ลำนำบุปผาพิษ - บทที่ 2027+2028
บทที่ 2027 หึงหวง
ตี้ฝูอีนิ่งไปเล็กน้อย ส่งกระแสเสียงตอบไป ‘ข้าไม่ชำนาญงานครัว…เรียนกะทันหันไม่ทันกาลหรอก!’
เขาร่ำเรียนอันใดล้วนว่องไวนัก มีเพียงทักษะการครัวเท่านั้นที่สามัญยิ่ง ท่านพ่อของเขาเป็นยอดฝีมือในด้านนี้ มักจะทำอาหารเลิศรสออกมาให้ท่านแม่ของเขาตาเป็นประกาย เจริญอาหารอยู่เสมอ
แต่ว่า เขาทำไม่ได้ ตามการประเมินฝีมือในด้านนี้ของเขาจากท่านพ่อเขาคือ เขาไม่มีพรสวรรค์ในด้านการครัวเลย!
ดังนั้นระยะเวลาหลายปีที่ท่องอยู่ในโลกภายนอก เขาไม่เคยทำอาหารเอง ยามนี้ย่อมต้องซ่อนเร้นไว้…
ไป๋เจ๋อมองเขาอย่างเห็นใจยิ่งนัก ยังไม่ลืมที่แทงเขาซ้ำอีกแผล ‘อันที่จริงแล้วปลาที่แม่ทัพหลงผู้นี้ย่างอร่อยมาก หากว่ามหาเทพอยู่ที่นี่ ไม่แน่ว่าอาจจะชมเชยเขาก็ได้ ฝ่าบาท มหาเทพเคยกล่าวไว้ว่า ถ้าต้องการจะกุมหัวใจสตรีนางหนึ่งไว้ ก็ต้องกุมกระเพาะของนางให้ได้ก่อน เช่นนี้นางถึงจะไปจากท่านไม่ได้…’
ตี้ฝูอีร้อนรนแล้ว!
เขาเอ่ยอย่างขุ่นเคือง ‘รีบไปตุ๋นปลา! อย่ามาพล่ามไร้สาระมากมายปานนี้!’
โอ๊ะ ยากนักที่จะได้เห็นฝ่าบาทน้อยขุ่นเคืองฉุนเฉียวเช่นนี้
ไป๋เจ๋อรู้สึกว่าพบเห็นได้ยากยิ่งนัก
ยามที่ฝ่าบาทน้อยยังเล็กทั้งน่ารักน่าเอ็นดู น่ารักสดใสจนทำให้แปดสัตว์วิเศษรู้สึกระชุ่มกระชวยยิ่งนัก
แต่วัยเยาว์ของฝ่าบาทน้อยช่างสั้นเหลือเกิน! เพียงสามปีเขาก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว!
หลังจากฝ่าบาทน้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่นิสัยก็ร้ายกาจขึ้นมาก เจ้าเล่ห์ไม่น้อยเลย และสุขุมขึ้นมากเช่นกัน ไม่กระทำเรื่องราวตามหลักสามัญสำนึก เขายั่วโทสะผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นโมโหโทโสอยู่บ่อยครั้ง ถ้าผู้อื่นต้องการจะยั่วโมโหเขากลับยากเย็นยิ่งกว่าปีนขึ้นสวรรค์เสียอีก…
มักจะทำให้ผู้อื่นหน้าดำคร่ำเครียดด้วยพฤติกรรมของเขาอยู่เสมอ
ยามนี้กลับได้เห็นเขาขุ่นเคืองฉุนเฉียวอย่างที่พบเห็นได้ยากนัก…
ไป๋เจ๋อรู้สึกว่าตนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งแล้ว แต่ก็ฉลาดพอที่จะไม่ไปกระตุกหนวดเสืออีก ยิ้มแวบหนึ่ง ‘กระหม่อมจะไปเดี๋ยวนี้’
ขณะที่กำลังจะไปตุ๋นปลา กู้ซีจิ่วก็เข้ามา “แม่ทัพไป๋ ท่านเดินทางมาเหนื่อยแล้ว ให้ข้าทำเองเถอะ”
ไป๋เจ๋อประหลาดใจอยู่บ้าง “แม่นางกู้ชำนาญงานครัวหรือ?”
กู้ซีจิ่วเม้มปากยิ้มแวบหนึ่ง “กล่าวได้ว่าพอใช้ได้” มือไม้ของเธอเริ่มจัดการอย่างคล่องแคล่วแล้ว
หลงซือเย่อดทนจนอดไม่อยู่ วางปลาย่างในมือลงแล้วเข้ามาช่วยเหลือ “ซีจิ่ว เจ้ายังบาดเจ็บอยู่ อย่าได้ทำงานใช้แรงเช่นนี้ ให้ข้าทำเถอะ”
กู้ซีจิ่วส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก ทำงานเช่นนี้ข้าไม่เหนื่อย ครูฝึกหลง ท่านรีบจัดการของท่านก่อนเถิด”
หลงซือหมดหนทาง ทำได้เพียงไปย่างปลาต่อ
ส่วนกู้ซีจิ่วก็หยิบหม้อสำหรับตุ๋นปลาโดยเฉพาะออกมา…
ไปเจ๋อมองดูไม่กี่แวบก็มั่นใจแล้วว่านางเป็นเลิศในด้านนี้ ที่พบเห็นได้ยากยิ่งกว่านั้นคือ บนร่างนางพกเครื่องเทศสารพัดชนิดติดตัวมาด้วย!
ท่านมหาเทพของมันไม่ว่าจะไปที่ใดล้วนพกเครื่องเทศติดตัวไปด้วยเช่นกัน เพื่อจะได้สะดวกต่อการทำอาหารให้ศรีภรรยาของตน
นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางกู้ก็มีความเคยชินอันดีเช่นนี้เหมือนกัน…
ผ่านไปครู่หนึ่ง มีกลิ่นหอมของปลาตุ๋นลอยออกมาจากหม้อแล้ว เข้มข้น หอมหวน ยังไม่ทันสุกก็ทำให้ผู้อื่นเกิดความอยากจนนิ้วกระดิกแล้ว
ไป๋เจ๋ออดไม่ได้ที่จะมองนายน้อยของบ้านตนแวบหนึ่ง ลอบคาดเดาเอาเองอยู่ในใจ นายน้อยของบ้านตนคงมิได้ถูกทักษะการครัวของแม่นางผู้นี้กุมเอาไว้กระมัง?
บางทีในอีกหลายปีข้างหน้าวังค้ำนภาอาจจะมีนายหญิงที่ชำนาญงานครัว?
นึกๆ แล้วก็ทำให้ผู้อื่นปลื้มใจนัก!
ไป๋เจ๋อมองกู้ซีจิ่วอีกครั้ง ยิ่งมองยิ่งพอใจ
แม่นางผู้นี้ต้องการความสามารถก็มีความสามารถ ต้องการรูปโฉมก็มีรูปโฉม ซ้ำยังมีทักษะการครัวเป็นเลิศถึงเพียงนี้ มิน่าล่ะฝ่าบาทน้อยถึงทุ่มเทเพื่อแม่นางผู้นี้ถึงขนาดนี้…
เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นฝ่าบาทน้อยใส่ใจคนผู้หนึ่งเช่นนี้
ในไม่ช้า น้ำแกงปลาก็สุกดีแล้ว เป็นน้ำแกงสีขาวดุจน้ำนม
———————————————————–
บทที่ 2028 หึงหวง 2
กู้ซีจิ่วดมเล็กน้อย ถอนหายใจอย่างพึงพอใจ นานมากแล้วมที่ไม่ได้กลิ่นเนื้อเลย โหยหาเหลือเกิน!
เธอลืมตาขึ้นมา มองเห็นชามใบหนึ่งยื่นเข้ามาเบื้องหน้าตน ชามใบนั้นเป็นชามกระเบื้องเนื้อบาง บนชามมีลวดลายดอกเหมยอยู่ มือที่ถือชามใบนี้อยู่เรียวยาวงดงาม บนข้อมือยังมีกำไลทองที่เปล่งแสงพร่างพราวเจ็ดสีวงหนึ่งไว้ด้วย เมื่อมองไล่ตามแขนเสื้อสีม่วงเข้มดั่งเมฆาเคลื่อนคล้อยขึ้นไป เป็นดวงหน้างามล้ำเลิศที่เปลี่ยนแปลงราวฟ้ากับเหวของตี้ฝูอี นัยน์ตาเขาคล้ายจะทอประกายเล็กน้อย ดูกระตือรือร้น “ซีจิ่ว ข้าหิวแล้ว”
กู้ซีจิ่วใจอ่อนยวบ รับชามจากเขา ตักให้เขาหนึ่งชาม ซ้ำยังเพิ่มเนื้อปลาให้อีกหลายชิ้นด้วย แล้วยื่นคือให้ “กินสิ ชิมดูว่าฝีมือข้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
หลงซือเย่ทนไม่ไหวแล้ว “ฝ่าบาท ซีจิ่วยังบาดเจ็บอยู่…” เจ้ายังมีหน้ามาแย่งอาหารกับนางอีกหรือ?!
ตี้ฝูอีไม่สนใจเขา จิบน้ำแกงเข้าไปคำหนึ่ง กล่าวชมเชยว่า “รสเลิศโดยแท้! ซีจิ่ว ทักษะของเจ้ายอดเยี่ยมจริงๆ!”
หมัดนี้ของหลงซือเย่ราวกับต่อยตีลงบนปุยนุ่น ไม่ก่อระลอกเลยสักนิด จึงอึดอัดอยู่บ้าง
กู้ซีจิ่วน้ำแกงปลาชามหนึ่งไปให้เขา “ครูฝึกหลง ท่านก็ชิมดูสิ”
ในใจหลงซือเย่อบอุ่นเล็กน้อย มองดูหม้อใบน้อยที่นางปรุงน้ำแกงปลาใบนั้น หม้อนั้นเล็กถึงเพียงนี้ ดูทรงแล้วเต็มหม้อก็ได้เพียงสองชามเท่านั้น แต่ซีจิ่วตักใส่ในชามสองใบจนเต็ม ในหมอกลับยังมีเหลืออยู่กว่าครึ่งหม้อ…
ดูเหมือนหม้อใบนี้ของนางจะเป็นของวิเศษ น้ำแกงปลานี้นางทำไว้ไม่น้อยเลย
เขานิ่งไปครู่หนึ่ง กำลังจะรับไป แต่ถูกตี้ฝูอีปาดหน้าฉวยไปอีกครา “ซีจิ่ว ครูฝึกหลงคงละอายที่จะดื่มน้ำแกงที่เจ้าปรุง”
หลงซือเย่พูดไม่ออก
คนโง่ก็ยังมองออกว่าฝ่าบาทน้อยผู้น้อยจ้องเล่นงานหลงซือเย่ กู้ซีจิ่วขมวดคิ้วนิดๆ เอ่ยเรียบๆ ว่า “น้ำแกงนี้ข้าทำไว้ไม่น้อยเลย ล้วนมีส่วนของทุกคนที่อยู่ที่นี่”
พลางหยิบชามออกมาอีกสี่ใบเสีย ตักใส่จนเต็มอีกครั้ง ส่งให้หลงซือเย่หนึ่งชาม ไป๋เจ๋อหนึ่งชาม ตัวเธอเองหนึ่งชาม ถึงขั้นที่มีให้ลู่อู๋ที่เพิ่งวิ่งมาหาอีกหนึ่งชามด้วย
หลงซือเย่เหลือบมองตี้ฝูอีอย่างลุ่มลึกแวบหนึ่ง ยกชามนั้นของตนขึ้นดื่มหลายอึก ดูสบายอุรายิ่ง
เบื้องหน้าของตี้ฝูอีเองมีชามอยู่สองใบ ไอร้อนลอยกรุ่น กลิ่นหอมโชยเข้าจมูก
เขาก็หิวอยู่จริงๆ วิ่งรอกอยู่หลายวัน แทบไม่ได้กินอะไรจริงๆ จังๆ เลย แล้วจะไม่หิวได้อย่างไร? แต่ว่าตอนนี้จู่ๆ ความอยากอาหารของเขาก็หมดไป…
ลู่อู๋ดื่มน้ำแกงอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ดื่มชามนั้นของตนจนเกลี้ยง
นานมากแล้วที่ไม่ได้ดื่มน้ำแกงปลาฝีมือเจ้านาย อร่อยเหลือเกิน! อยากดื่มอีกจัง…
สายตาของมันพลันสอดส่าย จับจ้องไปที่ตี้ฝูอี ที่ตี้ฝูอีมีอยู่ตั้งสองชาม! แถมเขายังไม่มีทีท่าว่าจะดื่มเลยด้วย
มันเขยิบเข้าไปหา “ฝ่าบาท น้ำแกงนี้ท่านจะดื่มหรือไม่?”
ตี้ฝูอีมีท่าทีเฉยเมย “ไม่มีความอยาก”
ลู่อู๋รีบเอ่ยขึ้นทันที “ไม่อยากก็ไม่ต้องฝืนดื่มหรอก เพียงแต่น้ำแกงที่อร่อยขนาดนี้ถ้าไม่มีคนดื่มก็น่าเสียดายเกินไปแล้ว”
ตี้ฝูอีปรายตามองมันแวบหนึ่ง “เจ้าอยากดื่มหรือ?”
ลู่อู๋พยักหน้า “อยาก!”
ตี้ฝูอีผลักส่งให้มันชามหนึ่ง “ดื่มสิ”
ฝ่าบาทน้อยผู้นี้ช่างรู้งานจริงๆ!
ลู่อู๋รีบเข้าไปดื่มชามนั้นทันที
ตี้ฝูอีเหลือบมองกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง นางกำลังผินหน้าคุยกับหลงซือเย่อยู่ ไม่ได้สนใจเขาเลย…
จู่ๆ เขาก็รู้สึกค่อนข้างโมโหขึ้นมา เทชามนั้นของตนใส่ในชามของลู่อู๋ “ยกให้เจ้าหมดเลย!”
ลู่อู๋ย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว ดื่มจนหมดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาเลย
น้ำแกงปลาเลิศรสสดใหม่ทั้งหม้อตี้ฝูอีได้ชิมไปคำเดียว…
จวบจนลู่อู๋ดื่มทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว กู้ซีจิ่วถึงคล้ายว่าจะเพิ่งพบเห็นเรื่องนี้ เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ “ฝูอี ไม่ถูกปากเจ้าหรือ? ทำไมไม่ดื่มล่ะ?”
————————————————————