ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 178
ตอนที่ 178 มีคนตรวจสอบ
ความจริงแล้วรายงานข่าวที่ถูกนักข่าวแอบถ่ายจนเป็นเรื่องเข้าใจผิดก่อนหน้านั้นก็ทำให้คุณนายเจียงดีใจไปชั่วขณะหนึ่ง
พวกเขาต่างก็อายุเยอะแล้ว อยากจะอุ้มหลานก็เป็นหนึ่งในเหตุผลนั้น
“คุณแม่ ดูสิครับ คำถามนี้ผมเคยพูดไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ผมกับเหวินเหวินยังอยากใช้ชีวิตแบบสองคนสักกี่ปีก่อน เหวินก็ยังเด็ก เธอเพิ่งจะอายุแค่ 22 ปีเอง”
เห็นได้ชัดว่าเจียงหยู่นั้นเข้าข้างภรรยามาก ดังนั้นวินาทีนี้หวาเหวินเลยรู้สึกซาบซึ้งใจเขา
ไม่ว่าด้วยความจริงใจหรือแกล้งทำ เขาก็ช่วยเธอพูดมาโดยตลอด
แม่ของเจียงหยู่ไม่ได้สนใจลูกชายแต่อย่างใด เธอกลับจ้องไปทางหวาเหวิน ตั้งใจจะดึงมือสะใภ้ออกจากลูกชายของเธอ
“เหวินเหวินอ่า แม่ขอพูดสักหน่อยนะ หนูอย่าเพิ่งคิดมากนะ แม่ไม่ได้หมายความอย่างอื่น ความจริงแล้วยิ่งเกิดลูกตอนที่ยังอายุน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีต่อร่างกายมากขึ้นเท่านั้น เพราะมันฟื้นกลับมาได้เร็ว ส่วนลูกก็ยังแข็งแรงและฉลาดเป็นพิเศษอีกด้วย ยิ่งอายุมากก็ยิ่งเสี่ยงอันตราย แม่ไม่ได้พูดมั่ว ๆนะ เป็นผลวิจัยมาจากผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้ ดังนั้นแม่เลยคิดว่าจะช้าหรือจะเร็วพวกเธอทั้งสองก็ต้องมีลูกอยู่ดี ไม่สู้มีเร็วไปเลย ถึงอย่างไรเมื่อเกิดแล้วพวกเราก็ช่วยดูแลกันอยู่ดี เงินก็ไม่ต้องกังวล กำลังยิ่งไม่ต้องใหญ่ อีกอย่างจะเกิดลูกชายหรือลูกสาวก็ได้ทั้งนั้น แม่กับพ่อไม่ได้ให้ความสำคัญกับเพศไหนเพศหนึ่ง”
ความหมายของคุณนายเจียงนั้นชัดเจนมาก ไม่ว่าจะเป็นลูกชายหรือลูกสาว ขอให้ได้เกิดมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน
“คุณแม่คะ ร่างกายของหนูก็ไม่ได้ว่าจะแข็งแรงมากมายนัก หลังจากแต่งงานกันหนูก็ต้องกินยาบำรุงตัวเองตลอด รอให้หนูดีขึ้นกว่านี้แล้วเราจะปรึกษาเรื่องนี้กันอีกทีนะคะ”
หวาเหวินไม่อยากปฏิเสธไปตรง ๆ และก็กลัวว่าพวกเขาจะผิดหวังด้วย ถึงอย่างไรพ่อแม่ของเจียงหยู่ก็ดีต่อตัวเองมาโดยตลอด
และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ หลังจากที่พูดประโยคนี้ไป พวกท่านทั้งสองก็ไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด
ขนาดนั้นพ่อของเจียงหยู่ก็ยังพยักหน้าเห็นด้วย
“เหวินเหวิน พูดก็ถูกนะ ร่างกายต้องดีก่อน และค่อยมีก็ยังไม่สายนะ วัยรุ่นอ่าทำการทำงานอาหารการกินก็ไม่ค่อยจะถูกหลักเกณฑ์เท่าไหร่ พวกเธอต้องบำรุงมาก ๆ นะ”
เจียงหยู่และหวาเหวินพยักหน้า หลังจากทานอาหารเสร็จ หวาเหวินก็ไปเดินเล่นในสวนดอกไม้ด้านหน้า และก็ตามสาวใช้ของเจียงหยู่ไปรดน้ำต้นไม้ ตัดกิ่งก้านของต้นไม้
แม่ของเจียงหยู่ถือโอกาสนี้ลากลูกชายไปยังห้องสมุด
“ลูกรัก ช่วงนี้ลูกยังปวดหัวอยู่ไหม? ฝันไหม?”
เจียงหยู่ส่ายหน้า “ไม่ครับ ทำไมอยู่ ๆ แม่ถึงได้ถามขึ้นละครับ?”
“อ่า แม่กลัวว่าผลสืบเนื่องมาจากการนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเมื่อห้าปีก่อนมันจะยังไม่ดีขึ้น ลูก…..ไม่ได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลเลยใช่ไหม?”
เจียงหยู่ส่ายหน้า “ไม่ครับ 5 ปีแล้ว ถึงจะมีผลสืบเนื่องมันก็น่าจะแสดงอาการแล้วสิครับ แม่อย่ากังวลไปเลย ผมไม่เป็นอะไรจริง ๆ”
“แล้ว……ลูกไม่ได้ทำอะไรลับหลังแม่ใช่ไหม?”
“ไม่มีนี่ครับ ที่แม่ถาม ผมจะไปทำอะไรลับหลังแม่ละครับ แม่ไม่ได้มีเรื่องที่ไม่ต้องการให้ใครรู้ปิดบังผมใช่ไหมครับ?” เจียงหยู่ยิ้ม
สีหน้าของคุณนายเจียงเปลี่ยนสีไปในทันใด ก่อนจะตำหนิไปว่า “อย่าพูดจาเหลวไหล แม่กับพ่อของลูกจะไปทำอะไรลูกได้ ลูกก็น่าจะรู้อยู่?”
“ครับครับครับ พวกท่านดีที่สุดแล้วครับ ไปกันเถอะ ลงไปข้างล่างกัน ผมจะทำน้ำผลไม้ให้แม่ดื่มนะครับ” เจียงหยู่โอบไหล่ของแม่ลงไปข้างล่างด้วยความสนิทสนม
เลยไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าที่เป็นกังวลของแม่แต่อย่างใด…….
หลังจากที่หวาเหวินและเจียงหยู่กลับไปแล้ว คุณนายเจียงและพ่อของเจียงหยู่ เจียงจู่เหวิน ก็พากันไปพูดคุยความลับกัน
“คุณคะ มีคนเริ่มตรวจสอบเรื่องเมื่อห้าปีก่อนแล้วนะคะ”
“ใช่เหรอ? รู้ไหมว่าใครเป็นคนตรวจสอบ?” พ่อของเจียงหยู่ถามขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
คุณนายเจียงส่ายหน้า “ก่อนหน้านั้นฉันก็กลัวว่าจะเป็นลูกชายเราไปตรวจสอบอยู่เงียบ ๆ แต่จากการสอบถามเมื่อกี้นี้แล้ว ดูเหมือนเขาจะไม่รู้อะไรเลยนะคะ ถ้าไม่ใช่ลูกชายละก็ งั้นใครที่สนใจเรื่องเหมือนห้าปีก่อน?”
“นี่ไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ คุณส่งคนไปจับตามองไว้ อย่าให้รั่วไหลออกไป เรื่องนี้ รั่วไหลออกไปไม่ได้เด็ดขาด”
“คะ ฉันเองก็คิดแบบนี้ หวังว่าเจียงหยู่จะไม่รู้เรื่องนี้ไปตลอดชีวิต” แม่ของเจียงหยู่ได้แต่ทอดถอนใจออกมาเล็กน้อย
ระหว่างทางกลับ หวาเหวินก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เจียงหยู่เลยแกล้งเธอ “เป็นเพราะพ่อกับแม่คะยั้นคะยอให้มีลูก เธอเลยโกรธเหรอ?”