ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ - ตอนที่ 220
ตอนที่ 220 ใกล้ถึงทางตัน
พูดตามความจริง แซ่จื๋อจ้วนค่อนข้างลังเลอย่างแท้จริง เพราะว่าครอบครัวของเจียงหยู่ทำธนาคารเอกชน ธุรกิจหลักคือการปล่อยเงินกู้
ขอเพียงแค่เขาเปิดปาก อย่าว่าแต่ห้าร้อยล้านเลย ต่อให้เป็นพันล้าน เจียงหยู่ก็สามารถเอามาได้ อีกทั้งยังไม่ต้องการสิ่งของอะไรค้ำประกัน เพียงแค่เขาแซ่จื๋อจ้วนสามตัวอักษรก็เพียงพอแล้ว
เพราะว่าฐานะทางสังคมและชื่อเสียงของตระกูลแซ่ ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะคืนเงินไม่ได้
หลังจากลังเลไปสามวินาที แซ่จื๋อจ้วนก็ยิ้ม “ขอบคุณมาก ๆ แต่ผมยังอยากที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง”
พูดจบ แซ่จื๋อจ้วนผลักประตูรถแล้วลงไป วันนี่ที่เขาหาเจียงหยู่ ไม่ใช่การมายืมเงินจริง ๆ ก็แค่ต้องการมาชี้แจงกับเจียงหยู่ด้วยตัวเองสักหน่อยเท่านั้น
บอกเขา ว่าตัวเองรู้ว่าเรื่องนี้มือมืดที่อยู่เบื้องหลังไม่ใช่เขา แซ่จื๋อจ้วนก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องมาทำอะไรอย่างนี้ด้วย อาจจะเพื่อเคารพต่อคู่แข่ง?
บางครั้งมีศัตรูเพิ่มขึ้น ยิ่งเป็นคู่แข่ง ถึงได้ยิ่งเข้าใจ ยิ่งต้องเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ต้องบอกว่านี่คือการเสียดสี
สุดท้ายแล้วแซ่จื๋อจ้วนก็ไม่ได้ให้เจียงหยู่ช่วยเหลือ เพราะว่าเขารู้ ในสักวันหนึ่งที่เขาปีนขึ้นมาจากบ่อนี้ ยังต้องแย่งชิงผู้หญิงกับเจียงหยู่ต่อ
ดังนั้นจะสามารถใช้เงินของเขาได้อย่างไร? ถ้าหากใช้ ก็เป็นการได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างนั้นไม่สู้ประกาศล้มละลายไปเลยจะค่อนข้างมั่นคงกว่า
แซ่จื๋อจ้วนกลับถึงบ้าน ก็ไม่คิดยุ่งยากอีกแล้ว โทรออกไม่กี่สาย ก็เริ่มนับทรัพย์สินภายในบ้านเหล่านี้ของเขาซ้ำไปซ้ำมา
สำหรับคืนนี้ คฤหาสน์ส่วนตัวสามหลังของแซ่จื๋อจ้วน รวมหลังที่อยู่ในตอนนี้ ยังมีรถหรูชั้นนำอีกเจ็ดคัน เป็นเฟอรารี่สามคัน แลมโบกินี่หนึ่งคัน บูกัตติ เวย์รอนหนึ่งคัน เบนท์ลีย์หนึ่งคัน โรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมหนึ่งคัน และยังมีเพชรบางส่วนที่เขาเคยเก็บเอาไว้ ไข่มุกและเครื่องประดับ ภาพวาดที่มีชื่อเสียง รวมถึงนาฬิกาข้อมือ เอาทั้งหมดไปจำนองกับธนาคารแห่งชาติ
ในการแลกเปลี่ยนเป็นเงินกู้มูลค่าสองร้อยล้าน นับว่านี่คือทรัพย์สินในบ้านทั้งหมดที่มีหลายปีมานี้ของแซ่จื๋อจ้วน ถ้าหากครั้งนี้ยังพ่ายแพ้อีก
ถ้าอย่างนั้นเขาก็ไม่เหลืออะไรแล้วจริง ๆ อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้คือของที่เขาซื้อหลังจากตัวเองกลับประเทศ ไม่ใช่เงินของพ่อเขา
แซ่จื๋อจ้วนต้องการเดิมพันกับตัวเองในครั้งนี้ ดูว่าจะเป็นหรือตาย อย่างมากก็แค่กลับมาเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น
คิดอย่างนี้ภายในใจ แซ่จื๋อจ้วนจิตใจเต็มไปด้วยความคาดหวังกับการนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนกับบริษัทยาจื๋อจ้วนจำกัดในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขจัดภัย
อีกส่วนนำไปชำระให้กับลูกค้าที่ยกเลิกการสั่งซื้อ แต่……สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ก็เกินสองร้อยล้านไปแล้ว แต่ก็ยังคงไม่สามารถช่วยเหลือบริษัทได้
สองร้อยล้านนี้เหมือนเป็นการโยนหินให้กระดอนบนผิวน้ำอย่างไรอย่างนั้น โยนทิ้งลงไปโดยไม่ได้อะไรตอบแทน
นี่เป็นสิ่งที่แซ่จื๋อจ้วนไม่เคยคิดถึงมาก่อน หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ยังต่ำลงเรื่อย ๆ หมายความว่าไม่เพิ่มขึ้นเลยแม้แต่เหมาเดียว
และลูกค้าที่ได้รับการชำระเงินสดนั้นไม่เพียงไม่มีการขอบคุณ แต่กลับกำเริบเสิบสานเรียกร้องให้เขาจ่ายเป็นสองเท่า บอกว่ายาของเขาเป็นยาปลอม เป็นยาที่ทำร้ายคน
ในเวลานี้ แซ่จื๋อจ้วนกำลังสิ้นหวังอีกครั้ง
ควรพูดว่า กำลังตกต่ำจนถึงที่สุด ตอนนี้เพียงเหมือนตกลงไปในถ้ำดินอย่างไรอย่างนั้น
อยากที่จะพลิกฐานะของตัวเองให้ชนะ ก็ยากมากจนแทบจะเป็นศูนย์
ในตอนที่หวาเหวินเห็นข่าว พูดตามตรง ก็ค่อนข้างเห็นอกเห็นใจ
ชุนเถาถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ “คุณชายแซ่คนนี้ดื้อดึงมาก วางมือเร็วหน่อยจะดีกว่า ทำไมต้องจ่ายมากขนาดนี้ ได้ยินมาว่า เขาเอาทรัพย์สินในบ้านทั้งหมดของตัวเองไปจำนำ ถ้าหากครั้งนี้พลิกกลับมาชนะไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นทั้งที่อยู่อาศัยหรูหราและรถหรูทั้งหมดจะไม่มีแล้ว เหมือนว่าแม้แต่ที่อยู่ก็จะไม่มี น่าสงสารจริง ๆ ”
หยินซิ่งไม่ยอมรับคำพูดนี้ “แซ่จื๋อจ้วนเป็นคนตระกูลแซ่ ขอเพียงเขายอมก้มศีรษะกับพ่อของเขา ทุกอย่างก็จะไม่มีอะไรแล้ว อาณาจักรธุรกิจของตระกูลแซ่แข็งแกร่งขนาดนั้น จะยังมากลัวเรื่องเล็ก ๆ อย่างนี้หรือ? ห้องพักไม่มีก็กลับไปอยู่บ้านเดิมสิ ไหนเลยจะเป็นอย่างที่เธอพูดมา กลับกันถ้าฉันเป็นแซ่จื๋อจ้วน ฉันจะกลับบ้านแน่นอน”
“คุณหนู คุณเห็นว่าอย่างไรคะ?” ชุนเถามองคุณหนูของตัวเอง
หวาเหวินเพียงแค่ออกความเห็นประโยคเดียว “ตอนนี้เขาอยู่ในสถานการณ์ที่อับจนหนทางแล้ว ถ้าหากไม่พลิกกลับมาชนะ หลังจากนี้ถึงแม้จะกลับไปที่สำนักงานใหญ่ตระกูลแซ่ เดาว่าคงไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้แล้ว”