ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 37 ท่านพี่กลับมา
ลำนำยอดหญิงจอมพิษ บทที่ 37 ท่านพี่กลับมา
กู้ชิวเหลิ่งมองดูกล่องที่อยู่ในมือจูเอ๋อร์ ภายนอกดูประณีตสวยงาม ทำจากเครื่องปั้นดินเผา เมื่อเปิดกล่องออก ข้างในเป็นชาดสีแดงสดตลับหนึ่ง
กู้ชิวเหลิ่งแต่ไหนแต่ไรไม่เคยสนใจของพวกนี้ แต่จูเอ๋อร์คอยพูดกรอกหูอยู่ข้างๆไม่หยุด “บ่าวไม่เคยเห็นชาดที่สีสวยสดเช่นนี้มาก่อน ช่างสวยงามจริงๆ คุณหนูจะทาสักหน่อยไหมเจ้าคะ”
กู้ชิวเหลิ่งหัวเราะเบาๆ มองดูเงาตัวเองในกระจกทองแดงซ้ายทีขวาที พูดว่า “ของสิ่งนี้เจ้าช่วยข้าเก็บไว้ก่อน หาโอกาสวางไว้ในห้องของกู้ชิวเซียง”
“ห๊า ชาดที่คุณภาพดีเช่นนี้ ทำไมต้องส่งไปให้คุณหนูใหญ่ด้วย”
กู้ชิวเหลิ่งบอกว่า “จะส่งไปแต่ก็ไม่ใช่ตอนนี้ เจ้าเอาสิ่งนี้ยัดไว้ข้างในสุดของตู้ อย่าให้คนอื่นเห็น หลังจากงานเลี้ยงผ่านไปแล้ว เจ้าจะรู้เอง”
จูเอ๋อร์ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ส่วนกู้ชิวเหลิ่งกลับยิ้มขึ้นมา แม้ว่าเซียวอวิ๋นเซิงจะไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นอะไร แต่ไม่ใช่คนใจกว้าง นางใช้ผงคันคะเยอทำให้เขาเสียยาแก้พิษไปหนึ่งเม็ด เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ตอบโต้กลับมา
เมื่อครู่ตอนที่กู้ชิวเหลิ่งเปิดตลับชาดออก ก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆโชยออกมา ไม่ใช่กลิ่นของชาดและน้ำค้างดอกไม้ หากทาสิ่งนี้ไปบนใบหน้า แม้จะไม่ทำลายโฉม ก็น่าจะมีผื่นแดงขึ้นสักสองวัน
หลังจากที่กู้ชิวเหลิ่งแน่ใจแล้วว่าการแต่งหน้าแต่งกายของตนเองไม่มีปัญหาอะไร จึงพูดขึ้นว่า “เอาสิ่งนั้นมาให้ข้า”
จูเอ๋อร์รู้สึกไม่เหมาะสม พูดว่า “คุณหนู พวกเราเป็นสาวเป็นแส้ จะเอามีดสั้นไปทำไม”
“เป็นหญิงสาวยิ่งต้องป้องกันตัว ไม่แน่ว่าวันนี้จะมีเรื่องหายนะร้ายแรงอะไรเกิดขึ้น พวกเราต้องป้องกันอย่างรอบคอบ อย่าให้ภัยร้ายเหล่านั้นมารังแกพวกเราได้ง่ายๆ ”
ที่กู้ชิวเหลิ่งทำเช่นนี้ ล้วนเป็นการป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้น กู้ชิวถางอยู่ในสนามรบมานานหลายปี ต้องมีวรยุทธที่เยี่ยมมาก และนางที่ยังไม่รู้นิสัยใจคอของกู้ชิวถาง จะให้คนที่อันตรายเช่นนี้เข้าใกล้นางไม่ได้อย่างเด็ดขาด
มีดสั้นถูกวางไว้ที่มือของกู้ชิวเหลิ่ง แม้จะอยู่ใต้แสงแดด ก็สามารถเปล่งประกายเยือกเย็นออกมาได้
นอกประตูจวนกู้โหว ได้มีการจุดประทัดขึ้นมาแล้ว คึกคักยิ่งกว่าวันเทศกาลไหนๆเสียอีก ผู้ดูแลทั้งหลายตั้งก็ยืนอยู่ที่หน้าประตูจวน รอให้กู้ชิวถางลงจากม้า แม้แต่ฮูหยินใหญ่และกู้ชิวเซียงยังเดินไปต้อนรับที่นอกประตู มีเพียงกู้หนานเฉิงคนเดียวเท่านั้นที่รออยู่ในโถงใหญ่ ด้วยท่าทีของบิดาที่เข้มงวดยิ่งนัก
กู้ชิวถางมีลักษณะบุคลิกเหมือนกู้หนานเฉิง แต่เค้าโครงใบหน้านั้นเหมือนฮูหยินใหญ่มาก หน้าตาก็หล่อเหลามาก ใบหน้าและแววตามีกลิ่นอายแห่งความแข็งแกร่งแฝงอยู่ เวลาเดินอกผายไหล่ผึ่งหลังตรง ดูสง่างามมาก
“ท่านแม่ น้องสาว”
น้ำเสียงของกู้ชิวถางสดใส แม้ว่าคำเรียกขานสองคำนี้จะดูไม่สนิทชิดเชื้อมากนัก แต่เมื่อฮูหยินใหญ่ได้ยินกลับรู้สึกพอใจยิ่งนัก
กู้ชิวเซียงเองก็ไม่ได้เจอกู้ชิวถางมานานมากแล้ว บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ท่านพี่”
กู้ชิวถางพยักหน้าเล็กน้อย ทุกครั้งที่เห็นน้องสาวคนนี้ เขามักจะรู้สึกถึงความเข้ากันได้กับทุกคนของกู้ชิวเซียง แต่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นพี่น้องแม่เดียวกันกับกู้ชิวเซียง แต่ไม่สามารถพบหน้ากันอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นเหตุให้รู้สึกห่างเหินกันอยู่บ้าง
กู้ชิวถางยื่นมือออกไปคิดจะลูบศีรษะของกู้ชิวถาง แต่เห็นเครื่องประดับอัญมณีมากมายบนหัวของนาง จึงได้วางมือลง มุมปากอมยิ้ม “น้องโตขึ้นกว่าปีก่อนมากเลย”
กู้ชิวเซียงใบหน้าแดงขึ้น เห็นได้ชัดว่ารู้สึกอายเพราะไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับพี่ชายแท้ๆของตนเองเป็นเวลานาน
เพียงแต่กิริยานี้ กลับทำให้กู้ชิวถางขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็เป็นแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น เขาอยู่ในสนามรบจนชินจึงรู้สึกไม่คุ้นเคยกับการกระทำที่เสแสร้งของคนในจวนโหวอยู่บ้าง
ฮูหยินใหญ่บอกว่า “เจ้าเร่งเดินทางมาตั้งหลายวัน คงลำบากมากกระมัง พ่อเจ้ากำลังรออยู่ที่โถงใหญ่ พวกเราเข้าไปกันเถอะ ไว้ค่อยไปคุยกันด้านใน”
กู้ชิวถางเอ่ยอย่างนอบน้อมว่า “ลูกทราบแล้ว”
เพิ่งจะเดินเข้าประตู สายตาของกู้ชิวถางก็มองเห็นร่างที่สวมชุดสีเขียวอ่อนกำลังเดินอยู่ข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว เขาไม่เคยเห็นหญิงสาวคนนี้มาก่อน ขณะที่เพิ่งจะก้าวเข้าไปในโถงใหญ่ กู้ชิวเหลิ่งก็ยืนอยู่ข้างกายของกู้หนานเฉิงแล้ว
กู้ชิวเยว่ก็นิ่งรออยู่บนเก้าอี้มาสักพักแล้ว รวมไปถึงอี๋เหนียงรองที่ไม่ค่อยออกหน้าเท่าไหร่นัก
กู้ชิวเหลิ่งกำลังวิเคราะห์กู้ชิวเหลิ่งอย่างละเอียด พบว่าใบหน้าของกู้ชิวถางนั้นดูแจ่มใส แทบจะเหมือนกับทหารเหล่านั้นที่อยู่ในสนามรบทุกประการ และความประทับใจครั้งแรกที่เจอเขาก็ไม่เลวเลยทีเดียว
ส่วนอี๋เหนียงรอง นี่เป็นครั้งแรกที่กู้ชิวเหลิ่งเห็นนาง หน้าตามีความเย้ายวนกว่าฮูหยินใหญ่อยู่บ้าง แต่ก็ดูใจดำไม่น้อย อายุก็สามสิบกว่าปีแล้ว แม้จะดูแลตัวเองดีแค่ไหน ก็ไม่สามารถปกปิดริ้วรอยตรงหางตาได้
ยังไม่ทันที่กู้หนานเฉิงจะได้เอ่ยอะไร กู้ชิวเยว่เขยิบเข้าไปด้านหน้าด้วยความตาโต คว้ามือของกู้ชิวถางขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเอ่ยขึ้นว่า “ท่านพี่ ท่านยังจำข้าได้หรือไม่ ข้าคือเยว่เอ๋อร์ ตอนเด็กยังเคยเห็นท่านรำดาบด้วยนะ”
ที่จริงถ้าจะพูดถึงเรื่องในวัยเด็ก แม้แต่กู้ชิวเยว่ก็จำไม่ได้แล้ว นางก็แค่พูดออกไปเช่นนั้นเอง อยากจะเอาใจกู้ชิวถางเท่านั้น และกู้ชิวถางก็จำไม่ได้เลยว่าตนเองเคยรำดาบตอนไหน
แต่ใบหน้าของกู้ชิวถางไม่มีความประหม่าเลย แต่ยิ้มอย่างสดใส และพูดว่า “ท่านพี่ย่อมจำได้อยู่แล้ว”
กู้ชิวเยว่ดีใจราวกับเด็กน้อยได้ลูกกวาด เอาแต่ยิ้มปากไม่หุบ
ใบหน้าของกู้หนานเฉิงไม่มีรอยยิ้มใดๆ แต่พูดขึ้นว่า “ไร้มารยาท ยังไม่รีบออกไปอีก”
กู้ชิวเยว่เอ่ยอย่างน้อยใจว่า “ท่านพ่อ ลูกได้เตรียมของขวัญไว้ให้ท่านพี่ ทำไมไม่ให้ท่านพี่ดูก่อนเล่า จะให้ลูกเสียน้ำใจเปล่าๆหรือ”
กู้ชิวเยว่พูดจบแล้ว กู้ชิวเซียงก็พูดขึ้นว่า “ใช่แล้ว ท่านพ่อ ลูกก็เตรียมของขวัญไว้ให้ท่านพี่เช่นกัน”
เหมือนเรื่องบาดหมางระหว่างพ่อและลูกสาวได้ถูกขจัดออกไปแล้ว สีหน้าของกู้ชิวเซียงไม่มีสักนิดที่ไม่เป็นธรรมชาติ และส่งสายตาให้กับสาวใช้ที่อยู่ทางด้านหลัง พูดว่า “ไปเอาของขวัญที่จะมอบให้ท่านพี่มา ”
สิ่งที่กู้ชิวเซียงมอบให้คืออุปกรณ์ในการขี่ม้าหนึ่งชุด ฝีมือประณีตงดงามมาก กู้ชิวถางมองดูแวบเดียว น้ำเสียงไม่ได้แสดงให้เห็นว่าดีใจมากสักเท่าไหร่ แต่พูดด้วยเสียงเรียบเฉยว่า “อุปกรณ์ในการขี่ม้าชุดนี้ไม่เลว อัญมณีที่ประดับอยู่นั้นล้วนเป็นบรรณาการจากซีจิ้ง น้องมีสายตาที่เฉียบแหลมจริงๆ”
ซีจิ้งคือประเทศเล็กๆที่กู้ชิวถางเคยรบชนะมาแล้ว สิ่งของที่นั่นเขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี สำหรับอุปกรณ์ขี่ม้าชุดนี้ เขาไม่ได้รู้สึกชื่นชอบมากนัก
กู้ชิวเซียงดูออกอย่างชัดเจนว่ากู้ชิวถางไม่ชอบอุปกรณ์ขี่ม้าชุดนี้ รู้สึกเสียหน้าอยู่บ้าง แต่นางกลับไม่รู้ว่าทำไมกู้ชิวถางจึงไม่ชอบ
กู้ชิวเหลิ่งมองอุปกรณ์ขี่ม้าชุดนั้นแวบหนึ่งเท่านั้น ก็รู้แล้วว่าเพราะอะไร กู้ชิวถางเป็นชายชาติทหารอย่างแท้จริง ในสนามรบ ไม่มีใครมองว่าอุปกรณ์ขี่ม้าของเจ้าสวยงามแค่ไหน ตรงกันข้ามอุปกรณ์ขี่ม้าที่ประดับประดาด้วยอัญมณีเต็มไปหมดจะเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหว ถ้าหากกู้ชิวเซียงมอบของชิ้นนี้ให้กับเหล่าคุณชายเสเพลในเมืองหลวง น่าจะถูกนับว่าเป็นสิ่งล้ำค่า แต่สำหรับกู้ชิวถาง เกรงว่าชาตินี้คงไม่ต้องใช้อุปกรณ์ขี่ม้าที่ดูหรูหราและฟุ่มเฟือยเช่นนี้
กู้ชิวเยว่ก็มองออกถึงท่าทีเก้อเขินของกู้ชิวเซียง ด้วยเหตุนี้จึงรีบพูดขึ้นว่า “ท่านพี่ดูของขวัญของข้า สวยใช่หรือไม่”
ในมือของกู้ชิวเยว่มีถึงนำโชคอยู่อันหนึ่ง และมีกลิ่นหอมจางๆ
“นี่เป็นถุงนำโชคที่ข้าปักเองกับมือ หวังว่าพี่ชายจะมีโชควาสนามากๆ จะได้ปกป้องประชาชนของต้าเยียนได้ดียิ่งขึ้น “