ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 142
ตอนที่ 142 เอาแต่ใจตัวเองถึงขีดสุด
ตอนที่หวาเหวินเดินออกมานั้น เจียงหยู่ก็รีบเข้าไปประคองในทันที
“ทำไมถึงบอกว่าฉันตั้งท้อง?” เธอพูดขึ้นด้วยใบหน้าเย็นชา
“ฉันพลาดเอง ตอนที่พวกเราเดินเข้ามา ได้ถูกกลุ่มนักข่าวถ่ายเข้าอย่างไม่ทันระวังตัว พวกนั้นเอาไปเขียนมั่ว ๆ ฉันได้ให้บริษัทจัดการเรียบร้อยแล้ว เธอไม่ต้องไปสนใจหรอกนะ”
“เป็นกลุ่มนักข่าวที่นายเชิญมารึเปล่า?”
หวาเหวินกวาดตามองไปทางเจียงหยู่ด้วยความเย็นชา
เจียงหยู่อึ้งงันไป ถามแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?
แต่จะไปโทษหวาเหวินที่คิดมากไม่ได้หรอก เจียงหยู่เป็นคนพาเธอมาโรงพยาบาลนี้เอง อีกทั้งก็ยังดันถูกนักข่าวถ่ายได้ในสถานที่ที่อยู่ห่างไกลคนแบบนี้อีก มันไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอ?
ดังนั้นหวาเหวินเลยคิดว่า เจียงหยู่อาจจะต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง เลยตั้งใจปล่อยระเบิดออกมา
แต่จะให้ใครเห็นกันละ? แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง ถ้าเรื่องนี้เป็นฝีมือของเจียงหยู่ละก็ เธอย่อมไม่โอเคอย่างแน่นอน
เมื่อรู้สึกว่ามีคนใช้ประโยชน์จากตัวเอง ของที่ซื้อมาให้ก่อนหน้านั้น ความเอาใจใส่ของเขา เป็นเพียงแค่ต้องการใช้ประโยชน์จากตัวเองใช่ไหม?
“อาเหวิน เธอมองฉันแบบนี้? ในสายตาของเธอ ฉันเป็นคนแบบนี้เหรอ?”
ต้องบอกว่า ในชั่วพริบตาเดียว เจียงหยู่ก็ได้แสดงสีหน้าผิดหวังออกมา
เขาไม่เข้าใจ เขาปกป้องเธอด้วยใจจริงขนาดนี้ เกลี้ยกล่อมและประคองเธออย่างระมัดระวังขนาดนี้
วินาทีก่อนหน้านั้นเธอยังแสดงท่าทีอ่อนโยนกับเขา ทำไมวินาทีต่อจากนั้นถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้ หรือว่าอารมณ์ความรู้สึกของผู้หญิงล้วนแล้วแต่แปรเปลี่ยนซับซ้อนไปมาแบบนี้?
“นายเป็นคนแบบไหนฉันเองก็ไม่แน่ใจ แต่ฉันไม่เข้าใจนายเลย ความสงสัยจึงเป็นเรื่องที่ปกติมาก” หวาเหวินพูดออกมาอย่างมีเหตุผล
เจียงหยู่แสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย “เอาเถอะ เธอเองก็มีเหตุผลของเธอ แต่นักข่าวพวกนั้นไม่เกี่ยวกับฉัน เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของฉัน”
หวาเหวินไม่ส่งเสียงใด ๆ ออกมา นอกจากเชิดหน้า แล้วเดินอย่างโอ้อวดไปข้างหน้า ไม่ให้เจียงหยู่ประคองแต่อย่างใด
เพราะเรื่องนี้ ทำให้ทั้งสองรู้สึกไม่มีความสุขกัน
ระหว่างทางกลับบ้านนั้น หวาเหวินก็ไม่ได้พูดคำใดออกมา ทำได้เพียงแค่หลับตาทั้งสองข้างแสร้งว่าหลับเท่านั้น
เมื่อกลับมาถึงบ้าน หวาเหวินก็ขึ้นไปข้างบนแล้วล็อคประตูทันที
สีหน้าของเจียงหยู่ไม่สู้ดีนัก เขาลงมาข้างล่างและขับรถออกไป
ชุนเถาและหยินซิ่งได้เตรียมซุปบำรุงให้แก่หวาเหวินอยู่ในครัว
หลังจากนั้นก็ถามขึ้นด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “ฉันว่าคุณหนูดูเหมือนจะโกรธคุณผู้ชายเข้าแล้วละ หลังจากที่ทั้งสองคนกลับมาถึงได้ดูแปลก ๆ ไป”
“น่าจะใช่ ช่างเถอะ สามีภรรยาทะเลาะกันบนหัวเตียงและจบกันบนปลายเตียงเสมอแหละ พวกเราอย่าเข้าไปยุ่งดีกว่า” หยินซิ่งทอดถอนใจออกมาเบา ๆ แต่ในใจก็ยังคิดว่าเจ้านายทั้งสองคนนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจจริง ๆ
เมื่อเห็นข่าวหวาเหวินตั้งท้อง บางคนชอบ บางคนก็กลัดกลุ้มใจ
ตระกูลเจียงและตระกูลหวาย่อมดีใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว มีลูก ก็ยิ่งทำให้สองตระกูลรวมเป็นปึกแผ่นเดียวกัน ผลประโยชน์ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
แต่คนแรกที่ไม่มีทีท่าว่าจะดีใจสักนิดก็คือแซ่จื๋อจ้วน เมื่อเขาเห็นข่าว ใบหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมาในทันที
หลังจากนั้น 10 กว่าวินาที เขาก็ได้โยนโทรศัพท์ที่อยู่ในมือออกไป จนมันไปกระแทกเข้ากับกระจกห้องครัว
สร้างความตกใจกลัวให้กับคนในบริษัทเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าประธานแซ่เป็นอะไร?
แซ่จื๋อจ้วนเกลียดตระกูลแซ่มาก ตัวเองจึงไปเช่าชั้นราคาแสนแพงข้างนอกเพื่อเปิดบริษัทจัดหาเงินทุนแห่งหนึ่ง
ลำพังหัวสมองของเขา หลายปีมานี้จึงทำเงินได้ไม่น้อยเลยทีเดียว พนักงานในบริษัทของเขาไม่ได้มีเยอะนัก มีแค่ประมาณ 30 กว่าคนเท่านั้น แต่ก็เป็นเสาหลักของบริษัท เงินเดือนก็สูงมากพอๆกับคนที่อยู่ในอาชีพเดียวกัน
ตอนนี้เขาแทบจะทำลายบริษัทให้พังทลายลง แม้แต่ทุกคนก็ไม่กล้าเข้ายุ่งย่าม
แซ่จื๋อจ้วนเองก็บอกความรู้สึกภายในใจไม่ได้เหมือนกัน เขารู้สึกแค่เพียงอึดอัดใจมากอย่างบอกไม่ถูกเท่านั้น
เมื่อนึกถึงตอนที่หวาเหวินต้องนอนร่วมกับเจียงหยู่ จนกระทั่งเกิดการตั้งท้อง นั้นเป็นความรู้สึกอึดอัดจนแทบจะระเบิดออกมา
ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ขัดขวางไม่ได้อยู่แล้ว
แต่เมื่อข่าวเรื่องการตั้งครรภ์นี้ถูกเผยแพร่ออกมา แซ่จื๋อจ้วนก็เหมือนกับถูกของปลายแหลมทิ่มแทงใจ
ดังนั้น เกือบ 5 ทุ่มในคืนนั้น แซ่จื๋อจ้วนก็ใช้เบอร์โทรศัพท์ที่ยังไม่โดนแบล็คลิสต์ส่งข้อความหาหวาเหวิน
ถึงจะพิมพ์ไม่เยอะ แต่ก็ให้ความรู้สึกที่รุนแรงมากทีเดียว
เขาบอกว่า —— หวาเหวิน เอาเด็กออก แล้วหย่ากับเจียงหยู่ซะ