ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 102 ทำเป็นหูทวนลม
ลำนำยอดหญิงจอมพิษ บทที่ 102 ทำเป็นหูทวนลม
“ไม่ใช่หรอก……ต้องเป็นกู้ชิวเหลิ่งแน่ๆ นางเหมือนกับแม่ของนางคนนั้น! นาง……”
จู่ๆลมฝ่ามือของอวี้ฉือจ้านก็ตบออกไป ตบจนฮูหยินใหญ่กระแทกตัวลงไปบนพื้น กล่าวขึ้นมาด้วยเสียงเย็นชา: “ในเมื่อกู้โหวเย๋ไม่สั่งสอนฉูหยินของตัวเอง เช่นนั้นข้าจะทำแทนให้เอง”
ฮูหยินใหญ่เจ็บจนกลิ้งตัวอยู่บนพื้น เดิมทีนางก็ไม่ได้นอนทั้งคืนอยู่แล้ว ตอนนี้ล้มตัวลงไปบนพื้นเช่นนี้ ผมเผ้าล้วนยุ่งเหยิง ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากขอทานเลย
อี๋เหนียงรองแอบหัวเราะอยู่ด้านข้าง กู้ชิวเยว่กลับประคองฮูหยินใหญ่ขึ้นมาอย่างเอาอกเอาใจ
กู้หนางเฉิงรีบร้อนขอโทษ ไหนเลยจะยังมีเวลาสนใจฮูหยินใหญ่ที่อยู่บนพื้นอีก: “เป็นความผิดของกระหม่อมเอง กระหม่อมปกครองภรรยาได้ไม่ดี ทำให้เซ่อเจิ้งหวางขบขันแล้ว……ขบขันแล้ว”
อวี้ฉือจ้านกล่าวว่า: “ตั้งแต่เข้าพื้นที่ล่าสัตว์เมื่อวานนี้ คุณหนูรองก็อยู่กับข้าตลอด ข้าสามารถรับรองได้ว่านางมิได้ไปไหนทั้งนั้น ยิ่งไม่มีทางลักพาตัวคุณหนูใหญ่กู้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นบาดแผลบนตัวของคุณหนูรองล้วนเป็นเพราะช่วยข้าทั้งนั้น เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของข้า ถ้าหากว่าท่านกู้โหวเย๋จะสงสัย หรือจะต้องสงสัยในตัวข้าพร้อมกันไปด้วยรึ?”
“มิกล้า! กระหม่อมมิกล้า!”
กู้หนานเฉิงเกือบจะคุกเข่าลงไปบนพื้นแล้ว ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าในต้าเยียนแห่งนี้ถึงแม้จะล่วงเกินฮ่องเต้ ก็ไม่สามารถล่วงเกินเซ่อเจิ้งหวางได้ ถ้าหากล่วงเกินเซ่อเจิ้งหวาง ชีวิตก็ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
สีหน้าของกู้ชิวเหลิ่งซีดขาวเล็กน้อย คิ้วของอวี้ฉือจ้านขมวดกันแน่น: “เมื่อครู่นี้ข้าบอกว่าคุณหนูรองจำเป็นต้องพักฟื้นอย่างเร่งด่วน ท่านกู้โหวเย๋จะทำเป็นหูทวนลมเช่นนั้นหรือ?”
“ถางเอ๋อร์ เจ้ายังไม่รีบประคองน้องสาวเจ้ากลับเข้าไปอีก!”
กู้ชิวถางปล่อยมือจากฮูหยินใหญ่ กล่าวว่า: “ลูกทราบแล้ว”
กู้ชิวถางเพิ่งจะสัมผัสถูกแขนของกู้ชิวเหลิ่ง กู้ชิวเหลิ่งก็ส่งเสียงครางอู้อี้ออกมา อวี้ฉือจ้านขมวดคิ้ว: “ไหล่ซ้ายและแขนของนางบาดเจ็บ ไม่สามารถแตะต้องได้”
“ขอบพระทัยเซ่อเจิ้งหวางมากที่เตือนสติ”
กู้ชิวถางเพียงแค่มองดู ก็รู้แล้วว่าอาการบาดเจ็บของกู้ชิวเหลิ่งในครั้งนี้สาหัสไม่น้อย ดังนั้นจึงอ้อมไปทางฝั่งขวามือของกู้ชิวเหลิ่ง แล้วประคองตัวกู้ชิวเหลิ่งเอาไว้
อวี้ฉือจ้านมองดูแผ่นหลังที่จากไปของกู้ชิวเหลิ่ง เวลานางเดินขึ้นมาก็ยังไม่มั่นคงอยู่เล็กน้อย วันนี้ควรจะให้เมิ่งจิ่วเตรียมยารักษาสารพัดโรคอีกหน่อยแล้ว
“เซ่อเจิ้งหวาง……?”
กู้หนานเฉิงเห็นอวี้ฉือจ้านมองดูแผ่นหลังที่จากไปนานแล้วของกู้ชิวเหลิ่ง เกิดความสงสัยขึ้นมาเล็กน้อยในใจ อิงจากข่าวลือในเมืองหลวง อวี้ฉือจ้านน่าจะชอบผู้ชายนี่นา?
อวี้ฉือจ้านได้สติกลับมา รู้สึกไม่สบอารมณ์ต่อการที่กู้หนานเฉิงรบกวนเล็กน้อย กล่าวว่า: “คุณหนูรองเป็นจวิ้นจู่ที่ฝ่าบาทแต่งตั้งด้วยตัวเอง และเป็นผู้มีผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของข้า ท่านกู้โหวเย๋ต้องดูแลอย่างดี ถ้าหากอาการบาดเจ็บคุณหนูรองแย่ลง ข้าก็จะมารับตัวคุณหนูรองไปพักฟื้นที่จวนเซ่อเจิ้งหวาง”
ทิ้งไว้เพียงคำพูดประโยคนี้ประโยคหนึ่ง อวี้ฉือจ้านก็จากไปอย่างไม่หันกลับมามองเลย ไม่ให้เวลากู้หนานเฉิงได้ตอบเลยสักคำเดียวด้วยซ้ำ
กู้หนานเฉิงกล่าวต่อแผ่นหลังของอวี้ฉือจ้านที่จากไปไกลแล้วด้วยความเคารพนบนอบ: “กระหม่อมรับคำสั่ง!”
ฮูหยินใหญ่กุมหน้าเอาไว้นั่งอยู่บนพื้น ในสายตามีความโหดเหี้ยมแวบผ่านไปเล็กน้อย เซียงเอ๋อร์เป็นเหมือนกับชีวิตจิตใจของนาง ถ้าหากไม่ใช่เพราะกู้ชิวเหลิ่ง เซียงเอ๋อร์ของนางไม่มีทางหายตัวไปอย่างเด็ดขาด!
กู้ชิวถางประคองตัวกู้ชิวเหลิ่งไปตามทางที่จะเดินกลับ เพิ่งจะเดินไปถึงสวนดอกไม้ด้านหลัง กู้ชิวเหลิ่งก็หยุดฝีเท้าลง ค่อยๆปัดมือของกู้ชิวถางที่วางเอาไว้บนแขนของนางลงไปช้าๆ กล่าวว่า: “ขอบคุณท่านพี่มาก ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว”
“ข้าเห็นอาการบาดเจ็บของเจ้าสาหัสไม่น้อย เดิมทีเมื่อคืนเคยไปเยี่ยมเจ้า เพียงแต่ว่าถูกเซ่อเจิ้งหวางขวางเอาไว้หน้าประตู เซ่อเจิ้งหวางเชิญเซียนพิษเมิ่งจิ่วมารักษาให้เจ้าโดยเฉพาะ เห็นได้ชัดว่าอาการบาดเจ็บของเจ้าสาหัสมาก”
เมื่อคืนกู้ชิวเหลิ่งได้ยินชื่อเซียนพิษเมิ่งจิ่วรางๆอยู่ เพียงแต่ว่าตอนนั้นบาดแผลที่อยู่ตรงไหล่เจ็บปวดเกินไป ดังนั้นจึงไม่ได้ใส่ใจมากนัก หากจะพูดถึงเซียนพิษคนนี้ นางก็อยากจะพบสักครั้งจริงๆ
กู้ชิวถางเห็นกู้ชิวเหลิ่งเหมือนมีความในใจ นึกว่าเป็นเพราะเรื่องที่ฮูหยินใหญ่กล่าวหาว่ากู้ชิวเหลิ่งเป็นคนลักพาตัวกู้ชิวเซียงเมื่อครู่นี้ ในใจของกู้ชิวเหลิ่งไม่มีความสุข ดังนั้นจึงกล่าวปลอบโยนว่า: “ท่านแม่ก็แค่เป็นกังวลมากเกินไป ไม่ได้มีเจตนาหรอก เจ้าก็อย่าเก็บไปใส่ใจเลย”
กู้ชิวเหลิ่งรู้ว่ากู้ชิวถางเข้าใจผิดไป เพียงแค่ยิ้มออกมาเล็กน้อย กล่าวว่า: “คนบริสุทธิ์ย่อมเป็นคนบริสุทธิ์ เพียงแต่ว่าพี่ใหญ่หายตัวไปอย่างไร้เหตุผล มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
กู้ชิวถางกล่าวว่า: “ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆนางก็บอกว่าไม่สบาย แล้วก็ลงจากม้าไป ข้านึกว่านางไม่คุ้นชินกับการอยู่บนหลังม้า จะอาเจียนสักพักหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะหายตัวไป”
“หาอยู่นานก็หาไม่พบ?”
กู้ชิวถางส่ายหน้า: “ตอนนั้นบริเวณโดยรอบไม่มีใครอยู่เลย ข้าเองก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก”
กู้ชิวเหลิ่งกล่าวถาม: “ตอนนั้นพี่ใหญ่เห็นท่านอ๋องรองหรือไม่?”
“เปล่า แต่ข้าจำได้ว่าข้าพลั้งปากพูดออกมาคำหนึ่ง ปีก่อนๆท่านอ๋องรองกับท่านอ๋องทั้งหลายชอบไปล่าสัตว์ในมุมตะวันตกเฉียงเหนือ อย่างไรเสียเหยื่อของที่นั่นก็มีเยอะ คว้าของพิเศษมาได้ง่าย”
กู้ชิวเหลิ่งพยักหน้า กล่าวว่า: “ท่านพี่มิต้องเป็นกังวลไป พี่ใหญ่น่าจะไม่เป็นไร”
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”
ถึงจะพูดเช่นนั้น แต่ว่าระยะเวลาจากบ่ายเมื่อวานก็ผ่านไปเกือบหนึ่งวันแล้ว ผู้หญิงที่บอบบางอย่างกู้ชิวเซียง อยู่ในสถานที่อย่างพื้นที่ล่าสัตว์เช่นนั้น แล้วจะไปอยู่อย่างสบายได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้ในพื้นที่ล่าสัตว์จะไม่มีสัตว์ป่าที่อันตรายเกินไป แต่สัตว์จำพวกกวางก็ยังมีอยู่ ขอเพียงแค่มีผู้ชายที่มีจิตใจไม่ดีเดินเข้าไปพื้นที่ล่าสัตว์คนหนึ่ง ด้วยรูปร่างหน้าตาเช่นนั้นของกู้ชิวเซียง ก็เลี่ยงการที่จะถูกล่วงละเมิดได้ยากเช่นกัน
เพียงแต่ว่าเรื่องพวกนี้สำหรับกู้ชิวถางในตอนนี้แล้วไม่ใช่ข่าวที่เขาอยากจะได้ยินอย่างแน่นอน
กู้ชิวเหลิ่งเพิ่งจะเดินเข้าไปในลานสองก้าว ก็เห็นจูเอ๋อร์วิ่งออกมาพร้อมกับน้ำตาที่นองหน้า ร้องไห้พร้อมกล่าวขึ้นว่า: “คุณหนู! ในที่สุดท่านกลับมาเสียที! ฮือๆ บ่าวนึกว่าจะไม่ได้เห็นคุณหนูแล้วเสียอีก”
กู้ชิวถางกล่าวว่า: “เมื่อวานนางยืนกรานว่าจะรอเจ้าด้านหน้าพื้นที่ล่าสัตว์ ข้าเห็นว่านางเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่เหมาะสมจริงๆ ดังนั้นก็เลยให้เปียนเจียงส่งนางกลับมาก่อน”
กู้ชิวเหลิ่งเช็ดน้ำตาที่อยู่บนใบหน้าของจูเอ๋อร์ออกอย่างแผ่วเบา กล่าวว่า: “ข้ากลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ก็อย่าร้องไห้เลยนะ”
“อ๊ะ!คุณหนูทำไมบนร่างกายของท่านถึงมีเลือดมากมายขนาดนี้?”
พูดถึงบาดแผลของกู้ชิวเหลิ่ง กู้ชิวถางถึงเพิ่งตอบสนองกลับมา รีบร้อนกล่าวว่า: “คุณหนูของเจ้ามีบาดแผลบนร่างกาย เจ้าไปตักน้ำมาให้คุณหนูของเจ้าล้างเนื้อล้างตัวก่อน ให้นางพักผ่อนได้ดีๆ”
จูเอ๋อร์เช็ดน้ำตาที่อยู่บนใบหน้า กล่าวว่า: “เจ้าค่ะ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
กู้ชิวถางกล่าวกับกู้ชิวเหลิ่งว่า: “ข้าต้องไปดูที่พื้นที่ล่าสัตว์อีกครั้ง บางทีอาจจะหาเจอก็เป็นได้”
คำพูดของกู้ชิวถางเพิ่งจะหยุดลง ก็ได้ยินเปียนเจียงวิ่งมาแต่ไกล กล่าวด้วยเสียงที่หอบหายใจ: “ท่านแม่ทัพ! แย่แล้ว! คุณหนูใหญ่……คุณหนูใหญ่……”
เปียนเจียงหายใจไม่ทัน กู้ชิวถางก็กล่าวขึ้นมาแล้วว่า: “คุณหนูใหญ่เป็นอะไรไป? เจ้าก็พูดออกมาสิ!”
“ศพ……ศพของคุณหนูใหญ่ถูกยกกลับมาแล้ว”
บนใบหน้าของกู้ชิวเหลิ่งสงบนิ่งมาก สำหรับการตายของกู้ชิวเซียงก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจมากนัก ความจริงขอเพียงแค่กู้ชิวเซียงหายตัวไป สุดท้ายที่จะถูกยกกลับมาย่อมต้องเป็นศพอยู่แล้ว
บนใบหน้าของกู้ชิวถางสิ่งที่มีมากกว่าคือความรู้สึกผิดและตกตะลึง กู้ชิวเหลิ่งกล่าวว่า: “ท่านพี่ไปก่อนเถิด ข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดหนึ่งแล้วจะตามไป”
“แต่ว่าบาดแผลของเจ้า……”
“มีเมิ่งเซียนเซิงช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้ข้า นอกจากรู้สึกเจ็บเล็กน้อยแล้ว ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว”