ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 127
ตอนที่ 127 จริยธรรมในการลักพาตัว
“เรื่องที่สอง แต่ปรากฏว่าห้องของพวกเราชนะเลิศมาอย่างไม่น่าเชื่อ นี่เป็นเรื่องที่อาจารย์เองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน”
เมื่อพูดประโยคนี้จบลง ทุกคนต่างก็พากันอ้าปากตาค้าง ชนะเลิศหมายความว่ายังไง? หรือว่าจะได้คะแนนเต็ม? เรื่องนี้…….ไม่น่าจะเป็นไปได้
“อาจารย์ ไม่ได้ดูผิดใช่ไหมครับ? อาจารย์แน่ใจใช่ไหมว่าเราชนะเลิศจริง ๆ ?” นักศึกษาชายแถวหน้าแสดงสีหน้าไม่เชื่อออกมาอย่างเห็นได้ชัด
อาจารย์กวาดตามองไปทางเขาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า “อาจารย์แน่ใจ ไม่เพียงแค่นี้นะ จากที่ผอ.มหาวิทยาลัยได้พูดไว้แล้ว นักศึกษาที่มีคะแนนมากที่สุดในครั้งนี้จะได้รับเงินรางวัลเป็นจำนวน 20,000 หยวน”
เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนต่างก็พากันฮือฮาขึ้นมาในทันที 20,000 หยวน สำหรับนักศึกษาแล้ว มันมหาศาลมากจริง ๆ
หวาเหวินยังคงก้มหน้าควงปากกาอยู่ในมือด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดยไม่ได้สนใจฟังที่อาจารย์พูดแต่อย่างใด
“อาจารย์คะ ผู้ที่ชนะเลิศน่าจะเป็นอวู๋ผิงแน่เลย เพราะเธอเก่งที่สุดในนี้แล้ว คะแนนก็ดีมาโดยตลอด” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น
ในตอนนั้นเองนักศึกษาคนอื่น ๆต่างก็ทยอยกันพูดขึ้นมา
นักศึกษาหญิงที่ชื่อว่าอวู๋ผิงมาจากเขตภูเขาที่ห่างไกล ว่ากันว่าบ้านของเธอนั้นลำบากมาก
พ่อของเธอป่วยนอนติดเตียง ส่วนแม่ของเธอนั้นก็อาศัยสมุนไพรบนภูเขาบางส่วนมาดำเนินชีวิต
อวู๋ผิงมีน้องชายหนึ่งคน น้องสาวหนึ่งคน ที่ยังเล็กอยู่
เธอเป็นนักศึกษาเพียงคนเดียวของหมู่บ้าน หรือพูดได้ว่าเป็นนักศึกษาที่แสนยากจนเพียงคนเดียว
ในตอนที่เธอสอบเข้าที่นี่ เธอได้ให้สัมภาษณ์ทางทีวี ดังนั้นจึงสร้างความตื่นตกใจให้กับเมืองและมหาวิทยาลัยอย่างมาก
ผอ.ไม่เพียงแต่จะให้เธอเรียนฟรีแล้วเท่านั้น ยังให้เงินใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย
หลังจากนั้นมาไม่ว่าจะสอบอะไร เธอก็มักจะได้ที่หนึ่งอยู่เสมอ
ดังนั้นทุกคนเลยคิดว่า ครั้งนี้เธอน่าจะทำได้ดี จนบางทีอาจจะชนะเลิศไปเลยก็ได้
แม้กระทั่งผู้หญิงคนนั้นก็ยังคิดว่าเป็นตัวเองเลย
จนกระทั่ง อาจารย์ได้ประกาศชื่อเพื่อนนักศึกษาที่ชนะเลิศคนนั้นออกมา
“เสี่ยวเหวิน ยินดีด้วย”
ในตอนนั้นเอง เพื่อนร่วมห้องต่างพากันตกตะลึงไปตาม ๆกัน นักศึกษาที่ชนะเลิศคนนั้นคือนักศึกษาที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่นั้นอ่านะ?
พระเจ้า หน้าตาก็สวยทีหนึ่งแล้ว ยังจะเรียนเก่งอีก นี่ตั้งใจจะฆ่ากันให้ตายเลยใช่ไหม?
ท่ามกลางสภาวะตกตะลึงของทุกคน หวาเหวินก็ได้ลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ
“เสี่ยวเหวิน ฉันเห็นข้อสอบของเธอแล้วนะ ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ดูมีความเชี่ยวชาญอย่างมาก ภาษาอังกฤษก็ดี อาจารย์คนอื่น ๆ ต่างก็พากันชื่นชมเธอ สิ่งที่ทำให้อาจารย์ตกใจมากที่สุดก็คือคะแนนของทฤษฎีทางการเมืองของเธอ วิชานี้ยากมาก เพราะคำตอบมันไม่มีกฎตายตัว ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งด้วยตัวเอง ทฤษฎีของเธอค่อนข้างโดดเด่นพิเศษมาก จนสร้างความตกตะลึงให้กับผอ.ไม่น้อย”
“น่าจะเป็นความโชคดีมั้งคะ” หวาเหวินไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
เพราะตอนที่เธอลงสนามสอบในครั้งนี้ เวลาเธอเห็นหัวข้ออะไรก็ตอบ ๆ ไปเท่านั้น ไม่ได้คิดอะไรให้มากมายแต่อย่างใด
ใครจะไปรู้ว่า ว่าการสอบครั้งแรกของเธอ จะนำมาซึ่งคะแนนนำโด่งขนาดนี้ นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“เงินรางวัล 20,000 หยวน เธอค่อยไปรับจากผอ. หลังเลิกเรียนก็แล้วกันนะ”
“คะ อาจารย์” ภายในใจของหวาเหวินไม่ได้แสดงออกถึงความยินดีมากมายแต่อย่างใด
ตั้งแต่เล็กจนโตเธอก็รู้ว่าตัวเองนั้นเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์มาตลอด
หรือพูดง่าย ๆ ว่า คนอื่น ต้องใช้เวลาเรียน 3- 5 ปี ถึงจะเป็น แต่เธอสามารถเรียนแค่เพียง 10 วัน หรือประมาณครึ่งเดือนก็เป็นหมดทุกอย่างแล้ว
ดังนั้นคะแนนในครั้งนี้ เธอเองก็ไม่ได้เกินความคาดหมายแต่อย่างใด
แต่เพื่อนร่วมห้องคนอื่น ๆ กลับมองอย่างงุนงง………….
เด็กผู้หญิงที่ชื่อว่าอวู๋ผิงคนนั้น ก็รู้สึกผิดหวังอย่างมาก หลังจากที่ประกาศผลออกมา
เพราะเธอคิดว่าเป็นตัวเองมาโดยตลอด และกำลังคิดว่า ถ้าได้เงินรางวัล 20,000 หยวนนี้
เธอจะกลับไปซ่อมแซมบ้านที่เก่าผุพังในช่วงฤดูหนาวให้กับพ่อและแม่ แต่………
หลังจากเลิกเรียน หวาเหวินก็ทำตามคำแนะนำ ด้วยการไปรับเงินรางวัล
นึกไม่ถึงว่าหลังจากที่เลิกเรียนแล้ว จะถูกนักศึกษาหญิงคนอื่น ๆ ยืนปิดทางกันอยู่หน้าประตูห้อง
“รางวัลเหล่านี้ต้องเป็นของอวู๋ผิง คืนให้เธอเถอะ” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยความก้าวร้าว
หวาเหวินกวาดตามองไปทางใบหน้าของคนเหล่านี้ด้วยสายตาเย็นชา
“ทุกคนเป็นเพื่อนร่วมห้องกัน ฉันว่าเธอควรใจดีนะ ตอนเธอยังไม่มาอวู๋ผิงก็สอบได้ที่หนึ่งมาโดยตลอด เงินจำนวนนี้ควรเป็นของหล่อน อีกอย่างหล่อนเองก็จำเป็นต้องใช้เงินนี้ด้วย เธอเป็นเมียน้อยของคนอื่น นั่งรถหรูคันเป็นแสน คงไม่ติดขัดเรื่องเงินหรอกมั้ง?” ผู้หญิงอีกคนก็ได้พูดโอเวอร์ขึ้นมา
หวาเหวินขมวดคิ้ว “นี่คิดจะเรียกค่าไถด้วยคำว่าจริยธรรมเหรอ?”