอีกครั้ง ปาดน้ำตาด้วยความหนักแน่น ก่อนแนบกายเอ่ยข่มขู่ข้างใบหูของเขา “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย หากท่านตาย ข้าก็จะตายเป็นเพื่อนท่านด้วย! ข้าจะไปปรโลกเพื่อคิดบัญชีกับท่าน!”
……
ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม นางกำลังยุ่งง่วน หลัวจั่นอวี่เข้ามาอย่างเงียบเชียบ เห็นกู้ซีจิ่วกำลังผ่าตัดให้ตี้ฝูอี ถึงแม้สีหน้าของนางจะซีดเผือด ทว่าการเคลื่อนไหวยังคงคล่องแคล่วช่ำชอง ไม่มีวอกแวก
หลัวจั่นอวี่เลื่อมใสนาง!
น้อยมากที่หมอทั่วไปจะทำได้ถึงจุดนี้ สามารถผ่าตัดให้คนที่ตัวเองใส่ใจที่สุดได้สงบเยือกเย็นถึงเพียงนี้
หากไม่ใช่เพราะเห็นใบหน้าที่ซีดเผือดของนาง เห็นนัยน์ตาที่มองไปยังตี้ฝูอีฉายแววใส่ใจและเป็นห่วงเป็นใย เขาก็แทบจะคิดว่ากู้ซีจิ่วไม่ได้มีความรู้สึกลึกซึ้งอันใดต่อตี้ฝูอีไปแล้ว
เขากลัวว่านางจะยุ่งเกินไป จึงอยากมาเป็นผู้ช่วยนาง
แต่กู้ซีจิ่วไม่ยอม นางไม่อยากให้ผู้ใดแตะต้องร่างกายของตี้ฝูอี
———————————————————————-