ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1504.3
บทที่ 1504 ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวจริงตัวปลอม (3)
คนฝั่งทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมมีมากมายเหลือเกิน ในเวลาเพียงครู่หนึ่ง ก็ปิดล้อมแท่นสูงภายนอกสามชั้น ภายในสามชั้นเอาไว้ได้แล้ว
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายยกมือขวาขึ้น ตราไพร่พลในฝ่ามือกำลังเปล่งแสง เขาค่อยๆ พูดทีละคำ “กองกำลังด้านนอกฟังคำสั่ง จับกุมพวกกบฏคิดคดเหล่านี้ให้หมด เป็นตายไม่สน!”
เขามีความสามารถจริงๆ บาดเจ็บสาหัสยังพูดจาด้วยซุ่มเสียงดังกึกก้องมีพลังขนาดนี้…
“ตูม!” ประตูบานใหญ่ที่ปิดสนิททั้งสี่ทิศถูกเปิดออกอย่างรุนแรง มีทหารกล้าหมวกเกราะทมิฬ ชุดเกราะทมิฬ อาชาทมิฬสี่กลุ่มบุกเข้ามา!
“กองทหารเดนตาย!”
“พวกเขาคือกองทหารเดนตาย!”
ชาวบ้านที่เดิมทีชมความครึกครื้นอยู่ตะโกนขึ้นมาด้วยความตกตะลึง
กองทหารเดนตาย นี่คือกองกำลังทหารที่ทุกคนในทวีปได้ยินแล้วสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวในช่วงสองปีนี้
ความสามารถพวกเขาสูงส่ง ทุกท่านล้วนมีพลังวิญญาณขั้นหกขึ้นไป วิธีการโหดร้าย ไม่ว่าพวกเขาไปที่ใดก็จะเกิดการนองเลือดดังธารน้ำไหล ต้นไม้ใบหญ้าไม่งอกงาม สถานที่ที่พวกเขาปรากฏกายหมายความถึงการเข่นฆ่าและความตาย…
นี่คือกองกำลังที่โหดร้ายและมืดมน และเป็นมือสังหารที่ควบคุมใต้หล้าของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม พวกเขามีทั้งหมดห้าหมื่นคน ไม่ว่าสำนักใดพบเจอพวกเขาที่มาโจมตีก็จนปัญญากันทั้งนั้น…
เดิมทีกองกำลังนี้ออกศึกทับหน้า ใครก็นึกไม่ถึงว่าพวกเขาส่วนหนึ่งจะมาปรากฏกายที่นี่
พวกเขาเสมือนหลุดมาจากนรกอเวจี แฝงกลิ่นอายคาวเลือดอันชั่วร้ายรุนแรง ปิดล้อมทุกคนในจัตุรัส…
ระลอกลมเย็น หนาวเหน็บไปถึงกระดูก อุณหภูมิทั่วทั้งจัตุรัสลดฮวบลงกว่าสิบองศา!
พวกชาวบ้านเหงื่อแตกอีกแล้ว คราวนี้เหงื่อที่แตกกลับเป็นเหงื่อกาฬ…
กองทหารเดนตายเหล่านี้ทั้งหมดนับพันคน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี พวกเขาประจำตำแหน่งเป็นรูปแบบปิดล้อมแท่นทั้งสี่ทิศอย่างรวดเร็วทันทีที่ก้าวเข้ามา พวกเขาล้วนถือเกาทัณฑ์ทองทมิฬไว้ในมือ ขึ้นคันศรพิฆาตทมิฬไว้บนเกาทัณฑ์แล้ว เล็งคมศรไปยังกู่ฉานโม่
ศรอาบยาพิษไว้เพียงเล็กน้อยก็ทำให้เลือดไหลหลั่งตายได้ในพริบตา แม้แต่จะกลับชาติมาเกิดก็กลับมาไม่ได้
กู่ฉานโม่เงยหน้าจ้องมองทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม “ที่แท้เจ้าก็เตรียมการไว้แล้ว! เจ้าจงใจจัดฉากแล่เนื้อเถือหนังสามร้อยกว่าชีวิตของตระกูลกู้ เพื่อหลอกล่อพวกเราออกมาใช่หรือไม่?”
หลังจากกองทหารเดนตายเหล่านี้เข้ามา จิตใจของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมก็สงบลง เขาส่งเสียงยิ้มเย้ยหยัน “เดิมทีกบฏชั่วช้าอย่างพวกเจ้าก็เป็นหอกข้างแคร่ของราชสำนัก จะหลอกล่อพวกเจ้าออกมาย่อมต้องใช้วิธีการอันเฉียบขาด…”
เขาถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ให้เซียนหญิงลี่หวางทำแผลให้เขา มองพวกกู่ฉานโม่เอ่ยปากอย่างเย็นชา “พวกเจ้าทำให้ข้าเสื่อมเสีย มีความผิดแม้แต่ความตายก็มิอาจชดใช้ ในเมื่อมาแล้วก็ไม่ต้องกลับไปแล้วกัน! ข้าก็คือทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย! วันนี้ข้าสังหารพวกเจ้าตามบัญชาสวรรค์!”
สายตาเขากวาดตามองชาวบ้านด้านล่าง “คนเหล่านี้ฟังความข้างเดียว และคล้อยตามกบฏพวกนี้ทำให้ข้าเสื่อมเสียไปด้วย ฆ่าทั้งหมด!” นี่เห็นได้ชัดว่าต้องการฆ่าปิดปาก
เมื่อออกคำสั่ง ด้านล่างพลันโกลาหลยกใหญ่!
ครั้งนี้ชาวบ้านด้านล่างทั้งหมดมีสี่ถึงห้าพันคนล้วนรักตัวกลัวตาย จึงเกิดความโกลาหลขึ้นมาในทันที อยากหนีออกไปข้างนอกกันโดยสัญชาตญาณ
“ปัง! ปัง!” เสียงปิดประตูใหญ่หนาทั้งสี่บานดังขึ้นอีกครั้ง…
ทุกคนถูกขังอยู่ที่นี่ ไม่มีใครสักคนที่หนีออกไปได้
เงาพิฆาตปกคลุมอยู่เบื้องบน พวกชาวบ้านสิ้นหวังแล้ว! ใครจะมาช่วยพวกเขา?
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายมีคนร้องตะโกน “เขาเป็นตัวปลอม! เขาเป็นตัวปลอมแน่ๆ ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวจริงไม่มีทางเข่นฆ่าคนไร้เดียงสาเยี่ยงนี้…”
“มิผิด! เขาก็คือตัวปลอม!”
“นายทหารเหล่านี้อย่างพวกเจ้าก็เคยเป็นชาวบ้านมาก่อน มีครอบครัวเช่นกัน พวกเจ้าไม่ต้องทุ่มเทสุดความสามารถเพื่อเจ้าตัวปลอมแล้ว!”
ความเดือดดาล ความคับข้องใจที่ถูกข่มไว้สองปีของชาวบ้านระเบิดออกมา ณ วินาทีนี้ และพวกเขาทุ่มสุดตัว ตะโกนความในใจออกมาจนหมด
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมหัวเราะ “พวกเจ้าบอกว่าข้าเป็นตัวปลอม? แล้วตัวจริงอยู่ที่ใดเล่า? พวกเจ้าให้เขาไสหัวออกมาช่วยคนโง่งมอย่างพวกเจ้าสิ…”
เสียงหัวเราะได้ใจของเขายังไม่ทันร่วงหล่น ซุ่มเสียงอันเยือกเย็นน่าดึงดูดสายหนึ่งส่งผ่านมากลางอากาศ “ข้าอยู่นี่!”
เสียง “ตูม!” ดังขึ้นด้านบนของทั้งจัตุรัสถูกยกออก นาวาใหญ่สีน้ำเงินลำหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ…
ลำนาวาเปล่งประกาย ทว่าคนอาภรณ์ม่วงบนเรือเปล่งประกายยิ่งกว่า!
อาภรณ์ม่วงอร่ามสลับซับซ้อนซัดสาดดังสายธาร เกศายาวดำขลับพลิ้วไหวตามสายลม
ดวงตาจิ้งจอก แพรคาดหน้าผากเป็นประกายแวววาวภายใต้แสงตะวัน เขาไม่ได้สวมหน้ากากเป็นครั้งแรก เผยให้เห็นโฉมหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ ยืนอยู่ตรงนั้นดุจเทพจุติยังโลกมนุษย์ ท่าทางอันทรงพลัง รอบกายราวกับมีไอเซียนปกคลุม เมื่อปรากฏกายขึ้นก็เกือบจะแย่งชิงลมหายใจของทุกคนไป!
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอี! นี่ถึงจะเป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอี!
ชาวบ้านด้านล่างที่กำลังสิ้นหวัง เมื่อเห็นนาวาใหญ่ที่คุ้นเคยก็เบิกตาโพลงโต เมื่อได้เห็นลำแสงสีม่วงที่คุ้นเคยบนเรืออย่างชัดเจน หลังจากกลั้นลมหายใจก็ส่งเสียงโห่ร้องกันในทันที!
ในที่สุดท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวจริงก็ปรากฏกายแล้ว! พวกเขาปลอดภัยแล้ว! ดวงตาทุกคู่เป็นประกาย ลิงโลดด้วยความดีอกดีใจ มีคนร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความซาบซึ้งใจ
”ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย!”
“เขาคือท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวจริง!”
“ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมาช่วยพวกเราแล้วจริงๆ!”
“ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว! ท่านต้องช่วยพวกเรานะ…”
บนนาวาใหญ่ไม่ได้มีแค่ตี้ฝูอีคนเดียว ยังมีคนอื่นๆ อยู่ด้วย
รูปร่างของคนเหล่านั้นไม่เหมือนกัน มีทั้งหญิงและชาย ถึงแม้มีทั้งรูปงามและอัปลักษณ์ ทว่าพลังยุทธ์ล้วนไม่ต่ำต้อย ทุกท่านล้วนมีชีวิตชีวา บนร่างกายมีลำแสงเลือนราง คนที่มีประสบการณ์ล้วนดูออกว่าคนเหล่านี้บรรลุพลังวิญญาณขั้นเก้ากันหมดแล้ว…
สำหรับผู้คนด้านล่างแล้ว คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนแปลกหน้า ไม่เคยพบเจอมาก่อน
ทวีปแห่งนี้มียอดฝีมือที่มีพลังวิญญาณขั้นเก้าเพิ่มขึ้นมากมายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?!
ภายในจิตใจของคนมากมายนับไม่ถ้วนล้วนมีความสงสัยเยี่ยงนี้ แม้แต่แววตาของกู่ฉานโม่ยังเป็นประกาย…
เห็นได้ชัดว่ากู้เซี่ยเทียนนึกไม่ถึงว่าละครในวันนี้จะพลิกผันได้ถึงเพียงนี้ ในใจยังคงรู้สึกลึกๆ ทว่าหลังจากที่สายตาของเขาหยุดลงบนร่างของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายกลางอากาศครู่หนึ่ง ก็หันเหไปทางใบหน้าของคนเบื้องหลังเขา หัวใจเหมือนได้รับกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง!
คนผู้นั้น…คนผู้นั้นเป็นใคร?!
นั่นคือบุรุษหนุ่มอาภรณ์เรียบง่ายท่านหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาละเอียดอ่อน อายุไม่มาก ทว่าดูสงบนิ่ง หนักแน่นยิ่งนัก
บุรุษผู้นั้นมีดวงตาเฉียบแหลมและใสกระจ่างคู่หนึ่ง ยามนี้กำลังค้อมศีรษะมองลงมาด้านล่าง
เมื่อสบตากับกู้เซี่ยเทียน คนผู้นั้นกลับสงบเยือกเย็น แต่กู้เซี่ยเทียนกลับเหมือนถูกฟ้าผ่า! อ้าปากค้างเล็กน้อย จ้องมองบุรุษผู้นั้น
นาวาใหญ่นี้โดดเด่นยิ่งนัก ทว่าก็เป็นพาหนะส่วนตัวที่ผู้คนทวีปแห่งนี้คุ้นเคย ทุกครั้งที่ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายในตอนนั้นปรากฏกาย โดยพื้นฐานจะโดยสารนาวาลำนี้…
นี่น่าจะเป็นทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวจริง เพราะไม่กี่ปีมานี้เจ้าตัวปลอมผู้นี้ไม่เคยโดยสารนาวาลำนี้มาก่อน!
ดูเหมือนว่านาวาลำนี้มีท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเพียงคนเดียวที่บังคับได้ เจ้าตัวปลอมทำไม่ได้…
พวกชาวบ้านดีใจอย่างท่วมท้น แต่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมนั้นกลับแข็งทื่อไปแล้ว ล่าถอยไปท่ามกลางผู้คุ้มกันอย่างสงบเยือกเย็น
สีหน้าเซียนหญิงลี่หวางแปลกประหลาด นางก็กำลังจ้องมองทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอี ภายในดวงตาที่สวยสดฉายแววร้อนผ่าว นิ้วมือกระชับแน่น…
นาวาโบยบินกลางอากาศ ตี้ฝูอีบนนาวาหลุบตามองด้านล่าง เอ่ยปากอย่างเรียบเฉย “ข้ากักตนแปดปี นึกไม่ถึงจะมีวายร้ายอย่างเจ้าปลอมตัวเป็นข้า ทำลายชื่อเสียงของข้า!”
ซุ่มเสียงดังสายลมลอยล่อง หมุนวนด้านบนทั่วทั้งจัตุรัส และทำให้ทุกคน ณ ที่แห่งนี้ได้ยินอย่างชัดเจน
เรือนกายของเขาพลันร่อนลงอย่างอิสระ
————————————————————————————-