ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 149
ตอนที่ 149 ความจริงที่ปกปิดไว้
แซ่จื๋อจ้วนสภาพจิตใจไม่ค่อยดีนัก เพราะข่าวที่หวาเหวินตั้งท้อง
ถึงแม้ว่าต่อมาบริษัทเจียงหยู่จะออกมาบอกความจริงแล้วว่าทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่สบายใจ
แต่เมื่อได้ยินว่าความลับของเจียงหยู่ที่เขาให้ไปหามามีความคืบหน้า เขาก็กลับมากระตือรือร้นอีกครั้ง
“อ่า? พูดมาสิ” แซ่จื๋อจ้วนกระตุกรอยยิ้มมุมปากอย่างพราวเสน่ห์ พร้อมกับกวัดแกว่งแก้ไวน์แดงในมือไปมา
ความจริงแล้วแซ่จื๋อจ้วนก็ถือว่าหน้าตาดีมากทีเดียว ดังนั้นจึงมีดาราสาวมากมายยอมเอาตัวเข้าแลก ไม่จำเป็นต้องเพื่อเงินแต่อย่างใด
เพียงแต่ว่าดวงตาราวลูกท้อที่มีมาตั้งแต่กำเนิดคู่นั้น ไม่ได้ดูหยิ่งเย็นชาเหมือนกับเจียงหยู่
ดังนั้นความประทับใจแรกที่หวาเหวินมีต่อเขาจึงไม่ดีนัก
คน ๆนั้นได้หยิบข้อมูลออกมาจากกระเป๋า
“จากที่พวกเราหามา เรื่องนี้ตระกูลเจียงได้เป็นคนจัดการให้ทุกอย่าง อีกทั้งยังยอมเสียเงินจำนวนมากอย่างไม่เสียดาย เงินและเส้นสายจำนวนมากที่เกิดความกลัว ……. และหลักฐานอีกจำนวนมากจึงหาไม่เจอ คนที่เกี่ยวข้องในปีนั้นก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่แล้ว พยานสำคัญบางส่วนก็ถูกตระกูลเจียงย้ายไปอยู่ที่อื่น พวกเราเองก็ไม่รู้ด้วย แต่เราหากุญแจสำคัญอย่างหนึ่งมาได้ สถานที่ที่เกิดเรื่องเมื่อห้าปีก่อนของเจียงหยู่”
“อือ? ที่ไหน?”
“เขตชายแดนติดต่อที่ราบสูงเสฉวน – ทิเบต มีภูเขาที่ถูกเรียกขานว่าภูเขาแห่งปีศาจ หน้าผาภูเขาต้วนฉาง ”
“แล้วไงต่อ?” แซ่จื๋อจ้วนขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับเฝ้ารอผู้ชายมีลายสักเหล่านั้นพูดต่อ
“เราได้ทำการสอบถามผู้คนจำนวนมาก ณ ที่แห่งนั้น หลังจากที่ผ่านอุปสรรคมาด้วยความยากลำบาก เราก็เจอพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่เจียงหยู่เกิดอุบัติเหตุเมื่อ 5 ปีก่อนคนหนึ่ง หลังจากที่รู้ว่าเจียงหยู่ประสบอุบัติเหตุ ตระกูลเจียงก็รีบจัดการเรื่องนี้ทันที พนักงานกว่าร้อยคนในเหตุการณ์ครั้งนั้นต่างก็พากันปิดปากเงียบ ก่อนจะถูกบริษัทเปลี่ยนคนในองค์กรใหม่ทั้งหมด และพูดได้ว่าพวกเขาทำกันอย่างระมัดระวังตัวมากทีเดียว”
“ฉันให้แกพูดประเด็นสำคัญ ไม่ได้ให้แกพูดความโอ้อวดของตระกูลเจียง” แซ่จื๋อจ้วนไม่อยากฟัง
เขาไม่อยากได้ยินคนมาพูดว่าตระกูลเจียงนั้นโอ้อวดตัวเองมากมายขนาดไหน เพราะนี่เป็นฝันร้ายตอนเด็ก ๆ ของเขา
เมื่อเห็นผู้ว่าจ้างไม่สบอารมณ์ คน ๆ นั้นก็กลับมาประเด็นสำคัญในทันที
“เถ้าแก่แซ่ คืออย่างนี้ เราหาพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นมาได้หนึ่งคน ตอนแรกเขาก็ไม่บอกหรอกนะ แต่ต่อมาเราก็ใช้ผลประโยชน์บีบบังคับให้เขาพูดออกมาทีละนิด ๆ ในปีนั้น คนที่ตกหน้าผาไม่ใช่เจียงหยู่คนเดียว”
“อ่า? ยังมีคนอื่นอีกเหรอ?” แซ่จื๋อจ้วนตื่นตกใจขึ้นมา เพราะรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นข่าวใหม่ทีเดียว
คน ๆนั้นพยักหน้า
“ครับ มีเด็กผู้หญิงอีกคน พนักงานคนนั้นบอกว่า น่าจะเป็นแฟนของเจียงหยู่”
“อ่า? เจียงหยู่มีแฟนด้วยเหรอ?” แซ่จื๋อจ้วนรู้สึกว่าถึงความผิดปกติ
ถึงแม้ว่าตัวเองจะเป็นคู่อริกับเจียงหยู่ก็ตาม แต่หลายปีมานี้ เขาไม่เคยได้ยินมาว่าเขาเคยมีข่าวฉาวกับใครมาก่อน?
รวมทั้งอีกสองสามปีที่เขาอยู่ต่างประเทศด้วย ก็ไม่เคยได้ยินข่าวฉาวทำนองนี้หลุดออกมาแต่อย่างใด
“ใช่ครับ แล้วยังบอกอีกว่าในตอนที่พวกเขาทั้งสองคนไปถึงเขตชมวิวนั้นท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว ก็เลยหาที่พักค้างแรมกันตรงตีนเขา เพียงแต่ว่าต่อมาเขตชมวิวนั้นได้ปิดปรับปรุง เขตท่องเที่ยวก็ถูกรื้อถอนหมดสิ้น ไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ แต่พนักงานคนนั้นบอกว่า มีเด็กผู้หญิงหน้าสะสวยคนหนึ่ง ทั้งสองคนสนิทสนมกันมาก ในตอนที่เจียงหยู่ตกหน้าผานั้น ผู้หญิงคนนั้นได้ตกลงไปด้วยเช่นกัน ต่อมาตระกูลก็รีบมายังที่เกิดเหตุในคืนนั้นเลย สร้างความตื่นตกใจให้กับรัฐบาลในท้องที่เอามาก ๆ แต่หลังจากนั้น ทั้งสองคนเป็นยังไง ก็ไม่มีใครรู้ เพราะตระกูลเจียงได้ปิดข่าวเรื่องนี้ไว้”
“น่าสนใจมากทีเดียว” แซ่จื๋อจ้วนวางแก้วไวน์ลง ก่อนยกมือขึ้นมาลูบคาง ราวกับคิดอะไรบางอย่าง
“แต่เถ้าแก่แซ่ครับ เราเดาว่า ผู้หญิงคนนั้นน่าจะเสียชีวิตไปแล้ว ไม่อย่างนั้นตระกูลเจียงคงไม่ยอมเสียเงินจำนวนมากเพื่อปกปิดความจริงเรื่องนั้นไว้หรอก อีกอย่างหลังจากเรื่องนี้ ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ปรากฏตัวขึ้นมาอีกเลย ดังนั้นเราจึงเชื่อว่าผู้หญิงคนนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว”
เมื่อแซ่จื๋อจ้วนฟังจบก็รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้
อาจจะเสียชีวิตไปแล้วจริง ๆ ไม่อย่างนั้นหลายปีมานี้ ไม่มีทางที่จะไม่มาหาเจียงหยู่แน่นอน
“แบบนี้มีความเป็นได้ได้สูงมาก ผู้หญิงคนก่อนของเจียงหยู่ได้ตายไปเพราะเขา ตระกูลเจียงเลยปกปิดความจริงเพื่อชื่อเสียงของลูกชาย?” แซ่จื๋อจ้วนยิ้มออกมา