ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1360 (1)+(2)
บทที่ 1360 การกลั่นแกล้งจากพี่ใหญ่ (1)
หลัวจั่นอวี่เลิกคิ้ว “กล่าวเช่นนี้ท่านมีวิธีออกไปแล้วหรือ?”
“ตอนนี้ยังไม่มี”
ที่แท้เขาก็ยังไม่มีวิธีในตอนนี้ ในใจของหลัวจั่นอวี่ไม่ทราบเช่นกันว่ายินดีหรือวิตก “ในเมื่อท่านยังไม่มีวิธีชั่วคราว เช่นนั้นจะรับประกันได้อย่างไรว่าท่านจะจัดงานวิวาห์ที่อลังการให้นางได้? หากว่าออกไปไม่ได้ตลอดกาล ท่านก็จะอยู่อย่างคลุมเครือเช่นนี้ไปเรื่อยๆ งั้นหรือ?”
“ถ้างั้นความหมายของเจ้าคืออะไร?”
“ที่นี่ก็มีกฎเกณฑ์ของที่นี่ ในเมื่อท่านเข้ามาที่นี่ เช่นนั้นทุกสิ่งก็สมควรยึดตามกฎเกณฑ์ของที่นี่ ท่านต้องเตรียมงานวิวาห์ที่ทุกคนล้วนยอมรับให้นางที่นี่”
….
สถานที่แห่งนี้บุรุษมากสตรีน้อย ซ้ำยังมีกฎผัวเดียวเมียเดียว ดังนั้นเมื่อบุรุษที่นี่คิดจะแต่งศรีภรรยาจึงเป็นเรื่องยากเย็นเหลือแสน กับภรรยาจะต้องถูกตาต้องใจกันทั้งสองฝ่ายอย่างแท้จริง ซ้ำยังต้องอดทนต่อการทดสอบสารพัดอย่าง มีเพียงผ่านการทดสอบแล้วถึงจะได้รับการยอมรับจากทุกคน ทุกคนถึงจะจัดงานวิวาห์ที่สมเกียรติให้ ให้เขาแต่งศรีภรรยาเข้าเรือนได้
เนื่องจากต้องประสบความยากลำบากเหลือคณะถึงจะรู้จักคุณค่าอย่างยิ่ง ดังนั้นการทดสอบเหล่านั้นล้วนพิสดารพันลึกยิ่ง ยากจะฝ่าด่านได้ บางคนต้องเตรียมการถึงเจ็ดแปดปีเพื่อแต่งศรีภรรยา
ยกตัวอย่างเช่นเพื่อให้ได้รับความเห็นชอบจากบุรุษทุกคนก็ต้องตอบรับความต้องการที่แตกต่างกันไป
ถึงอย่างไรก็สุนัขมากเนื้อน้อย สตรีนางหนึ่งมักจะมีบุรุษหมายปองอยู่เจ็ดแปดคน ถ้าสตรีนางนี้ออกเรือนก็เท่ากับคนที่เหลือไม่มีหวังแล้ว คนเหล่านี้ย่อมไม่พอใจแน่นอน อยากได้ความเห็นชอบในการแต่งงานจากพวกเขาจึงยากเย็นนัก…
ถึงแม้กู้ซีจิ่วจะมาถึงที่นี่ได้ไม่นาน ทว่าไม่ทราบเลยว่าได้รับความนิยมจากบุรุษมากน้อยเพียงใด ชายโสดของที่นี่ล้วนชมชอบเธอกันแทบทุกคน กระตือรือร้นอยากพิชิตใจเธอ พวกเขาไม่ใช้วาจาเหมือนไป๋หลี่เช่อ แต่แสดงเจตนาไล่ตามออกมาอย่างชัดเจน
มีบางคนที่ค่อนข้างรอบคอบ เนื่องจากระยะเวลายังไม่นาน อีกทั้งเธอยังเลิศล้ำปานนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกว่าห่างชั้นกันอยู่บ้าง ทุกคนจึงพยายามยกระดับการบำเพ็ญของตนกันอย่างลับๆ หล่อหลอมฝีมือตน ให้บรรลุเงื่อนไขที่สามารทัดเทียมกับเธอได้ จากนั้นค่อยหาทางเกี้ยวพาเธอ
ก่อนตี้ฝูอีมาถึง บุรุษที่รายล้อมรอบกายกู้ซีจิ่วเหล่านี้เริ่มประชันขันแข่งเพื่อเอาชนะใจโฉมงามกันอย่างลับๆ แล้ว ใช้มากมายหลายกลยุทธ์ ล้วนหมายจะพิชิตใจสาวงาม
ยามนี้ตี้ฝูอีมาแล้ว ซ้ำยังพกพาฐานะคู่หมั้นเข้ามาด้วย
อีกทั้งเขาก็มีความหลังกับทุกคนทั้งสิ้น บ้างก็มากบ้างก็น้อย ถึงแม้คืนนั้นเขาจะพลิกสถานการณ์ช่วยชีวิตทุกคนไว้ทันกาล แต่ก็แค่ทำให้ปมในใจของทุกคนเล็กลงนิดหน่อยเท่านั้น ไม่ได้สูญสิ้นไปอย่างสมบูรณ์ ทุกคนยังคงระแวดระแวงเขาอยู่ยิ่งนัก
ตอนนี้ทัศนคติที่ทุกคนมีต่อเขาคือการเคารพอยู่ห่างๆ รักษาระยะห่างไม่ใกล้ไม่ไกล พวกเขาถึงขั้นที่ยังไม่ยอมรับเขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนี้ด้วยซ้ำ ถ้าเขาอยากได้รับความเห็นชอบจากคนเหล่านี้นั่นย่อมยากยิ่งกว่ายากเสียอีก
ได้รับความเห็นชอบจากทุกคนเป็นเพียงเงื่อนไขข้อหนึ่งเท่านั้น ยังมีเงื่อนไขอีกข้อคือเต้องใช้ความสามารถในด้านที่ตนไม่ถนัดที่สุดสร้างประโยชน์ให้กับทุกคน…
ยกตัวอย่างเช่นคนที่เชี่ยวชาญการเก็บเกี่ยวจะต้องขึ้นเขาไปล่าสัตว์เพียงลำพังหนึ่งครั้ง สัตว์ที่ล่ากลับมาจะต้องเลิศรสที่สุดเพียงพอให้ทุกคนได้กินกันมื้อใหญ่ และสัตว์ที่ตรงตามเงื่อนไขข้อนี้แต่ละตัวล้วนเป็นสัตว์ที่ดุร้ายอย่างยิ่ง หากไม่ระวังเพียงนิดก็จะเป็นการเอาชีวิตไปทิ้ง
คนที่เชี่ยวชาญการล่าสัตว์จะต้องขึ้นต้นไม้ไปเก็บเกี่ยวผลไม้กับใบไม้ให้เพียงพอสำหรับคนทั้งกลุ่มใช้หนึ่งวัน และต้องขึ้นไปเพียงลำพังเช่นกัน ถูกฝูงลิงทุบตีจนบวมปูดทั้งศีรษะก็เป็นเรื่องตามสมควร
เนื่องด้วยเงื่อนไขที่โหดร้ายทารุณเหล่านี้บุรุษทุกคนที่อยากแต่งภรรยาจึงต้องมุ่งมั่นแน่วแน่อย่างยิ่ง เมื่อผ่านความยากลำบากสารพัดสารพันถึงเพียงนี้ภรรยาที่แต่งเข้าเรือนมาย่อมได้รับความรักใคร่เอ็นดูประหนึ่งสมบัติล้ำค่า
ยามนี้หลัวจั่นอวี่นำเงื่อนไขเหล่านี้มาแถลงเบื้องหน้าตี้ฝูอี ถามว่าเขากล้าเผชิญบททดสอบเหล่านี้หรือไม่?
————————————————————–
บทที่ 1360 การกลั่นแกล้งจากพี่ใหญ่ (2)
หลัวจั่นอวี่เกรงว่าเขาจะเล่นแง่ไม่ตกลง จึงกล่าวเสริมอีกประโยค “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ข้าทราบว่าฝีมือท่านสูงส่ง หากท่านยืนกรานจะอาศัยเสี่ยวจิ่วเพื่อบิดพลิ้ว ข้าก็ทำอะไรท่านไม่ได้ แต่หากว่าแม้แต่เงื่อนไขเหล่านี้ท่านก็ยังไม่กล้าตอบรับ แล้วจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าท่านจริงใจต่อเสี่ยวจิ่ว? คราก่อนเสี่ยวจิ่วหนีงานแต่งก็เป็นเพราะไม่พอใจท่าน เพราะนางรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยถึงได้ทำเช่นนี้…ดังนั้นถ้าหากท่านไม่ยอมรับเรื่องนี้ ข้าจะสงสัยในความจริงใจของท่านยิ่งนัก และไม่ยอมรับท่านเป็นน้องเขยของข้าไปชั่วชีวิต!”
วาจานี้กล่าวอย่างฉาดฉานทรงพลัง เปี่ยมด้วยความกดดัน
กู้ซีจิ่วขมวดคิ้วนิดๆ เรื่องของเธอกับตี้ฝูอีเป็นเรื่องส่วนตัว ความจริงแล้วเธอไม่อยากให้ผู้ใดมาก้าวก่าย ต่อให้เป็นญาติก็ไม่ได้
ความจริงใจที่ตี้ฝูอีมีต่อเธอเธอทราบกระจ่างยิ่งกว่าผู้ใด ไม่จำเป็นต้องจงใจสร้างอุปสรรคเช่นนี้เลย ขณะที่เธอกำลังจะเปิดปาก ตี้ฝูอีที่อยู่ข้างๆ ก็เอ่ยขึ้นแล้ว “หลัวจั่นอวี่ เดิมทีเรื่องของข้ากับนางไม่มีที่ให้เจ้าสอดปากหรอกนะ เจ้าจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ สำหรับข้าแล้วไม่มีค่าเลย แต่ในเมื่อข้ามาที่นี่เพื่อแต่งนาง ก็ไม่อยากให้นางต้องโดนผู้อื่นติฉินนินทา ดังนั้นข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ทำไปตามกฎเดิมของเจ้าเถอะ”
ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะตอบรับอย่างสบายๆ ถึงเพียงนี้!
หัวใจกู้ซีจิ่วอุ่นวาบ อดไม่ได้ที่จะส่งกระแสเสียงหาเขา ‘ท่านไม่ต้องตอบรับก็ได้ ข้าไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี้’
ตี้ฝูอีรั้งนางเข้าสู่อ้อมกอด กระซิบริมหูนางแบบยิ้มๆ “ไม่เป็นไร ด้วยฝีมือของข้าผ่านด่านได้สบายๆ อยู่แล้ว ทำใจให้สบายเถอะ” พวกเขายังต้องอยู่ที่นี่ไปอีกสักระยะ เขาไม่อยากให้คนอื่นติฉินนินทากู้ซีจิ่ว อย่างไรเสียการอยู่ที่นี่หากไม่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชนก็เหมือนอยู่ร่วมกันอย่างผิดกฎหมาย ไม่แน่อาจจะถูกสตรีคนอื่นเยาะหยันเอาได้…
เรื่องนี้จึงตัดสินกันเช่นนี้แล
จวบจนตี้ฝูอีพยักหน้ายอมรับ หลัวจั่นอวี่จึงบอกกฎที่เหลืออีกข้อหนึ่งออกมา ‘ชายหญิงที่ยังไม่ได้วิวาห์ไม่สามารถพักอาศัยร่วมกันได้ ก่อนที่เงื่อนไขเหล่านี้จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ฝ่ายชายจะพบหน้าฝ่ายหญิงไม่ได้…’
ตี้ฝูอีตะลึง
กู้ซีจิ่วก็พูดไม่ออกเช่นกัน
ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายกัดฟันกล่าวอยู่บ้าง “ได้รับความเห็นชอบจากทุกคนข้อนี้ข้ามีวิธี เจ้าต้องการให้ข้าใช้ความสามารถในด้านที่ไม่ถนัดเรื่องใด? รีบพูดมา ข้าทำให้สำเร็จได้!” ยามนี้ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะปรับความเข้าใจกับกู้ซีจิ่ว ได้คืนดีกันอีกครั้ง เพิ่งอยู่ด้วยกันได้วันเดียว ไม่อยากแยกจากเลยจริงๆ
หลัวจั่นอวี่กระแอมคราหนึ่ง “เรื่องนี้…ท่านไปทำอีกข้อให้สำเร็จก่อน ข้อนี้ข้าต้องใคร่ครวญดูสักหน่อย”
ตี้ฝูอีนิ่งไป เขาเอ่ยออกมาอย่างตรงไปตรงมายิ่งนักประโยคหนึ่ง “ให้เวลาเจ้าใคร่ครวญครึ่งชั่วยาม ห้ามเกินเวลา!”
“ได้!” หลัวจั่นอวี่ก็ตกลงเช่นกัน ลากกู้ซีจิ่วออกเดิน “เสี่ยวจิ่ว เจ้าตามข้ามาก่อน ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า”
ลากกู้ซีจิ่วจากไป ทิ้งตี้ฝูอีไว้ตรงนั้น
ยามนี้มีฝูงชนมุงดูอยู่ไม่น้อยเลย อย่างไรเสียวันนี้ทุกคนก็ยังคงก่อสร้างบ้านเรือนอยู่ มีเพียงคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้นที่ไปล่าสัตว์และเก็บเกี่ยว
ทุกคนมองตี้ฝูอีที่ยืนอยู่ตรงนั้น เหล่าบุรุษต่างยินดีในคราวเคราะห์ของผู้อื่น ในใจตัดสินใจแน่วแน่แล้ว จะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ง่ายๆ ยากนักที่จะพบโอกาสสร้างความลำบากให้แก่ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ จะไม่ปั่นหัวเล่นให้สาสมได้อย่างไรเล่า? ฉวยโอกาสแก้แค้นนิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่เลว!
เหล่าสตรีกลับตอบสนองด้วยความเห็นใจ รู้สึกว่าครานี้เกรงว่าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้สูงส่งจะเตะถูกแผ่นเหล็กเข้าแล้ว คิดจะแต่งศรีภรรยาอย่างสงบๆ เกรงว่าจะยากเย็นยิ่งกว่าปีนขึ้นสวรรค์เสียแล้ว
————————————————————–