ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 128
ตอนที่ 128 เทพธิดาแสดงอิทธิฤทธิ์
หวาเหวินเองก็นึกไม่ว่าจะมีเรื่องแบบนี้ด้วย ?
เธอมองไม่เห็นความดีของผู้หญิงเหล่านี้เลย
ช่วยให้เพื่อนร่วมห้องคนนั้นได้รับทุนการศึกษา เพื่อยกระดับด้านคุณธรรมของตัวเองเหรอ?
ในตอนนั้นเอง ผู้หญิงที่ชื่อว่าอวู๋ผิงคนนั้นก็เดินเข้ามา
เธอแต่งตัวเรียบง่าย ใส่แค่เพียงกางเกงยีนส์สีเข้มที่มีรอยขาดเล็กน้อยกับเสื้อเชิ้ตสีดำเท่านั้น
แต่เรื่องที่บังเอิญกว่านั้นก็คือ วันนี้หวาเหวินเองก็สวมใส่กางเกงยีนส์สีฟ้าและเสื้อเชิ้ตสีดำมาด้วยเช่นเดียวกัน
เพียงแต่ความรู้สึกมันแตกต่างกัน
เรื่องหน้าตาและความมีออร่าของหวาเหวินนั้นไม่ต้องพูดถึง
ส่วนอวู๋ผิงนั้น เธอมีผิวกายที่หมองคล้ำเล็กน้อย ดวงตาเล็ก สันจมูกก็แสนจะธรรมดา
ขนาดคนธรรมดาทั่วไปเธอก็ยังสู้ไม่ได้
“เพื่อน ๆ พวกเธออย่าไปสร้างความลำบากใจให้กับเสี่ยวเหวินเลยนะ เงินจำนวนนี้มันไม่ใช่ของฉันอยู่แล้ว คะแนนของหล่อนก็ดีกว่าฉัน นี่สิคือความจริง ฉันศรัทธาในตัวของหล่อนนะ พวกเธอก็น่าจะไม่รู้ว่าหล่อนต้องจ่ายเงินเท่าไหร่เพื่อแลกกับคะแนนนี้ ดังนั้นขอร้องละทุกคน”
ในระหว่างที่พูด อวู๋ผิงก็ได้โค้งตัวไปทางทุกคน
หวาเหวินมองไปทางเธอด้วยสายตาเรียบเฉย โดยไม่พูดอะไร
“อวู๋ผิง ทำไมเธอถึงได้แสนดีขนาดนี้เนี่ย หล่อนไม่ได้ครึ่งหนึ่งของเธอเลยนะ เงินนี้เป็นของเธอ หล่อนเป็นนักเรียนที่เพิ่งย้ายเข้ามา เดิมทีหล่อนไม่ต้องเข้าร่วมสนามสอบในครั้งนี้ด้วยซ้ำ แต่หล่อนก็จงใจทำตัวเด่น นี่เรียกว่าไม่ได้ตั้งใจอย่างนั้นเหรอ? ฐานะบ้านเธอก็ไม่ถือว่าดีมาก จำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้นะ”
“ใช่ๆ อวู๋ผิง เจ้าตัวนั่งรถหรูคันเป็นแสนมาเรียน เธอจะไปเปรียบเทียบกับหล่อนทำไม เงินนี้เป็นของเธอ เธอควรที่จะต้องไปเอากลับมา”
ผู้หญิงเหล่านั้นไม่ได้สนใจความรู้สึกของอวู๋ผิงสักนิด
ความอิจฉาทำให้พวกเธอดูอัปลักษณ์มากยิ่งขึ้น
พวกเธออิจฉาตาร้อน ไม่อยากเห็นหวาเหวินได้ดีกว่า
แน่นอนว่าสิ่งที่มากกว่านั้นก็คือพวกเธออิจฉาที่เธอมีพร้อมทุกอย่างมานานแล้ว
นี่คือความน่ากลัวของมนุษย์เรา
หวาเหวินกวาดตามองไปทางผู้หญิงเหล่านั้น “เจ้าตัวยังไม่พูดอะไรเลย พวกเธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ถึงได้มาชี้มือชี้ไม้มาทางฉัน ? ฉันชอบในการเข้าสอบมันก็คืออิสระเสรีของฉัน ฉันสอบแล้วออกมาดี นั้นก็คือความสามารถของฉัน………….เงินจำนวนนี้ก็คือรางวัลสำหรับค่าเล่าเรียน ถ้าพวกเธออยากได้ ก็ไปสอบให้มันได้คะแนนเยอะ ๆ สิ แล้วก็อีกอย่าง……. ที่บอกว่าฉันเป็นเมียน้อยหญิงชู้อะไรนั้น พวกเธอปล่อยข่าวลือเองแบบนี้ไม่กลัวฟ้าผ่าบ้างเหรอ?”
เมื่อผู้หญิงเหล่านั้นถูกด่า ต่างก็พากันอึ้งงันไปในทันที
เพราะจากที่เห็นนิสัยของหวาเหวินก่อนนั้น ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบพูด เลยคิดว่าเป็นคนซื่อ ๆ
ที่ไหนได้เมื่อโพล่งประโยคนี้ออกมา แต่ละคำเหมือนถูกหนามทิ่มแทงใจอย่างไรอย่างนั้น
อีกทั้งยังโต้กลับมาอย่างเจาะจงอีกด้วย
“เธอต้องเป็นเมียน้อยหญิงชู้แน่นอน ไม่อย่างนั้นวัยรุ่นอย่างเธอจะไปเอาปัญญาที่ไหนมาซื้อรถหรูหราแบบนั้นได้? และก็ยังชอบทำตัวดูสูงกว่าคนอื่น ๆ อีกด้วย ……. คนอื่นอาจจะเคยชินกับเธอ แต่พวกเราไม่เคยชินด้วย …………. พวกเรามาเรียน ไม่ได้มาปรนนิบัติตาเฒ่าที่ไหน”
เด็กผู้หญิงที่หน้าดำหน้าแดงคนนั้นได้พูดตะคอกใส่หวาเหวินด้วยความโกรธ
หวาเหวินหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะยกเลนส์กล้องขึ้นมา จากนั้นก็หันไปทางใบหน้าของเด็กผู้หญิงคนนั้น
“เธอดูตัวเองในตอนนี้สิว่าทำไมถึงได้ดูหน้าตาอัปลักษณ์ได้ขนาดนี้? เอาแต่วิจารณ์คนอื่นว่าเป็นเมียน้อยชู้ชาวบ้านอะไรแบบนั้น เธอคิดว่าตัวเองเป็นเชอร์ล็อก โฮมส์เหรอ? ช่างเถอะ ถึงฉันจะมีเสี่ยเลี้ยงดูก็เป็นเพราะฉันหน้าตาดี แต่เธอละ………..เธอคงจะอยากให้คนอื่นเลี้ยงดูเหมือนกัน เพียงแต่หาคนรวยไม่ได้เท่านั้น หน้าตาอัปลักษณ์ก็ทีหนึ่งแล้ว จิตใจยังจะตกต่ำขนาดนี้อีก ……. ฉันละเป็นห่วงเธอจริง ๆ ว่าหลังจากที่ผู้หญิงแบบนี้เข้าไปอยู่ในสังคมข้างนอก ก็คงต้องกลายเป็นป้าแก่ ๆ คนหนึ่ง แน่นอนว่า บางทีอาจจะมีผู้ชายเข้ามาตกหลุมรักเธอก็ได้ แต่คนที่จะตกหลุมรักเธอ อาจจะเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ก็ได้นะ”
เมื่อหวาเหวินพูดประโยคนี้กลับมา ก็ทำให้ทุกคนถึงกับตกตะลึงงันอีกครั้ง
พระเจ้า วิธีการด่าเทพธิดาคนนี้ล้วนแต่ไม่มีคำหยาบผสมเลยสักนิดเดียว
เห็นชัด ๆ ว่าไม่มีคำสกปรกออกมาจากปาก? แต่ทำไมถึงได้รู้สึกว่าเธอด่าแรงแบบนี้ละ
ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกกระหืดกระหอบขึ้นมาทันใด จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาหมายจะตบไปบนหน้าของหวาเหวิน
แต่ยังไม่ทันสัมผัสกับหน้าแต่อย่างใด ก็ถูกหวาเหวินยื่นมือออกไปขวางไว้
เธอจับไปบนแขนของผู้หญิงคนนั้นไว้ พร้อมกับแสดงแววตาแหลมคมราวกับใบมีด “เธอจะเชื่อไหมว่าถ้าเธอกล้าแตะต้องฉันแม้แต่นิดเดียว ฉันจะทำให้เธอล้มละลายสิ้นเนื้อประดาตัวไปในทันที?”
อำนาจพลังนี้ทำให้ทุกคนเกิดความกลัวขึ้นมาในชั่วพริบตาเดียว เพื่อนผู้ชายต่างก็เข้าใจ ที่แท้เทพธิดาคนนี้ก็เป็นคนที่มีพลังอำนาจมากนี่เอง