ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 70 บุกเข้าไปตอนกลางคืน
ลำนำยอดหญิงจอมพิษ บทที่ 70 บุกเข้าไปตอนกลางคืน
หลิวเหล่าฮูหยินได้ยินคำพูดนี้ เดิมทีหลับตาอยู่ก็ลืมตาขึ้นมาทันที ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย “อะไร? แต่งกับสาวรับใช้? ยังพาหญิงในหอนางโลมกลับมา?”
กู้ชิวเซียงรู้ว่าหลิวเหล่าฮูหยินรักและเป็นห่วงแม่ของตัวเองฉินเซียงเหลียน แน่นอนว่าต้องรักนางด้วยเป็นธรรมดา ดังนั้นจึงพูดต่อ “สาวใช้คนนั้นตายไปแล้ว แต่ว่าหญิงหอนางโลมคนนั้นไม่รู้เป็นอย่างไร น่าจะเป็นอี๋เหนียงห้าไปแล้ว ท่านแม่ก็ป่วยตั้งแต่ครั้งก่อนที่ท่านพ่อแต่งเมียน้อย ครั้งนี้ก็ไม่รู้จะทนรับได้หรือไม่”
กู้ชิวเซียงยิ่งพูดยิ่งน่าสงสาร เหมือนดั่งพูดไม่หมด พูดว่า “พูดไปแล้วก็น่าโมโห หากไม่ใช่กู้ชิวเหลิ่งยกสาวใช้ข้างกายตัวเองให้ท่านพ่อเอง ท่านพ่อจะไปทำเรื่องเหลือเชื่อเช่นนี้ได้อย่างไร หลายปีนี้ยกเว้นอี๋เหนียงรอง ท่านพ่อก็ไม่ได้รับภรรยาน้อยอีกแล้ว ท่านแม่คิดถึงจุดนี้ คิดถึงสาวใช้คนนั้นตอนนี้เพิ่งจะสิบห้าสิบหก คนข้างนอกจะพูดถึงท่านพ่ออย่างไร? ดังนั้นจึงอยากห้ามปราม แต่ว่าท่านพ่อไม่ฟังแม้แต่น้อย…….ยังตบตีท่านแม่!”
หลิวเหล่าฮูหยินอายุมากแล้ว ฟังถึงตรงนี้ ก็ตัวสั่นไปทั้งร่าง พูดอย่างโมโห “กู้หนานเฉิงคนนี้ ตอนนั้นก็เป็นแค่นักสู้เล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น! ถ้าไม่ใช่ตระกูลฉินของเรา เขาจะไปมีชีวิตที่ดีอย่างตอนนี้ได้อย่างไร กลับกล้าทำเช่นนี้กับลูกสาวข้า! เซียงเหลียนของข้า……เซียงเหลียน!”
มองเห็นในตาของหลิวเหล่าฮูหยินมีคราบน้ำตาเล็กน้อย กู้ชิวเซียงก็รีบช่วยหลิวเหล่าฮูหยินลูบหลัง เมื่อหลิวเหล่าฮูหยินเริ่มสงบลงมาบ้าง ก็พูดว่า “เมื่อครู่เจ้าบอกว่า กู้ชิวเหลิ่ง? ใช่ลูกสาวที่เกิดจากผู้หญิงที่ไม่รู้ที่มาคนนั้นใช่หรือไม่?”
ผู้หญิงที่ไม่รู้ที่มาที่ว่านั้น ก็หมายถึงแม่ของกู้ชิวเหลิ่งหยูจิ่นเหนียง ถึงแม้ว่ากู้ชิวเซียงจะไม่รู้ว่าหยูจิ่นเหนียงเข้ามาในจวนโหวได้อย่างไร แต่ก็ได้ยินฉินเซียงเหลียนพูดถึงผู้หญิงคนนี้หลายครั้ง เป็นนางจิ้งจอกที่ล่าหัวใจของผู้ชาย
กู้ชิวเซียงพยักหน้า พูดว่า “คือนาง”
“ข้าได้ยินว่าหลายปีนี้ชื่อเสียงของนางไม่ดีอย่างมากในเมืองหลวง ยังเป็นใบ้คนหนึ่ง แต่ว่าครั้งที่แล้วที่ไป เห็นเด็กคนหนึ่งหน้าตางาม สีหน้าดูสุขุม ตอนนั้นนึกไม่ออกว่าเป็นใคร ตอนนี้เจ้าพูดแล้ว ต้องเป็นนางแน่นอน”
กู้ชิวเซียงบาดน้ำตา พูดว่า “เซียงเอ๋อร์ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หลังจากที่นางตกน้ำเป็นต้นมา สีหน้าวาจาก็เปลี่ยนไปไม่น้อย ท่านแม่กับเซียงเอ๋อร์เคยสงสัย นางอาจจะไม่ใช่กู้ชิวเหลิ่ง……ถูกใครเปลี่ยนคน? เมื่อก่อนนางอยู่ต่อหน้าคนอื่นไม่เคยพูดจา แต่ว่าหลังจากนั้นก็พูดจากต่อปากต่อคำเก่ง ท่านพ่อแต่งภรรยาน้อยก็ทำขึ้นด้วยมือนางทั้งนั้น”
เดิมทีแล้วหลิวเหล่าฮูหยินก็ไม่พอใจต่อหยูจิ่นเหนียงอยู่แล้ว ดังนั้นลูกที่เกิดจากหยูจิ่นเหนียงก็ยิ่งเกลียดชังอย่างที่สุด ในคำพูดของกู้ชิวเซียงเต็มไปด้วยความน่าสงสาร หลิวเหล่าฮูหยินตบไหล่ของกู้ชิวเซียงเบาๆ พูดว่า “วางใจ รอใกล้ถึงงานเลี้ยงแห่งแคว้นแล้ว เจ้าค่อยกลับไป ข้าก็อยากให้พวกเขาดูหลานสาวของตระกูลฉินของข้า ว่างดงามขนาดไหน ลูกเมียน้อยอย่างนางนั้นไม่มีทางเทียบได้”
กู้ชิวเซียงยิ้ม ยิ่งช่วยหลิวเหล่าฮูหยินนวดขาอย่างเคารพ
หลิวเหล่าฮูหยินเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ พูดว่า “ใช่แล้ว สองวันนี้มัวแต่พาเข้าคุ้นเคยตำหนัก ไม่ได้ให้เจ้าพบกับน้าและน้าสะใภ้ของเจ้า แล้วก็น้องสาวเจ้า พอดีวันนี้น้าและน้าสะใภ้ของเจ้ากลับมาเจียงซี แล้วก็น้องสาวเจ้าก็หายป่วย พรุ่งนี้เจ้าไปดูน้องสาวเจ้าหน่อย”
กู้ชิวเซียงไม่รู้ว่ายังมีน้องสาวอีกคน ตระกูลฉินกับตระกูลกู้ไม่มีไปมาหาสู่อย่างสนิทสนม แค่ได้ยินท่านแม่เคยพูดถึง น้าสะใภ้และน้าของตัวเองมีลูกชายคนหนึ่งลูกสาวคนหนึ่ง หลังจากนั้นนางรู้จักนิสัยของพี่ชายฉินจงจากห้องหญิงสาว สำหรับน้องสาวคนนี้ในใจก็ไม่เคยอยากรู้อยากเห็นมาก่อน
กู้ชิวเซียงพยักหน้าอย่างเรียบร้อย พูดว่า “เพียงแต่ครั้งนี้มาอย่างรีบร้อน ไม่รู้ว่าน้องสาวชอบอะไร ก็ไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรเลย”
หลิวเหล่าฮูหยินพูดอย่างยิ้มแย้ม “เจ้ามีใจก็พอ เพียงแต่น้องสาวของเจ้าร่างกายอ่อนแอ ไม่ได้ต้องการของขวัญมีค่าอะไร เจ้าแค่ไปเยี่ยมนาง พูดคุยเป็นเพื่อนนาง มีน้ำใจก็พอแล้ว”
กู้ชิวเซียงตอบรับทุกอย่าง ตอนนี้นางรู้แล้วว่าทำไมกู้หนานเฉิงไม่เคยลงมือตีหรือด่าตัวเองและแม่เลย บางครั้งถึงแม้ว่าแม่จะทำเรื่องผิด ก็แค่หลับหูหลับตาเท่านั้น ล้วนเป็นเพราะหลิวเหล่าฮูหยิน ขอแค่มีหลิวเหล่าฮูหยินอยู่ นางกับแม่ก็รักษาหน้าตาอยู่อย่างสงบสุข
จนถึงกลางคืน กู้ชิวเหลิ่งก็ไม่ได้รับจดหมายตอบกลับจากอวี้ฉือจ้าน กู้ชิวเหลิ่งก็ไม่ได้ตั้งใจรอ สายลมยามราตรีกำลังพัดอย่างสบาย กู้ชิวเหลิ่งใส่เพียงเสื้อคลุมชั้นใน ถอดกระโปรงนอกออกแล้ว นอนอยู่บนเตียงอย่างขี้เกียจ ภายในห้องเงียบจนได้ยินเสียงหายใจ
ลมจากหน้าจากที่พัดบนหน้านางหยุดลง กู้ชิวเหลิ่งหยิบมีดสั้นที่ซ่อนในแขนเสื้อออกมาอย่างระวังตัว สายตาอันดุดันมองไปที่อวี้ฉือจ้านที่ห่างจากนางไม่กี่นิ้วด้วยความเย็นชา
มือของอวี้ฉือจ้านจับข้อมือกู้ชิวเหลิ่งไว้อย่างรวดเร็ว เรี่ยวแรงหนักจนทำให้กู้ชิวเหลิ่งขยับไม่ได้
“เซ่อเจิ้งหวางชอบเข้าห้องนอนหญิงสาวกลางดึกมากหรือ?”
อวี้ฉือจ้านมุมปากยิ้มและพูดว่า “จะมีหญิงสาวที่นอนแล้วยังถือมีดไว้หรือ?”
มือข้างหนึ่งของกู้ชิวเหลิ่งใช้แรงไม่ได้ อีกมือหนึ่งก็ยื่นฝ่ามือไป จู่โจมที่หัวใจของอวี้ฉือจ้านอย่างไม่ลังเล
นี่คือวิธีที่อวี้ฉือจ้านจัดการกับฝู้จื่อโม่ในวันนี้
อวี้ฉือจ้านหลี่ตาเล็กน้อย ร่างเอียงไปเบาๆ มือข้างหนึ่งจับข้อมือของกู้ชิวเหลิ่งไว้ ดึงตัวกู้ชิวเหลิ่งขึ้นมาจากเตียง หมุนอยู่กลางอากาศรอบหนึ่ง สุดท้ายที่พบว่ากู้ชิวเหลิ่งยืนเท้าเปล่าอยู่บนพื้น มองเขาด้วยสีหน้าปกติ “เซ่อเจิ้งหวางมาเยือนกลางดึก ถ้าหากข้าน้อยตะโกนเสียงดัง เซ่อเจิ้งหวางจะทำอย่างไร?”
“ข้าอวี้ฉือจ้านชีวิตนี้เตะต้องผู้หญิงเพียงคนเดียว ถ้าหากคุณหนูรองตะโกนตอนนี้ ข้าก็ไม่ถือสาที่จะแต่งคุณหนูรองเข้าจวนอ๋อง”
กู้ชิวเหลิ่งสายตาตะลึง เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่าอวี้ฉือจ้านจะตอบเช่นนี้ แต่ว่ากู้ชิวเหลิ่งก็ดึงความคิดกลับมาอย่างรวดเร็ว หัวเราะเบาๆ “เซ่อเจิ้งหวางช่างชอบพูดเล่นเสียจริง ไม่ทราบมือที่จับมือข้าน้อยไว้ จะปล่อยลงมาได้หรือยัง”
พูดไป สายตากู้ชิวเหลิ่งก็มองที่มือของอวี้ฉือจ้านที่จับมือนางไว้ตลอด
อวี้ฉือจ้านค่อยๆคลายแรงที่ข้อมือออก กู้ชิวเหลิ่งดึงมือกลับ พูดว่า “เซ่อเจิ้งหวางมาเยือนยามดึก มีเรื่องอะไรจะพูดกับข้าน้อยกันแน่?”
กู้ชิวเหลิ่งเทน้ำชาให้อวี้ฉือจ้านแก้วหนึ่ง แล้วก็เทให้ตัวเองอีกแก้ว
น้ำเสียงของอวี้ฉือจ้านสุขุม พูดว่า “เอี้ยนซานเหนียงเป็นสายสืบที่ข้าส่งไปอยู่ข้างกายกู้หนานเฉิง”
กู้ชิวเหลิ่งดื่มน้ำชาคำหนึ่ง พูดว่า “ข้ารู้”
“ไม่เพียงแค่เอี้ยนซานเหนียง หญิงสาวในหอเฟิงเยว่ทุกคนต่างก็เป็นคนส่งข่าวกรองที่ฝู้จื่อโม่ฝึกฝนออกมา”
กู้ชิวเหลิ่งขมวดคิ้ว “คิดออกตั้งนานแล้ว อาศัยสาวงามไปสืบค้นข่าวกรอง ก็มีเพียงฝู้จื่อโม่กระมัง”
อวี้ฉือจ้านก็ดื่มน้ำชาไปคำหนึ่ง พูดว่า “เรื่องในวันนี้ เป็นความผิดของฝู้จื่อโม่ ข้าขอโทษเจ้าแทนเขา”