ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 183 เชิญชวนเยี่ยมชมสวน
“เรียนจวิ้นจู่ ใกล้จะสี่ปีแล้ว”
กู้ชิวเหลิ่งกล่าวว่า: “ดูจากรูปร่างหน้าตาของเจ้าก็ไม่เด็กแล้ว น่าจะถึงวัยที่ออกจากวังได้แล้วใช่ไหม?”
“เรียนจวิ้นจู่ บ่าวล่วงพ้นวัยที่จะออกจากวังนานแล้ว”
กู้ชิวเหลิ่งกล่าวว่า: “ดูท่ากุ้ยเฟยเหนียงเหนียงจะชอบเจ้ามากจริงๆ ไม่อยากปล่อยเจ้าออกจากวังไปเลย”
อี้ชุ่ยเพียงแค่ยิ้มออกมาเล็กน้อย ไม่กล้าพูดอะไร
ถึงแม้ว่ามู่หรงอี๋จะให้นางออกจากวัง นางก็ไม่กล้าออกจากวังเช่นกัน
มู่หรงอี๋เป็นคนแบบไหน นางติดตามอยู่ข้างกายของมู่หรงอี๋มาสี่ปีรู้ชัดเจนอย่างมาก
นางรู้ความลับของมู่หรงอี๋กับจวินฉีเซิ่งมากมายขนาดนี้ ยังไม่ต้องพูดว่ามู่หรงอี๋ไม่กล้าปล่อยนางออกจากวังไป แม้แต่นางก็ไม่กล้าออกจากวังเช่นกัน เพราะด้วยนิสัยของมู่หรงอี๋ ต้องไม่ปล่อยให้นางมีชีวิตรอดออกไปจากวังหลวงพร้อมกับความลับอย่างแน่นอน
แทนที่จะอกสั่นขวัญแขวนอยู่นอกวัง ระหกระเหินเร่ร่อนไปทั่ว นางไม่สู้อยู่ปรนนิบัติรับใช้เป็นคนสนิทอยู่ข้างกายมู่หรงอี๋ดีกว่า ไม่เพียงแค่กินดีอยู่ดี ยังมีสถานะที่แน่นอนอีกด้วย
เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว กู้ชิวเหลิ่งมองดูตัวเองในกระจก นี่ไม่ใช่ชุดกระโปรงดอกไห่ถัง แต่เป็นเพียงชุดกระโปรงดอกบัวสง่างามเรียบๆที่มีเนื้อผ้าดีมากเท่านั้น
ดูท่าถึงแม้จะผ่านไปสี่ปีแล้ว มู่หรงอี๋ก็ยังคงหลีกเลี่ยงไห่ถังอย่างมาก
ใช่แล้ว ฆ่านางอย่างโหดเหี้ยมขนาดนั้น จะไม่กลัวนางกลายเป็นผีร้ายกลับมาได้อย่างไรกัน?
แม้แต่จวินฉีเซิ่งก็หวาดกลัวอย่างมากใช่ไหม
แต่ว่านางกลับมาแล้ว กลายเป็นผีร้าย กลับมาทวงชีวิตกับพวกเขาแล้ว
“จวิ้นจู่ พอดีตัวหรือไม่?”
กู้ชิวเหลิ่งมองดูตัวเองในกระจก นี่คือชุดที่เหมาะสมมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นขนาดใหญ่เล็ก หรือระดับความสบายในการสวมใส่ ทุกอย่างล้วนดีมาก ถึงแม้จะเป็นด้านการใช้วัสดุมู่หรงอี๋ก็ไม่ได้ตระหนี่เลย
กู้ชิวเหลิ่งพยักหน้าอย่างพึงพอใจ: “เครื่องแต่งกายของแคว้นฉีพวกเจ้ายิบย่อยกว่าของต้าเยียนเราเล็กน้อย แต่ว่าสวมใส่อยู่บนตัวกลับดูสวยงามมาก จำได้ว่าก่อนหน้านี้เคยพบหยินเฟยเหนียงเหนียงที่แคว้นฉี ชุดที่สวมใส่ก็ทำให้รูปร่างดูผอมเพรียว”
เอ่ยถึงหยินซวงซวง ใบหน้าของอี้ชุ่ยแข็งทื่อขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
หยินซวงซวงเข้าวังมาไม่นาน แต่ว่าไม่ถูกชะตากับมู่หรงอี๋เลย คนหนึ่งคือหญิงงามที่ล่มชาติล่มเมือง คนหนึ่งคือหญิงมีความสามารถที่มีเสน่ห์และความสง่างามมากมาย
ตั้งแต่หยินซวงซวงเข้าวังมา ทั้งสองคนสามารถพูดได้ว่าสู้กันเสมือนไฟที่โหมไหม้
อี้ชุ่ยทำได้เพียงกัดฟันเปลี่ยนหัวข้อสนทนา: “จวิ้นจู่หน้าตาก็งดงามราวกับเทพธิดาเช่นกัน เสื้อผ้าชุดนี้สวมใส่อยู่บนตัวจวิ้นจู่แล้ว ไม่มีอะไรจะเหมาะสมกว่านี้แล้ว”
กู้ชิวเหลิ่งหันกลับมา กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “จริงหรือ? ดูท่าเจ้าไม่เพียงแต่มีไหวพริบเฉียบแหลมชำนาญงานเท่านั้น แม้แต่ปากก็ยังหวานมากเช่นกัน”
“จวิ้นจู่ชมเกินไปแล้ว บ่าวรู้สึกหวาดหวั่นจริงๆ”
อี้ชุ่ยมองดูแผ่นหลังที่เดินผ่านนางไปของกู้ชิวเหลิ่ง รู้สึกงุงงงเล็กน้อย
กู้ชิวเหลิ่งกล่าวว่า: “เสื้อผ้าสองชุดที่กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงสั่งให้เจ้านำมามอบให้ข้าชอบมาก วางของเอาไว้ พวกเจ้าไปได้แล้ว”
อี้ชุ่ยถึงได้ตอบสนองกลับมา กล่าวว่า: “กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงบอกว่าจะพาจวิ้นจู่ไปเดินเล่นในสวน ถ้าอย่างไรจวิ้นจู่ก็สวมชุดนี้ไปเลยเถอะ ดอกบัวนี้เหมาะกับจวิ้นจู่มากเลย”
“งั้นหรือ?”
“เจ้าค่ะ”
กู้ชิวเหลิ่งกล่าวว่า: “ในเมื่อกุ้ยเฟยเหนียงเหนียงเชิญชวน เช่นนั้นข้าก็จะทำตามที่ท่านต้องการ”
อี้ชุ่ยกล่าวว่า: “จวิ้นจู่เชิญ”
กู้ชิวเหลิ่งเดินอยู่ข้างหน้า ก็เห็นนางกำนัลสองสามคนยืนกันอยู่สองแถวด้วยความเคารพนบนอบจริงๆ และเดินตามอยู่ด้านหลังของกู้ชิวเหลิ่ง
อี้ชุ่ยอยู่ด้านข้างของกู้ชิวเหลิ่ง กล่าวว่า: “กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงรอจวิ้นจู่อยู่ที่ศาลารับแขกในสวนดอกไม้ข้างหน้า”
กู้ชิวเหลิ่งพยักหน้า เห็นเงาร่างที่งดงามนั่งอยู่ศาลารับแขกในสวนดอกไม้ที่อยู่ไม่ไกลออกไปจริงๆ
มู่หรงอี๋กำลังต้มชาเอาไว้กาหนึ่ง รอให้กู้ชิวเหลิ่งมาแล้ว ถึงได้รินให้กับกู้ชิวเหลิ่งถ้วยหนึ่ง
“จวิ้นจู เชิญนั่ง”
ด้านหลังมีคนคนหนึ่งยกเก้าอี้มาด้านหลังของกู้ชิวเหลิ่ง ส่งสัญญาณให้กู้ชิวเหลิ่งนั่งลง
กู้ชิวเหลิ่งจิบชาที่มู่หรงอี๋ต้มหนึ่งคำ สายตาหรี่ลงเล็กน้อย
ในอดีตมู่หรงอี๋ก็ชอบพิธีชงชาพวกนี้อย่างมากอยู่แล้ว ชาที่ต้มออกมาทุกครั้งแม้แต่จวินฉีเซิ่งก็ยังชมไม่ขาดปาก และนางดื่มแล้วก็รู้สึกว่ารสชาติดีและขมเข้ากันได้ดีจริงๆ
น่าเสียดาย ที่นั่นเป็นเรื่องที่เนิ่นนานมาแล้ว
“จวิ้นจู่มาที่แคว้นฉีในครั้งนี้ ข้าจัดงานเลี้ยงในวังขึ้นมา ต้อนรับการมาของจวิ้นจู่โดยเฉพาะ ถึงเวลานั้นบรรดาสนมในวังหลังล้วนอยู่ที่นั่น เราสามารถแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของสองแคว้นกัน ไม่ทราบว่าจวิ้นจู่คิดเห็นเช่นไร?”
กู้ชิวเหลิ่งกล่าวขึ้นมาอย่างเฉยเมย: “ดีแน่นอนอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าข้ารู้สึกสงสัยอยู่เรื่องหนึ่ง พูดออกมามันก็ดูจะละเมิดล่วงเกิน ไม่ทราบว่ากุ้ยเฟยจะถือสาหรือไม่?”
มู่หรงอี๋กล่าวขึ้นมาอย่างฉะฉานใจกว้าง: “มีเรื่องอะไรที่จำเป็นต้องถือสาด้วยหรือ? ในเมื่อจวิ้นจู่มีคำถาม ข้าก็ต้องตอบอย่างแน่นอนอยู่แล้ว”
กู้ชิวเหลิ่งเลิกคิ้ว กล่าวว่า: “ชื่อของกุ้ยเฟยเหนียงเหนียงข้าก็เคยได้ยินตอนอยู่ที่ต้าเยียน ล้วนกล่าวกันว่ากุ้ยเฟยเหนียงเหนียงเป็นสาวงามอันดับหนึ่งในแคว้นฉี เมื่อวานได้เห็นก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพียงแต่ว่ากุ้ยเฟยแห่งแคว้นก็ฉลาดมีความรู้ทั้งยังหน้าตาดีเช่นนี้แล้ว ไม่ทราบว่าเหตุใดถึงไม่สามารถเห็นฮองเฮาแห่งแคว้นสักครั้ง?”
สีหน้าท่าทางของมู่หรงอี๋เปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมาในชั่วพริบตา แต่ว่าวินาทีต่อมาก็กลับมาเป็นปกติ ในวังหลังของแคว้นฉีแห่งนี้ ยังไม่มีใครกล้าเอ่ยถึงฮองเฮาที่ป่วยกระเสาะกระแสะคนนั้นต่อหน้ามู่หรงอี๋มาก่อน แต่เมื่อนึกได้ว่ากู้ชิวเหลิ่งเป็นจวิ้นจู่ต่างแคว้น นางยังไม่กล้ามีความคิดอะไรมากนัก
ดังนั้นมู่หรงอี๋จึงกล่าวว่า: “สุขภาพของฮองเฮาไม่ค่อยดีมาหลายปี ดังนั้นเรื่องที่ต้องจัดการในวังหลังแห่งนี้ข้าล้วนเป็นคนดูแลจัดการทั้งนั้น ถ้าหากจวิ้นจู่อยากพบฮองเฮาสักครั้ง อาจจะลำบากเล็กน้อยแล้ว โดยทั่วไปแล้วฮองเฮาจะไม่พบแขกจากภายนอก”
กู้ชิวเหลิ่งแสร้งทำท่าทางไม่รู้ กล่าวว่า: “ข้าไม่ทราบว่าฮองเฮาแห่งแคว้นป่วย ต้องขออภัยด้วยจริงๆ”
“จวิ้นจู่มองสังเกตดู ที่นี่คือศาลารับแขกในสวนดอกไม้ที่มีทัศนียภาพงดงามที่สุดในวังหลวง บริเวณโดยรอบล้วนล้อมรอบไปด้วยดอกไม้ตลอดทั้งปี บานสะพรั่งทั้งสี่ฤดู น่าสนใจอย่างมาก”
กู้ชิวเหลิ่งก้มหน้าก็สามารถมองเห็นสระที่เต็มไปด้วยดอกบัวจริงๆ มองเห็นดอกบัวบานรางๆ และต้นหลิวกำลังเขียวชอุ่ม โบตั๋น ดอกเสาเย่า กุหลาบจีน ไป๋เหอมีครบทุกอย่าง แต่ขาดดอกไม้ไปเพียงชนิดเดียวเท่านั้น
คือไห่ถัง
กู้ชิวเหลิ่งแสร้งทำเป็นไม่ได้สังเกต ในใจกลับเข้าใจการหยั่งเชิงของมู่หรงอี๋แล้ว
ก็แค่สงสัยว่านางมีความเกี่ยวข้องกับมู่หรงชิวหรือไม่เท่านั้น
“ที่นี่มีกลิ่นหอมหวนปะทะจมูกจริงๆ ข้าได้กลิ่นก็รู้สึกถึงความหอมหวนไปทุกที่ ดูจากท่าทางของกุ้ยเฟย น่าจะชอบโบตั๋นมากใช่หรือไม่?”
ถ้วยชาที่อยู่ในมือของมู่หรงอี๋ชะงักงันไปครู่หนึ่ง กล่าวถามด้วยรอยยิ้ม: “จวิ้นจู่รู้ได้อย่างไร?”
นางย่อมรู้อยู่แล้ว มู่หรงอี๋แสวงหาตำแหน่งภรรยาเอกมาตลอดชีวิต ฮองเฮาที่มีตำแหน่งและอำนาจสูงสุดคือสิ่งที่นางใฝ่ฝัน นางมีใบหน้าที่งดงามที่สุดในโลกใบนี้ แล้วจะเต็มใจที่จะถูกคนที่ป่วยกระเสาะกระแสะคนหนึ่งมาชิงตำแหน่งฮองเฮาในฝันไปได้อย่างไร?
กู้ชิวเหลิ่งก็แค่ยิ้มออกมาเล็กน้อย กล่าวว่า: “เห็นกุ้ยเฟยสวมชุดกระโปรงโบตั๋นทั้งชุด แม้แต่ผ้าเช็ดหน้าขกับน้ำดอกไม้ที่อยู่บนเล็บล้วนเป็นโบตั๋น ก็ย่อมเข้าใจแล้ว”
กู้ชิวเหลิ่งยกถ้วยน้ำชาขึ้นมา กล่าวว่า: “มาเยือนเป็นครั้งแรก ข้าใช้น้ำชาแทนสุรา ดื่มคารวะกุ้ยเฟยเหนียงเหนียงจอกหนึ่ง อวยพรกุ้ยเฟยเหนียงเหนียงคงความอ่อนเยาว์ตลอดไป”
มู่หรงอี๋ยกถ้วยชาขึ้นมา สายตาของกู้ชิวเหลิ่งหรี่ลงเล็กน้อย ในขณะที่ถ้วยชาสองถ้วยชนกัน จู่ๆกู้ชิงเหลิงก็ร้องขึ้นมา น้ำชาที่ร้อนสาดไปบนกระโปรงของมู่หรงอี๋
“อ๊า——!”
“ไอ๊หยา! ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงกระโปรงนี้……”