ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 1682+1683
บทที่ 1682 น้ำตานางเงือก 3
ยามนั้นเป็นสถานการณ์ที่จักรพรรดิถูกรายล้อมด้วยองครักษ์นางกำนัลกลุ่มหนึ่ง สวมฉลองพระองค์สีเหลืองทรงอำนาจ สุขุมเยือกเย็นน่าเกรงขามนัก ไม่คล้ายกับบุคลิกของคุณชายในยามนี้เลยสักนิด ดังนั้นนางจึงไม่มั่นใจว่าใช่หรือไม่…
คุณชายชุดครามผู้นั้นถอนหายใจเบาๆ “เจ้าคิดว่าข้าเป็นผู้ใด?” น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยอ่อนโยนยิ่ง ให้ความรู้สึกดั่งคุณชายผู้งดงามราวกับหยก
“เจ้า…เจ้าเป็นคนของราชวงศ์ใช่ไหม?! องค์ชายคนใดกัน?” หลานจิ้งอี๋คาดเดา ในเมื่อรูปโฉมคล้ายคลึงกับจักรพรรดิถึงเพียงนี้ จะต้องเป็นองค์ชายในราชวงศ์แน่นอน
คุณชายชุดครามเชิดหน้าหัวเราะคราหนึ่ง ถือขลุ่ยเคาะฝ่ามือเบาๆ “เหตุใดเจ้าถึงไม่เดาว่าเราเป็นจักรพรรดิบ้างเล่า?”
หลานจิ้งอี๋ตะลึงงัน
คุณชายชุดครามผู้นั้นมองดวงหน้าพริ้มเพราที่แปรเปลี่ยนเป็นซีดขาวของนาง แววตารื่นเริง “ประหลาดใจมากใช่ไหม?”
หลานจิ้งอี๋สูดหายใจเบาๆ เฮือกหนึ่ง “เจ้า…ในเมื่อท่านเป็นจักรรพรรดิ เช่นนั้น…มาเพื่อช่วยพวกเราใช่หรือไม่? ผู้ใดไหว้วานมา?”
คุณชายชุดครามถอนหายใจ “ช่างเป็นเด็กน้อยที่ใสซื่อจริงๆ เราจับพวกเจ้ามาอย่างลำบากบน ไหนเลยจะรับคำไหว้วานจากผู้อื่นมาช่วยพวกเจ้าออกไปได้เล่า? เจ้านึกว่าเราว่างมากหรือไง?”
ไม่น่าเชื่อว่าผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลังเรื่องทุกอย่างจะเป็นจักรพรรดิของอาณาจักรเฟยซิง!
หลานจิ้งอี๋หน้าเปลี่ยนสีแล้ว “เจ้า…เจ้าจับพวกเรามาทำไม? เจ้ารีบปล่อยข้าโดยเร็วเสียดีกว่า! มิเช่นนั้นพี่หวงของข้าจะไม่ผ่อนปรนต่อเจ้าเด็ดขาด! ไม่ใช่เพียงตำแหน่งจักรพรรดิเท่านั้นที่เจ้าจะรักษาไว้ไม่ได้ แม้แต่ชีวิตก็รักษาไว้ไม่ได้เช่นกัน!”
คุณชายชุดครามผู้นั้นหัวเราะแล้ว “ที่แท้ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นพี่หวงของเจ้า นี่กลับน่าสนใจอยู่บ้าง”
เขาค่อยๆ ย่างเท้าเข้าไปริมลูกโลหิต มองดูหลานจิ้งอี๋ที่อยู่ด้านใน ใช้ขลุ่ยเคาะเล็กน้อย “ได้ยินว่าถ้าใช้หนังชาวเงือกมาขึงเป็นกลอง เสียงที่ตีออกมาจะแว่วกังวานไปพันลี้ ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”
หลานจิ้งอี๋ตัวแข็งทื่อ
คุณชายชุดครามผู้นั้นเพ่งพิศนางขึ้นๆ ลงๆ แวบหนึ่ง “หนังของนางเงือกที่งดงามเช่นเจ้าไม่เลวเลย ถ้าถลกหนังเจ้ามาขึงเป็นกลองออกจะเสียของอยู่บ้าง บางทีถลกออกมาตัดเย็บเป็นอาภรณ์ก็คงไม่เลวเช่นกัน สามารถปักลวดลายเมฆาที่งดงามได้ ทั้งงดงามและป้องกันร่างกายได้”
หลานจิ้งอี๋หน้าซีดเผือดแล้ว “เจ้า…กล่าวล้อเล่นเช่นนี้…ล้อเล่นเช่นนี้ไม่น่าขันเลย พี่หวงของข้า…”
“คิดจะเอาพี่หวงของเจ้ามาขู่คนอีกหรือ? อันที่จริงถ้าเจ้าไม่เอ่ยถึงเขาบางทีข้าอาจจะมอบช่วงเวลาดีๆ ให้เจ้าบ้าง แต่ในเมื่อเจ้าเอ่ยถึงเขา ทำให้ข้าค่อนข้างอึดอัด คงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องสั่งสอนเจ้าเสียหน่อย”
คุณชายชุดครามผู้นั้นสะบัดขลุ่ยในมือเบาๆ คราหนึ่ง เกิดเสียงดังฟึ่บมีดสั้นที่บางราวกับปีกจักจั่นเล่มหนึ่งดีดตัวออกมาจากขลุ่ย กรีดเฉือนเข้าที่ลูกโลหิตลูกนั้น
หลานจิ้งอี๋หวีดร้องคราหนึ่ง กลิ้งออกมาจากในลูกโลหิต เมื่อเห็นว่ากำลังจะร่วงลงสู่น้ำโลหิตของสระโลหิต เส้นใยสีเงินก็พุ่งวาบออกมาจากฝ่ามือของคุณชายชุดคราม รัดพันเอวบางของหลานจิ้งอี๋ไว้ จากนั้นก็เหวี่ยงนางไปไว้ริมฝั่ง…
หลานจิ้งอี๋อกสั่นขวัญหาย ถึงแม้เมื่อครู่นางจะไม่ได้ร่วงสู่น้ำโลหิตจริงๆ แต่ชายชุดก็ยังจุ่มโดนโลหิตในนั้น โลหิตนั้นประหนึ่งน้ำกรด กัดกร่อนชายชุดของนางขาดรุ่งริ่งในชั่วพริบตา…
เหล่าโครงกระดูกในสระโลหิตเริ่มกรีดร้อง กระโดดอย่างบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม
หลังจากหลานจิ้งอี๋ร่วงลงบนพื้นก็คิดจะคลานลุกขึ้นมา แต่เท้าข้างหนึ่งของคุณชายชุดครามผู้นั้นกลับเหยียบลงมาบนทรวงอกของนางอย่างประจวบเหมาะพอดี ทำให้นางลุกขึ้นไม่ได้อีก
คุณชายชุดครามผู้นี้เรียกความเกลียดชังจากผู้คนยิ่งนัก เขาไม่เพียงแต่เหยียบไว้เท่านั้น ยังใช้ปลายเท้าขยี้ลงไปด้วย
หลานจิ้งอี๋ทั้งเจ็บทั้งอาย ร้องเสียงแหลม “เจ้า…ต่ำช้า! เจ้าปล่อยข้านะ…”
“เช่นนี้ก็ต่ำช้าแล้วหรือ?” แม้ว่าการกระทำของคุณชายชุดครามผู้นั้นจะกักขฬะยิ่งนัก ทว่าใบหน้าหล่อเหลานั้นกลับผ่องใสผ่าเผย “ข้ายังมีทักษะที่ต่ำช้ายิ่งกว่านี้อีกนะ เจ้าเดาสิว่าคืออะไร?”
กล่าวพลางใช้ปลายมีดบนขลุ่ยค่อยๆ เลิกอาภรณ์ของนางขึ้นด้วย
——————————————————————-
บทที่ 1683 น้ำตานางเงือก 4
ปลายมีดของเขาแหลมคมยิ่งนัก เดิมทีอาภรณ์ของหลานจิ้งอี๋ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ตัดด้วยมีดธรรมดาไม่ขาด นับได้ว่าเป็นอาภรณ์พิทักษ์ ยามนี้สาบเสื้อของอาภรณ์พิทักษ์นี้กลับถูกอีกฝ่ายตัดเป็นรอยบากจนเปิดออกแล้ว…
รูปร่างของหลานจิ้งอี๋น่าดึงดูดยิ่งนัก ทรวดทรงองค์เอวโค้งเว้า หน้าอกขาวนวลอวบอิ่ม
บัดนี้เสื้อคลุมด้านนอกฉีกขาดแล้ว เผยให้เห็นเอี๊ยมชั้นในสีเงิน ลายปักบนเอี๊ยมชั้นในไม่ใช่จำพวกลายยวนยางในสระปทุมทั่วไป แต่เป็นคนผู้หนึ่ง คนผู้นั้นเกศาดำ อาภรณ์ขาว สวมใส่หน้ากาก นั่นก็คือรูปลักษณ์ของเทพศักดิ์สิทธิ์
คุณชายชุดครามมองภาพคนบนเอี๊ยมของนางแล้วเย้ยยิ้ม “นี่เจ้าปักลายพี่หวงของเจ้าหรอกรึ? ปักรูปพี่เขยของตัวเองไว้บนเอี๊ยม เงือกน้อย จุดประสงค์ของเจ้ามิใสซื่อบริสุทธิ์เลยนะ! ดูเหมือนเจ้าจะชอบเขาจริง…ไม่รู้ว่าเขารู้จิตใจนี้ของเจ้าหรือไม่? ทว่านั่นก็ไม่ได้สลักสำคัญอันใด ในเมื่อเจ้าชอบเขามากขนาดนั้น รอให้ข้าถลกหนังเจ้าออกมาเมื่อใด ข้าจะทำหุ่นหนังขึ้นมาตัวหนึ่ง สวมเอี๊ยมนี้ของเจ้าส่งไปให้เขาก็แล้วกัน”
รอยยิ้มอันอบอุ่น ซุ่มเสียงอันนุ่มนวลของเขา ทว่าวาจาที่เอื้อนเอ่ยออกมาช่างเย็นชาและน่ากลัวยิ่งนัก
หลานจิ้งอี๋สั่นสะท้านไปทั้งตัว นางอยากขยับตัวก็ขยับไม่ได้ อยากร้องไห้ก็ยังกริ่งเกรง ใบหน้าพริ้มเพราเดี๋ยวเขียวคล้ำเดี๋ยวขาว “เจ้า…ท่านทำเช่นนี้กับข้าไม่ได้ ข้าเป็นองค์หญิงแห่งอาณาจักรเงือก หากเจ้าสังหารข้า ไม่เพียงแต่พี่หวงจะไม่ให้อภัยท่าน เผ่าเงือกของพวกเราก็จะไม่ให้อภัยเจ้า จะยกทัพทหารทั้งอาณาจักรมาล้างแค้นอย่างแน่นอน…เจ้าทำไปเพียงเพื่อหนังเงือกชิ้นหนึ่ง เช่นนี้ได้ไม่คุ้มเสีย ท่าน…ท่านปล่อยข้าไปเสีย ภายภาคหน้าข้าจะตอบแทนท่าน…”
“ตอบแทนข้า? ตอบแทนอย่างไร?” คุณชายชุดครามคนนั้นเหมือนจะชอบเล่นแมวจับหนูอยู่บ้าง เขามีแผนการอยู่ในใจแล้วชัดๆ ยังชอบล้อผู้อื่นเล่น ชอบเห็นคนทรุดตัวลงต่อหน้าร้องขอความเมตตา…
เขาใช้มีดบางกระตุกสายคาดเอี๊ยมของนาง “หรือว่า…เจ้าอยากเอาตัวเข้าแลก?”
ปลายมีดอันเย็นวาบสัมผัสโดนผิวหนังของหลานจิ้งอี๋ ทำให้นางขนลุกขนพองไปทั้งตัว นางตกใจกลัวจนเบื้องหน้ามืดมัว “ข้า…ข้า…ท่านเห็นแก่ที่ข้าเคยทำงานให้ท่าน ปล่อย…ปล่อยข้าไป…”
“เอ๊ะ? เจ้าทำสิ่งใดให้ข้า?”
“ข้าพาหลานไว่หูกลับมาให้ท่าน…”
“นั่นก็เป็นความดีความชอบเล็กน้อยของเจ้าจริง ทว่าหากเจ้าไม่ได้ถูกกู่ของข้าควบคุมไว้ เจ้าจะเชื่อฟังเช่นนั้นได้อย่างไร?”
เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้น เอี๊ยมชั้นในของหลานจิ้งอี๋ฉีกขาดโดยสมบูรณ์ ร่วงหลุดจากหน้าอกนาง เผยให้เห็นร่างกายนวลเนียนของนางทั้งหมดต่อหน้าคุณชายชุดคราม
หลานจิ้งอี๋ตื่นตระหนกแล้ว!
นางอยากขดตัวโดยสัญชาตญาณ ทว่าลำแสงสามสายอันหนาวเหน็บในแขนเสื้อของคุณชายชุดครามพลันส่องสว่าง เสียงก๊องแก๊งดังขึ้นหลายครั้งหลายครา หลานจิ้งอี๋ส่งเสียงหวีดร้องบาดหูออกมา!
ลำแสงสามสายอันหนาวเหน็บนั้นไม่ใช่สิ่งอื่นใด คือเหล็กแหลมเย็นเยียบสามแท่ง แทงลงไปที่ข้อมือทั้งสองกับหางเงือกของหลานจิ้งอี๋พอดิบพอดี! ตอกชีวิตนางเข้ากับพื้น!
นี่เป็นท่าทางที่น่าอัปยศอดสูยิ่งนัก
โลหิตไหลหลั่งดั่งธารน้ำ ไหลไปตามเหล็กแหลมที่ตอกเข้าไป เป็นความงดงามที่คละคลุ้งคาวเลือดอย่างหนึ่ง
ใบหน้าหลานจิ้งอี๋เจ็บปวดจนซีดขาว!
นางไม่เคยต้องทนทุกข์ทรมานขนาดนี้ในชีวิต เหล็กแหลมทิ่มแทงร่างกาย รวดร้าวไปถึงกระดูก ทำให้นางอยากเกลือกกลิ้งดิ้นรน ทว่าร่างกายกลับถูกตอกยึดไว้ นางขยับเพียงเล็กน้อย ความเจ็บปวดนั้นก็ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นสิบเท่า ทำให้หยาดเหงื่อเย็นเฉียบผุดพรายในพริบตา
อาภรณ์นางขาดวิ่น ร่างขาวผ่องดุจหิมะนอนกลางกองอาภรณ์ที่ฉีกขาด โลหิตจากข้อมือนางไหลคดเคี้ยวเป็นทาง
ในตอนนี้นางอยู่ในสภาพครึ่งเงือกครึ่งมนุษย์ ครึ่งท่อนบนขาวนวลดุจหิมะประหนึ่งหญิงสาววัยแรกแย้ม ครึ่งท่อนล่างเป็นหางเงือกสีเขียวอ่อน มีเกล็ดแวววับปกคลุมทั่ว
———————————————————-