ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 17 การเปลี่ยนวิธีตามหาภรรยา
ลำนำยอดหญิงจอมพิษ บทที่ 17 การเปลี่ยนวิธีตามหาภรรยา
กู้ชิวเซียงกำลังนั่งอยู่หน้าเครื่องฉิน บรรเลงเพลงไพเราะที่ชื่อเขาสูงน้ำไหล เดิมทีเสียงของกู้ชิวเซียงก็น่าฟังอยู่แล้ว บวกกับทักษะในการเล่นฉินที่ยอดเยี่ยมอีก ดังนั้นเพลงที่บรรเลงออกมาจึงไพเราะเป็นอย่างยิ่ง
ฮูหยินใหญ่เพียงแค่มองดูกู้ชิวเซียงบรรเลงเพลงเช่นนี้ ก็รู้สึกว่าหากนางฟ้าศักดิ์สิทธิ์ลงมาที่แดนมนุษย์ ผู้ชายคนใดที่เห็นฉากดังกล่าว ต่างก็ต้องรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างยิ่งแน่
ฮูหยินใหญ่ปรบมืออย่างพอใจและพูดว่า:”ลูกสาวของข้ามีเพียงหนึ่งในใต้หล้านี้ ขอแค่มีเพลงนี้ ไม่กลัวว่าจะเสนอหน้าในงานเลี้ยงแห่งแคว้นไม่ได้”
กู้ชิวเซียงกลับไม่ได้ดีใจเหมือนฮูหยินใหญ่ ขมวดคิ้วและพูดว่า: “ลูกรู้สึกว่าเพลงนี้ธรรมดาเกินไป ทักษะความสามารถของนักบรรเลงดนตรีในพราะราชวังนั้นยอดเยี่ยม ไม่แน่อาจมีคนที่บรรเลงเพลงและร้องได้ดีกว่าข้า แต่ว่าหากแข่งการแต่งบทกวีและวาดภาพ ข้าเทียบกับเซียวหว่านชิงของจวนเซียวโหวไม่ได้ หากจะพูดถึงทักษะการรำ ข้าได้ยินมาว่าซูเมี่ยวเมี่ยวของจวนแม่ทัพซูนั้นจะรำกระบี่ ดังนั้นสิ่งที่เหลืออยู่ก็มีเพียงทักษะฉิน ชั่วขณะนี้ลูกไม่สามารถตัดสินใจได้”
ฮูหยินใหญ่พูดอย่างปลื้มใจว่า: “ข้าว่าเจ้านะไม่พอใจเพลงนี้ จริงที่เพลงนี้มันสง่างามเกินไป มิฉะนั้นเปลี่ยนเป็นเพลงที่อ่อนโยนน่าฟัง?”
ตอนนี้กู้ชิวเหลิ่งได้เดินมาถึงที่หน้าลานแล้ว นำโดยแม่นมโจว ซึ่งได้ฟังเสียงฉินของกู้ชิวเซียงมาระยะหนึ่งแล้ว
ฮูหยินใหญ่คาดไม่ถึงเลยว่ากู้ชิวเหลิ่งจะมาในเวลานี้ เมื่อก่อนกู้ชิวเหลิ่งไม่กล้าก้าวเข้ามาในลานของนางเลย มาในเวลานี้ กลับทำให้ฮูหยินใหญ่สับสนเล็กน้อย
กู้ชิวเหลิ่งก้มหัวลง ราวกับว่าไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองฮูหยินใหญ่ พูดอย่างเกรงกลัวว่า:” ลูกมาน้อมทักทายท่านแม่และพี่ใหญ่”
เมื่อก่อนกู้ชิวเซียงเห็นกู้ชิวเหลิ่ง รู้สึกเพียงว่ารูปร่างหน้าตาและนิสัยของกู้ชิวเหลิ่งนั้นทำให้คนอื่นไม่ชอบ แต่หลังผ่านเรื่องอวี่เหวินเจี๋ยในครั้งก่อนแล้ว พอนางเห็นกู้ชิวเหลิ่ง ก็รู้สึกอึดอัดยิ่งนัก ไม่สามารถแสร้งทำเป็นสนิทสนมกับกู้ชิวเหลิ่งได้อีกเลย
ฮูหยินใหญ่ใจเย็นกว่ากู้ชิวเซียง ดังนั้นจึงยิ้มอย่างมีเมตตา ประคองกู้ชิวเหลิ่งลุกขึ้นและพูดอย่างสนิทสนมว่า: “เหตุใดวันนี้ถึงได้มีเวลามาละ?เป็นเพราะขาดของอะไรไปหรือเปล่า? หรือว่าคนรับใช้ดูแลไม่ดี? ”
กู้ชิวเหลิ่งส่ายหัวและพูดว่า:”คราวนี้ลูกมาเพื่อขอบคุณบุญคุณของท่านแม่”
ฮูหยินใหญ่ไม่ทราบเรื่องที่แม่นมโจวเตรียมจะแบ่งคนรับใช้ให้กู้ชิวเหลิ่ง แต่กู้ชิวเหลิ่งก็เป็นคนริเริ่มมาขอบคุณบุญคุณ นางก็ไม่สามารถแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรสักอย่างได้ ดังนั้นจึงยิ้มและพูดว่า: “เป็นลูกที่เชื่อฟังของแม่ ไม่มีอะไรน่าขอบคุณนัก”
กู้ชิวเหลิ่งกล่าวว่า:”เมื่อวานนี้แม่นมโจวบอกว่าจะเลือกสาวรับใช้ที่ฉลาดได้เรื่องมาให้ลูกสองสามคน ลูกรู้สึกว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความหวังดีของท่านแม่ทั้งนั้น แต่ลูกคิดว่าลานก็ไม่ใหญ่ ใช้สาวรับใช้ไม่เยอะถึงเช่นนั้น สาวรับใช้ที่หวีผมให้ลูกในเมื่อวานนี้ ลูกรู้สึกว่าหล่อนดีมากนัก ดังนั้นจึงอยากได้ตัวหล่อนมารับใช้ แต่เมื่อวานนี้ลูกลืมบอกแม่นมโจว วันนี้จึงมาขอบคุณบุญคุณของท่านแม่ก่อน หากจะมอบสาวรับใช้ให้ ก็มอบสาวรับใช้คนนั้นให้ลูกเถอะ”
ดวงตาของฮูหยินใหญ่มีร่องรอยของความสงสัยแวบผ่านไป กวาดดูแม่นมโจวอย่างเย็นชา ถ้าเป็นก่อนหน้านี้นางก็จะนึกว่าแม่นมโจวเพียงแค่ทำงานไม่ได้เรื่องเท่านั้น แต่ตอนนี้เมื่อรู้กู้ชิวเหลิ่งมาขอสาวรับใช้คนหนึ่งอย่างกะทันหันเช่นนี้ ในใจก็สงสัยอยู่เสมอว่า หากเป็นสาวรับใช้ที่แม้แต่หวีผมยังหวีไม่ดี กู้ชิวเหลิ่งจะมาขอตัวหล่อนโดยไร้เหตุผลได้อย่างไร?
แต่ภายนอก ฮูหยินใหญ่ก็ไม่ได้แสดงท่าทางของความไม่พอใจ แถมพูดอย่างปลาบปลื้มว่า: “เจ้าช่างรู้เดียงสายิ่งนัก แต่เจ้าก็เป็นคุณหนูที่เป็นทางการของจวนกู้โหวนี้ มีสาวรับใช้เพียงคนเดียวได้อย่างไร ชุนจู๋ที่อยู่กับข้าไม่เลวนัก ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปก็จะคอยติดตามเจ้า และสามารถช่วยเจ้าดูแลเรื่องประจำวันได้บ้าง”
ใบหน้าของกู้ชิวเหลิ่งเต็มไปด้วยความดีใจและความซับซึ้ง พูดว่า:”ขอบพระคุณท่านแม่เจ้าค่ะ!”
เมื่อเห็นว่ากู้ชิวเหลิ่งยิ้มอย่างมีความสุข ในใจของกู้ชิวเซียงก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้น ตอนนี้คนที่นางไม่อยากเห็นที่สุดก็คือกู้ชิวเหลิ่ง
แต่ในขณะนี้ กู้ชิวเหลิ่งก็หันมองไปที่กู้ชิวเซียง จับมือของกู้ชิวเซียงอย่างสนิทสนมและพูดว่า: “ชุดของพี่ใหญ่สวยมากเลย ได้ยินว่าอีกไม่กี่วันจะมีงานเลี้ยงแห่งแคว้น พี่ใหญ่จะไปเข้าร่วมรึ?”
กู้ชิวเซียงฝืนยิ้ม และพูดอย่างอ่อนโยนว่า:”ใช่เจ้าค่ะ ภรรยาและลูกสาวทุกคนของขุนนางระดับสามล้วนสามารถไปเข้าร่วมได้ แต่อายุของเจ้าไม่ถึง มิฉะนั้นเจ้าก็สามารถไปด้วยกันได้”
กู้ชิวเหลิ่งทำหน้าผิดหวังและพูดว่า:”ไปไม่ได้รึ?ข้าคิดว่าปีนี้ข้าอายุสิบสี่ สามารถไปได้แล้ว”
กู้ชิวเซียงสังเกตเห็นถึงความผิดหวังในตาของกู้ชิวเหลิ่งและถามว่า:”ทำไม?น้องรองอยากไปหรือ? ”
แก้มของกู้ชิวเหลิ่งแดงเล็กน้อย จากนั้นก็ซีดลง รีบส่ายหัวและพูดว่า:”เปล่า……แท้จริงแล้วข้าก็ไม่ได้อยากไปมากนัก……”
กู้ชิวเซียงไม่เชื่อคำพูดของกู้ชิวเหลิ่งหรอกนะ จงใจพูดว่า:”น้องรองอยากพบใครหรือเปล่า?”
กู้ชิวเหลิ่งแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ ถามว่า:”พี่ใหญ่หมายถึงไร?”
กู้ชิวเซียงยิ่งรู้สึกว่ากู้ชิวเหลิ่งกำลังแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ ดังนั้นจึงพูดว่า:”ผู้หญิงที่มีชื่อเสียงของทุกตระกูลต่างก็รู้ว่า งานเลี้ยงแห่งแคว้นนี้บอกว่ามันเป็นงานเลี้ยง แต่ในความเป็นจริงมันก็เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนวิธีหาคู่ให้ ลูกหลานของคนชนชั้นสูงและเหล่าขุนนางเท่านั้น หรือว่าน้องรองไม่ทราบหรือ?”
“ห๊ะ……ข้า……ข้าจะรู้ได้อย่างไร……”
กู้ชิวเหลิ่งก้มหน้าลง ทำท่าทางเหมือนเขินอาย
กู้ชิวเซียงกำผ้าเช็ดมือในมือไว้อย่างแน่ กู้ชิวเหลิ่งได้รับการเลี้ยงดูอยู่ในห้องมาโดยตลอดหลายปี นอกเหนือจากเมื่อวานได้เห็นอวี่เหวินเจี๋ยแล้ว ยังเคยเห็นผู้ชายคนไหนอีก? เห็นความผิดปกติของกู้ชิวเหลิ่งในวันนี้ เห็นได้ชัดว่ามีใจให้อวี่เหวินเจี๋ย และอยากเข้าร่วมงานเลี้ยง จงใจต้องการแย่งกับนางชัดๆ!
ฮูหยินใหญ่รู้สึกถึงความผิดปกติ และพูดว่า:”เจ้าอย่าหยอกล้อน้องสาวเจ้าได้แล้ว เหลิ่งเอ๋อร์ได้ทำการหมั้นหมายกับท่านอ๋องหกให้เป็นเช่อเฟยของท่านอ๋องหกแล้ว จะอยากเห็นคุณชายซื่อจื่อในบ้านเหล่าขุนนางที่ไหนกันล่ะ?”
เมื่อพูดถึงอวี่เหวินหวาย สีหน้ากู้ชิวเหลิ่งก็ซีดลง กู้ชิวเซียงและฮูหยินใหญ่ต่างก็สังเกตเห็นพอดี ในใจก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว ต่างก็คิดว่ากู้ชิวเหลิ่งชอบอวี่เหวินเจี๋ยเช่นกัน การขอบคุณในคราวนี้เป็นแค่ข้ออ้าง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือมาสอบถามว่าจะสามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงแห่งแคว้นได้หรือไม่
กู้ชิวเซียงจะปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรกัน? นางชอบอวี่เหวินเจี๋ยมาหลายปี จะไม่ปล่อยให้กู้ชิวเหลิ่งแย่งมันไปได้อย่างแน่นอน
กู้ชิวเซียงกล่าวว่า: “งานเลี้ยงแห่งแคว้นในปีนี้ น้องอาจไม่สามารถเข้าร่วมได้แล้ว เจ้ายังเด็ก ยังไงต้องมีโอกาสแน่”
ท่าทางของกู้ชิวเหลิ่งในขณะนี้ก็เหมือนกระต่ายตัวน้อยที่เสื่อมโทรม ผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง
กู้ชิวเหลิ่งแสดงความเคารพ และพูดว่า:”ลูกได้ขอบคุณบุญคุณของท่านแม่แล้ว ขอขอตัวก่อนค่ะ”
ฮูหยินใหญ่ยิ้มพูดว่า:”มีเวลาก็ค่อยมาเดินเล่นที่ลานของพี่ใหญ่เจ้าสัก”
“ขอบคุณท่านแม่ พี่ใหญ่”
ตอนกู้ชิวเหลิ่งหันหลังกลับ ทันใดนั้นก็มีภาพวาดม้วนหนึ่งหลุดออกจากแขนเสื้อ เปิดเผยอยู่ตรงหน้าของกู้ชิวเซียงและฮูหยินใหญ่
เห็นเพียงหญิงงามที่วาดไว้บนภาพวาดนั้น หน้าตาสวยงาม ท่าทางการเต้นนั้นนุ่มนวลเหมือนไร้กระดูกแต่กลับงดงามประณีตยิ่งนัก เมื่อภาพวาดม้วนนี้ตกลงมา เหมือนดั่งหญิงงามล้นเมืองที่รำอยู่บนภาพวาดอย่างคล่องแคล่ว