ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 184
ตอนที่ 184 ไม่ได้มีความเห็นใจ
ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้า “คุณน้อง เธอคือเถ้าแก่ใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ”
“อ่อ เมื่อกี้ฉันคิดว่าน้องคนนั้นคือเถ้าแก่ แต่เธอบอกว่าเถ้าแก่ไม่อยู่ ฉันคิดว่าในเมื่อที่นี่ขายวัตถุโบราณ ก็น่าจะรับซื้อของเก่าโบราณ ก็เลยลองเสี่ยงมาดู”
“ค่ะ งั้นคุณเอาสินค้าออกมาให้ฉันดูหน่อยค่ะ”
หวาเหวินให้ชุนเถาไปยกน้ำมาเสิร์ฟให้แก่ผู้หญิงคนนี้
ผู้หญิงคนนั้นนำลูกน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดวางลงบนเก้าอี้ โดยไม่สนใจไยดีแต่อย่างใด
หวาเหวินมองด้วยความอกสั่นขวัญแขวน เอาแต่จ้องตลอด เพราะกลัวว่าเด็กคนนั้นจะร่วงหล่นลงไป
ก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะเอาของออกมาเธอได้มองไปด้านนอกด้วยความระมัดระวัง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครแล้ว จึงได้ล้วงไปหยิบถุงพลาสติกใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าผ้า
หลังจากที่เปิดถุงพลาสติกนั้นแล้ว ด้านในก็ยังมีผ้าน้ำมันห่อหุ้มไว้อีกชั้นหนึ่ง ดูแล้วบ่งบอกได้ถึงความใส่ใจเป็นที่สุด
สุดท้าย หวาเหวินก็มองเห็นของที่เธอพามาได้อย่างชัดเจน
เป็นจอกเหล้าทองสัมฤทธิ์ใบหนึ่งไม่ใหญ่มากนัก สูงแค่เพียงหนึ่งฝ่ามือของเธอเท่านั้น
เธอนำของนั้นออกมา หวาเหวินสวมใส่ถุงมือแล้วรับจอกเหล้านี้มา
เมื่อมองอย่างละเอียดแล้ว ของชินนี้เป็นวัตถุโบราณจริง ๆ เป็นสีสัมฤทธิ์ที่แพร่หลายกันในยุคสมัยสงครามระหว่างรัฐ ส่วนใหญ่จะใช้กันในหมู่ของบรรดาศักดิ์ชั้นสูง คนธรรมดาทั่วไปไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ ในยุคสมัยนั้นไม่ได้เรียกว่าจอกเหล้า ผลิตขึ้นมาได้อย่างประณีตงดงามมาก ทั้งสองข้างมีการแกะสลักเป็นลวดลายก้อนเมฆ ด้านล่างมีสามขาคอยค้ำไว้ แต่เนื่องจากมีอายุมานานมากแล้ว ดังนั้นตัวทองสัมฤทธิ์จึงเปลี่ยนเป็นสีเขียว เห็นได้ชัดว่าเป็นของเก่าที่ผุพัง แต่วัตถุโบราณชิ้นนี้ ไม่ได้กลัวความเก่าแต่อย่างใด เพราะยิ่งนานก็ยิ่งมีราคา
หลังจากที่หวาเหวินทำการประเมินแล้ว เธอก็ได้มองไปทางผู้หญิงคนนั้น
“ของชิ้นนี้คุณได้มาจากที่ไหนเหรอคะ?”
“ที่บ้านของฉัน…..เป็นของบรรพบุรุษ ที่เหลือทิ้งไว้ให้คะ” ในตอนที่ผู้หญิงคนนี้พูดแววตาของเธอลุกลี้ลุกลนไปมา มองแวบแรกก็รู้ทันทีว่ากำลังกระวนกระวายใจ
“แล้วคุณตั้งใจจะขายเท่าไหร่คะ?”
“คุณน้อง ฉันขอพูดตรง ๆ แบบไม่มีปิดบังเลยนะคะ ฉันเองก็หมดหนทางแล้ว ผู้ชายในบ้านของฉันก็ออกไปทำงานนานแล้ว และไม่กลับมาอีกเลย ฉันกับลูกไม่มีรายได้ แต่ละวันที่ผ่านไปช่างแสนลำบาก ดังนั้นฉันเลยนำของที่บรรพบุรุษหลงเหลือไว้ให้ในบ้านของฉันมาแลกเป็นเงิน ฉันเป็นหญิงสาวบ้านนอกคนหนึ่ง ไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ แต่ตอนที่แม่สามีกำลังจะสิ้นใจ เธอได้บอกว่าของชิ้นนี้มีมูลค่ามาก ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไปงั้นฉันขายให้คุณ 20,000 หยวนละกันคะ”
ผู้หญิงคนนี้ชูสองนิ้วขึ้นมา นิ้วมือที่อยู่ในสายตาของเธอนั้น 20,000 หยวนเป็นตัวเลขที่สูงมาก
หวาเหวินเงียบไม่พูดไม่จา ซึ่งความจริงแล้ว ของชิ้นนี้เป็นของจริง มาจากรัชสมัยสงครามระหว่างรัฐ ถ้าดูจากราคาในท้องตลอดตอนนี้ละก็ 80,000-100,000 หยวน ก็คงจะไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
แต่เธอกลับไม่สามารถรับของชิ้นนี้ไว้ได้
“คุณคะ ทำไมคุณไม่ลองเอาไปขายให้กับโรงรับจำนำที่เป็นมาตรฐานละคะ ร้านเล็ก ๆ ของฉัน ไม่สามารถให้ราคานี้กับคุณได้คะ”
เมื่อเห็นหวาเหวินพูดแบบนี้ ผู้หญิงคนนี้ก็รีบอธิบายทันที “ได้ยินมาว่าคนเหล่านี้นิสัยไม่ดีเอามาก ๆ ต้องโกงเราอยู่แล้ว เมื่อก่อนก็มีคนในหมู่บ้านถูกโกงไปแล้ว ยิ่งเป็นสถานที่ใหญ่ ๆ ก็ยิ่งไม่กล้าเข้าใกล้ คุณน้อง ในเมื่อเรามีโชคชะตาต่อกันแล้ว ฉันอยากจะขายให้กับคุณ ถ้าคุณคิดว่ามันมากเกิน งั้นฉันลดให้คุณ 18, 000 หยวนก็ได้คะ”
เมื่อเห็นหวาเหวินไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมา ผู้หญิงคนนี้ก็ยิ่งร้อนใจ เลยลดให้อีก 2,000 หยวน
หลังจากที่ชุนเถารินน้ำให้แก้วแล้ว ก็ได้จ้องมองไปทางเด็กตัวน้อยตลอดเวลา พร้อมกับยืนฟังบทสนทนาของคุณหนูอยู่ด้านหลังของเธอ
“คุณคะ 18,000 ฉันก็ไม่สามารถรับได้คะ คุณลองไปถามร้านอื่นดีไหมคะ” หวาเหวินยิ้มพร้อมกับนำเครื่องทองสัมฤทธิ์คืนกลับไปในมือของอีกฝ่าย
“คุณน้องคะ คุณช่วยสงสารพวกเราหน่อยนะคะ พวกเราหมดหนทางแล้วจริง ๆ ฉันก็เป็นหญิงสาวชนบทคนหนึ่ง ไม่มีใครรู้จัก? กว่าจะมาเจอร้านขายของเก่าของคุณไม่ใช่เรื่องง่าย เลยรู้สึกว่าเราต้องมีโชคชะตาต่อกันอย่างแน่นอน เอาแบบนี้นะคะ คุณจะให้ฉันเท่าไหร่ ก็แล้วแต่คุณเลยค่ะ ที่บ้านของฉันยังรอให้ฉันซื้อข้าวสารกลับไปอยู่ ฉันจะไม่ยอมกลับไปมือเปล่าอย่างแน่นอน”
ผู้หญิงคนนี้ร้องไห้ไปพูดไป แสดงท่าทางเสียใจอย่างน่าสงสาร ชุนเถาเห็นแล้วก็อดที่จะน้ำตาไหลออกมาไม่ได้
แต่หวาเหวินกลับไม่ได้เสียใจแต่อย่างใด “คุณไปเถอะค่ะ ไม่ใช่เพราะเรื่องเงินเหรอกนะคะ แต่ฉันไม่สามารถรับซื้อได้จริง ๆ ดังนั้นฉันจะไม่ซื้อของชิ้นนี้”
“คุณหนูคะ……คุณหนูสงสารพวกเธอเถอะค่ะ” ชุนเถาอดที่จะช่วยขอร้องอีกแรงไม่ได้
ชุนเถาเองก็รู้สึกแปลก ๆ ถึงแม้ว่าในเวลาปกติคุณหนูจะเป็นคนเย็นชาก็ตาม แต่ก็ยังมีความใจดีอยู่บ้าง ไม่ถึงขนาดไม่มีความเห็นอกเห็นใจกันขนาดนี้ แต่วันนี้คุณหนูเป็นอะไรไป ?