ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 57 แผนการของกู้ชิวเซียง
ลำนำยอดหญิงจอมพิษ บทที่ 57 แผนการของกู้ชิวเซียง
จูเอ๋อร์จัดการให้กู้เจินพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจวนโหว เช่าห้องเอาไว้ครึ่งเดือน มีที่พักและอาหารการกินพร้อม โชคดีที่กู้เจินยังสามารถดูแลตัวเองในการใช้ชีวิตประจำวันได้ ไม่ได้เพิ่มภาระให้กับกู้ชิวเหลิ่ง
ฉินจงกำลังนั่งอยู่ในสวนเซียงลู่ของกู้ชิวเซียง สูดดมกลิ่นหอมประหลาดของทั่วทั้งสวน ทำให้ในใจของฉินจงอดที่จะรู้สึกใฝ่หาเล็กน้อยไม่ได้ ราวกับสามารถได้กลิ่นน้ำค้างของดอกไม้บนตัวของกู้ชิวเซียง เห็นร่างกายที่จิตใจใฝ่ฝันถึงและทำให้คนลุ่มหลงมัวเมา ผ่านกลิ่นหอมพวกนี้
ตอนที่กู้ชิวเซียงเดินเข้าประตูห้องมา ฉินจงดื่มชาไปถ้วยหนึ่งแล้ว รอยยิ้มกรุ้มกริ่มที่ทำให้คนรู้สึกขยะแขยงนั่น ทำให้ในใจของกู้ชิวเซียงคลื่นไส้สะอิดสะเอียน
ถึงแม้นางกับฉินจงจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่ว่าความสัมพันธ์ก็ไม่ได้ลึกซึ้ง ตอนเด็กๆเคยพบกันไปเพียงสองครั้งเท่านั้น เมื่อโตขึ้นมาหลังจากที่รู้อุปนิสัยใจคอของฉินจงแล้ว ก็ไม่เคยอยากเข้าไปใกล้ ครั้งนี้ได้เห็นลักษณะท่าทางของฉินจง ยิ่งทำให้กู้ชิวเซียงรู้สึกเลือดลมพุ่งกระฉูด
คนในเมืองหลวงตาบอดกันหมดแล้วหรือ? ผู้ชายเช่นนี้จะคู่ควรกับนางได้อย่างไร?
ฉินจงรู้สึกได้ถึงเสียงฝีเท้า ในตอนที่หันกลับมามอง ก็เห็นกู้ชิวเซียงที่สวมชุดเกาะอกกระโปรงยาว ตรงหน้าอกยังมีดอกไม้สีชมพูปักอยู่ดอกหนึ่ง ละเอียดอ่อนงดงามจนดูเหมือนจะหยดย้อยลงมา ทำให้คนคิดฟุ้งซ่านจนหลุดพ้นจากความเป็นจริง
กู้ชิวเซียงใบหน้ายิ้มแย้ม กล่าวขึ้นมาอย่างอ่อนโยน: “พี่ฉินมาแล้ว ยังไม่รีบชงชาให้อีก?”
เซี่ยชุนอยู่ด้านข้างตอบรับคำหนึ่ง ก็ก้าวเข้าไปรินชาให้กับฉินจง สายตาของฉินจงก็ไปหยุดอยู่ที่เซี่ยชุนอีก หน้าตาของเซี่ยชุนเดิมทีก็น่ารักอยู่แล้ว เป็นสาวน้อยซุกซนขี้เล่นที่หาได้ยาก ฉินจงอดที่จะเกิดความใคร่ขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้
กู้ชิวเซียงเอ่ยปากกล่าวว่า: “ที่น้องเชิญพี่มาในครั้งนี้ เพราะมีเรื่องจะหารือ”
ฉินจงเก็บสายตากลับมา มองไปที่กู้ชิวเซียงใหม่ ลูบไปที่คาง แล้วกล่าวว่า: “นี่เป็นครั้งแรกที่น้องเซียงเชิญข้ามาที่ห้องเรือน เป็นเพราะข่าวลือในเมืองหลวงพวกนั้นรึ?”
ข่าวลือพวกนี้เขาในฐานะที่เป็นจุดสนใจ ย่อมต้องรู้เร็วอยู่แล้ว ไม่เพียงแค่รู้เท่านั้น เขายังเป็นหนึ่งในคนที่หนุนคลื่นลมให้สูงอีกด้วย ถึงแม้ว่าในตอนแรกเขาจะอยู่ฝ่ายเดียวกับฮูหยินใหญ่ แต่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเขาก็ยังเป็นสาวงามอยู่ดี สิ่งที่กู้ชิวเหลิ่งพูดเมื่อคืน: ความสัมพันธ์ฉันครอบครัวลึกซึ้งขึ้นไปอีก ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล เขาอยากได้กู้ชิวเซียงจนน้ำสอมานานแล้ว เมื่อคืนนี้พลาดโอกาสไม่สามารถทำสำเร็จได้ วันรุ่งขึ้นก็ได้ยินข่าวลือในเมืองหลวง แล้วเขาจะไม่ชักนำเรื่องได้อย่างไร?
เพียงแต่ว่าต่อหน้าของกู้ชิวเซียง เขาไม่พูดออกมาก็เท่านั้น
กู้ชิวเซียงยังไม่รู้ว่าฉินจงแอบทำให้ข่าวอื้อฉาวแผ่กระจายออกไป แต่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า: “คิดว่าเมื่อวานพี่ฉินคงจะเห็นน้องรองของข้าแล้ว ไม่ทราบว่าพี่ฉินคิดว่าน้องรองของข้าคนนี้หน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง?”
ฉินจงนึกย้อนถึงเรื่องเมื่อคืนอย่างละเอียดถี่ถ้วน กู้ชิวเหลิ่งก้มหน้าเอาไว้แล้วขมวดคิ้วอยู่ตลอด ดูเหมือนจะไม่ได้ขี้เหร่อย่างในข่าวลือ กลับดูมีความงามล่มชาติล่มเมืองอยู่รางๆ เมื่อเทียบกับภาพวาดของกู้ชิวเหลิ่งที่ฮูหยินใหญ่ให้เขาในวันนั้น มีแต่เหนือกว่าแต่ไม่ด้อยกว่าเลย
“น้องเซียงกล่าวเช่นนี้มีเจตนาอย่างไร?”
“พี่ฉินเองก็รู้ว่า หลังจากที่น้องสาวข้าคนนี้ยกเลิกการแต่งงานกับราชวงศ์ จะแต่งงานออกไปอีกก็ยากมากแล้ว ชื่อเสียงก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ แต่ดันมีใบหน้าที่งดงาม หากพี่ฉินเห็นว่าใช้ได้ ข้าก็จะไปรายงานต่อท่านพ่อ ให้น้องรองของข้าแต่งงานกับท่าน ท่านคิดว่าดีหรือไม่?”
ฉินจงคือคนที่จะไม่ปล่อยให้สาวงามคนใดหลุดมือคนหนึ่ง ได้ยินคำพูดเช่นนี้ ย่อมคิดว่าดีอยู่แล้ว แต่ว่าหลังจากนั้นฉินจงก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ กล่าวถาม: “ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านี้ฮ่องเต้อนุญาตให้นางเลือกการแต่งงานด้วยความสมัครใจ หากว่านางไม่ยินดีจะแต่งงานกับข้า นั่นจะไม่ใช่การเสียแรงเปล่าหรอกหรือ? ถึงเวลานั้นข้าจะเอาหน้าไปวางไว้ตรงไหน?”
กู้ชิวเซียงยิ้มแย้ม: “ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกไปแล้ว อำนาจตัดสินใจก็ไม่ได้อยู่ที่นางแล้ว”
กู้ชิวเหลิ่งเข้าไปใกล้ข้างหูของฉินจงเล็กน้อย พูดกระซิบไปสองสามคำ
ดวงตาของฉินจงเปล่งประกายเป็นระยะๆ ราวกับรู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก
กู้ชิวเหลิ่งกลับมาถึงไปในลาน นั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะหนังสือ นึกย้อนไปถึงสถานการณ์ของถนนซี สาเหตุที่การค้าของโรงน้ำชายีผิ่งไม่ดี ไม่ได้เป็นเพียงเพราะว่าการวางแผนและบริหารจัดการไม่ดีเท่านั้น ยังเป็นเพราะทิศทางกลุ่มลูกค้าของเซียวอวิ๋นเซิง โดยทั่วไปแล้วล้วนเป็นลูกนางขุนนางชั้นสูง ชาวบ้านน้อยคนนักที่จะมีกำลังซื้อใบชาที่มีราคาแพง อย่างมากก็คือซื้อชาดอกไม้ที่มีราคาถูกกว่า และบริเวณโดยรอบของโรงน้ำชายีผิ่งก็ไม่ได้มีตระกูลใหญ่อะไร ตระกูลเล็กๆเหล่านั้นถึงแม้ว่าจะต้องการใบชา ก็จะไม่ไปเอาเงินจำนวนมากไปซื้อใบชาที่มีราคาแพงเด็ดขาด
ในขณะที่กู้ชิวเหลิ่งเตรียมจะแก้ไขแบบแผนการขายชา จู่ๆจูเอ๋อร์ก็ผลักประตูเข้ามา ก้มหน้าเอาไว้ ราวกับว่ามีเรื่องอะไรที่ยังคิดไม่ตก
กู้ชิวเหลิ่งเงยหน้า กล่าวถาม: “ทำไมถึงกลับมาเร็วขนาดนี้?”
จูเอ๋อร์ถึงได้ตอบสนองกลับมา กล่าวว่า: “กู้เจินฉลาดมาก ไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไรจากบ่าว และก็ไม่ให้บ่าวแตะต้องสิ่งของของเขาด้วย ดังนั้นบ่าวจ่ายเงินค่าห้องเสร็จก็กลับมาเลย”
กู้ชิวเหลิ่งพยักหน้า กล่าวว่า: “เข้ามาฝนหมึกเถอะ”
จูเอ๋อร์อ้อออกมาคำหนึ่ง เดินเข้าไปใกล้ถึงได้กล่าวว่า: “คุณหนู เมื่อครู่ตอนที่บ่าวกลับมา……ดูเหมือนจะเห็นคุณชายฉิน แอบย่องเข้ามาจากลานหลัง ยังมีเซี่ยชุนไปรับเขาด้วยเจ้าค่ะ!”
“อะไรนะ?”
“น่าแปลกมากจริงๆ ตอนนี้ในเมืองหลวงมีเรื่องซุบซิบนินทามากมาย ทำไมคุณหนูใหญ่ต้องเชิญคุณชายฉินเข้ามาจวนด้วย? นี่ถ้าหากมีคนพบเข้า จะไม่กลายเป็นเรื่องให้ติฉินทาหรอกหรือ?”
กู้ชิวเหลิ่งจ้องมองดูกระดาษเซวียนจื่อที่อยู่บนโต๊ะเหมือนกับกำลังคิดอะไรอยู่ นานพักใหญ่ถึงได้กล่าวขึ้นมา: “คนที่มีชื่อว่าเซี่ยชุนคนนั้น เป็นใครกัน?”
จูเอ๋อร์กล่าวว่า: “เซี่ยชุนคือสาวใช้ระดับสูงที่อยู่ข้างกายของคุณหนูใหญ่ ได้รับความสำคัญที่สุดมาตลอด”
กู้ชิวเหลิ่งพยักหน้า กล่าวว่า: “ไปเอากล่องผ้าที่ข้าวางเอาไว้ด้านบนของชั้นหนังสือมา”
“เจ้าค่ะ”
กู้ชิวเหลิ่งยิ้มออกมาเล็กน้อย กู้ชิวเซียงจะลงมือกับนางเร็วขนาดนี้เลย? ดูจากรูปแบบการลงมือไม่เหมือนกับวิธีการของฮูหยินใหญ่ ดูท่ากู้ชิวเซียงกลายเป็นหมาจนตรอกจริงๆซะแล้ว
จูเอ๋อร์ไปที่ห้องครัวเล็ก กล่าวออกมาอย่างเร่งรัดเล็กน้อย: “อากาศมันร้อนจริงๆ ตกลงถั่วเขียวต้มน้ำตาลของคุณหนูรองต้มเสร็จหรือยัง?”
“เสร็จแล้วเสร็จแล้ว นี่ก็จะเสร็จแล้ว!”
บังเอิญเซี่ยชุนก็อยู่ด้านข้างพอดี เดิมทีกู้ชิวเซียงให้นางเตรียมโจ๊กรังนกถ้วยหนึ่งแล้วส่งเข้าไปในลานของกู้ชิวเหลิ่ง คิดไม่ถึงว่ากู้ชิวเหลิ่งจะสั่งให้ห้องครัวเล็กทำถั่วเขียวต้มน้ำตาลแล้ว
เซี่ยชุนมีความคิดในทันที กล่าวว่า: “นี่คือจูเอ๋อร์ไม่ใช่หรือ? เจ้าจะยกถั่วเขียวต้มน้ำตาลให้กับคุณหนูของเจ้าหรือ?”
จูเอ๋อร์ทำหน้ามุ่ย กล่าวว่า: “ใช่แล้ว จู่ๆคุณหนูก็รู้สึกกระหายน้ำ ดังนั้นก็เลยให้ข้ามาเตรียมถั่วเขียวต้มน้ำตาล เพียงแต่ว่าห้องครัวช้ามากเกินไปจริงๆ กลับช้าไป คุณหนูต้องดุข้าอีกแน่”
เซี่ยชุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม: “โถ่เอ้ย ถึงแม้ถั่วเขียวต้มน้ำตาลจะสามารถคลายความร้อน แต่ว่าเพิ่งทำออกมา ก็ยังไม่เย็นหรอก ข้าก็กำลังรอโจ๊กรังนกของคุณหนูใหญ่อยู่ ดูเจ้าก็ค่อนข้างจะเหนื่อยอยู่ ถ้าอย่างไรกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ถึงเวลาข้าส่งไปให้พวกเจ้าพร้อมกันเลยแล้วกัน”
จูเอ๋อร์ได้ยินคำพูดก็ดีใจอย่างมาก กล่าวว่า: “ขอบคุณพี่เซี่ยชุน! เช่นนั้นก็รบกวนท่านแล้ว!”
เซี่ยชุนพยักหน้า กล่าวว่า: “ตอนนี้คุณหนูรองยังอยู่ในลานไหม?”
จูเอ๋อร์คิดอยู่ครู่หนึ่ง กล่าวว่า: “คุณหนูของข้าไปเรียนเขียนอักษรที่ห้องคุณชายใหญ่ตั้งแต่เช้าแล้ว ดูจากเวลาแล้วก็ใกล้จะกลับมาแล้วล่ะ”
เซี่ยชุนยิ้มออกมาเล็กน้อย: “ข้ารู้แล้ว เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถอะ ถึงเวลาข้าก็จะส่งถั่วเขียวต้มน้ำตาลไปให้ ไม่ทำให้เจ้าล่าช้าเด็ดขาด”