ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 174
ตอนที่ 174 ไล่ตามสิ่งที่สูญเสียไปแล้ว
“ไปไกล ๆ เลย”
“ฮ่าฮ่า คุณอาสอง หนูก็ว่าทำไมคุณอาถึงไม่ชอบคุณครูของหนู ที่แท้คุณอาก็ชอบคนแบบนี้นี่เอง” แซ่หนิงเม้มปาก
“ทำไมเหรอ? ไม่สวยเหรอ?” แซ่จื๋อจ้วนถามหลานสาว
“สวยค่ะ สวยราวกับนางฟ้าเลยค่ะ”
“แน่นอน สายตาของอาดีจะตาย” แซ่จื๋อจ้วนลำพองใจ
“แต่เย็นชามาก เธอดูไม่ได้สนใจคุณอาเลยนะคะ รู้สึกเหมือนกับเอาหน้าร้อน ๆ ไปแนบกับก้นเย็น ๆ อย่างไรอย่างนั้นเลยค่ะ”
“เด็กดื้อคนนี้ อย่าพูดจามั่วซั่ว”
“หนูพูดความจริงนะคะ คุณอาก็เห็นว่าเธอเย็นชาจะตายไป เห็นหนูด้านหลังก็ไม่เอ๋ยปากถามด้วยซ้ำว่าหนูคือใคร แสดงว่าไม่ได้สนใจคุณอาอย่างแน่นอน แบบนี้จีบยากอยู่นะคะ?”
“ยิ่งจีบยากสิยิ่งน่าสนใจ หนูจะไปเข้าใจอะไร คุณอาสองชอบความท้าทายยาก ๆ อยู่แล้ว”
แซ่จื๋อจ้วนอุ้มหลานสาวตัวน้อยขึ้นมา หลังจากที่ทั้งสองเล่นกันอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็ไปหาที่รับประทานอาหาร
แซ่จื๋อจ้วนกระชับหลานสาวถึงสามครั้งสามครา ว่าหลังจากที่กลับบ้านไปแล้วห้ามพูดมั่ว ๆ ออกมาเด็กขาด เพราะเขากลัวว่าเธอจะไปพูดจามั่วซั่วกับคนในบ้าน ผลที่ตามมาย่อมไม่ดีอย่างแน่นอน
ผลสุดท้าย เด็กคนนี้ก็รีบไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้กับแม่เธอฟังหลังจากที่กลับไปทันที
เฝิงหยู่ยังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉย “คุณอาสองของหนูก็เป็นแบบนี้แหละ ชอบของสดใหม่ ถ้าจีบติด ไม่นานก็เขี่ยทิ้ง ช่างเถอะไม่พูดเรื่องของเขาแล้ว ไหนว่ามาสิ แม่กามเทพตัวน้อย คุณครู董 มันอะไรยังไงคะ? แม่ให้หนูไปเรียน หรือไปจัดการเรื่องที่มันไม่มีประโยชน์กันละ?”
แซ่หนิงก้มหน้าลงเงียบ ๆ ……. นินทราไม่สำเร็จก็ดันมาถูกดุจนได้
ภายในรั้วมหาวิทยาลัย
วันนั้นหวาฟ้านได้ไปของกุญแจของอพาร์ทเม้นท์เพิ่มอีกดอก แต่เมื่อเอกสารเหล่านั้นหายไปมันจึงทำอะไรค่อนข้างยุ่งยากมากทีเดียว
ถ้าให้ไปทำใหม่แต่ละตัว จำเป็นต้องใช้เวลา ดังนั้นเธอเลยตั้งใจรอข่าว ถ้าหนึ่งอาทิตย์แล้วยังไม่ได้ความคืบหน้าใด ๆ เธอก็ไม่ต้องหวังว่าของเหล่านั้นจะกลับมาแล้ว
แต่เธอกลับนึกไม่ถึงว่าช่วงบ่ายของวันนี้ หลังจากที่เธอเลิกงาน ป๋ายห้าวก็มาถึงทันใด
เหมือนกับที่เคยมารับเธอไปเดทเมื่อก่อน เขามักจะมารออยู่ใต้อาคารเสมอ
ในชั่วพริบตาเดียวที่เห็นป๋ายห้าว สายตาของหวาฟ้านก็เกิดความสับสนขึ้นมาทันที
คำพูดในวันนั้นของตัวเอง ไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกยังไงบ้าง?
“ได้ของกลับมาหมดแล้ว เอกสารก็อยู่ โทรศัพท์ก็อยู่ มา ของมันกลับมาหาเจ้าของมันแล้ว”
ในขณะที่พูดป๋ายห้าวก็ยื่นถุงซิปล็อคใบหนึ่งให้เธอ ซึ่งภายในนั้นก็มีกระเป๋าที่ถูกขโมยไปวันนั้นของหวาฟ้าน
หวาฟ้านตื่นเต้นเล็กน้อย จึงรีบเดินเข้ามา แล้วรับกระเป๋านั้นมา
หลังจากนั้นก็เริ่มเปิดดูของข้างใน สำรวจตรวจตราอย่างละเอียดรอบหนึ่ง ทุกอย่างอยู่ครบจริง ๆ ด้วย ขนาดเงินก็ไม่ลดน้อยลงไปสักแดงเดียว
“นึกไม่ถึงเลยว่าจะสามารถปิดคดีได้เร็วขนาดนี้” หวาฟ้านมองไปทางป๋ายห้าว
“ตอนนี้เธอว่างไหม? ฉันอยากเลี้ยงข้าวสักมื้อ” ป๋ายห้าวพูดขึ้น
เมื่อเห็นหวาฟ้านไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ ออกมา จึงได้รีบอธิบายทันทีว่า “ถือโอกาสถามรายละเอียดเกี่ยวกับรูปคดีด้วยเลย ถึงอย่างไรเธอก็เป็นผู้เสียหาย”
“ก็ได้”
เมื่อพูดจบประโยคนี้ หวาฟ้านก็พยักหน้า
ทั้งสองคนเดินมายังร้านปิ้งย่างเล็ก ๆ บริเวณโรงเรียนที่มีสภาพแวดล้อมที่ไม่เลวเลยแห่งหนึ่ง จากนั้นก็สั่งเนื้อและผักมาอย่างละชุด
และก็เป็นเหมือนเมื่อก่อน ป๋ายห้าวมักจะช่วยย่างเนื้อให้หวาฟ้านเสมอ เธอทำหน้าที่เพียงแค่กินอย่างเดียวเท่านั้น
“พูดเรื่องรูปคดีเถอะ”
หวาฟ้านไม่ได้เย็นชา เพียงแต่เธอรู้ว่าทั้งสองคนเลิกกันไปแล้ว ถ้าไม่พูดเรื่องคดี แล้วไปพูดเรื่องอื่น เธอเองก็คงไม่มีหัวข้ออะไรจะสนทนา
ป๋ายห้าวย่างลิ้นวัวชิ้นหนึ่งเสร็จแล้ว ก็คีบมาวางในจานของเธอ
จากนั้นก็ค่อย ๆ พูดขึ้นว่า “ผู้ต้องสงสัยเป็นเด็กมัธยมคนหนึ่ง”
หวาฟ้านอึ้งงันไป นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเด็ก
ป๋ายห้าวพูดต่อว่า “เป็นเด็กนักเรียนในเมืองเจียง ซึ่งห่างจากที่นี่ไม่เท่าไหร่นัก บ้านอยู่ในชนบทภายใต้รัฐบาล เขาอาศัยอยู่ในโรงเรียน แต่เพราะติดเพื่อนออนไลน์ และมักจะโดเรียนอยู่บ่อย ๆ คะแนนเลยออกมาไม่ดี อาจารย์ก็ไม่รู้จะทำยังไง ครอบครัวก็ไม่รู้ ทำให้เขารู้จักกับเพื่อนอันธพาลกลุ่มหนึ่งในผับ สุดท้ายก็ชักจูงเขาไปในทางที่ผิด เขาเป็นโจรขโมย นี่เป็นการลงมือครั้งแรก และก็ไม่ได้มีเป้าหมายแต่อย่างใด เลยสุ่มเลือกเธอ”
“ฉันโคตรจะซวยเลยแท้ ๆ” หวาฟ้านยิ้มออกมาด้วยความลำบากใจ