ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 155
ตอนที่ 155 เปิดร้าน
อีกสองสามคนในกลุ่มก็ล้วนแสดงความชื่นชมกลับมา “คุณชายรอง วันนี้นายพลังเต็มเปี่ยมมาก สูงขึ้นตั้งสองเมตรแนะ”
แซ่จื๋อจ้วนหัวเราะออกมา จากนั้นก็ไม่ได้เสียเวลาต่อไปแต่อย่างใด
ในเมื่อรับปากพ่อไปแล้ว ยังไงก็ต้องทำให้ดี ทำให้พ่อเลิกหน้านิ่วคิ้วขมวดให้ได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะคิดว่าตัวเขาเองเป็นลูกที่ชอบล้างผลาญพ่อแม่ไร้ความสามารถจริง ๆ?
พริบตาเดียว ร้านเล็ก ๆ ของหวาเหวินก็ใกล้จะเปิดตัวแล้ว
ในช่วงเช้า เธอได้พาชุนเถาและหยินซิ่งไปทำความสะอาด จากนั้นก็นำสินค้ามาจัดวาง
“คุณหนูคะ ร้านของเราดูเหมือนจะห่างไกลมากเลยนะคะ ตั้งอยู่ในซอยเล็ก ๆ แบบนี้ คนทั่วไปหาไม่เจอแน่ ๆ ถ้าไม่มีคนมาซื้อ เราจะลำบากใจเอานะคะ?” หยินซิ่งพูดขึ้น
“คุณหนูคะ เรามาทำใบปลิวแจก ทำโฆษณากันดีไหมคะ?” ชุนเถาเองก็ให้คำแนะนำ
หวาเหวินเองก็จนปัญญา “พวกเธอจะคิดมากทำไม ที่เราเปิดร้านไม่ได้เพราะหวังผลกำไรสักหน่อย การค้าขายแบบชาวพุทธ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคชะตา ฉันไม่ได้หวังจะให้คนรู้ว่ามีร้านของฉันเปิดอยู่ที่นี่ เพราะฉันเองก็ไม่อยากจ้างพนักงานมาประจำที่นี่ทั้งวันทั้งคืนด้วย หลังจากนี้ ถ้าฉันมีเวลาว่างฉันก็จะมา เจอคนซื้อก็ขาย เจอคนขายก็ซื้อ เข้าใจไหม?”
ชุนเถาและหยินซิ่งต่างพากันพยักหน้าดูเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ ความคิดของคุณหนู แตกต่างจากคนทั่วไปมากจริง ๆ
อย่างน้อยพวกเธอทั้งสองคนก็ยังไม่เข้าใจ
หวาเหวินเองก็ไม่ได้หวังว่าพวกเธอทั้งสองจะเข้าใจมากแต่อย่างใด
หลังจากที่ทั้งสามคนทำความสะอาดเสร็จแล้ว หวาเหวินก็เลือกฤกษ์งามยามดีด้วยตัวเอง ทั้งสามคนได้ปักธูป 3 ดอกให้กับรูปปั้นของเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ซึ่งนั้นก็เท่ากับว่าเป็นการเปิดร้านอย่างเป็นทางการ
ตลอดช่วงเช้า เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง บรรยากาศในการทำธุรกิจไม่มีเลยสักนิดเดียว
เพราะถนนเส้นนี้ค่อนข้างห่างไกลมาก ร้านค้าโดยรอบต่างก็ปิดตัวลงไปหมดแล้ว น้อยมาที่จะมีคนเดินผ่านมาที่นี่
ดังนั้นในช่วงเช้า อย่าว่าแต่จะค้าขายเลย ขนาดเงาสักคนก็ยังไม่เห็น
“คุณหนูคะ เรามาลงขายในอินเตอร์เน็ตกันดีไหมคะ เดี๋ยวบ่าวช่วยทำร้านออนไลน์ให้?” หยินซิ่งแสดงความคิดใหม่ ๆ ออกมา
“ใช่ใช่ใช่ หรือว่าเราจะช่วยคุณหนูไลฟ์ขาย บางทีอาจจะดีกว่าก็ได้นะคะ”
หวาเหวินส่ายหน้า และก็ขี้เกียจจะอธิบายต่อไปแล้ว
ช่วงกลางวัน ชุนเถาและหยินซิ่งก็ได้ออกไปซื้อของกินข้างนอก
หวาเหวินได้ยินเสียงฝีเท้าของคน ๆ หนึ่งดังใกล้เข้ามา จากนั้นก็มีผู้หญิงวัยกลางคน ๆ หนึ่งถามเธอว่า “คุณคะ ที่นี่ขายอะไรเหรอคะ?”
“เอ่อ………. ขายวัตถุสิ่งของเล็ก ๆ อย่างพวกวัตถุโบราณอะไรแบบนี้คะ” หวาเหวินค่อย ๆ ยืนขึ้น
“อ่า น่าสนใจมาก ฉันขอเข้าไปดูหน่อยนะคะ”
ในขณะที่พูดผู้หญิงวัยกลางคน ๆ นั้นก็เดินเข้ามา พร้อมกับถือกระเป๋าหลายพันหยวนอยู่ในมือ ดูท่าทางแล้ว นี่น่าจะมีปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ไม่เลวเลยทีเดียว
หญิงสาววัยกลางคน ๆ นี้เดินวนไปรอบ ๆ โดยไม่ค่อยใส่ใจนัก ดูท่าแล้วก็ไม่เหมือนกับคนที่เข้าใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่นัก
หวาเหวินคิดว่ายังไงก็ไม่มีทางซื้ออย่างแน่นอน นึกไม่ถึงว่าเมื่อมาถึงหน้าประตู
เธอจะหยิบเอาเจดีย์สีเทาที่วางอยู่ตรงหน้าประตูใบหนึ่งขึ้นมา
“นี่คืออะไรคะ?”
“เจดีย์เหวินชาง”
“ไว้ใช้ทำอะไรคะ?” หญิงสาวคนนั้นหยิบขึ้นมามองซ้ายมองขวาอยู่ในมือ
“เจดีย์เหวินชางมี 7 ชั้น 9 ชั้น แล้วก็ 13 ชั้น ส่วนชิ้นนี้มี 7 ชั้นคะ เป็นของมงคลอเอาไว้ใช้อวยพรให้แก่ลูกหลานในบ้านให้มีความฉลาดปราดเปรื่อง เรียนได้อย่างราบรื่น และมีสติปัญญาที่ชาญฉลาดคะ”
“หา? นี่มันน่าสนใจมากทีเดียว ฉันชอบ เด็ก ๆ ของฉันกำลังจะเข้าเรียนพอดี แล้วของชิ้นนี้ราคาเท่าไหร่คะ?”
หญิงสาวเริ่มสอบถามเรื่องราคา
ความจริงแล้วหวาเหวินก็ไม่ได้ตั้งราคาที่จริงจังอะไร ล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับโชคชะตาทั้งนั้น
“ของชิ้นนี้ ฉันขายให้คุณในราคา 2000 หยวนก็ได้คะ”
“แพงขนาดนั้นเลยเหรอคะ? ฉันคิดว่าแค่ 200-300 หยวนเท่านั้น” หญิงสาววัยกลางคนตื่นตกใจขึ้นมา
“ถ้าเป็นของมงคลธรรมดาละก็ ราคาก็ไม่แพงแบบนี้หรอกคะ แต่ของชิ้นนี้ไม่เพียงแต่จะปลุกเสกมาแล้ว อีกทั้งยังเป็นของที่มีอายุยาวนานหลายยุคสมัยด้วยนะคะ ตอนที่ฉันซื้อมาจากคนอื่น ว่ากันว่าเป็นผลงานของผู้รอดชีวิตในสี่ยุคเก่าในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม ถือว่ามีประวัติที่ยาวนานหลายปี และก็เป็นวัตถุโบราณด้วย ดังนั้นฉันจึงขายให้คุณในราคา 2000 หยวน ถือว่าไม่แพงแล้วคะ”
หวาเหวินคิดว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการจะต่อรองราคาอย่างแน่นอน แต่นึกไม่ถึงว่าเธอจะล้วงไปหยิบเงินในกระเป๋าออกมาแทน “ก็ได้ค่ะ ห่อให้ฉันด้วยนะคะ ฉันซื้อชิ้นนี้”
เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัวจริง ๆ …………. นี่คือการทำธุรกิจอย่างจริงจังแล้วเหรอ?