ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 179
ตอนที่ 179 ฝันร้าย
“เปล่านี่”
“แล้วทำไมถึงไม่พูดเลยละ มีเรื่องอะไรในใจ?” เจียงหยู่ขับไปพลางหันมองหวาเหวินที่อยู่ด้านข้างไปพลาง
จริง ๆ แล้วเธอรู้สึกเพลียและง่วงนอนเล็กน้อย
เธอเองก็ไม่แน่ใจ รู้สึกแค่เพียงว่าร่างกายนั้นค่อนข้างหนัก สมองเกิดอาการสับสนเล็กน้อย
“ถ้าเธอง่วงเดี๋ยวถึงบ้านแล้วค่อยนอนนะ นอนในรถเดี๋ยวเป็นหวัด”
“อื้อ” เธอพูดเสียงต่ำ
ส่วนอีกด้านหนึ่งช่วงนี้แซ่จื๋อจ้วนค่อนข้างทำตัวมีสาระมากเป็นพิเศษ บริษัทลงทุนอะไรนั้นของตัวเองก็ไม่ค่อยจะไปสนใจมากมายเท่าไหร่นัก เอาแต่วุ่นวุ่นมายังบริษัทตัวเจ้าปัญหานี้ทุกวัน
คิดหนทางที่จะกอบกู้โรงงานยาแห่งนี้มาหลากหลายวิธี จนถึงขั้นพลิกหนังสือเดี่ยวกับยาโรงพยาบาลจำนวนนับไม่ถ้วนเพื่อนำมาใช้กับบริษัทนี้เลยทีเดียว
ซึ่งทำให้ตัวเขากลายเป็นเด็กดีที่ตั้งใจเรียนในทุกวันไปโดยปริยาย
หลังจากที่คุณครูดง แอดวีเชทองแซ่จื๋อจ้วนแล้ว ทีแรกเธอก็ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัว ไม่พูดอะไร รอให้แซ่จื๋อจ้วนเป็นคนพูด
แต่ช่วงนี้แซ่จื๋อจ้วนค่อนข้างยุ่งมากทีเดียว หรือพูดอีกอย่างก็คือเจ้าตัวไม่ได้สนใจคุณครูดงคนนี้แต่อย่างใด ดังนั้นเขาเลยไม่ได้พูดอะไร
จนคุณครูดง ทนไม่ไหวเลยไปหาข้อมูลเกี่ยวกับแซ่จื๋อจ้วนมาไม่น้อย ยิ่งสืบหาก็ยิ่งชอบ
พูดความจริง ผู้หญิงที่มักเรียบร้อยว่านอนสอนง่าย โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะชอบผู้ชายนิสัยไม่ดีทั้งนั้น
คุณครูดงก็เป็นผู้หญิงที่ว่านอนสอนง่ายและอ่อนโยนคนนั้น แต่เธอกลับชอบผู้ชายที่มีบุคลิกภาพที่ชอบต่อต้าน จนกระทั่งมีความเจ้าชู้อยู่พอตัวเลยด้วยซ้ำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตระกูลมั่งคั่งร่ำรวยอย่างตระกูลแซ่ เด็กผู้หญิงนับไม่ถ้วนต่างก็เพ้อฝันว่าตัวเองจะได้แต่งเข้าไปเป็นสะใภ้ตระกูลมั่งคั่งนี้ทั้งนั้น
หลังจากที่พัวพันอยู่หลายวัน ในที่สุด คุณครูดง ก็ทนไม่ไหว ตัดสินใจส่งวีแชทหาแซ่จื๋อจ้วนทันที
ดงหยิงหยิง : สวัสดีค่ะ ได้ยินหนิงหนิงพูดถึงคุณอยู่บ่อย ๆ เธอบอกว่าคุณเป็นคนที่ดีมากคนหนึ่ง
แซ่จื๋อจ้วน :อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของหลานสาวผมเลยครับ เธอมักจะแซวผมตลอด ผมเป็นคนยังไง เธอย่อมรู้ดี
ดงหยิงหยิง : คุณมักว่าร้ายตัวเองตลอดเลยไหมคะ? น่าสนใจดีนะคะ
แซ่จื๋อจ้วน : ว่าร้าย? ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น ที่ผมพูดเป็นเรื่องจริงครับ
ดงหยิงหยิง : ตอนนี้ทำอะไรอยู่ ยุ่งไหมคะ?
แซ่จื๋อจ้วน :อื้อ ยุ่งอยู่ครับ
ดงหยิงหยิง รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันใด ทำไมตัวเองถึงได้ถามคำถามนี้ออกไป ถ้าแกล้งไม่รู้ว่าเขายุ่ง อย่างน้อยก็ทำให้ได้พูดต่อไม่ดีกว่ารึไง?
แต่ในเมื่อพูดไปแล้ว ก็ไม่มีทางดึงกลับมาได้แล้ว เธอเลยจำใจจบบทสนทนานี้ลงตามมารยาท
ดงหยิงหยิง:งั้นคุณทำงานเถอะ ฉันไม่กวนแล้ว
แซ่จื๋อจ้วนยุ่งอยู่จริง ๆ ดังนั้นเลยลืมส่งวีแชทตอบกลับคุณครูไป
แน่นอนว่า ถ้าเป็นหวาเหวินส่งมา มันจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ยามค่ำคืนที่ดึกสงัด 23.00 น. ณ เฟิงหวาหลี่
หลังจากที่ชุนเถาและหยินซิ่งทำความสะอาดเสร็จและกลับพักผ่อนแล้วนั้น เจียงหยู่ยังคงทำงานอยู่ในห้องสมุด เขากำลังประชุมแบบวิดีโอคอลกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่างประเทศเหล่านั้นอยู่
ส่วนหวาเหวิน หลังจากที่กลับมาจากบ้านใหญ่ของตระกูลเจียง ด้วยความที่ไม่ได้มีอะไรทำ เธอก็เลยกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเองและไม่ได้ออกมาอีก
ความจริงแล้ว เธอกำลังหลับ ใช่ เพียงแต่เธอกำลังฝันแปลก ๆ อยู่เรื่องหนึ่ง
ในความฝันนั้นเธอกำลังนอนอยู่บนแท่นบูชาที่เย็นมากอยู่แห่งหนึ่ง บนตัวสวมชุดสีแดงที่แสนงดงามเพริศพริ้งมาก
มีเสียงบทสนทนาของคนแปลกหน้าเหล่านั้นดังอยู่ข้างหูเธอ
“อาจารย์ เธอจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่?”
“เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่รู้ ต้องอยู่ที่เธอเอง ฉันก็พยายามสุดความสามารถแล้ว ดูเหมือนพลังของเธอจะน้อยมาก จึงสัมผัสไม่ถึงเสียงเรียกของเรา ทำได้เพียงแค่รอโชคชะตาแล้วละ”
“มีทางอื่นบ้างไหม ? พวกเรารอไม่ไหวหรอก เผ่าพันธุ์ของเราต้องการเธอ”
“เว้นเสียแต่ว่าตัวเธอเองจะฆ่าตัวตาย”
ฆ่าตัวตาย ฆ่าตัวตาย ฆ่าตัวตาย
เสียงแปลกๆ นี้ได้ดังเข้ามาในหู หวาเหวินรู้สึกแค่เพียงว่าในความฝันนั้นเธอได้หยิบกริชด้ามหนึ่งขึ้นมา แล้วเตรียมจะแทงลงไปบนหน้าอกของตัวเอง
จากนั้นความเจ็บปวดที่ปวดถึงขั้วกระดูกก็ทำให้เจ้าตัวต้องส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา
เธอตื่นจากความฝัน ด้วยแววตาหวาดกลัว……..
เมื่อได้ยินเสียง เจียงหยู่ก็พุ่งตัวไปในวินาทีแรกทันที แล้วก็เห็นหวาเหวินที่มีใบหน้าซีดเผือด ผมเผ้ายุ่งเหยิงกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่บนเตียง 169
“เหวินเหวิน” เขาเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน