ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 66 ดูนางขายหน้า
ลำนำยอดหญิงจอมพิษ บทที่ 66 ดูนางขายหน้า
กู้ชิวถางเช็ดเหงื่อบนหน้าผากไปด้วย แล้วเดินไปทางกู้ชิวเหลิ่งด้วย พูดว่า “ได้ยินเปียนเจียงพูดว่าเจ้าไปซื้อเสื้อผ้าในตลาด ทำไมไม่ใส่มา?”
กู้ชิวเหลิ่งยิ้มเล็กน้อยพูดว่า “หาที่เหมาะสมไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็เลยไม่ได้ซื้อ ทำให้ท่านพี่รอนานแล้ว”
“เป็นท่านพี่ที่คิดไม่รอบคอบเอง ไม่ได้คิดถึงว่าเสื้อเจ้าไม่เหมาะกับการฝึกซ้อม พวกเราไว้ซ้อมกันรอบหน้าก็ได้”
กู้ชิวเหลิ่งพูด “ฝึกวิชาการต่อสู้เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดขี่ม้า ถ้าหากวันหนึ่งเจ้าพบกับอันตราย ก็ไม่สามารถไปหาชุดขี่ม้าถึงจะต่อสู้ได้?”
กู้ชิวถางยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับเปียนเจียง พยักหน้าอย่างรู้สึกว่ามีเป็นผล “ก็พอมีเหตุผล”
เปียนเจียงรู้สึกว่ากู้ชิวถางละเลยจุดสำคัญอะไรบางอย่าง แต่กู้ชิวเหลิ่งเปิดปากพูดแล้ว “ถ้าหากท่านพี่ไม่ถือสา พวกเราก็ฝึกแบบนี้ละกัน”
“ใส่กระโปรงฝึก?”
กู้ชิวเหลิ่งพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ถึงแม้จะเกะกะ แต่ว่ามีอะไรเกะกะ ถึงจะสามารถผ่านอุปสรรคได้เยอะกว่า”
“คุณหนูรองช่างเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ”
เสียงปรบมือที่ไม่รู้ดังมาจากไหน กู้ชิวเหลิ่งหันกลับไป ก็เห็นชุดสีเขียวทั้งตัว สวมเสื้อนอกสีดำ ระหว่างคำพูดนั้นก็เย็นชาเล็กน้อย คือท่านอ๋องรองอวี่เหวินเจี๋ยอย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่เพียงแค่อวี่เหวินเจี๋ย ข้างหลังยังมีอวี่เหวินหวายตามมาอย่างหน้าเหม็น
สีหน้าของกู้ชิงเหลิ่งเย็นชาลงทันที ค่อยๆถอยไปอยู่ข้างๆกู้ชิงถางอย่างเงียบๆ โค้งคำนับอย่างมารยาท “ข้าน้อยกู้ชิงเหลิ่ง คำนับท่านอ๋องรอง ท่านอ๋องหก”
อวี่เหวินเจี๋ยพยักหน้าเล็กน้อย “ลุกขึ้นเถิด”
“เจ้าค่ะ”
อวี่เหวินหวายขยับตัวเข้าไป น้ำเสียงเสียดสีเล็กน้อย “หญิงสาวฝึกวิชาการต่อสู้? คุณหนูรองช่างทำอย่างไม่รู้จักตรึกตรอง พี่รองกลับยังพูดว่าเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ข้าไม่เห็นจะดูออก จากคุณหนูชาวบ้านที่อ่อนแอคนนั้น มีความชื่นชอบในวิชาการต่อสู้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ครั้งนี้อวี่เหวินเจี๋ยไม่มีความคิดที่จะช่วยกู้ชิวเหลิ่งพูด แต่ยืนอยู่ด้านข้าง ไม่พูดจา
ตลอดมากู้ชิวถางไม่ได้มีความรู้สึกดีต่อคุณชายในราชวงศ์เมืองหลวงสักเท่าไหร่ ตั้งแต่หลังจากที่เขากลับเมืองหลวง ได้ยินข่าวลือมาสองเรื่อง เรื่องหนึ่งได้เห็นกับตา อีกเรื่องหนึ่งได้ยินกับหู ที่เห็นคือฉินจงล่วงเกินเซี่ยชุน ทั้งตัวไร้ความเป็นชาย เหม็นกลิ่นสาบเงินไปทั้งตัว เคยเห็นแล้วก็ทำให้น่ารังเกียจ อีกเรื่องที่ได้ยิน ก็คืออวี่เหวินหวายทำร้ายกู้ชิวเหลิ่ง ลับๆล่อกับกู้ชิวเซียง ในชีวิตกู้ชิวถางเกลียดผู้ชายที่รังแกผู้หญิง นี่ก็ทำให้กู้ชิวถางไม่มีความรู้สึกดีต่ออวี่เหวินหวายอะไรเลย
กู้ชิวถางพูดเสียงเย็นชา “ได้ยินว่าท่านอ๋องหกสิบเก้าแล้ว? ในกองทัพของข้าน้อยมีเด็กผู้ชายอายุสิบห้าเกือบครึ่ง เซ่อเจิ้งหวางฝึกวิชาการสู้รบตั้งแต่เด็ก ส่วนท่านอ๋องรองตอนอายุสิบสามก็เข้าร่วมการรบมาสามปี มีแค่ท่านอ๋องหกที่ไม่เห็นเข้ากองทหาร หรือว่าท่านอ๋องหกเป็นผู้ชาย แต่กลับอ่อนแอกว่าผู้หญิงหรือ?”
“เจ้า!”
อวี่เหวินหวายรู้ดีว่ากู้ชิวถางเพื่อที่จะปกป้องกู้ชิวเหลิ่ง ตอนแรกอยากใช้ฐานะท่านอ๋องแสดงความโมโห แต่พอคิดแล้ว ตอนนี้กู้ชิวถางเป็นคนดังข้างกายฮ่องเต้ และเป็นแม่ทัพคนหนึ่ง และเป็นพี่ชายแท้ๆของกู้ชิวเซียง ก็ถือว่าเห็นแก่กู้ชิวเซียง ก็ต้องไว้หน้าหน่อย
เพราะว่าเรื่องฉาวของอวี่เหวินหวายกับกู้ชิวเซียงครั้งที่แล้วออกมา ระยะนี้อวี่เหวินหวายก็ถูกกักบริเวณไว้ในจวน เรื่องนอกจวนไม่รู้อะไรทั้งสิ้น ถ้าหากไม่ใช่อวี่เหวินเจี๋ยจะพาเขามา เขาไม่มีโอกาสออกจากจวนท่านอ๋องหกแน่นอน
กู้ชิวเหลิ่งพูดอยู่ด้านข้าง “ในเมื่อท่านอ๋องท่านสองมีธุระหาท่านพี่ ข้าน้อยก็ขอตัวก่อน”
อวี่เหวินเจี๋ยที่แต่ไหนแต่ไรมาไม่ค่อยพูดก็พูดขึ้นกะทันหัน พูดว่า “เมื่อครู่ได้ยินว่าคุณหนูรองจะเรียนการต่อสู้ ไม่ทราบว่าฝึกหรือยัง?”
กู้ชิวเหลิ่งส่ายหน้า “ข้าน้อยไม่เคยฝึก”
อวี่เหวินหวายทำเสียงเย็นชา พูดว่า “เช่นนี้ก็ดี ตอนแรกพี่รองพาข้ามา ก็เพียงแค่จะพูดคุยกับแม่ทัพกู้เรื่องลานล่าสัตว์หลังงานเลี้ยงในวัง ตอนนี้แม่ทัพกู้จะสอนวิชาการต่อสู้ให้คุณหนูรอง ข้าก็อยากดูท่วงท่าการฝึกวิชาของคุณหนูรองสักหน่อย”
อยากดูนางขายหน้าชัดๆ
กู้ชิวเหลิ่งหัวเราะเย็นชาในใจ ไม่เคยมีคนสามารถหัวเราะเยาะนางกู้ชิวเหลิ่งได้
เห็นได้ชัดว่าความเกลียดชังที่กู้ชิวถางมีต่ออวี่เหวินหวายก็เพิ่มขึ้นอีก สีใบหน้าก็มีสีหน้าไม่พอใจ ถ้าหากไม่ใช่อวี่เหวินเจี๋ยอยู่ที่นี่ กู้ชิวถางก็ออกคำสั่งไร่แขกตั้งนานแล้ว
กู้ชิวถางกับอวี่เหวินเจี๋ยมีความสัมพันธ์ในค่ายเดียวกันสามปี เพราะฉะนั้นถ้าพูดถึงความสัมพันธ์นั้นก็ไม่ธรรมดา ในจุดนี้อวี่เหวินหวายไม่รู้
อวี่เหวินหวายใช้สายตาท้าทายมองกู้ชิวเหลิ่ง พูดว่า “เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ก็ต้องกลับไปฝึกเย็บปักถักร้อย ไม่คาดหวังว่าเจ้าจะเป็นกุลสตรีอย่างพี่สาวเจ้า เพียงแค่อย่าไปทำลายผู้ชายของบ้านคนอื่นเขา”
กู้ชิวเหลิ่งขมวดคิ้วขึ้น พูดว่า “ท่านอ๋องหอวางใจได้ ถึงข้าน้อยจะทำลายผู้ชายของบ้านคนอื่น ก็ทำลายไม่ถึงตัวท่านอ๋องหกแน่นอน”
“นั่นมันแน่นอน ถึงแม้เจ้าอยากทำลาย ข้าก็ไม่มีวันให้เจ้าทำสำเร็จ!”
อวี่เหวินหวายเหล่เห็นสายตาคู่นั้นของกู้ชิวเหลิ่ง เสมือนสูงขึ้นมาบ้าง เมื่อเทียบกับที่เจอกันครั้งที่แล้ว มิหนำซ้ำบุคลิกในตัวก็ไม่เหมือนเดิมเลยแม้แต่น้อย ถือว่ามีแรงดึงดูดคนมาบ้าง
คิดถึงจุดนี้ อวี่เหวินหวายรีบเคลื่อนสายตาออก ในสมองปรากฏโฉมหน้าดุจภาพวาดของกู้ชิวเซียง ทันใดนั้นก็สดใสขึ้นมาบ้าง แน่นอน เมื่อเทียบกับกู้ชิวเซียง กู้ชิวเหลิ่งเป็นเพียงนางเด็กปากสิ้นกลิ่นน้ำนมคนหนึ่งเท่านั้น ถึงแม้ไม่ใช้ใบ้คนหนึ่ง ก็ไกลจากความงดงามถล่มเมืองเช่นนั้น
กู้ชิวเหลิ่งแค่หัวเราะเล็กน้อย พูดว่า “ในเมื่อท่านอ๋องหกพูดว่าอยากดูข้าน้อยฝึกการต่อสู้ หรือไม่ท่านอ๋องหกขึ้นมาแข่งกับข้าน้อยเสียหน่อย จะได้ดูว่าฝีมือการต่อสู้ของข้าน้อยเป็นอย่างไรบ้าง”
อวี่เหวินหวายอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ชี้ที่ตัวเขาเอง พูดว่า “กู้ชิวเหลิ่ง สมองเจ้าไม่ได้เสียใช่ไหม? เจ้าอยากต่อสู้กับข้า?”
กู้ชิวเหลิ่งพยักหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย อวี่เหวินหวายหัวเราะขึ้นทันที เมื่อก่อนเขาไม่รู้เคยดึงตัวกู้ชิวเหลิ่งขึ้นมาตีตั้งกี่ครั้ง ไม่ต้องพูดถึงว่าถึงแม้เขาจะไม่เคยเรียนการต่อสู้ ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างกู้ชิวเหลิ่ง ก็ต้องสู้ผู้ชายไม่ได้แน่นอน
อวี่เหวินหวายเดินออกมา เดินมาถึงตรงกลางสนามฝึกซ้อม กู้ชิวถางดึงแขนของกู้ชิวเหลิ่งทีหนึ่ง พูดว่า “ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเข้าร่วมทหาร แต่ก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง แค่หลบตัวเป็นหลักก็พอ อย่าให้ตัวเองบาดเจ็บเด็ดขาด”
กู้ชิวเหลิ่งจับมือของกู้ชิวถางที่จับแขนของนางไว้ พูดว่า “ท่านพี่วางใจได้ ถึงแม้อวี่เหวินหวายจะเป็นผู้ชาย แต่ว่าสมองมีจำกัด ควรแพ้ก็ต้องแพ้”
ตั้งแต่เมื่อครู่ กู้ชิวเหลิ่งก็รู้สึกได้ถึงแววตาอันอ่อนโยนจากด้านหลัง แววตานั้นก็คืออวี่เหวินเจี๋ย
ระยะเวลาที่ผ่านมาอวี่เหวินเจี๋ยหายไปจากหน้านางไปช่วงหนึ่ง ญาชิงก็ไม่ได้มาอีก แต่ว่ากู้ชิวเหลิ่งก็ไม่เคยลืมที่จะคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่าง อวี่เหวินเจี๋ยกับกู้ชิวเหลิ่ง แต่ว่านานขนาดนี้แล้ว ยังคงคิดไม่ออกว่าทั้งสองจะมีความสัมพันธ์อะไรกัน