ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1395+1396
บทที่ 1395 เขาเป็นตัวปลอม 2
ถึงแม้หอเงาราตรีจะเป็นหน่วยสังหาร ทว่ามิได้สังหารคนส่งเดช พวกเขารับงานก็เลือกเป้าหมาย มิได้กลัวว่าอีกฝ่ายจะชั่วช้าสามานย์ แต่กลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นชาวบ้านธรรมดาหรือว่าเป็นคนดีที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ชาวบ้าน…หากเป็นคนสองประเภทหลัง ให้เงินมากมายเท่าใด พวกเขาก็ไม่มีทางยอมรับงาน
ถึงแม้คนเหล่านี้ของหอเงาราตรีต่างเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ลูกน้องบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน ทว่าจิตใจพวกเขาก็มีความยุติธรรม มีขีดจำกัดของตัวเองเช่นกัน
สองปีมานี้ ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายท่านนั้นกลับหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ กระทำความผิด สร้างความไม่พอใจในหมู่ผู้คนเป็นอย่างมาก
เดิมทีผู้คนเคารพทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมากกว่าเกรงกลัว ยามนี้ผู้คนได้ยิน ‘ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย’ ห้าคำนี้ต่างหวาดกลัว กระวนกระวาย แทบไม่กล้าเอื้อนเอ่ยห้าคำนี้ต่อหน้าผู้คน เกรงว่าหากพูดอันใดผิดไปแม้แต่คำเดียวจะถูกจับไปตัดหัว…
ดังเช่นเหตุการณ์ตัวอย่าง มีชาวบ้านเคยพูดคุยกันเรื่องทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายที่ร้านอาหาร ยังไม่ทันได้พูดอะไรที่ไม่ดี เพียงแค่เอ่ยถามข้อข้องใจไม่กี่ประโยค ก็ถูกลูกสมุนที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนจับตัวไป จากนั้นจับตัดลิ้นควักลูกตาประจานกลางลานกว้าง…
เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง ผู้คนทั้งทวีปต่างตกตะลึง ฉากการเชือดไก่ให้ลิงดูนี้มีผลลัพธ์ที่น่าสะเทือนขวัญยิ่งนัก จากนั้นก็ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยถึงทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอีกเลย
ทว่าในใจผู้คน ภาพลักษณ์ของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแย่ลงเป็นพันจั้ง กล้าขุ่นเคืองทว่าไม่กล้าเอื้อนเอ่ย
ยามนี้ล้วนเป็นคนกันเอง อีกทั้งยังเป็นคนที่ถูกตามล่าสังหารมาตลอด ดังนั้นเมื่อทุกคนพูดคุยกันจึงไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใด
“ทั้งหมดต้องโทษเซียนหญิงลี่หวางอะไรนั่น นางอ้างตัวเองว่าเป็นฮูหยินเทพศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับมาคอยอยู่ข้างกายทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ต้องเป็นนางที่คอยยุยงอยู่ข้างกายทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย…”
หลีเมิ่งซย่าฉีกยิ้มเย็นชา “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเป็นคนที่ถูกคนอื่นยุยงได้โดยง่ายงั้นรึ? เซียนหญิงลี่หวางผู้นั้นอ้างว่าดินแดนเบื้องบนส่งตัวเองลงมาช่วยเหลือทวีปแห่งนี้ แสร้งทำเป็นมีจิตใจเมตตาปานพระโพธิสัตว์ต่อหน้าผู้คน แต่การกระทำเยี่ยงอสูรร้าย ทำให้คนขนลุกขนพอง ข้าไม่เชื่อว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จะแต่งฮูหยินเช่นนี้เข้ามา…”
ฝูงชนฝืนยิ้ม
เรื่องนี้…ก็พูดได้ยากจริงๆ ฮูหยินเทพศักดิ์สิทธิ์ใช่ว่าผู้ใดจะซี้ซั้วปลอมตัวกันได้? ถึงแม้เทพศักดิ์สิทธิ์จะไม่ได้ปรากฏกายสักครั้งในรอบหลายปี ทว่าตาเฒ่าเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว แทบจะรู้ไปหมดทุกเรื่อง หากมีใครสักคนแอบอ้างเป็นฮูหยินของเขาเดินไปมาในโลกใบนี้ ซ้ำยังเดินอย่างสง่าผ่าเผย ตาเฒ่าจะไม่รู้ได้อย่างไร?
ยามนี้แม้แต่ใบหน้าตาเฒ่ายังไม่ปรากฏออกมาให้เห็น และไม่ได้หยุดยั้ง เช่นนั้นก็แสดงว่าเขายอมรับในฮูหยินท่านนี้ไปโดยปริยาย
อย่างไรเสีย เซียนหญิงลี่หวางผู้นี้ก็งดงาม อีกทั้งยังเป็นเซียนหญิงจากดินแดนเบื้องบน บางทีคงมีแต่นางที่จะคู่ควรกับท่านเทพศักดิ์สิทธิ์
ทุกคนกำลังพูดคุยพลางแทะเนื้อที่แห้งกร้าน ในขณะที่พูดคุยกันอย่างดุเดือด ก็พลันได้ยินเสียงหัวเราะเย้ยหยันกลางอากาศ “ไม่รู้สำนึก! เวลาเยี่ยงนี้พวกเจ้ายังมีหน้ามาพูดคุยว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายถูกผิดที่นี่อีก!”
สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไป ผลุงขึ้นมาพร้อมกัน มีสิบกว่าคนปรากฏกายขึ้นกลางอากาศ
ในสิบคนนั้นมีสัดส่วนที่ต่างกัน ทว่าสำหรับคนเหล่านี้ ทั้งสิบกว่าคนนี้ล้วนเป็นคนรู้จักคุ้นเคย
พวกเขาคือผู้อาวุโสคุมกฎของหอเงาราตรีทั้งเจ็ดกับสุดยอดมือสังหารทั้งหก! ผู้นำก็คือผู้อาวุโสคุมกฎเหลียง คนผู้นี้เที่ยงธรรม คุมกฎเข้มงวด จงรักภักดีต่อทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ก่อนหน้านี้เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลีเมิ่งซย่ามาโดยตลอด
ครานี้พวกหลีเมิ่งซย่าเกิดเรื่องขึ้น ถึงแม้ผู้อาวุโสเหลียงจะได้รับคำสั่งให้จับกุม ทว่าไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจัง ปิดตาข้างเดียวมาโดยตลอด หลีเมิ่งซย่านึกไม่ถึงว่าเขาจะมาปรากฏกายที่นี่ อีกทั้งยังนำผู้อาวุโสคุมกฎมาอีกหลายท่านด้วย…
สหายที่ร่วมต่อสู้กันมา วันนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นศัตรู ทุกคนต่างไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี
—————————————————————-
บทที่ 1396 ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย
มีเพียงมือสังหารแซ่จั่วท่านหนึ่งที่โมโหเดือดดาล “หลีเมิ่งซย่า ที่แท้คนทรยศอย่างพวกเจ้าก็มาหดหัวกันอยู่ที่นี่! สภาพน่าเวทนาเยี่ยงนี้ยังไม่รู้จักสำนึกผิด ซ้ำยังให้ร้ายท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย เคราะห์ดีที่สวรรค์มีตา คนทำผิดต้องถูกสวรรค์ลงโทษ ครั้งนี้ข้าจะดูว่าพวกเจ้าจะหนีไปไหนได้อีก?! ถ้ายังรู้ว่าอะไรควรมิควรก็ยอมให้จับกุมเสียโดยดี! บางทีท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอาจหลงเหลือซากศพไว้ให้เจ้า หากยังดึงดัน ปีหน้า วันนี้เวลานี้ก็จะเป็นวันครบรอบวันตายของพวกเจ้า!”
คำพูดช่างโหดเหี้ยมเลวทราม หลีเมิ่งซย่ากลับไม่แม้แต่จะเหลือบมองเขา เพียงมองไปทางผู้อาวุโสเหลียง “ผู้เฒ่าเหลียง ท่านก็อยากจับกุมข้า?”
ดวงตาของผู้อาวุโสเหลียงเศร้าหมอง “ประมุขหลี มันเป็นหน้าที่ของข้า ต้องล่วงเกินท่านแล้ว” เขาออมมือมาหลายครั้งแล้ว ครานี้ถูกบีบบังคับจนอับจนหนทาง
หลีเมิ่งซย่ากวาดตามองคนอื่นโดยรอบ “พวกเจ้าก็ต้องการลงมือ?”
คนอื่นบ้างก้มหน้า บ้างไม่พูดไม่จา ความจริงแล้วพวกเขาทั้งหลายต่างเป็นคนที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายส่งเสริมขึ้นมา ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมีบุญคุณที่ให้ชีวิตใหม่ พวกเขาย่อมจงรักภักดีต่อทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางทรยศเขา ถึงแม้รู้ดีว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายทำไม่ถูกต้อง ทว่าทำได้เพียงดำเนินการตามคำสั่งของเขาเท่านั้น…
กลับเป็นมือสังหารแซ่จั่วที่ไม่อาจอดกลั้น “พวกเขาย่อมต้องลงมือ หลีเมิ่งซย่า การจุดธูปร่วมสาบานของเจ้ากับพวกเขาไม่เพียงพอให้พวกเขาทรยศท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายหรอก!”
หลีเมิ่งซย่าเหลือบมองเขา “จั่วอิ๋นหู่ เจ้าเป็นคนที่ข้าเก็บกลับมาจากกองขอทาน วรยุทธ์ของเจ้าข้าก็สอนให้ ถือว่าเป็นอาจารย์ของเจ้ากึ่งหนึ่ง ตอนนั้นเจ้าพร่ำบอกว่าจะตอบแทนบุญคุณข้า แวบไปมาอยู่ข้างกายข้าบ่อยๆ บอกว่าถึงแม้เสี่ยงตายก็จะปกป้องข้า…เจ้าตอบแทนบุญคุณเช่นนี้น่ะหรือ?!”
มือสังหารแซ่จั่วชื่อจั่วอิ๋นหู่ ใบหน้าของเขาแดงก่ำแต่กลับเชิดขึ้น “งานคืองาน ส่วนตัวคือส่วนตัว ข้าไม่มีทางเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับเรื่องงาน ข้าจับกุมเจ้าเรียกว่าสังเวยเลือดเนื้อเพื่อความชอบธรรม! เลิกไร้สาระได้แล้ว จับกุมพวกเขา! ประมุขหยางมีคำสั่ง หากไม่ยอมให้จับกุมแต่โดยดีก็ฆ่าทิ้งเสียที่นี่!”
คำพูดหลายคำสุดท้ายเอาจริงเอาจังยิ่งนัก!
เรื่องราวดำเนินมาถึงตรงนี้ ทั้งสองฝ่ายไม่มีอะไรต้องพูดจากันอีกต่อไปแล้ว สองฝ่ายเปิดฉากต่อสู้ ทันใดนั้นทรายหินภายในค่ายหินนี้พลันโบยบิน ไอสังหารปกคลุมไปทั่วท้องนภา เงาร่างพลิกโบยบิน ทักษะต่างๆ ปะทุออกมา…
หลีเมิ่งซย่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของหอเงาราตรี ผู้อาวุโสทั้งสามที่หนีออกมากับนาง ผู้คุมกฎทั้งสี่ล้วนเป็นปรมาจารย์ในหมู่ปรมาจารย์ หากดำเนินต่อไป คนเหล่านี้ที่ผู้อาวุโสเหลียงพามาคงไม่อาจจับกุมพวกเขาได้
ทว่าพวกหลีเมิ่งซย่าอาศัยอยู่ในสถานที่ผีสางมาเป็นเวลานาน กินไม่ได้นอนไม่หลับ ใช้พลังงานมากมาย ความจริงแต่ละคนอ่อนแอกันยิ่งนัก
ส่วนคนที่ผู้อาวุโสเหลียงพามามีจำนวนมากกว่าพวกหลีเมิ่งซย่าเป็นเท่าทวี อีกทั้งยังเป็นยอดฝีมือของหอเงาราตรี เลือกใครสักคนหนึ่งออกหน้าก็เป็นการต่อสู้แบบหนึ่งต่อพันทั้งนั้น พลังของพวกเขายังสมบูรณ์แข็งแกร่งทั้งหมด อีกทั้งเตรียมตัวกันมาพร้อม ยามนี้เมื่อเปิดฉากต่อสู้ พวกหลีเมิ่งซย่าย่อมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ…
มีคนบาดเจ็บและถูกจับกุมตามลำดับ ผู้อาวุโสเหลียงยังคงเห็นแก่มิตรภาพของพวกเขา ไม่ได้ลงมือสังหาร มิเช่นนั้น เกรงว่าจะมีทั้งคนเจ็บและคนตายไปแล้ว…
คนข้างกายของหลีเมิ่งซย่าน้อยลงเรื่อยๆ ทว่านางเป็นคนกล้าหาญองอาจ เมื่อใดที่ยอมเสี่ยงชีวิตแล้ว เช่นนั้นก็มีความกล้าหาญไร้ผู้ใดทาน
ทุกคนไม่ต้องการสังหารนางจริงๆ จึงทำอะไรนางไม่ได้ไปชั่วขณะ ถูกนางทำให้บาดเจ็บไปหลายคน
เคราะห์ดีที่นางก็ไม่ได้มีจิตใจอยากฆ่าฟันจริงๆ แค่เพียงทำร้ายแต่ไม่เข่นฆ่า
จั่วอิ๋นหู่เป็นคนของประมุขหยาง เขามาในครั้งนี้ก็เพื่อควบคุมงานเป็นหลัก เขาคอยตะโกนสั่งการให้ทุกคนลงมืออย่างเหี้ยมโหด แต่บารมีเขายังไม่มากพอ ไม่มีผู้ใดรับฟัง ทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่
วรยุทธ์ของเขายังห่างไกลกับหลีเมิ่งซย่ายิ่งนัก ตัวเขาเองก็ไม่กล้าเข้าไปเสี่ยง
———————————————————————-