ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 117
ตอนที่ 117 โต้กลับ
เดิมทีเจียงหยู่เองก็มีความสนใจงานเลี้ยงปฐมนิเทศในครั้งนี้ของหวาเหวินอยู่แล้ว
หลังจากที่เห็นถ่ายทอดสดปรากฏขึ้นมาบนหน้าฟีดข่าว เขาก็กดเข้าไปชมการถ่ายทอดสดนั้นทันที
แซ่จื๋อจ้วนได้ยินจากคนอื่น ๆ ว่าหวาเหวินได้เข้าร่วมการแสดง เข้ารีบเข้าไปดูโดยไม่พูดอะไรทันที
หลังจากนั้นก็เริ่มแสดงความชื่นชมอย่างบ้าคลั่ง โดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนถ่ายทอดสดนี้
คนที่ถ่ายทอดสดในครั้งนี้คือนักศึกษาชายที่รับตำแหน่งรองประธานนักศึกษาคนหนึ่ง
ความจริงแล้วในตอนแรกนั้นเขาถ่ายทอดสดออกไปด้วยความสนใจเท่านั้น แต่นึกไม่ถึงว่าการถ่ายทอดสดในครั้งนี้จะดึงดูดผู้คนทั่วราชอาณาจักรเข้ามาชื่นชมได้มากขนาดนี้
ตั้งแต่เขาเริ่มถ่ายทอดสด ก็มีสติ๊กเกอร์รูปหัวใจส่งเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน
จนกระทั่งมีคอมเม้นปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอว่า —— ฝากส่งให้นางฟ้าเสี่ยวเหวินหน่อย
แซ่จื๋อจ้วนได้ใช้นามแฝงในการถ่ายทอดสดครั้งนี้ว่า —— นักท่องเที่ยว 1987
ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร?
แต่ก็พอจะดูออกได้ ว่าเป็นแฟนคลับของนางฟ้าน้อยคนนี้ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางคลั่งไคล้ขนาดนี้หรอก
หวาเหวินได้ร่วมบรรเลงบทเพลง Vanessa’s smile กับลู่เสวี่ยนอี้
เธอเล่นเปียโนได้อย่างสง่างามผ่าเผย หลังจากเล่นจบ ต่างก็มีเสียงปรบมือดังระงมไปทั่วทั้งงาน
ไม่ทันรอให้ลู่เสวี่ยนอี้พูดขึ้นแต่อย่างใด หวาเหวินก็คว้าไมโครโฟน แล้วหันไปเผชิญหน้ากับแขกนับพันเบื้องหน้า
“ดิฉันมีความปรารถนาอันยิ่งยวด ในเมื่อวันนี้ทุกคนต่างก็รู้สึกตื่นเต้นกันมากมายขนาดนี้แล้ว ดิฉันก็เลยอยากจะขอร่วมเล่นเปียโนกับลู่เสวี่ยนอี้อีกสักหนึ่งบทเพลงนะคะ นั้นก็คือ Ghost Fire ของอาจารย์ Liszt ไม่รู้ว่าเธอจะยอมร่วมเล่นด้วยรึเปล่า?”
ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างต่างพากันกระโดดโลดเต้นพร้อมทั้งตะโกนเสียงดังออกไปว่า : ยอมสิ เหล่านางฟ้าสู้ ๆ พวกเธองดงามมาก
ลู่เสวี่ยนอี้ย่อมไม่กลัวความครึกครื้นเหล่านี้แน่นอน แต่เมื่อเธอฟังจบ ก็ถึงกับจะเป็นลมในทันที
เหตุผลง่าย ๆ เลยก็คือ บทเพลง Ghost Fire ของอาจารย์ Liszt เพลงนี้ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสิบของโน้ตเพลงเปียโนที่ยากที่สุดในโลก
จังหวะที่ค่อนข้างเร็ว เสียงที่ค่อนข้างพิเศษ อีกทั้งแนวเพลงก็ยังแปลกประหลาดมากด้วย
มีไม่กี่คนที่พยายามที่จะเล่นบทเพลงนี้ให้จบอย่างสมบูรณ์
ขนาดนักเปียโนมืออาชีพ ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการเล่นบทเพลงนี้แต่อย่างใด
เดิมทีลู่เสวี่ยนอี้ตั้งใจจะสร้างความลำบากใจให้แก่หวาเหวิน นึกไม่ถึงว่ากลับทำไม่สำเร็จ แต่กลับกลายเป็นโดนพลิกเกมส์เสียเอง
ลู่เสวี่ยนอี้ที่อยู่บนเวที ต่างแสดงสีหน้าแห่งความพ่ายแพ้ออกมาอย่างชัดเจน
“เพื่อนลู่เสวี่ยนอี้ ยากไปเหรอ? ถ้ายากไป เธอเลือกเพลงอื่นก็ได้นะ ฉันเล่นเป็นเพื่อนเธอได้” หวาเหวินยิ้มน้อย ๆ
คำพูดนี้เป็นคำพูดเมื่อสักครู่ที่ลู่เสวี่ยนอี้ต้องการพูดให้หวาเหวินเกิดความอับอาย
แต่หลังจากผ่านไป 5 นาที กลับกลายเป็นว่าเอาหินขนาดใหญ่ทุบเท้าของตัวเองเสียอย่างนั้น
เธอเป็นถึงดาวมหาวิทยาลัย นักศึกษามากมายที่อยู่ล่างเวทีต่างมองเธอเป็นไอดอลในฝันทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นพี่รุ่นน้องที่เข้ามาใหม่
เธอจะไปพูดว่าตัวเองเล่นไม่เป็นได้ยังไงกันละ?
ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่ตอบกลับไปเสียงแข็งว่า “ได้สิ”
“ดี งั้นเรามาเริ่มกันเถอะ”
หยวนซ่าวที่นั่งอยู่ในแถวที่สองล่างเวที ก็ได้ยกมือขึ้นมาลูบคางเล็กน้อย พร้อมกับเผยรอยยิ้มอย่างลึกซึ้งออกมา
“หยวนฟาง ครั้งนี้นายจะว่าไง?” เหล่าเพื่อนได้ถามหยวนซ่าวอีกครั้ง
“นางฟ้าคนนี้ไม่ธรรมดา…… ลู่เสวี่ยนอี้ดันย้ายก้อนหินที่หนักอึ้งนั้นมาทุบบนเท้าของตัวเองแล้ว จึงทำได้เพียงแค่พูดว่าสมน้ำหน้า……..แต่ ……….. ฉันกลับคาดหวัง อยากจะฟังเพลง Ghost Fire หนึ่งในบทเพลงเปียโนที่ยากที่สุดในโลกแล้วสิ” หยวนซ่าวรู้สึกว่าเสี่ยวเหวินน่าสนใจขึ้นมาสักแล้ว
เมื่อเห็นท่าทางซื่อ ๆ ใสๆแบบนี้
นึกว่าจะถูกรังแกได้ง่ายๆ แต่ความจริงนั้น?
กลับฆ่าคนเหล่านั้นให้แหลกคามือโดยไม่ออกเสียงแต่อย่างใด
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า ลู่เสวี่ยนอี้เล่นเพลงของLiszt ไม่ได้อย่างแน่นอน
เธอเล่นได้แต่เพลงที่มีจังหวะทำนองช้า ๆของริชาร์ด เคลย์เดอร์มองเท่านั้น ขืนยากไปกว่านี้ ยังไงก็ไม่มีทางเล่นได้อย่างแน่นอน
เจียงหยู่ที่นั่งอยู่ในห้องทำงาน ก็ขี้เกียจจะตรวจเช็คเอกสารอีกแต่อย่างใด
เขามองใบหน้าที่แสดงออกมาเป็นครั้งแรกของหวาเหวินด้วยความเคลิบเคลิ้ม นั้นคือใบหน้าที่เผชิญหน้ากับดาวมหาวิทยาลัยคนนี้เมื่อสักครู่
ท่าทางที่แข็งกร้าวนั้น และก็ท่าทางที่ต้องการแก้แค้นอย่างชั่วร้ายนั้น มันช่างน่ารักมากจริง ๆ
แซ่จื๋อจ้วนเองก็เข้าใจบทเพลงนี้ เขาจึงอดที่จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้
จากนั้นก็ทำการส่งสติ๊กเกอร์ออกไปอีกครั้ง และยังคอมเม้นด่าทอในการถ่ายทอดสดอีกว่า —— ลู่เสวี่ยนอี้เป็นขยะ นางฟ้าตัวน้อยยอดเยี่ยมไปเลย