ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 52 คนที่ต้องตายอย่างแน่นอน
ลำนำยอดหญิงจอมพิษ บทที่ 52 คนที่ต้องตายอย่างแน่นอน
เสียงของกู้ชิวเหลิ่งจริงใจและสงบนิ่งมาก จากนั้นกู้ชิวเหลิ่งก็กล่าวขึ้นอีกว่า: “ลูกนอนตั้งแต่หัวค่ำแล้ว ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเลย และก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขียนอยู่บนกระดาษข้อความคืออะไร ลูกรู้แต่ว่าเหตุการณ์ในวันนี้ล้วนเป็นกับดักที่วางไว้ใส่ร้ายลูก หากว่าลูกมา บางทีตอนนี้คนที่ร่างกายแปดเปื้อนในตอนนี้ก็คือลูกแล้ว!”
กู้ชิวเหลิ่งเดินไปถึงตรงหน้าของอิงเอ๋อร์ มองดูอิงเอ๋อร์ด้วยใบหน้าเคียดแค้นชิงชังเป็นอย่างยิ่ง กล่าวว่า: “เหตุใดเจ้าต้องทำร้ายข้าเช่นนี้ด้วย?”
เดิมทีอิงเอ๋อร์ก็ขี้ขลาดอยู่แล้ว ถอยหลังออกไปหลายก้าว กู้ชิวเหลิ่งหันหลังให้กับทุกคน เปิดปากให้กับอิงเอ๋อร์ ถึงแม้จะไม่มีเสียง แต่ว่าอิงเอ๋อร์กลับมองเห็นได้อย่างชัดเจน
อิงเอ๋อร์ทรุดตัวอยู่บนพื้น ในหัวมีภาพที่ถูกคนของฮูหยินใหญ่ข่มขืนปรากฎขึ้นมา และคำพูดที่กู้ชิวเหลิ่งพูดกับนางเมื่อครู่นี้ ทำให้นางดูเหมือนจะหาโอกาสในการมีชีวิตรอดได้เล็กน้อย รีบร้อนกล่าวว่า: “นายท่าน! คือคุณหนูใหญ่กับฮูหยินใหญ่! คุณหนูใหญ่กับคุณชายฉินมีความสัมพันธ์กันมานานแล้ว! ถูกข้าพบเข้า คุณหนูใหญ่ข่มขู่ข้า บอกว่าหากข้าพูดออกไป ก็คือความตายทางเดียวเท่านั้น คุณหนูใหญ่ยังให้ข้าหลอกคุณหนูรองมาที่ศาลา แต่ว่าต่อมาคุณหนูรองไม่ได้มา ข้าก็ไม่รู้ว่าถูกใครใช้ยาเสน่ห์ทำให้หมดสติไป ต่อมา……ต่อมาก็!”
“เจ้าพูดเหลวไหล! ข้าจะไปมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับลูกผู้พี่ได้อย่างไร!”
ไม่ได้มีเพียงกู้ชิวเซียงเท่านั้นที่สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก แม้แต่ฮูหยินใหญ่ก็หน้าเขียวหน้าดำเช่นกัน
ฉินจงใบหน้าแดงก่ำ คำรามว่า: “เจ้านังแพศยาต่ำต้อยคนนี้! พูดจาเพ้อเจ้อเช่นนี้ได้อย่างไร!”
กู้ชิวเหลิ่งเอ่ยปากกล่าวว่า: “ในเมื่อท่านพี่ฉินไม่ได้มีความสัมพันธ์กับพี่ใหญ่ ทำไมต้องโกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่า? บอกว่าแอบติดต่อกับข้า? ถึงกับยังบอกว่าจะแต่งงานกับข้า? ในเมืองหลวงใครบ้างไม่รู้ พี่ใหญ่งดงามราวกับนางฟ้าบนสวรรค์ ส่วนข้าหน้าตาน่าเกลียดขี้เหร่ ข้ากับท่านพี่ฉินไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน ทำไมท่านพี่ฉินถึงได้ชอบข้าเป็นพิเศษเล่า? หากว่าท่านพี่ฉินมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพี่ใหญ่จริงๆ ท่านพ่อก็ไม่ใช่คนที่ไม่คำนึงถึงมิตรภาพ ความสัมพันธ์ฉันท์ครอบครัวของเราลึกซึ้งขึ้นไปอีก จะไม่ดียิ่งกว่าหรือ?”
“กู้ชิวเหลิ่ง! เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร!”
กู้ชิวเซียงตกใจกับคำพูดประโยคนี้ของกู้ชิวเหลิ่งจนใบหน้าซีดขาว ฉินจงดูเหมือนจะถูกคำพูดของกู้ชิวเหลิ่งทำให้หวั่นไหวแล้ว ใช่แล้ว กู้ชิวเซียงคือสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวง เขาอยากได้จนน้ำลายสอมานานแล้วจริงๆ แต่ติดอยู่ที่หน้าตาของฮูหยินใหญ่ จึงยังไม่ได้เข้าไปใกล้ชิดกับนาง ถ้าหากกู้ชิวเซียงแต่งงานกับเขา เช่นนั้นถึงแม้เขาจะต้องตาย นั่นก็เป็นการตายที่มีความสุข แล้วเหตุใดจึงจะไม่ได้เล่า?
กู้หนานเฉิงทำหน้าเย็นชา สีหน้าไม่น่าดูอย่างมาก
เขาจะให้กู้ชิวเซียงแต่งงานกับฉินจงไม่ได้เด็ดขาด เขาบ่มเพาะกู้ชิวเซียงมาหลายปีขนาดนี้ ก็เพื่อให้สามารถแต่งงานกับลูกหลานของราชวงศ์ เพื่อเพิ่มเกียรติยศให้กับตระกูลกู้ ถ้าหากให้กู้ชิวเซียงแต่งงานกับฉินจงผู้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ เช่นนั้นความพยายามทั้งหมดตลอดหลายปีที่ผ่านมาของเขาก็จะสูญเปล่าไปเช่นกัน
“เอาล่ะ! ต่อจากนี้ใครก็ห้ามเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก!”
กู้หนานเฉิงทำหน้าเคร่งขรึม กล่าวกับฉินจงว่า: “คุณชายฉินมาเยี่ยมยามดึก อย่างไรก็ไม่เหมาะสม! เชิญกลับไปเถอะ!”
ฉินจงมองดูใบหน้าที่งดงามราวกับเทพธิดาบนสวรรค์ใบนั้นของกู้ชิวเซียงอย่างอาลัยอาวรณ์ นึกเสียใจภายหลังที่ตัวเองไม่ได้ชิงพูดออกมาก่อนว่าต้องการจะแต่งงานกับกู้ชิวเซียง เมื่อครู่นี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว!
“หลานขออำลา……”
หลังจากที่ฉินจงจากไปแล้ว กู้หนานเฉิงถึงได้ทำหน้าเย็นชา กล่าวว่า: “เหตุการณ์ในวันนี้ ใครกล้าพูดออกไปแม้แต่คำเดียว ก็อย่าหาว่าใช้เครื่องมือลงโทษประจำตระกูลก็แล้วกัน!”
อิงเอ๋อร์คุกเข่าอยู่บนพื้น ไม่กล้ามองหน้าของฮูหยินใหญ่กับกู้ชิวเซียง กู้หนานเฉิงกวาดตามองรอยเขียวช้ำที่อยู่เต็มตัวของอิงเอ๋อร์ครู่หนึ่ง กล่าวว่า: “เจ้ากลับไปก่อน อีกเดี๋ยวข้าค่อยไปคิดบัญชีกับเจ้า”
อิงเอ๋อร์นึกว่าตัวเองรอดตายแล้ว รีบร้อนวิ่งออกไป
ก่อนที่จะจากไป กู้ชิวเหลิ่งยิ้มให้กับอิงเอ๋อร์ ในสายตานั่นเต็มไปด้วยความหมายที่นางมองไม่ทะลุปรุโปร่ง
อิงเอ๋อร์จากไปด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจสายตาของกู้ชิวเหลิ่งเล็กน้อย
พูดกันมาถึงจุดนี้ กู้หนานเฉิงก็เข้าใจเรื่องราวเกือบทั้งหมดแล้ว ความจริงสิ่งที่กู้ชิวเหลิ่งพูดไม่ใช่คำโกหก เพียงแต่ว่าเพิ่มเนื้อหาลงไปในฐานรากเดิมที่ฮูหยินใหญ่ต้องการจะจัดการนางเท่านั้น
แต่ว่าแค่ข้อนี้ข้อเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้กู้ชิวเซียงมีเรื่องอื้อฉาวติดตัวเพิ่มแล้ว และนางก็รู้ว่า กู้หนานเฉิงจะไม่ให้ลูกสาวอย่างกู้ชิวเซียงลดตัวลงไปแต่งงานกับผู้ชายอย่างฉินจงเด็ดขาดอยู่แล้ว
เป้าหมายของกู้ชิวเหลิ่ง มีเพียงข้อเดียวเท่านั้น ทำให้ชื่อเสียงของกู้ชิวเซียงฉาวโฉ่ ให้กู้ชิวเซียงได้ลิ้มลองว่าอะไรคือรสชาติของการตกลงมาจากฟากฟ้าสู่โคลนตม
กู้หนานเฉิงตบกู้ชิวเซียงหนึ่งฉากด้วยความโกรธเคือง แล้วก็ใช้เท้าถีบฮูหยินใหญ่ออกไป กล่าวด้วยความโกรธ: “ลูกสาวตัวดีที่เจ้าสอนออกมา! เลี้ยงตัวอะไรไว้บ้างเนี่ย!”
กู้ชิวเซียงกุมหน้าที่เจ็บเอาไว้ ร้องไห้แล้วกล่าวว่า: “ท่านพ่อ……”
“หุบปาก! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ห้ามออกมาจากห้องแม้แต่ก้าวเดียว! เงินประจำเดือนทั้งหมดลดครึ่งหนึ่ง! คัดลอกหนังสือเตือนหญิงสามร้อยรอบ!”
พูดจบกู้หนานเฉิงมองดูกู้ชิวเหลิ่งเป็นครู่สุดท้าย กล่าวว่า: “เจ้าก็กลับไปได้แล้ว”
กู้ชิวเหลิ่งพยักหน้าอย่างเคารพนบนอบ กล่าวว่า: “ลูกทราบแล้วเจ้าค่ะ”
ถึงแม้กู้หนานเฉิงจะไม่อยากให้กู้ชิวเซียงแต่งงานกับฉินจง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ากู้หนานเฉิงจะไม่รู้สึกผิดหวังในตัวของกู้ชิวเซียง เมื่อความผิดหวังแบบนี้สะสมไปจนถึงระดับหนึ่งแล้ว ถึงแม้ว่ากู้ชิวเซียงจะมีใบหน้าดั่วนางฟ้า ก็ไร้ประโยชน์
เมื่อกลับมาถึงสวนยีชุ่ย กู้ชิวเหลิ่งก็เหนื่อยล้ามากแล้ว จูเอ๋อร์เตรียมน้ำชาเอาไว้ กล่าวถาม: “คุณหนู เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ราบรื่นดีหรือไม่?”
“ก็ดีนะ รุ่งเช้าวันพรุ่งนี้ เจ้าไปที่หอจูชุ่ยของเซียวอวิ๋นเซิง ช่วยข้าจัดการเรื่องหนึ่งซะ”
จูเอ๋อร์เอียงศีษระ กล่าวถาม: “โฉนดของโรงน้ำชาหรือ?”
“ไม่ใช่เพียงโฉนดของโรงน้ำชาเท่านั้น ยังต้องช่วยข้าปล่อยข่าวลือเรื่องหนึ่งด้วย”
“อ่า?”
กู้ชิวเหลิ่งมองดูท้องฟ้ายามค่ำคืนด้านนอกที่ถูกเมฆดำปกคลุม กล่าวว่า: “บอกว่า คุณหนูใหญ่ตระกูลกู้กับคุณชายใหญ่ตระกูลฉินแอบคบกัน ถูกอี๋เหนียงสี่ในจวนพบเข้า วันรุ่งขึ้นอี๋เหนียงสี่ก็เสียชีวิตไปกะทันหัน”
“แต่ว่าอี๋เหนียงสี่ก็ยังมีชีวิตอยู่ดีไม่ใช่หรือ?”
กู้ชิวเหลิ่งยิ้มออกมาเล็กน้อย: “ต้องตายอยู่แล้ว หนีไม่รอด”
ตอนนั้นนางใช้ภาษาปากพูดสองคำนี้ต่อหน้าอิงเอ๋อร์: พูดตามความจริงออกมา คนในครอบครัวกับเจ้าถึงจะสามารถรอดได้
ขอเพียงเป็นคนที่ฉลาดก็สามารถรู้ได้ว่าสถานการณ์ในตอนนั้น ถ้าหากอิงเอ๋อร์ไม่ยอมหันหลังให้กับศัตรู จะต้องถูกกู้หนานเฉิงโบยจนตายอย่างแน่นอน ถ้าหากกลับคำ ทำตัวเองให้สะอาดหมดจด แสดงตัวเป็นผู้เสียหายที่แท้จริง กู้หนานเฉิงจะไม่ฆ่านางเพราะจะไว้หน้านาง
แต่ว่า……นั่นก็เป็นเพียงแค่เห็นแก่หน้าตา กู้หนานเฉิงจะไม่ฆ่านางอย่างเปิดเผยก็เท่านั้น
หลังจากที่อิงเอ๋อร์มีความสัมพันธ์กับฉินจงแล้ว ก็เป็นคนที่ต้องตายอย่างแน่นอนแล้ว เพียงแต่ว่าความตายก็มีการแบ่งวิธีการตายหลายอย่างมาก เจ็บปวดกับไม่เจ็บปวดก็เท่านั้น
กู้ชิวเหลิ่งกล่าวอย่างราบเรียบ: “เวลาก็ดึกมากแล้ว เจ้ารีบกลับไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องตื่นแต่เช้า”
น่าจะต้องตื่นเช้ามาก
จูเอ๋อร์พยักหน้าซ้ำๆ กล่าวว่า: “เช่นนั้นบ่าวไปพักผ่อนแล้ว”
กู้ชิวเหลิ่งมองดูท้องฟ้ายามค่ำคืนที่อยู่ด้านนอก ลมเย็นสบายที่พัดมาบนใบหน้าของนาง แฝงไปด้วยกลิ่นคาวเลือดเล็กน้อย
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ในตอนที่ท้องฟ้าเพิ่งจะสาง ก็มีคนพบศพของอี๋เหนียงสี่ อยู่ในห้องโถงหลักสวนฟางหวาของอี๋เหนียงสี่ อี๋เหนียงสี่ถูกแขวนอยู่บนคานที่อยู่สูง มีเพียงผ้าขาวผืนเดียวห่อเอาไว้ ดวงตาทั้งคู่โปนออกมา ทำให้คนสะอิดสะเอียน
กู้หนานเฉิงก็ไม่ได้เข้าไปดูแม้แต่แวบเดียว แต่สั่งให้คนจัดการเก็บกวาดอย่างเร่งรีบ
หลังจากที่กู้ชิวเหลิ่งรู้เรื่องแล้ว ก็เพียงแค่ยิ้มออกมาเล็กน้อยเท่านั้น กู้หนานเฉิงจะไม่เก็บผู้หญิงที่สูญเสียความซื่อสัตย์ต่อคู่ครองไว้ข้างกายของเขาอย่างแน่นอน นี่คือสิ่งที่ผู้ชายคนหนึ่งไม่สามารถทนรับได้ ดังนั้นนางคาดการณ์อย่างมั่นใจ อิงเอ๋อร์ต้องตาย