ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 30 แลกเปลี่ยนของแทนใจ
ลำนำยอดหญิงจอมพิษ บทที่ 30 แลกเปลี่ยนของแทนใจ
ในเวลาที่เซียวอวิ๋นเซิงมีแต่ความสงสัย กู้ชิวเหลิ่งเงยหน้าขึ้นมากล่าวว่า:”สิ่งที่เจ้าอยากรู้คือความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับฉู่สวิน ตอนนี้ข้าได้บอกเจ้าไปแล้ว ต้นสายปลายเหตุที่แฝงอยู่ในนั้นเซียวโหวเย๋น้อยค้นหามันด้วยตัวเองเถิด”
กู้ชิวเหลิ่งทิ้งคำพูดเหล่านี้ไว้แล้วเดินลงบันไดไป ทิ้งเซียวอวิ๋นเซิงให้ครุ่นคิดอยู่คนเดียว
ที่จริงกู้ชิวเหลิ่งเองก็ไม่รู้ว่าร่างกายนี้มีความสัมพันธ์อย่างไรกันกับฉู่สวิน ตามจิตใต้สำนึกที่ซ่อนอยู่กู้ชิวเหลิ่งสามารถสัมผัสได้ว่า กู้ชิวเหลิ่งคนก่อนเอาคนที่ชื่อฉู่สวินคนนี้เป็นความสบายใจ ฉู่สวินก็เหมือนเป็นเทพเจ้าที่สามารถช่วยชีวิตนาง ทั้งสองคนมีการหมั้นหมาย แต่สรุปแล้วใครเป็นคนกำหนด แม้แต่กู้ชิวเหลิ่งเองก็ไม่รู้ รู้เพียงแค่ว่าในแคว้นเป่ยที่ห่างไกลออกไปมีคนเช่นนี้อยู่ ที่ชื่อว่าฉู่สวิน และต้องมีสักวัน ฉู่สวินจะมารับนางไปแต่งงาน
เซียวอวิ๋นเซิงมองดูแผ่นหลังที่จากไปของกู้ชิวเหลิ่ง ซึ่งสวยงามกว่าแผ่นหลังของหญิงสาวทุกคนที่เขาเคยพบ น่าเสียดายที่กู้ชิวเหลิ่งเป็นผู้หญิงของฉู่สวิน เขาแย่งไม่ไหว และก็ไม่มีทางไปแย่ง
เซียวอวิ๋นเซิงกล่าวกับผู้จัดการร้านว่า:”หากคุณหนูรองเจอของดีอะไรที่อยู่ตรงชั้นหนึ่ง เจ้าก็ให้นางไป เงินที่อยู่ในบัญชีคิดเป็นของข้า”
ผู้จัดการร้านกล่าว:”ข้าน้อยรับทราบ”
กู้ชิวเหลิ่งไม่อยากอยู่บนชั้นสองอีกต่อไปแล้ว ไม่ใช่เพราะเกลียดเซียวอวิ๋นเซิง แต่เพราะนางกลัวเซียวอวิ๋นเซิงจะเอ่ยคำถามปลิ้นปล้อนออกมาอีก นางไม่ได้มีความทรงจำทั้งหมดของกู้ชิวเหลิ่ง เซียวอวิ๋นเซิงเป็นคนฉลาด หากนางเผลอแสดงข้อบกพร่องอะไรออกไป จะต้องเกิดความสงสัยขึ้นอย่างแน่นอน
ผู้จัดการร้านเดินลงมาจากชั้นสองแล้ว กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า:”คุณหนูรองชอบสิ่งใด? ข้าน้อยช่วยแพ๊คของให้ท่าน”
กู้ชิวเหลิ่งมองไปรอบๆ กล่าวว่า:”ไม่เป็นไร เมื่อชุดทำเสร็จแล้วให้นำมันไปให้ข้าทันที ข้าไม่มีเวลามามากพอจะใช้มันอยู่ที่นี่”
ผู้จัดการร้านพยักหน้า จูเอ๋อร์อดไม่ได้ถามขึ้นว่า:”คุณหนูคุยอะไรกับเซียวโหวเย๋น้อยอยู่บนชั้นสองหรือเจ้าคะ?”
“คุยเรื่องน่าสนใจหลายเรื่องเลยล่ะ”
กู้ชิวเหลิ่งไม่แสดงสีหน้าท่าทางอะไรแม้จะอยู่ต่อหน้าไข่มุกและหยกอันตระการตา เซียวอวิ๋นเซิงเดินลงมาจากชั้นสอง หุบใบพัด กล่าวว่า:”ทำไมหรือ? ซื้อชุดแล้ว แต่หาเครื่องประดับที่ถูกใจไม่เจอ?”
กู้ชิวเหลิ่งกล่าว:”เซียวโหวเย๋น้อยไม่ดื่มเหล้ากินข้าวอยู่บนชั้นสอง เหตุใดจึงได้ลงมาอีก?”
ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความไม่ยินยอม เซียวอวิ๋นเซิงกล่าว:”ข้าคิดแทนเจ้า”
พูดจบ เซียวอวิ๋นเซิงก็กล่าวกับผู้จัดการร้านว่า:”ไป จัดพื้นที่ให้ข้าหน่อย!”
“ขอรับ”
สายตาของกู้ชิวเหลิ่งหรี่ลงเล็กน้อย กล่าวว่า:”เซียวโหวเย๋น้อยช่างใจกว้างจริงๆ”
“เพื่อสาวงามแล้ว ไม่ว่าจะมากขนาดไหนข้าก็ยินยอมที่จะจ่าย!”
สีหน้าของเซียวอวิ๋นเซิงมีแต่รอยยิ้ม เดิมทีเขาก็มีหน้าตาดีอยู่แล้ว ในดวงตาเรียวยาวคู่นั้นพกความอิสระใช้ชีวิตตามใจเอาไว้ ทรงผมที่หลวมเล็กน้อยผสมเข้ากับความเกียจคร้าน หากจะใช้ใบหน้าใบนี้ไปยั่วยวนหญิงสาวส่วนใหญ่ในโลกนี้ คาดว่าคงจะมีน้อยคนนักที่จะสามารถควบคุมมันได้
แต่เมื่อกู้ชิวเหลิ่งได้เห็นเซียวอวิ๋นเซิง นางกลับไม่มีความรู้สึกเลยแม้แต่นิดเดียว ผู้ชายต่างก็ชอบพูดจาภาษาดอกไม้ หากไม่ใช่เพราะใบหน้าของนาง และนิสัยที่เปลี่ยนไปกะทันหัน เซียวอวิ๋นเซิงก็ไม่มีทางมาเสียเวลาอยู่บนตัวของตัวเอง
เซียวอวิ๋นเซิงปรบมือ ผู้จัดการร้านก็ได้นำของที่อยู่ในกล่องสมบัติออกมา ของที่อยู่ข้างในนั้นคือปิ่นระย้าอันงดงามสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ คล้ายกับลักษณะของเซียวอวิ๋นเซิงมาก มองดูเหมือนเมฆที่ไหลเอื่อยเฉื่อย เกียจคร้านอิสระ ไร้การควบคุม ลูกปัดด้านบนห้อยยาวลงมา ผสมไข่มุกขาวสองสามเม็ด ส่วนตัวด้ามปิ่นทำด้วยทองคำ ดอกไห่ถังที่อยู่บนนั้นดอกหนึ่งกำลังแตกหน่อ อีกดอกหนึ่งเบิกบานอย่างเต็มที่ เป็นของที่เห็นได้ยากจริงๆ
เซียวอวิ๋นเซิงกล่าว:”ทีนี้คุณหนูรองติดหนี้ข้าสองแสนตำลึงทองแล้ว เจ้าจะคืนอย่างไร?”
กู้ชิวเหลิ่งมองดูดอกไห่ถังบนปิ่นทองระย้านั้น สีหน้าเย็นลงเล็กน้อย กล่าวว่า:”ดูเหมือนว่าเซียวโหวเย๋น้อยจะมีความสนใจฮองเฮาผู้ล่วงลับของแคว้นฉีผู้นั้นมาก ตั้งแต่ชุดแพรไห่ถัง จนถึงปิ่นทองระย้าแฝดมุกไห่ถัง ต่างก็เสียแรงไปมาก แต่ข้าได้ยินมาว่ามู่หรงฮองเฮาผู้นี้ ยังไม่ทันได้รับการแต่งตั้งก็สิ้นพระชนม์ลงแล้ว บุคคลเช่นนี้ แม้ว่าจะเคยเฉลียวฉลาด ก็คงไม่มีผู้ใดจำได้สินะ?”
เซียวอวิ๋นเซิงมองดูสายตาของกู้ชิวเหลิ่งที่ค่อยๆไม่เหมือนเดิม กล่าวว่า:”เป็นความจริงที่น้อยคนนักจะจำมู่หรงฮองเฮาได้ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเครื่องประดับบนตัวนาง เพียงแต่คนอย่างข้า ไม่มองคน มองเพียงสิ่งของ หากสิ่งของเป็นสิ่งที่ข้าถูกใจแน่นอนว่าข้าจะเอามัน ที่จริงการรู้จักชุดแพรไห่ถังไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่แปลกคือแม้แต่ข้าก็ยังไม่รู้ว่าปิ่นระย้านี้มีชื่อว่าแฝดมุกไห่ถัง คุณหนูรองกู้อาศัยอยู่แต่ในเรือนเป็นเวลานาน แต่กลับรู้เรื่องเหล่านี้?”
กู้ชิวเหลิ่งวางปิ่นระย้าในมือลง กล่าวว่า:”เซียวโหวเย๋น้อยประสบการณ์น้อย ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะน้อยเหมือนกันด้วย บางเวลา บางคนก็ไม่เหมือนกับภายนอกที่ดูอ่อนปวกเปียก ก็เหมือนกับที่เจ้าไม่รู้ว่าเหตุใดข้าถึงได้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับฉู่สวิน”
เซียวอวิ๋นเซิงต้องยอมรับว่ากู้ชิวเหลิ่งเปลี่ยนไปจนไม่เหมือนเดิม ผู้ใดจะเชื่อว่าสาวใบ้จะกลายเป็นหญิงสาวที่พูดคล่องโน้มน้าวเก่งเช่นนี้ได้? แล้วจะมีผู้ใดเชื่ออีกว่าบุตรีอนุของจวนโหวแห่งต้าเยียน จะเป็นคู่หมั้นกับฉู่อ๋องฉู่สวิน ตัวประกันของแคว้นเป่ย? คำพูดเหล่านี้หากมีคนได้ยินก็คงจะไม่มีผู้ใดเชื่อ แต่เมื่อคำพูดนี้ออกมาจากปากของกู้ชิวเหลิ่ง เซียวอวิ๋นเซิงกลับไม่เชื่อไม่ได้
และในตอนนี้เอง คนรับใช้ก็ถือเสื้อผ้าออกมาสองชุด กู้ชิวเหลิ่งเพียงแค่สัมผัสเสื้อก็รู้แล้วว่าชุดนี้มาจากฝีมือของผู้ใด อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มออกมาบางๆ:”เซียวโหวเย๋น้อยไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปจริงๆ ไม่เพียงแต่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับหมอเทวดาไป๋อู๋เฉิน ยังรู้จักกับหลูโป๋หย่วนช่างตัดเสื้ออันดับหนึ่งในใต้หล้าอีกด้วย”
เซียวอวิ๋นเซิงแอบชื่นชมสายตาของกู้ชิวเหลิ่ง และในตอนนี้เอง กู้ชิวเหลิ่งก็ได้นำชุดส่งให้กับจูเอ๋อร์ที่อยู่ข้างหลัง แล้วกล่าวว่า:”ของข้ารับไว้แล้ว เซียวโหวเย๋น้อย ไว้เจอกันในงานเลี้ยงแห่งแคว้น”
เซียวอวิ๋นเซิงกล่าว:”ปิ่นระย้านี้ก็คิดเสียว่าเป็นของขวัญตอบแทนจากข้าที่มอบให้คุณหนูรอง คุณหนูรองรับมันไว้พร้อมกันเถิด”
กล่าวจบ เซียวอวิ๋นเซิงก็หยิบกำไลหยกขาวมันแพะออกมาจากแขนเสื้อ ความหมายก็คือแลกเปลี่ยนของแทนใจกัน
กู้ชิวเหลิ่งสั่งจูเอ๋อร์ว่า:”รับไว้เถิด”
จูเอ๋อร์รีบเก็บปิ่นระย้าที่ถูกห่อเสร็จแล้วเอาไว้ กลัวว่าจะทำมันเสียหายโดยไม่ทันระวัง
กู้ชิวเหลิ่งพาจูเอ๋อร์ออกจากหอจูชุ่ยโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
เซียวอวิ๋นเซิงถอนหายใจ หญิงสาวที่น่าสนใจเช่นนี้ เขากลับไม่ได้พบให้เร็วกว่านี้
มองดูผื่นแดงที่ยังไม่หายดี ทันใดนั้นเซียวอวิ๋นเซิงก็แสดงรอยยิ้มออกมา หากหญิงสาวผู้นี้ยืนเคียงข้างกับเซ่อเจิ้งหวางอวี้ฉือจ้านผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในต้าเยียน เกรงว่าคงจะเป็นภาพที่งดงามมาก
หากพูดถึงเรื่องความโหดร้าย สองคนนี้โหดร้ายจนไปด้วยกันได้จริงๆ
ผู้จัดการร้านยืนอยู่ข้างๆ เซียวอวิ๋นเซิงกล่าวว่า:”ไปส่งจดหมายให้คนผู้นั้นที่อยู่แคว้นเป่ย บอกว่ากู้ชิวเหลิ่งอยู่ที่ต้าเยียนสบายดี! ไม่มีใครสามารถรังแกนางได้……เตือนเขาอีกรอบ หากยังไม่กลับมาจากแคว้นเป่ยอีก เกรงว่าเจ้าสาวของเขากำลังจะหนีไปกับผู้อื่นแล้ว!”
แน่นอนว่าประโยคสุดท้ายนั้นเซียวอวิ๋นเซิงจงใจพูด สำหรับหญิงสาวที่มีนิสัยเช่นนี้อย่างกู้ชิวเหลิ่ง ทั้งต้าเยียนก็คงจะไม่สามารถหาชายที่ปราบนางได้ นอกเสียจากจะเป็นเทพสงครามอวี้ฉือจ้านแห่งต้าเยียน