ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 106
ตอนที่ 106 ไอดอลในรั้วโรงเรียน
หยวนซ่าวถือบาสอยู่ในมือ แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ไม่สน”
เด็กผู้หญิงที่เพิ่งเจอเมื่อสักครู่ เขาเองก็ไม่ได้มองอย่างละเอียดเท่าไหร่นัก
เพียงแต่กวาดตาไปมองแวบเดียวในขณะที่พูด ก็ถือได้ว่าหน้าตาสะสวยมากทีเดียว แต่เขาก็ไม่มีความคิดเห็นใด ๆจริง ๆ
เพราะกลัวว่าจะถูกผู้หญิงเข้ามาก่อกวนอีก…..
“เอ๊ะ? เพื่อน เรื่องของลู่เสวี่ยนอี้นั้น นายคิดดีแล้วใช่ไหม?”
“ไม่คิด”
“เธอเป็นลูกสาวของรองผู้อำนวยการเลยนะ ฮ่า ถ้านายคบกับเธอ หลังเรียนจบ นายอาจจะได้ทุนการศึกษาไปเรียนต่อที่อเมริกาเลยก็ได้นะ”
“ไม่สน ครอบครัวฉันก็ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินทองนิ”
“ก็จริง ฮาย …… แต่ได้ยินมาว่าสองสามวันมานี้ลู่เสวี่ยนอี้จะขึ้นทำการแสดงในวันปฐมนิเทศด้วยนะ ……. ไม่รู้ว่าตอนนั้นจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้ไหม? ถึงอย่างไรในสองวันมานี้เธอก็ถูกพี่สาวแสนสวยที่เพิ่งมาใหม่คนนั้นดึงดูดความโดดเด่นไปไม่ใช่น้อยเลยนะ”
“ผู้หญิงอ่านะ ยุ่งยากชะมัด”
หยวนซ่าวไม่ได้สนใจแต่อย่างใด และก็ไม่คิดอะไรมากด้วย นอกจากเดินไปกินข้าวพร้อมกับเพื่อนๆของเขา
หวาเหวินเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะกลายเป็นเน็ตไอดอลไปได้ เธอดังฮอตฮิตมากด้วย
ถึงแม้ว่าเธอจะบดบังใบหน้าไว้ เห็นเป็นภาพที่ดูเลือนรางแล้วก็ตาม
แต่ก็ยังถูกคนจับมาเป็นประเด็นพาดหัวข่าวใหม่ได้ทุกวัน
บางหัวข่าวก็เกินไปจริง ๆ ——
เทพธิดาที่น่าตะลึงของมหาวิทยาลัยหมินจู เป็นคนสำรวมไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก
นางฟ้าตกสวรรค์ ทำให้มหาวิทยาลัยหมินจูเดือนพล่านไม่น้อย
โพสเหล่านี้ได้แพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมีคนไปคอมเม้นเยาะเย้นด้านล่าง
——พี่สาวแสนสวยคนนั้นสวยมาก ฉันเห็นเธอแค่แวบเดียว ก็นึกชื่อเด็ก ๆ ในอนาคตได้เลยละ
หวาเหวินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข่าวเหล่านี้ ด้วยความตลกขบขันเท่านั้น
แต่มีคนที่อิจฉาเธอมากอยู่จริง ๆ
สำนักงานใหญ่ของตระกูลเจียง
ในขณะที่เจียงหยู่กำลังกินมื้อกลางวันอยู่นั้น ก็ได้ยินโต๊ะข้างๆเริ่มถกประเด็นกันขึ้นมา
“พวกเธอรู้ไหม? มีผู้หญิงคนหนึ่งมีชื่อเสียงมากในมหาวิทยาลัยหมินจูด้วยแหละ”
“ใช่เหรอ? ได้ยินมาว่าเธอสวยเหมือนนางฟ้า จนกลายเป็นที่ฮือฮาทั่วทั้งมหาวิทยาลัย มีแฟนคลับตามเป็นขบวนเลยแหละ และได้ยินมาว่ามีแมวมองจำนวนไม่น้อยต่างไปตามหาเธอที่นั้นด้วยนะ”
“แต่ได้ยินมาว่า ไม่มีภาพหลุดออกมาสักรูปเลย หรือว่ากำลังอยู่ในช่วงโปรโมทกันอ่า?”
“เป็นไปได้นะ ตอนนี้ก็กลายเป็นเน็ตไอดอลแล้ว เพื่อความดังทำได้ทุกอย่างแหละ สร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเอง น่ารังเกียจจะตายไป”
เจียงหยู่นั่งฟังด้วยความกลัดกลุ้มใจอยู่ด้านข้าง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่อง
และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ดูจากใบหน้าด้านข้างแล้ว ก็รู้ได้ในทันทีว่าเป็นภรรยาที่ไร้ความกังวลใจของเขาจริง ๆ
เจียงหยู่เจ็บปวดใจมากจริง ๆ ……..
ดูเหมือนว่าของที่เขาซ่อนเอาไว้อย่างดี จะถูกคนอื่นเข้ามาสอดส่องเสียแล้ว
ดังนั้นเขาจึงรีบส่งวีแชทหาหวาเหวินทันที
เจียงหยู่ : อยู่ไหม?
หวาเหวิน : อื้อ
เจียงหยู่ : เธอกลายเป็นเน็ตไอดอลแล้ว?
หวาเหวิน :…………
เจียงหยู่ : ไม่งั้นเราต้องไปเรียนที่อื่นแล้วแหละ เธออยากเรียนอะไรละ ฉันพาอาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยหมินจูเหล่านั้นมาให้เธอได้นะ เชิญมาสอนส่วนตัวให้กับเธอ
หวาเหวิน : นายเครียดมากเกินไปรึเปล่า? ก็แค่มาเรียนเท่านั้นเอง
เจียงหยู่ : แต่ฉันกลัวว่าเธอจะเป็นจุดสนใจจนรบกวนเธอมากเกินไปนะสิ
หวาเหวิน : ฉันรู้ว่านายเป็นห่วง แต่ฉันโตแล้วนะ ไม่ช้าก็เร็วฉันก็ต้องเผชิญหน้าด้วยตัวเอง แก้ไขด้วยตัวเองอยู่ดี
เจียงหยู่ : ก็ได้
ถึงจะมีคนเจ็บปวดใจ แต่ความสัมพันธ์ในตอนนี้ ก็ยังไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้อย่างเต็มที่
หากพูดลึกกว่านี้ เธอก็คงจะไม่สบายใจ และอาจจะย้ายกลับไปยังภูเขาจงชุ่ยในทันทีเลยก็ได้
บางทีอาจจะเป็นเพราะรู้สึกได้ว่าเจียงหยู่ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
หวาเหวินจึงเสริมขึ้นอีกครั้งว่า “ขอบคุณสำหรับโทรศัพท์นะ พิกเซลดีมากเลย วันนี้ฉันถ่ายรูปภาพในสวนของมหาวิทยาลัยมาตั้งเยอะแยะ”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ เจียงหยู่ก็รู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อยจริง ๆ
เลยตอบหวาเหวินไปว่า “เธอชอบก็ดีแล้ว”
หลังจากที่กินข้าวง่ายๆข้างนอกเสร็จแล้ว หวาเหวินก็กลับมายังห้องเรียน
แล้วก็เห็นผู้ชายใส่ชุดสูทสี่คนยืนอยู่ข้างหน้าห้อง
“นักเรียน พวกเราเป็นบริษัทนายหน้า อยากจะเชิญคุณไปเทสหน้ากล้องสักหน่อยครับ”
“คุณสนใจที่จะไปเป็นพิธีกรบ้างไหม? พวกเรารับรองเลยว่าคุณจะได้รับเงินตอบแทนเป็นล้านกลับเข้ามาในทุกปีอย่างแน่นอน”
“คนสวย สนใจเป็นพรีเซ็นเตอร์เครื่องสำอางกับพวกเราไหมคะ? ค่าโฆษณาน่าสนมากทีเดียวนะ”
หวาเหวินถูกคนเหล่านี้ขวางทางไว้ และก็บังเอิญว่าถูกพวกของหยวนซ่าวชนเข้าให้อีกครั้ง
“ดูเหมือนเธอจะดังมากแล้วนะ” ในตอนที่หยวนซ่าวพูดประโยคนี้ เขาได้เผยรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมาด้วย ถึงอย่างไรก็มีผู้หญิงส่วนน้อยที่จะสามารถต้านทานสิ่งยั่วยวนใจนี้ได้