ลำนำยอดหญิงจอมพิษ - บทที่ 98 เซียนพิษเมิ่งจิ่ว
ลำนำยอดหญิงจอมพิษ บทที่ 98 เซียนพิษเมิ่งจิ่ว
กู้ชิวเหลิ่งนอนอยู่ในอ้อมแขนของอวี้ฉือจ้าน รอบๆก็เงียบอยู่เสมอ จนกระทั่งค่อยๆได้ยินเสียงตะโกนของเซียวอวิ๋นเซิง กู้ชิวเหลิ่งจึงค่อยรู้สึกหยุดหงิดเล็กน้อย
“ไม่งั้นข้าเข้าไปดูเดี๋ยวนี้เลย!”
“ข้าก็ไปด้วย!”
หลี่เฉิงเย่ยื่นมือปิดกั้นทางไปของเซียวอวิ๋นเซิงกับกู้ชิวถาง และพูดว่า:”ฮ่องเต้มีราชโองการ เซียวโหวเย๋น้อยและแม่ทัพกู้รออยู่ตรงนี้ได้เท่านั้น และห้ามเข้าไปในพื้นที่ล่าสัตว์แม้แต่ก้าวหนึ่ง!”
หากหลี่เฉิงเย่ไม่ใช่ผู้นำของกองทหารรักษาพระองค์ เซียวอวิ๋นเซิงก็โยนพัดพับในมือใส่บนหัวของหลี่เฉิงเย่แล้ว จากนั้นก็พุ่งเข้าไปในพื้นที่ล่าสัตว์โดยไม่หันหัวเลย แต่หลี่เฉิงเย่กลับมีราชโองการของอวี้ฉือกงอยู่พอดี เขาและกู้ชิวถางในฐานะข้าราชการ ก็ไม่สามารถจะไม่ดูตาม้าตาเรือได้
“ใต้เท้าหลี่ ยังไงท่านกับข้าก็ถือว่ารู้จักกัน ท่านก็ปล่อยให้ข้าเข้าไปเถอะ อีนังหนูกู้ชิวเหลิ่งนั้นอ่อนแอจนลมยังสามารถพัดพาไปได้ นาง……”
จู่ๆกู้ชิวถางก็ออกห่างจากข้างเซียวอวิ๋นเซิง และในขณะนี้เซียวอวิ๋นเซิงก็มองเห็นกู้ชิวเหลิ่งที่อยู่ในอ้อมแขน ของอวี้ฉือจ้าน เดินเมินเซียวอวิ๋นเซิงจรงไปที่กระโจมที่อยู่ไม่ไกลนั้น
กู้ชิวถางวิ่งไปที่ด้านนอกกระโจม กำลังจะเข้าไป ก็ถูกจีเฟิงกั้นทางไปของกู้ชิวถางเอาไว้แล้ว: “แม่ทัพกู้ คุณหนูรองไม่ได้เป็นอะไรมากนัก โปรดรออยู่ด้านนอก ท่านอ๋องของข้ากำลังตามหาคนมารักษาคุณหนูรอง”
“ข้า……”
“เดี๋ยวก่อน! เจ้าให้ข้าเข้าไป! ข้ามียาเม็ดที่ได้มาจากไป๋อู๋เฉิน ไม่ต้องสนว่าเป็นบาดแผลอะไร เจ้าให้นางกินเข้าไปก่อน! ”
จีเฟิงมองดูเซียวอวิ๋นเซิงด้วยสายตาที่ไม่ไยดี และพูดว่า:”เซียวโหวเย๋น้อยไม่ต้องกังวล เมิ่งเซียนเซิงกำลังรักษาให้คุณหนูแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ยาเม็ดของไป๋อู๋เฉิน ก็สามารถช่วยได้”
“เจ้า! ทำไมอวี้ฉือจ้านรักษาบาดแผลให้กู้ชิวเหลิ่งได้ แต่ข้ารักษาบาดแผลให้กู้ชิวเหลิ่งไม่ได้! ”
“เซียวโหวเย๋น้อยระวังคำพูด ท่านอ๋องของข้าต้องการช่วยคน ก็ต้องมีเหตุผลของท่านอ๋องอยู่แล้ว แต่ปกติเซียวโหวเย๋น้อยกับคุณหนูรองก็ไม่ได้มีความเกี่ยวพันอะไรกันอยู่แล้ว ใยวันนี้ถึงได้เอาใส่ใจเรื่องนี้เยี่ยงนี้?”
จีเฟิงก็ไม่กลัวที่จะทำให้เซียวอวิ๋นเซิงขัดใจ อย่างไรก็ตามเจ้านายของเขาก็ชอบกู้ชิวเหลิ่งและอยากให้นางมาเป็นพระชายาอยู่แล้ว และจะไม่ยอมให้คนอื่นมาแย่งอย่างแน่นอน
เซียวอวิ๋นเซิงหมดคำพูด เขาคงบอกกับไอคนไม่สำคัญนี้ไม่ได้สินะว่าระหว่างเขาและกู้ชิวเหลิ่งนั้นมีความสัมพันธ์ไม่น้อยนัก?
เมื่อเปลี่ยนมุมคิด ฐานะของกู้ชิวเหลิ่งนั้นน่าอับอาย เป็นบุตรีของอนุภรรยา ปกติก็แกล้งทำเป็นไม่รู้จักกับเขา หากเขาเอ่ยปากบอกว่าเขากับกู้ชิวเหลิ่งนั้นเป็นเพื่อนสนิทกันในเวลานี้ หากถูกคนที่มีใจคิดไม่ดีพูดออกไป ก็จะกลายเป็นข่าวเล่าข่าวลือในเมืองหลวงแห่งนี้อีก ตอนนี้ชีวิตของกู้ชิวเหลิ่งพึ่งจะดีขึ้นหน่อย จะทำให้นางมีชีวิตที่ไม่ดีเพราะเรื่องนี้อีกไม่ได้เด็ดขาด
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เซียวอวิ๋นเซิงก็วางมือไว้บนไหล่ของกู้ชิวถาง ทำเสียงเชอะไปคำหนึ่ง: “ข้ารู้สึกมาโดยตลอดว่าแม่ทัพกู้นี้เป็นคนที่ใสซื่อ เห็นว่าเขาเป็นห่วงน้องสาวของตัวเองมากเช่นนี้ จึงคิดที่จะอยากออกแรงช่วยด้วย เจ้าอย่าคิดมากละ”
กู้ชิวถางมองดูเซียวอวิ๋นเซิงที่อยู่ข้างหลังอย่างสงสัย เมื่อครู่ตอนได้ยินว่ากู้ชิวเหลิ่งเกิดเรื่องนั้น ปฏิกิริยาของ เซียวโหวเย๋น้อยนี้ดูเหมือนจะใหญ่กว่าเขาสินะ?
อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นเซียวอวิ๋นเซิงยิ้มจางๆใส่เขา เขาก็ห่วงใยกู้ชิวเหลิ่งจริง และยังสามารถนำยาเม็ดของหมอเทวดาไป๋อู๋เฉินนำมอบให้กับกู้ชิวเหลิ่งเพื่อเป็นการรักษาบาดแผล กู้ชิวถางก็เพียงแค่ยิ้ม ถือว่าเป็นการเห็นด้วยแล้ว
ภายในกระโจมนั้นมีการจุดเทียนมากกว่ายี่สิบเล่ม เมื่อก่อนอวี้ฉือจ้านไม่เคยชอบไข่มุกเรืองแสงและตะเกียงแก้วมาก่อน แต่ตอนนี้กลับอยากจะนำตะเกียงทั้งหมดที่อยู่ในสมบัติของจวนเซ่อเจิ้งหวางออกมาให้หมด
กู้ชิวเหลิ่งคงเป็นไข้หวัด คนทั้งคนมีเหงื่อเย็นไหล่ออกมาเต็มตัว ใบหน้าอันซีดขาว แม้ว่าจะมีไฟส่องแสงอยู่ ก็รู้สึกเหมือนกับใบหน้าของคนตายเลย
ฝู้จื่อโม่พูดอย่างโกรธว่า:”เมิ่งจิ่ว เจ้าเร็วหน่อยได้หรือไม่?”
“เร่งเร่งเร่ง! เร่งอะไรกัน! เจ้ามองดูดีๆ นี้เป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย! ไม่ว่าจะชายหรือหญิง เจ้าก็ต้องให้ข้าสัมผัสโดนนางถึงจะช่วยนางรักษาบาดแผลได้ แต่เจ้าดู เจ้าดูเขา! จับมือของข้าไว้ ข้าจะจับโดนนางได้อย่างไร! ”
เมิ่งจิ่วอายุยี่สิบกว่าๆ รูปลักษณ์หน้าตาก็ถือว่าหล่อเหล้าดี แต่ชายหนุ่มมีผมที่ขาว ทำให้คนรู้สึกดูแก่ไปหน่อย
เขากำลังจ้องมองมือที่ถูกอวี้ฉือจ้านจับไว้อยู่นั้นอย่างโหด
ฝู้จื่อโม่ไม่รู้จะพูดไรดี ทำได้เพียงพูดกับอวี้ฉือจ้านว่า: “จ้าน เจ้าดึงเมิ่งจิ่วไว้ เขาจะรักษาบาดแผลให้กู้ชิวเหลิ่งได้อย่างไร?”
“ไม่แตะต้อง ก็ทำการรักษาแผลมิได้แล้วรึ?”
ในระหว่างการสนทนา จู่ๆมือของอวี้ฉือจ้านกำแน่นขึ้น เมิ่งจิ่วเจ็บจนหน้าตาบิดเบี้ยวไปหมด และเกือบล้มลงบนพื้น
“ไม่แตะ! ไม่แตะก็ไม่แตะ! เจ้าปล่อยข้าก่อน! หากช้าไปกว่านี้ผู้หญิงคนนี้จะตายจริงแน่! ”
อวี้ฉือจ้านปล่อยมือแล้วจริงด้วย แต่เหลือบมองเมิ่งจิ่ว อย่างเย็นชา: “จำไว้ หญิงชายมิควรถูกเนื้อต้องตัวกัน สิ่งที่ไม่ควรดู ก็ต้องหลับตา มิฉะนั้น……”
“ได้! ข้าไม่ดู! ”
เมิ่งจิ่วปิดตาตัวเอง มีเข็มเงินสามอันบินออกมาจากในมือ จ่อลงบนข้อมือของกู้ชิวเหลิ่งด้วยความแม่นยำ
หลังจากนั้นไม่นาน ทันทีที่เก็บเข็มเงินเสร็จ เมิ่งจิ่วก็ปรบมือและพูดว่า:”สภาพรางกายของผู้หญิงคนนี้ไม่เลวนัก โชคก็ดี เกือบอีกนิดหนึ่งก็จะทำลายโดนอวัยวะภายในแล้ว ตอนนี้ยังสามารถช่วยได้อยู่!”
เมิ่งจิ่วหยิบแมงป่องพิษสีดำออกจากกระถางดำ ฝู้จื่อโม่เฉยๆกับมันแล้ว ในใจก็คิดที่อยากจะรีบทำเรื่องให้เสร็จเร็ว ตอนนี้ค่ำแล้ว เขาก็เร่งรีบที่จะกลับไปนอนแล้ว
ในขณะที่แมงป่องพิษกำลังจะเข้าใกล้ไหล่ของกู้ชิวเหลิ่ง อวี้ฉือจ้านก็พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า: “ช้าก่อน”
เมิ่งจิ่วปิดตาไว้ หดมือกลับเพราะประโยคนี้ และถามอย่างใจร้อนว่า:”อะไรอีกแล้ว!”
อวี้ฉือจ้านขนคิ้ว เมื่อก่อนตอนเห็นเมิ่งจิ่วเอาแมงป่องพิษนี้ช่วยคนเขาก็ไม่รู้อะไร แต่วันนี้กลับดูยังไงก็รู้สึกว่าแมงป่องตัวนี้น่าขยะแขยงและขวางตายิ่งนัก ดังนั้นให้แมงป่องตัวนี้ต่อยกู้ชิวเหลิ่ง ในใจของเขามักรู้สึกอึดอัดอยู่เสมอ
“เซ่อเจิ้งหวาง ท่านอ๋อง ท่านจะทำอะไรกันแน่?”
ตัวของเมิ่งจิ่วแข็งทื่อ โดยไม่รู้ว่าควรปล่อยให้แมงป่องตัวนี้ต่อยไหล่ซ้ายของกู้ชิวเหลิ่งหรือไม่
“เมื่อครู่เซียวอวิ๋นเซิงพูดอยู่ข้างนอกว่ามียาเม็ดของไป๋อู๋เฉินใช่หรือไม่?ให้เขาเอาเข้ามา”
ทันใดนั้นเมิ่งจิ่วก็แกะผ้าที่ปิดตาออก: “อวี้ฉือจ้าน! เจ้าคิดว่าข้ารังแกง่ายนักรึ! เจ้ายอมใช้ยาเม็ดของไป๋อู๋เฉิน ก็ไม่เชื่อแมงป่องพิษของข้า!”
อวี้ฉือจ้านหน้ามืดครึ้ม: “ต่อให้เป็นใครก็จะใช้ยาเม็ดช่วยชีวิต ก็มีแต่เจ้าเท่านั้นแหละที่ใช้แมงป่องพิษไปต่อยคน”
เมิ่งจิ่วเกือบจะม้วนแขนเสื้อมาต่อสู้แล้ว ก่อนหน้านี้เข้าก็ไม่เคยพูดประโยคนี้นี่นา?
กู้ชิวเหลิ่งฝืนลืมตาขึ้น และพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและอ่อนแอว่า:”อย่าพูดมาก! ”
ในขณะที่เมิ่งจิ่วกำลังตกตะลึงกับประโยคนี้ แมงป่องพิษในมือของเขาก็ถูกกู้ชิวเหลิ่งจับไป กู้ชิวเหลิ่งก็ไม่ดู เพียงแค่นำหางของแมงป่องเข้ามาใกล้แผลของตัวเองอย่างโหด ตามด้วยความเจ็บปวดอันทุรน คนทั้งคนก็เป็นลมไปอีกครั้ง
“พระเจ้าช่วย เอาแมงป่องต่อยตัวเอง เป็นเรื่องที่เห็นได้ยากนัก!”
ไม่รอเมิ่งจิ่วอุทานจบ อวี้ฉือจ้านก็ได้โยนแมงป่องพิษอันล้ำค่าของเขาลงกับพื้น เกือบเอาชีวิตแมงป่องพิษอันล้ำค่าของเขาไป
“เจ้า! อวี้ฉือจ้าน! ข้าจะฆ่าเจ้า! “