ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 169
ตอนที่ 169 กระทบกระทั่งอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อหวาผิงถูกนายหญิงถามคำถามนี้ก็ถึงกับสำลักเลยทีเดียว นี่เธอเพิ่งมาครั้งแรก ก็จะให้แต่งงานแล้วเหรอ?
ตระกูลหวางเป็นคนยังไงกันแน่เนี่ย? นิสัยใจร้อนราวกับนั่งอยู่บนจรวดอย่างนั้นแหละ
หวาผิงไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ ออกไป หวางเซียวอี้จึงเลยตอบแทนเธอ
“คุณย่าครับ พวกเรายังไม่รีบร้อนเลย พวกเราตั้งใจว่าจะคบกันไปแบบนี้ก่อน ยังอยู่ในขั้นตอนดูใจกันอยู่นะครับ ถึงอย่างไรการแต่งงานกับความรักมันก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แต่คุณย่าไม่ต้องกังวลไปนะครับ พวกเรารู้ลิมิตของตัวเองดีครับ”
“ใช่ค่ะ คุณแม่ วัยรุ่นต่างก็มีแบบแผนของพวกเขา อีกอย่างพวกเขาสองคนก็มีงานเป็นของตัวเองแล้ว ยังไงก็ต้องปรับจูนกันให้ได้ก่อน” นี่คือคำพูดของคุณนายหวาง
นายหญิงแก่พยักหน้า เพื่อแสดงออกถึงความเข้าใจ “ก็ได้ แล้วแต่พวกแกละกัน แต่ย่าขอพูดหน่อยนะ อย่าให้มันช้าเกินไปละ ย่าอยากถือโอกาสตอนที่ร่างกายยังแข็งแรง อยู่กับพวกแกไปอีกนาน ๆ ”
หวาผิงยิ้มออกมาด้วยความลำบากใจ พร้อมกับคิดในใจว่า ความต้องการของนายหญิงแก่
คนนี้เยอะจริง ๆ
หลังจากรับประทานอาหารด้วยความยากลำบากเสร็จแล้ว นายหญิงแก่ก็ยังไม่หายอยาก หล่อนได้จูงหวาผิงไปเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกัน
พร้อมกับน้องสาวของหวางเซียวอี้ หวางเหลิ่วยุ่น แล้วก็ยังมีลูกพี่ลูกน้องของหวางเซียวอี้อีกหนึ่งคนด้วย
ในเวลานี้ เพื่อแสดงความใกล้ชิด และความสัมพันธ์ที่ดี หวางเซียวอี้จึงอยู่ข้างกายของหวาผิงตลอด เพื่อช่วยเธอเล่นไพ่
จนเผลอไปจับมือ โอบเอวเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่……หวาผิงรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ตั้งใจจะเอาเปรียบเธอ
ในที่สุด เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึง 22.30 น.นายหญิงแก่ก็เกิดอาการง่วงนอน วงไพ่นกกระจอกจึงได้สลายไป
หวางเซียวอี้ขับรถไปส่งหวาผิง ตลอดทางเธอไม่พูดอะไรออกมาสักคำเดียว เพื่อบ่งบอกว่าเธอกำลังอารมณ์ขุ่นมัวอยู่
นิสัยของหวางเซียวอี้คนนี้ก็เป็นคนนิ่งเงียบอยู่แล้ว คุณไม่พูด ฉันก็ไม่พูด
เวลากว่า 40 นาที ในที่สุดเขาก็ขับรถมาถึงคอนโดของหวาผิง
“ถึงแล้ว” หวางเซียวอี้เตือน
หวาผิงไม่รีบร้อนลงจากรถแต่อย่างใด เธอหันมาจ้องเขม็งใส่เขา “หวางเซียวอี้ นายไร้ยางอายบ้างไหม?”
“ทำไม?” เขาทำสีหน้าไร้เดียงสา
“ก็คุยกันแล้วว่าแค่แกล้งทำเป็นคนรักกัน นายกำลังทำเหมือนคนรักกันจริง ๆ กับฉัน? ตอนกินข้าวนายก็มาจับแก้มฉัน ตอนเล่นไพ่นายก็มาแตะเอวฉัน……ถ้าไปดูหนัง นายคงจะแตะใต้กระโปรงฉันเลยมั้ง?”
“งั้นคงต้องไปดูหนังก่อนนะสิ” หวางเซียวอี้แสดงสีหน้าเรียบเฉย
“ดูบ้านนายสิ ทำไมก่อนหน้านั้นฉันถึงไม่เห็นว่านายมันน่าอัปลักษณ์ขนาดนี้เนี่ย? นายบอกว่านายเป็นคุณชายประจำตระกูลหวาง และก็เป็นคนที่มีเกียรติ ทำไมถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้? ทำราวกับว่าไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวผู้หญิงมาก่อนอย่างนั่นแหละ? นายคิดจะเอาเปรียบคนอื่นจนกว่าจะพอใจเลยใช่ไหม?”
“ก็ได้นะ แต่ก็ยังไม่ได้พอใจมากขนาดนั้น”
เมื่อพูดจบ หวาผิงก็ได้หยิบกระเป๋าขึ้นมาฟาดใส่เขาอย่างรุนแรง
หวางเซียวอี้รีบยกแขนขึ้นมาป้องกันตัว ไม่อย่างนั้นอาการบาเจ็บคงจะเทียบกันไม่ติดแน่
“คนในตระกูลหวางของนาย ได้นำเงินที่เล่นไพ่นกกระจอกแพ้มาให้กับฉัน 23,000 หยวน” หวาผิงโกรธ ก่อนจะยื่นมือออกไป ถามเงินจากเขา
“เธอได้รับเงินอังเปาของผู้อาวุโสแล้วไม่ใช่เหรอ?” ดวงตาของเขาลุกลี้ลุกลนไปมา
“งั้นฉันก็สมควรได้ค่าตอบแทน เข้าใจไหม? นี่ถือว่านายชดใช้ให้ฉันน้อยมากแล้วนะ ถ้าอยากให้ฉันเข้าร่วมกิจกรรมทางธุรกิจ 1 ชั่วโมงก็ 1 ล้านหยวน เอาเงินมา”
หวางเซียวอี้ยิ้มพร้อมกับเปิดกระเป๋า จากนั้นก็หยิบเงินสดสามกองยื่นออกไป
หวาผิงแย่งมาในทันใด จากนั้นก็ยัดใส่ในอ้อมกอดอย่างรุนแรง
“รีบไสหัวออกไป หลังจากนี้ก็อย่ามาเจอกันอีก ร่วมงานกันไม่มีความสุขสักนิด”
“ไม่เอาหน่า เราคุยกันดีแล้วว่าจะแกล้งเป็นแฟนกับฉันจนกว่าภารกิจเป็นแฟนสาวจะจบลง เธออย่ามากลับคำไปมาแบบนี้นะ”
หวาผิงยิ้มอย่างเย็นชาออกมา “ทำไม? วิดีโอก็ลบไปแล้ว นายยังมีอะไรมาคุกคามฉันได้อีกละ?”
“มีสิ ตระกูลของฉันคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลา ภาพที่เธอกำลังทานข้าวและเล่นไพ่นั้นได้ถูกเผยแพร่ไปทางอินเตอร์เน็ตแล้ว เธอเดาดูสิว่าเหล่าบรรดาแฟนคลับของเธอจะไม่รู้สึกว่าทั้งสองคนเป็นเพียงแค่เพื่อนกันจริง ๆ ?“
“ไอชั่ว……….นายมันชั่วช้าไร้อย่างอายจริง ๆ ” หวาผิงคิดว่า ตัวเองนั้นถูกเล่นงานซะแล้ว ผู้ชายเฮงซวยคนนี้ มันสตอเรียกพี่เลยจริง ๆ
“เอาละ รีบขึ้นไปเถอะ เข้านอนเร็ว ๆ ด้วยละ” หวางเซียวอี้พูดจบ เขายิ้มแล้วก็กลับรถออกไปทันที
หวาผิงกลับมาถึงในห้องด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เมื่อเปิดประตูเข้าไป ก็อดที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดโทรหาหวาเหวินไม่ได้
นี่เป็นเวลา 5 ทุ่มกว่าแล้ว หวาเหวินก็หลับไปแล้ว
เมื่อเห็นว่าเป็นสายของหวาผิง จึงได้ลุกขึ้นมารับ
“พี่สาม” เสียงของเธองัวเงีย เมื่อได้ยินก็รู้ทันทีถูกปลุกให้ตื่น