ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 59 แผนซ้อนแผน 1
ลำนำยอดหญิงจอมพิษ บทที่ 59 แผนซ้อนแผน 1
“นี่มันเรื่องอะไร……”
เสียงพูดของกู้หนานเฉิงหยุดอยู่ตรงลำคอ อาจจะเป็นเพราะอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าวันถัดมา เหตุการณ์เดียวกันจะเกิดขึ้นมาต่อหน้าอีกครั้ง และยังอยู่ในห้องส่วนตัวของกู้ชิวเหลิ่งอีกด้วย
ถ้าหากไม่ใช่เพราะเข้าประตูมาก็เห็นกู้ชิวเหลิ่งกับกู้ชิวถาง เกรงว่าเขาคงคิดว่ากู้ชิวเหลิ่งทำอะไรผิดอีกเป็นแน่
กู้หนานเฉิงเบิกตากว้าง มองดูภาพที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ กล่าวด้วยความโกรธ: “ฉินจง! ทำไมถึงเป็นเจ้าอีกแล้ว! ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ในห้องของลูกสาวข้าได้? เจ้า……นี่เจ้าทำอะไรลงไป!”
กู้ชิวถางกล่าวอย่างเคารพนบนอบอยู่ด้านข้าง: “ท่านพ่อ ตอนที่ลูกกับน้องรองมา ก็เป็นภาพฉากนี้แล้ว เพราะคุณชายฉินไม่ใช่คนทั่วไป ดังนั้นลูกจึงไม่กล้าจัดการเองโดยพลการ ขอท่านพ่อได้โปรดตัดสินด้วย”
กู้หนานเฉิงชี้ไปทางเซี่ยชุนที่ฝังตัวอยู่ในผ้าห่ม กล่าวถามด้วยเสียงที่เย็นชา: “เจ้า! เจ้าเงยหน้าขึ้นมาเลย!”
ร่างกายของเซี่ยชุนสั่นเทาขึ้นมาในทันใด ตอนที่เงยหน้าขึ้นมา ถึงขั้นสามารถมองเห็นเส้นเลือดบนหน้าผากของกู้หนานเฉิงได้อย่างชัดเจน: “บ่าว……บ่าวก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น! บ่าวก็แค่ยกถั่วเขียวต้มน้ำตาลมาให้คุณหนูรองเท่านั้น ใครจะไปรู้ว่า……”
เซี่ยชุนเงยหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ชี้ไปที่กู้ชิวเหลิ่งแล้วกล่าวว่า: “คือคุณหนูรอง! ! คุณหนูรองนางวางแผนให้ร้ายบ่าวเจ้าค่ะ! นายท่าน!”
กู้หนานเฉิงมองไปทางกู้ชิวเหลิ่ง สีหน้าท่าทางผิดไปจากปกติเล็กน้อย: “ที่นางพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”
กู้ชิวเหลิ่งกล่าวขึ้นมาโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า: “เรียนท่านพ่อ ลูกฝึกเขียนอักษรอยู่ในลานของท่านพี่ตลอดช่วงบ่ายเท่านั้น ไม่รู้เลยว่าลานของตัวเองเกิดเรื่องอะไรขึ้นเจ้าค่ะ ยิ่งไม่รู้ว่าทำไมเซี่ยชุนที่อยู่ข้างกายของพี่ใหญ่ ถึงมาปรากฏตัวอยู่ในห้องส่วนตัวของลูกได้ ยังทำเรื่องบัดสีกับพี่ฉินอีก ลูกไม่รู้จริงๆว่า เหตุใดเชี่ยชุนถึงพูดเช่นนี้เจ้าค่ะ”
รู้สึกได้ถึงสายตาของกู้หนานเฉิงที่อยากจะสอบถามตัวเอง กู้ชิวถางก็กล่าวขึ้นมาว่า: “สิ่งที่น้องรองพูดเป็นความจริง ช่วงเวลานี้น้องรองอยู่กับลูกตลอด ในห้องหนังสือมีกระดาษลายมืออักษรที่ฝึกเขียนเป็นหลักฐาน”
เซี่ยชุนเองก็เจอเรื่องเช่นนี้เป็นครั้งแรก เห็นรังสีแสงที่ค่อยๆเย็นยะเยือกลงมาของกู้หนานเฉิง ทำให้เชี่ยชุนไม่ทันได้แก้ต่าง
“ไปเรียกแม่นายของนางมา!”
คนที่กู้หนานเฉิงพูดถึงย่อมหมายถึงกู้ชิวเซียงอยู่แล้ว
กู้ชิวถางรู้ว่าครั้งนี้กู้หนานเฉิงโกรธเคืองอย่างมาก ดังนั้นจึงกล่าวว่า: “ลูกกลับคิดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับน้องสาวคนโตเลย เพียงแค่คนรับใช้มีพฤติกรรมที่ไม่ดีเท่านั้น อย่างมากน้องสาวคนโตก็มีความผิดที่อบรมสั่งสอนไม่เข้มงวดเท่านั้น”
ฉินจงที่อยู่ด้านข้างคิดได้ในทันที รีบร้อนลงมาจากเตียง เอาเสื้อผ้ามาคลุมไว้บนร่างกาย เห็นได้ชัดว่าตื่นตระหนก: “ท่านลุง! ท่านฟังหลานอธิบายก่อน ผู้หญิงคนนี้นางเป็นคนยั่วยวนข้า!”
“ไป! ไปพาลูกสาวอกตัญญูคนนั้นมาให้ข้า!”
กู้ชิวเหลิ่งมองดูภาพที่อยู่ตรงหน้าอย่างสงบ ความจริงก็แค่ทำเรื่องบัดสีกับสาวใช้คนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรเลยด้วยนิสัยของกู้หนานเฉิง สามารถพูดแค่สองสามคำแล้วปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปได้อย่างสิ้นเชิง แต่จะโทษก็ต้องโทษที่ เมื่อวานฉินจงมีความสัมพันธ์กับสนมคนโปรดของกู้หนานเฉิงไปแล้ว
ถูกพบเข้าก็ช่างเถอะ กู้หนานเฉิงก็ทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทั้งหมดก็เพราะเห็นแก่หน้าของตระกูลฉิน แต่ว่าครั้งนี้ฉินจงกลับแอบเข้ามาในจวนกู้โหวภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีคนรู้ แล้วแอบมีความสัมพันธ์กับสาวใช้คนหนึ่งในห้องของคุณหนูคนหนึ่งอีก และต่อมาก็ถูกพบเข้าอีก นี่มันคือการท้าทายศักดิ์ศรีของกู้หนานเฉิงชัดๆ
ลองนึกภาพคนรุ่นหลังคนหนึ่ง ถึงกับเห็นจวนกู้โหวเป็นเหมือนกับสวนหลังบ้านเดินไปมาตามใจชอบ คนธรรมดาคนหนึ่งยังสามารถรู้สึกได้ถึงการเย้ยหยัน นับประสาอะไรกับคนอย่างกู้หนานเฉิง จะให้อภัยได้อย่างไรกัน?
กู้ชิวเหลิ่งเอ่ยปากกล่าวว่า: “ท่านพ่อก็ไม่ต้องโกรธเคืองเกินไปหรอกเจ้าค่ะ ก็แค่สาวใช้คนหนึ่งเท่านั้น ถ้าหากพี่ฉินชอบ ก็มีเหตุผลพอที่จะลองถามความเห็นของพี่ใหญ่ ยกสาวใช้คนนี้ให้กับพี่ฉิน”
ได้ยินคำพูด เชี่ยชุนที่เพิ่งลงมาจากเตียงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ฉินจงเป็นใคร? คนในเมืองหลวงใครไม่รู้ว่าเป็นอันธพาลที่ทำให้หญิงสาวสกุลดีเสื่อมเสียชื่อเสียง? อาศัยว่าบ้านตัวเองมีเงินมีอำนาจ ไม่มีใครกล้าร้องเรียนมาตลอดเท่านั้น ถ้าหากนางติดตามฉินจงไปที่จวนฉินจริงๆ จะต้องถูกกลั่นแกล้งให้อับอาย และตายอย่างไม่สามารถทนรับได้อย่างแน่นอน
“ไม่……ไม่เอาเจ้าค่ะ! นายท่าน! เรื่องนี้มีเงื่อนงำเจ้าค่ะ! บ่าวกับคุณชายฉินต่างก็ถูกวางยา! จะต้องมีคนจงใจสร้างเรื่องขึ้นมาอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”
กู้ชิวเหลิ่งกล่าวอย่างไม่เห็นด้วย: “ลูกเองก็รู้สึกว่าเรื่องราวเป็นอย่างที่เชี่ยชุนพูด ท่านพ่อตรวจสอบให้ละเอียดดีกว่า ไม่อย่างนั้นพี่ฉินคนนี้ก็ใจกล้ามากเกินไปจริงๆ เมื่อวานเรื่องของอี๋เหนียงสี่ท่านพ่อก็ไม่เอาไปแล้ว ใครจะรู้ว่าวันนี้พี่ฉินก็มาอย่างตาปริบๆ คนธรรมดาทั่วไปทำเรื่องเช่นนี้ไปแล้วใครก็ไม่กล้าหน้าด้านมาในที่สองหรอก จะต้องมีคนจงใจสร้างเรื่องแน่”
“กู้ชิวเหลิ่ง! เจ้าว่าใครหน้าด้านไร้ยางอาย? !”
ฉิงจงที่คุกเข่าอยู่บนพื้นลุกขึ้นมากะทันหัน ท่าทางตั้งใจเด็ดเดี่ยวไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น
กู้ชิวถางถือกระบี่แนวนอน กล่าวขึ้นมาอย่างเย็นชา: “คุณชายฉินยืนให้ดีๆจะดีกว่า คนของตระกูลกู้เราไม่ใช่คนที่ท่านจะมาล่วงเกินได้ง่ายๆ”
กู้ชิวถางเคลื่อนทัพออกรบมานานหลายปี บนร่างกายย่อมแฝงไปด้วยกลิ่นอายสังหารอยู่แล้ว ฉินจงไม่กล้าล่วงเกิน เพียงแต่สุดท้ายจ้องมองไปที่กู้ชิวเหลิ่งอย่างดุดันแวบหนึ่ง
กู้ชิวเหลิ่งกลับทำเหมือนมองไม่เห็น ยังคงกล่าวว่า: “พี่ฉินอย่าเพิ่งโกรธไป เพียงแต่ว่ามืดค่ำขนาดนี้ ท่านแอบเข้ามาในจวนของเรา เพราะเหตุอันใดกันแน่?”
“เพราะน้อง……”
ฉินจงเกือบจะพูดทุกอย่างเกี่ยวกับกู้ชิวเซียงออกมาแล้ว เดิมทีกู้ชิวเซียงให้เขาแอบเข้าไปในห้องของกู้ชิวเหลิ่งอย่างลับๆไม่ให้ใครรู้ ถึงเวลาทุกอย่างก็จะสำเร็จ หลังจากข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้ว กู้ชิวเหลิ่งไม่แต่งก็ต้องแต่งแล้ว แต่ว่าใครจะไปคิดว่าจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาได้ เกิดเป็นเรื่องผิดพลาดโง่เง่าขึ้นมาอีกครั้ง
เขาก็ไม่สามารถพูดต่อหน้าของกู้หนานเฉินได้ว่า คือลูกสาวอีกคนหนึ่งของเขาที่สบคบคิดกับเขา อยากจะจับกู้ชิวเหลิ่งเอาไว้ใช่ไหมล่ะ?
กู้หนานเฉิงขมวดคิ้ว กล่าวว่า: “คือเซียงเอ๋อร์?”
ฉินจงรีบเปลี่ยนคำพูด: “ไม่ใช่น้องเซียง คือ……คือน้องรอง! ตอนเที่ยงน้องรองนางบอกว่าจะนัดข้ามาเจอกันตอนกลางคืน ใครจะรู้ว่าน้องรองกำลังวางกับดักให้ข้าอยู่!”
กู้ชิวเหลิ่งยิ้มเย้ยหยัน กล่าวกับกู้หนานเฉิงว่า: “ท่านพ่อ! สิบกว่าปีมานี้ลูกไม่เคยออกนอกจวนโหวเลยเจ้าค่ะ และก็ไม่เคยเจอกับพี่ฉินมาก่อน ยิ่งไม่รู้ว่าจวนฉินอยู่ตรอกไหนซอยไหน ลูกจะสามารถไปนัดพบพี่ฉินได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการพบกันในห้องส่วนตัวอย่างโจ่งแจ้งเปิดเผยเช่นนี้? นี่ไม่ใช่การทำให้คนสงสัยหรอกหรือ?”
“ถูกต้อง ลูกก็รู้สึกว่าที่น้องรองพูดมามีเหตุผล ยิ่งไปกว่านั้นในห้องของน้องรองก็มีเพียงจูเอ๋อร์คนเดียวเท่านั้น แล้วจะไปนัดคุณชายฉินได้อย่างไร?”
กู้หนานเฉิงกล่าวด้วยความโกรธ: “ฉินจง! ข้าเห็นแก่ที่เจ้าเป็นบุตรชายภรรยาเอกของท่านพี่ฉิน ยอมอดทนอ่อนข้อให้เจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า! แต่ว่าครั้งนี้เจ้ารังแกคนมากเกินไปจริงๆ!”
จิตใจของฉินจงกำลังสั่นเทา หลายปีมานี้เพราะมีท่านย่ากับท่านแม่ ดังนั้นท่านพ่อจึงตามใจเขาอย่างมาก นานวันเข้าก็ไม่สนใจแล้ว แต่หากให้ท่านพ่อเขารู้ว่าเขาล่วงละเมิดสนมคนงามของกู้หนานเฉิงก่อน วันนี้ก็ล่วงละเมิดสาวใช้ข้างกายของกู้ชิวเซียงอีก ท่านพ่อเขาจะต้องถลกหนังบนร่างกายของเขาลงมาอย่างแน่นอน!
กู้ชิวเซียงที่เพิ่งจะมาถึงตรงหน้าประตูลาน ก็ได้ยินเสียงคำรามด้วยความโกรธของกู้หนานเฉิง กู้ชิวเซียงยังนึกว่าฉิงจงที่อยู่ในห้องทำสำเร็จแล้ว มุมปากยังมีรอยยิ้มได้ใจอยู่เล็กน้อย